โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.268 – ฉินเฟิงบ้าไปแล้ว

 

หลังจัดการตัวปัญหาได้ เป็นธรรมดาที่ฉินเฟิงไม่ต้องการจะลงมือใดๆอีก

 

ทางเมืองไห่กัดฟัน และจ่ายค่าจ้างให้แก่ฉินเฟิง 500 ล้านเหรียญ

 

ยิ่งพอได้มองฉินเฟิงที่รวบซากนายพลสัตว์ร้ายทั้งหมดไปเป็นของตนเอง คนบางกลุ่มก็เกิดความไม่พอใจขึ้นมา เพราะพวกเขาเองก็มีส่วนร่วมในการตรึงมัน แต่กลับไม่ได้รับอะไรเลยแม้แต่ชิ้นเดียว

 

คนกลุ่มนี้ไม่พอใจที่ไม่ได้ของ แต่กลับไม่นึกถึงเรื่องที่ว่าตนเองสามารถรอดชีวิตมาได้ก็เพราะเขา

 

ฉินเฟิงละความสนใจจากคนพวกนี้โดยสิ้นเชิง เดินกลับไปที่รถ

 

เขาพบกับเทียนเมี่ยวกำลังรอต้อนรับอยู่ อีกฝ่ายดูสุภาพกับตนมาก เปิดประตูให้ฉินเฟิงก้าวเข้าไปบนรถRV สุดหรู และเนื่องจากฉินเฟิงไม่สามารถแยกตัวกลับไปพักในโรงแรมได้ เพราะต้องคอยเฝ้าแนวหน้า อีกฝ่ายเลยถึงขั้นพาตัวพ่อครัวจากโรงแรมมาที่นี่โดยตรง เพื่อปรุงอาหารแก่ฉินเฟิง

 

ภายในอุปกรณ์รูนมิติของฉินเฟิงมีของดีมากมาย เมื่อพ่อครัวมากฝีมือมาปรุงให้ถึงที่ ฉินเฟิงก็ยินดีสละวัตถุดิบบางส่วนให้ไป

 

ชูหยิงซานเองก็มากินข้าวกับเข้าด้วย ระหว่างนั้นก็สนทนาเพิ่มเติมกันไปพลางๆ นี่ช่วยให้ฉินเฟิงได้ทราบข้อมูลที่เขาไม่เคยล่วงรู้มาก่อนในชีวิตก่อนหน้าอีกมากมาย

 

เพราะยังไงซะ ชูหยิงซานก็อายุมากกว่าฉินเฟิงเป็น 10 ปี ดังนั้นมากไปด้วยประสบการณ์ เป็นทั้งครูและสหายที่ดีแก่ฉินเฟิง ตรงส่วนนี้เขารู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง

 

“ถ้าภารกิจปราบปราบกองทัพสัตว์ทะเลจบลง ผมขอแนะนำให้คุณไปที่เมืองนุ่ยเหมิง!” ฉินเฟิงกล่าว

 

ชูหยิงซานมองฉินเฟิงด้วยความฉงน แต่ก็พยักหน้ารับ “เข้าใจแล้ว ฉันจะลองทำตามคำแนะนำของนายดู”

 

ทั้งสองสนทนากันอีกสักพัก ชูหยิงซานก็ขอตัวจากไป เพราะยังไงซะนี่ยังอยู่ในระหว่างภารกิจ บางครั้งก็ปรากฏสัตว์ร้ายเลเวล F ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้

 

ฉินเฟิงไม่ต้องออกไป เขาพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย เนื่องจากเขาคนเดียวสามารถสังหารนายพลได้ถึง 5 ตัว ทำให้กระแสการต่อสู้เบนทิศทางมายังฝั่งมนุษย์

 

สองชั่วโมงต่อมา คลื่นทะเลเริ่มเหือดหายอีกครั้ง แต่ผู้คนไม่กล้าผ่อนคลาย เร่งเสริมสร้างปราการอีกคราว ป้องกันการรุกล้ำของคลื่นทะเล ไม่ให้ไหลเข้าสู่เมืองไห่

 

อีกอย่าง ถ้าตอนนี้พวกเขาถอยหลังไปอีกก้าว เกรงว่าคลื่นจะรุกล้ำเข้ามาถึงพื้นที่เพาะปลูกเมืองไห่!

 

ด้วยเหตุนี้ ป้อมปราการและกำแพงสูงกว่า 20 เมตรจึงถูกสร้างขึ้น และรอบนอกเมืองไห่ ยังมีการสร้างช่องทางเพื่อเบี่ยงทิศทางน้ำ ซึ่งด้วยวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน การตระเตรียมสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใด

 

ราวกับผ่านไปเพียงพริบตา พระอาทิตย์ก็เริ่มตกดิน บนเส้นขอบฟ้าทอประกายแสงสีส้มออกมา

 

หากเป็นช่วงเวลาปกติมันคงชวนให้ผู้คนหลงไหลไปกับความงดงาม แต่เวลานี้กลับชวนให้โศกเศร้า ทั้งยังเป็นสัญญาณของการนองเลือด

 

เพราะหากนับจากช่วงเช้า นี่ก็ก็ล่วงเลยผ่านไปกว่า 10 ชั่วโมงแล้ว!

 

ในหัวใจของทุกผู้คน ยิ่งเวลาใกล้เข้ามาก็ยิ่งหนักอึ้ง

 

ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด!

 

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นอีกครั้ง กระแสคลื่นกองทัพเคลื่อนตัวเข้ามาอีกคราว

 

โดรนที่คอยสังเกตการณ์อยู่บนท้องฟ้า ถูกแรงลมกรรโชกเข้าใส่ แตกกระจายและพังทลายลงทันที

 

คลื่นทะเลเริ่มซัดสาดเข้ามา

 

โครม!

 

พื้นดินถูกท่วมไปด้วยน้ำทะเลอีกครั้ง แต่ปราการที่เพิ่งสร้างขึ้นรับบทบาทสำคัญ สามารถสกัดกั้นการโจมตีจากคลื่นได้

 

“พวกสัตว์ทะเลมาแล้ว!”

 

“โยนระเบิดสายฟ้าลงไป!”

 

“อย่าปล่อยให้พวกมันบุกขึ้นมา”

 

ทหารเมืองไห่ร้องโวยวาย

 

ฉินเฟิงลงจากรถRV ตรงไปที่ป้อมปราการอย่างรวดเร็ว เฝ้ามองสัตว์ทะเลจากในมุมสูง

 

เขาพบจระเข้ฟ้ากระโจนโผล่ขึ้นมาจากน้ำอย่างกระทันหัน ร่างกายใหญ่ยาวกกว่า 3 เมตรของมันโฉบผ่านอากาศ อ้าปากใหญ่โต กัดเข้าใส่ผู้ใช้พลังคนหนึ่งบนปราการ

 

แทบจะในทันทีที่ผู้ใช้พลังถูกงับขาทั้งสองข้าง เขาก็กรีดร้องโหยหวน และถูกลากลงน้ำทันที

 

เลือดไหลนองเป็นสาย

 

ฉินเฟิงคว้าปืนออกมา หันปลายกระบอกปืนไปยังทิศทางของจระเข้ฟ้าและ–

 

–ปัง!

 

หัวของจระเข้ฟ้าถูกเจาะเป็นรู น้ำพุเลือดปะทุออกมา สาดกระจายไปทั่ว

 

สัตว์ร้ายตัวอื่นๆ เมื่อเห็นเหยื่อตกลงสู่น้ำ ก็ว่ายเข้ามาสมทบ

 

ปัง ปัง ปัง ปัง!

 

ฉินเฟิงรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง สัตว์ร้ายทุกตัวถูกยิงโดยเขา พริบตาเดียว รอบกายผู้ใช้พลังก็เกลื่อนไปด้วยศพสัตว์ทะเล

 

เดิมผู้ใช้พลังคิดว่าตัวเองต้องตายแน่ๆแล้ว แต่ไม่คาดฝันเลย ว่าจู่ๆรอบตัวเขาจะเต็มไปด้วยซากศพสัตว์ร้าย ทั้งๆที่ตนไม่ได้ลงมือทำอะไร

 

พอลองตั้งสติดูดีๆ ก็ทราบได้ทันทีว่ามีคนช่วยเขาไว้!

 

สายตาของเขามองตามแนววิถีกระสุน และพบว่าเป็นฉินเฟิงที่ทำทีเป็นยิงอย่างไม่ใส่ใจ แต่ทุกนัด กลับสามารถคร่ากุมชีวิตของสัตว์ร้ายได้

 

นี่สินะคือสิ่งที่เรียกว่าความแข็งแกร่ง!

 

ในหัวใจของผู้ใช้พลังฟุ้งไปด้วยความชื่นชมและสำนึกคุณ เมื่อสัตว์ร้ายรอบกายตายหมด นั่นหมายความว่าตอนนี้เขาปลอดภัยแล้ว อย่างน้อยก็ชั่วคราว

 

เขาเริ่มปีนขึ้นฝั่งด้วยสองมือ ฉินเฟิงพอเห็นอีกฝ่าย สีหน้าก็หม่นหมองลง

 

เพราะขาของผู้ใช้พลังคนนั้นหายไปแล้ว! ในกางเกงขายาวมันว่างเปล่า ทิ้งไว้แค่เลือด

 

“ขอบคุณท่านผู้ใหญ่!” ชายคนนั้นยิ้มขอบคุณฉินเฟิง แต่ในรอยยิ้มนี้ มันดูเหมือนเป็นรอยยิ้มแหยคล้ายจะร้องไห้ซะมากกว่า

 

แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ แต่หากไม่มีขา แน่นอนนั่นหมายถึงพิการ และเกรงว่าคงไม่อาจลงสนามรบได้อีกแล้ว!

 

อย่างไรก็ตาม นี่คือโชคชะตาของผู้ใช้พลัง

 

ยังมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็ดีกว่าตาย

 

ฉินเฟิงสูดหายใจลึก พยักหน้ารับอีกฝ่าย แต่อาวุธปืนในมือเขาคล้ายยิงรัวและเร็วยิ่งกว่าเดิม

 

เฉพาะเหตุการณ์คลื่นสัตว์ร้าย มันกลืนกินชีวิตมนุษย์ไปมากมายเท่าใดกัน?

 

ฉินเฟิงเมื่อฉุกคิดถึงข้อนี้ เขาก็ย้อนนึกไป ว่าในชีวิตก่อนหน้า ตนไม่เคยคิดอะไรแบบนี้มาก่อนเลย

 

“ยุคโลกาวินาศได้ดำเนินมาอย่างยาวนานกว่า 200 ปีมาแล้ว เมื่อไหร่กันหนอที่มันจะจบลง?”

 

“ในขณะที่เลเวล A เป็นเพียงตัวตนเล็กจ้อยในสายตาของสัตว์ร้าย ส่วนเลเวล S แม้สามารถเรียกลมฝนได้ แต่ก็ไม่มากพอที่จะขับเคลื่อนชะตากรรมของมนุษย์ให้ดียิ่งขึ้น”

 

“ในเมื่อเป็นแบบนั้น แล้วตัวฉันเล่า? ตัวฉันจะสามารถกลายเป็นการดำรงอยู่ในเลเวล S , SS หรือ SSS ได้ไหม?”

 

“และหากในเวลานั้น ถ้าฉันสามารถไปถึงขอบเขตที่ว่าได้ … ฉันจะยุติยุคโลกาวินาศ และปิดรอยแยกมิติไม่ให้ปรากฏขึ้นอีกตลอดกาลได้หรือไม่?”

 

ความคิดนี้ มันแจ่มชัดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

 

การเคลื่อนไหวของฉินเฟิงยิ่งมายิ่งรวดเร็ว เร็วขึ้นเรื่อยๆ

 

พลังสมาธิของเขาเองก็ทะยานสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในการต่อสู้

 

ก้าวเข้าสู่เลเวล E8!

 

สามารถตัดผ่านอุปสรรคไปได้อีกขั้น!

 

ขณะเดียวกัน บนอุปกรณ์สื่อสารก็ส่งเสียง ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด! ดังขึ้นอีกครั้ง

 

ฉินเฟิงไม่จำเป็นต้องกวาดตามอง เขาก็พบกับตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวเบื้องหน้า

 

ท่ามกลางฉากที่พื้นดินเจิ่งนองไปด้วยน้ำทะเลจนเปลี่ยนเป็นโคลนหนืด คลื่นเล็กคลื่นน้อยม้วนสาดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แสงอาทิตย์ที่กำลังตกดิน สะท้อนไปด้วยสีเหลืองอมส้ม

 

จะพบกับตาข่ายโปร่งใสขนาดใหญ่ มองไปมองมาคล้ายพลาสติกใส แต่กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมา ช่างน่าสยองเกล้า

 

เป็นสัตว์ร้ายแมงกระพรุนกล่องเลเวล E5

 

—ระดับราชันย์!

 

ราชันย์แมงกระพรุนมีขนาดใหญ่โตมาก แม้อยู่ห่างจากชายฝั่งกว่า 700 เมตร แต่ในสายตาของมนุษย์ธรรมดา กลับสามารถมองเห็นถึงการดำรงอยู่ของมันได้อย่างชัดเจน

 

ร่างของมันลอยมาตามคลื่นน้ำ บริเวณโดยรอบ ใต้ตัวมันเต็มไปด้วยร่างของสัตว์ร้ายที่ไม่เคลื่อนไหว เงียบสงบจนน่าประหลาดใจ

 

—สัตว์ร้ายเหล่านั้น ตกตายลงแล้วด้วยพิษของมัน!

 

นี่คือเอกลักษณ์ของสายพันธุ์แมงกระพรุนกล่อง ครอบครองพิษอันร้ายกาจ! ด้วยพิษของมัน ถึงขั้นถูกเรียกกันว่ามัจจุราชแห่งท้องทะเล!

 

ทุกคนที่เห็นฉากนี้ บังเกิดความรู้สึกหวาดกลัว ฟุ้งอย่างหาที่ใดเปรียบ

 

มีเฉพาะฉินเฟิงเท่านั้น ที่ในแววตา บังเกิดความเชื่อมั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

 

“ฆ่า … จะฆ่าไอ้สัตว์ประหลาดตัวนั้นได้ยังไงกัน!”

 

“จบแล้ว พวกเราไม่รอดแน่ๆ!”

 

“ถ้าไอ้ตัวนั่นมันขึ้นมาบนพื้นดินได้ แล้วพวกเราจะทำยังไงดี”

 

ท่ามกลางเสียงโหวกเหวกโวยวาย ฉินเฟิงวาดมือออก เรียกสิ่งมีชีวิตสุดพิเศษปรากฏขึ้นข้างกาย

 

–ม้าศึกทมิฬ!

 

ฉินเฟิงพลิกตัวขึ้นบนหลังม้า สองเท้ากระทบกับลำตัวของมัน สั่งการให้พุ่งทะยานออกไป

 

คนในป้อมปราการ เมื่อเห็นฉินเฟิงบุกออกไปคนเดียว ดวงตาของทั้งหมดก็เบิกกว้าง

 

“นั่นเขาคิดจะทำอะไร … ” หวังจื่อเฉาเห็นการกระทำของฉินเฟิง แม้ในหัวใจพอจะคาดเดาได้ แต่ก็ยังไม่อยากจะเชื่อ

 

ริมฝีปากของหยางปิงสั่นระริก จ้องมองไปตามแผ่นหลังของฉินเฟิง บังเกิดความรู้สึกขึ้นมา ว่าช่วงก่อนหน้านี้ที่ตนคิดลอบสังหารฉินเฟิง มันเป็นเรื่องโง่เง่าเพียงใด

 

“หรือว่าเขาจะบ้าไปแล้ว?”

 

ใช่ ก็ถ้าไม่บ้า แล้วจะไปเผชิญหน้ากับราชันย์สัตว์ร้ายเพียงลำพังได้อย่างไร

 

ยังไงก็ตาม มันมีอยู่สิ่งหนึ่งคือเฉพาะคนบ้าเท่านั้นถึงจะสามารถครอบครองได้

 

—ความใจกล้า!