เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 268 พ่อที่ลำเอียง
วันต่อมามาร์คหายไปตั้งแต่เช้าตรู่ แอเรียนรู้สึกกระสับกระส่ายเพราะเรื่อง จอร์จ ลีไวน์ พอเธอลงมาด้านล่างแมรี่ก็เดินเข้ามาบ่น “แอริ เธอทะเลาะกับนายท่านอีกแล้วหรอ? นายท่านเพิ่งกลับมาจากทริปธุรกิจเหนื่อย ๆ เมื่อคืนและเมื่อเช้าท่านก็ดูไม่พอใจ เธอเองก็ดูบึ้งตึงเช่นกันนะ”
แอเรียนส่ายหน้า “หนูไม่ได้หาเรื่องเขานะ หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นอะไร หนูอารมณ์ไม่ดีแต่มันไม่ได้เกี่ยวกับเขา ไม่ต้องห่วงนะแมรี่ ช่วงหลัง ๆ หนูยุ่งมาก หนูต้องทำงานล่วงเวลาสักสองสามวันนะเพราะว่าหลัง ๆ หนูไม่ได้ทำงานล่วงเวลาเลย หนูรบกวนดูข้าวปั้นให้หนูด้วยนะ”
แมรี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ฉันดีใจที่คุณไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่ต้องกังวล ข้าวปั้นกินดีกว่าฉันอีก ฉันให้มันลองของอร่อยทุกอย่างในบ้านที่มันชอบ ตอนนี้อ้วนไปหมดแล้วและท้องของมันก็แทบจะกวาดพื้นตอนที่มันเดิน”
แอเรียนไว้วางใจแมรี่ในการดูแลข้าวปั้นโดยสินเชิง เธอรีบตรงไปที่บริษัทของเธอหลังจากที่ทานอาหารเช้า อย่างไรก็ตามเมื่อเธอมาถึงเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทุกคนดูไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พวกเขาจะมองไปที่หน้าบริษัทเป็นครั้งคราว เธอรู้สึกสงสัยจึงถามคนข้าง ๆ ว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“ครอบครัวของประทานมาถึงแล้ว” เพื่อนข้างโต๊ะทำงานเธอตอบอย่างลึกลับ “พวกเขากำลังทะเลาะกัน เธอมาได้ทันเวลาที่พวกเขาสงบลงพอดี ไม่มีใครกล้าพอที่จะไปแอบฟัง ทำไมเธอไม่ลองไปดูละ? ไหน ๆ เธอก็เป็นถึงคุณหญิงเทรมอนต์ ไม่มีใครกล้าทำอะไรเธอหรอก ฉันได้ยินมาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงระบบผู้บริหารในบริษัทอีกแล้ว จริง ๆ แล้ว ชีวิตเราต่างดีขึ้นทั้งนั้นหลังจากที่ผู้บริหารคนปัจจุบันมา บริษัทเองก็ประสบความสำเร็จและได้รับการพัฒนาขึ้นตั้งเยอะ หากเขาเปลี่ยนระบบการบริหารอีกมันอาจไม่เหมือนเดิม เราทุกคนรู้สึกกังวลมาก ทำไมเธอไม่ลองแกล้ง… เข้าไปส่งเอกสารหรืออะไรดู? จะได้สืบเรื่องด้วยไง”
แอเรียนไม่ชอบเป็นที่สนใจ แต่อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้เธอเองก็หวังว่าเอริกจะได้บริหารบริษัทต่อเช่นกัน ทุกอย่างในตอนนี้เป็นไปได้ก็เพราะความเพียรพยายามของเอริก มันดูจะเกินไปหน่อยถ้าพวกเขาจะบีบบังคับให้เอริกออกแบบนี้ แอเรียนวางกระเป๋าของเธอลงและสุ่มยิบเอกสารขึ้นมาก่อนที่จะเดินไปที่ห้องประชุม หลังจากที่เธอเคาะประตูและรอเอริกตอบรับเธอจึงพลักประตูเข้าไป เธอตะลึงเมื่อเห็นคนที่อยู่ในห้องนั้น นั่นไม่ใช่พี่ชายคนที่สองของเอริคที่เขาทะเลาะด้วยครั้งสุดท้าย แต่เป็นชายชราที่มีจอน ตอนนี้เขานั่งอยู่บนที่นั่งของเอริกและเอริกยื่นอยู่ข้างเขา
ชายชราคนนั้นดูเหมือนจะแก่เกินไปที่จะเป็นพ่อของเอริก แต่พอเธอนึกได้ว่าพ่อของเอริกมีบุตรตอนอายุไม่น้อยแล้วเธอจึงไม่ได้สงสัยอะไรต่อ
“คุณนาธาเนียล ฉันได้ยินจากเพื่อนร่วมงานมาว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ มีอะไรรึเปล่า? ตอนนี้ทุกคนต่างงานล้นและวุ่นวายกับงานมาก จะทำอะไรก็อย่าให้กระทบถึงพวกเขาเลยนะ” เธอพูดใส่พ่อของเอริกอ้อม ๆ เธอรู้สึกว่าพ่อที่ลำเอียงอย่างพ่อของเอริกไม่คู่ควรที่จะได้รับความเคารพจากเธอ ความทรงจำที่เอริกเคยโดนทำร้ายทำให้เธอโมโห
เอริกเองก็ดูไม่พึงพอใจอะไรบางอย่าง อารมณ์ของเขาดูเหมือนจะไม่คงที่ “ไม่มีอะไร บอกพวกเขาว่าให้ตั้งใจทำงานเถอะ นี่เป็นปัญหาครอบครัว ผมจะจัดการเอง”
พ่อของเอริกจ้องมองมาที่แอเรียนและตะคอกว่า “พนักงานมีสิทธิ์ที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับปัญหาครอบครัวนาธาเนียลของเราตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ไปทำงานคุณสะ คุณไม่ได้ถูกจ้างมาให้ยุ่งเรื่องพวกเรา”
ตอนแรก แอเรียนแค่ตั้งใจจะมาดูสถานการณ์ เธอไม่ได้คาดคิดว่าพ่อของเอริคจะมีอารมณ์รุนแรงต่อเธอ เธอหายใจเข้าลึก ๆ และพูดว่า “ท่านพูดถูกค่ะ ดิฉันเป็นแค่พนักงาน แต่อย่างไรก็ตาม สามีของฉันเป็นเพื่อนกับเอริก ฉันแน่ใจว่าฉันไม่ได้ล้ำเส้นของฉันเพียงเพราะฉันมาสอบถามใช่ไหม? ในเมื่อท่านพูดถึงมันแล้ว ดิฉันจะลองใช้เหตุผลกับท่านนะคะ หากท่านไม่สามารถปฏิบัติต่อลูกของท่านอย่างยุติธรรมในฐานะผู้ปกครองได้ อย่างน้อยท่านก็ควรจะอยู่ในขอบของท่านค่ะ สิ่งนี้มันไม่ยุติธรรมต่อเอริก”