บทที่ 20 โกยเงินก้อนใหญ่จากเปปเปอร

รักหวานอมเปรี้ยว

“คุณมายมิ้นท์ อย่าให้มันมากเกินไปนะ” ส้มเปรี้ยวลนลาน กลับต้องอดกลั้น “เรื่องคลิปวิดีโอ คุณพ่อของฉันก็ขอโทษคุณแล้ว ทำไมคุณถึงไม่ยอมเลิกราแบบนี้ คิดจะแย่งสร้อยคอที่ผู้ชายขอฉันแต่งงานอีก?”

มายมิ้นท์เลิกคิ้ว หัวเราะออกมา “ฉันเพิ่งหย่ากับประธานเปปเปอร์ได้ไม่กี่วัน คุณก็อยู่กับประธานเปปเปอร์แล้ว คนที่ไม่รู้ยังคิดว่าคุณอยากจะได้เขาจนตัวสั่น อดใจรอเป็นคุณนายตระกูลนวบดินทร์ไม่ไหว!”

“คุณพูดจาไร้สาระอะไร เห็นได้ชัดว่าคุณ…”

“แล้วอีกอย่างนะคุณส้มเปรี้ยว ฉันไม่ได้คิดจะแย่ง” ส้มเปรี้ยวพูดแค่ไม่กี่คำ ก็ถูกมายมิ้นท์ขัดจังหวะ “เป็นคุณเองที่อยากมอบของขวัญขอบคุณฉัน และฉันก็แค่ชอบดวงใจสีครามเส้นนี้แค่นั้นเอง”

“…” ส้มเปรี้ยวสำลักจนพูดไม่ออก ยืนกัดริมฝีปากอยู่ตรงนั้น ใบหน้ายิ่งขาวซีด เหมือนดอกไม้ขาวเหี่ยวเฉา

ลาเต้มองเห็นฉากนี้ มีความสุขเป็นพิเศษ จนแทบจะปรบมือให้มายมิ้นท์

“ประธานเปปเปอร์ คุณพูดอะไรหน่อยสิ อย่าเอาแต่เงียบ” ลาเต้หันไปเรียกเปปเปอร์ “หรือว่าประธานเปปเปอร์ ผู้สง่าผ่าเผยก็เป็นคนเชื่อถือคำพูดไม่ได้?”

ดวงตาของเปปเปอร์เคร่งขรึม

หลังจากเงียบไปสักพักหนึ่ง เขาหยิบกล่องเครื่องประดับที่บรรจุดวงใจสีครามเอาไว้ส่งให้มายมิ้นท์

ส้มเปรี้ยวเห็นปุ๊ปก็ร้อนใจ ดึงแขนเสื้อของเขา “เปปเปอร์ นี่เป็นสร้อยคอที่คุณขอฉันแต่งงาน อย่า…”

“วันนี้คุณลุงตั้งใจจัดงานเลี้ยงเพื่อฉลองที่คุณหายดีออกจากโรงพยาบาล เสียบรรยากาศหมดแล้ว” เปปเปอร์เสียงทุ้มต่ำปลอบใจเธอ “ก็แค่สร้อยเส้นเดียว หลังจากนี้ผมจะให้ผู้ช่วยเหมันตร์หาของที่ดีกว่านี้มาอีก เพื่อขอคุณแต่งงาน”

แขกทั้งหมดได้ฟัง ต่างพากันอิจฉา “คุณส้มเปรี้ยว ช่างมีวาสนา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับที่หายากเพียงใด ประธานเปปเปอร์ก็มีวิธีซื้อกลับมาให้เธอ!”

ชมเชยส้มเปรี้ยวเสร็จ ก็ดูถูกมายมิ้นท์อีกครั้ง

ส้มเปรี้ยวเห็นเปปเปอร์พูดแบบนี้ สีหน้าถึงจะดีขึ้น พยักหน้าอย่างน่าเอ็นดู “ฉันเชื่อคุณค่ะ”

ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา มายมิ้นท์พบว่ามันน่าถากถางสุดๆ

แต่งงานกับเปปเปอร์หกปี ไม่ต้องพูดถึงเครื่องประดับ แม้แต่เสื้อผ้า เขาไม่เคยซื้อให้ตนเองเลย แหวนคู่ตอนแต่งงาน เธอก็เป็นคนซื้อเอง

วันนี้เห็นสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อส้มเปรี้ยว ยิ่งรู้สึกว่าชีวิตของตนเองน่าตลก

มายมิ้นท์กดความรู้สึกเจ็บแสบในใจลงไป รับกล่องเครื่องประดับมา มุมปากปรากฏรอยยิ้มสดใส “เครื่องประดับหายากแบบนี้ ประธานเปปเปอร์พูดว่าจะให้ก็ให้เลย ดูแล้วประธานเปปเปอร์จะรักคุณส้มเปรี้ยวมากเป็นพิเศษ เธอคับข้องใจไม่ได้สักนิดเดียว”

คำพูดเสียดสีของฝ่ายหญิง เปปเปอร์ฟังแล้วอึดอัด กล่าวอย่างไม่แยแส “เอาดวงใจสีครามให้คุณแล้ว ประธานเยี่ยมบุญ ต้องขอโทษคุณด้วย มายมิ้นท์ ไม่ต้องพยายามตามหาความจริงเรื่องคลิปวิดีโอ”

“ได้!” มายมิ้นท์ตอบอย่างตรงไปตรงมา

เธอหยิบไวน์แดงบนโต๊ะ ชูแก้วไปที่เปปเปอร์และพยักหน้า “ฉันขอให้ประธานเปปเปอร์กับคุณส้มเปรี้ยวครองรักกันยืนนาน มีลูกเร็วๆ”

พูดจบ เงยหน้ากระดกไวน์แดงหมดแก้ว คว้ำแก้วลง หันตัวเดินจากไป

“ประธานเปปเปอร์ ผมก็ต้องขอบคุณคุณ” ลาเต้แสยะปากยิ้ม “ถ้าไม่ใช่เพราะความเย็นชาของคุณ น้องสาวของผมคงจะไม่ได้สติ! ขอบคุณที่มีเมตตาปล่อยน้องสาวของผมไป เธอสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด”

ราเม็งหยิบกระเป๋าคลัตช์ผีเสื้อบนโต๊ะที่ มายมิ้นท์ลืมหยิบไป พูดอย่างสุภาพ “ไปเถอะ”

“ไปๆ!” ลาเต้โอบไหล่ราเม็ง ออกไปจากที่นี่ด้วยกัน ซ้ำยังพูดแขวะ “บรรยากาศที่นี่สกปรกเกินไป ขืนอยู่ต่ออีกวินาทีเดียวฉันคงคลื่นไส้!”

มองดูพวกเขาจากไป เปปเปอร์ขมวดคิ้วแน่นขึ้น เกิดความหงุดหงิดในใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่หายไป

มายมิ้นท์ที่ดูเงียบๆ ไม่คิดว่าจะมีคนตามจีบที่โดดเด่นแบบนี้

มายมิ้นท์เพิ่งจะขึ้นมาบนรถ หลับตาพักผ่อนยังไม่ถึงนาที ลาเต้กับราเม็งก็กลับมา

“น้องสาวเมื่อกี้เธอแสดงได้เยี่ยมมาก จุ๊ๆ ดูสีหน้าของส้มเปรี้ยวสิ แทบจะกินเธอเข้าไป” ลาเต้นั่งที่คนขับ คาดเข็มขัดนิรภัยไปพลางหัวเราะไปพลาง ฉันเห็นแล้วสะใจจริงๆ อยากจะปรบมือให้เธอ!”

ราเม็งขึ้นมาที่เบาะหลัง ส่งกระเป๋าคลัตช์ผีเสื้อให้มายมิ้นท์ “เมื่อกี้พี่เอาวางไว้บนโต๊ะ ลืมหยิบมาครับ”

“เมื่อกี้ฉันเดินออกมาเร็วมาก เลยไม่ได้สนใจ” มายมิ้นท์รับกระเป๋ามา

ราเม็งเหลือบมองกล่องเครื่องประดับที่วางอยู่บนเบาะด้านข้าง เอ่ยถาม “มายมิ้นท์ พี่ครับ พี่ยัง…แคร์เปปเปอร์อยู่ไหม? ไม่อยากเห็นเขากับส้มเปรี้ยวอยู่ด้วยกํน เลยต้องการดวงใจสีครามเส้นนี้?”

ลาเต้กำลังขับรถ แต่ก็มองมายมิ้นท์จากกระจกหลัง รอคำตอบของเธอ

“ฉันหย่ากับเปปเปอร์แล้ว ยังจะแคร์เขาทำไม?” มายมิ้นท์ยิ้ม “ฉันไม่คิดว่าส้มเปรี้ยวจะคิดได้เร็วแบบนี้ หาข้ออ้างมอบของขวัญขอบคุณให้ฉัน เพื่อหักเหความสนใจของทุกคนต่อคลิปวิดีโอนั้น”

ในขณะที่เธอพูด ก็เปิดกล่องเครื่องประดับออก ส่งให้ราเม็งดู “ฉันสืบมาแล้ว ดวงใจสีครามเส้นนี้ เป็นการออกแบบของ ‘K’ ผู้มีชื่อเสียงในวงการเครื่องประดับ ราคาประเมินเกิน 100 ล้าน เงินที่ส่งมาให้ถึงหน้าประตู ทำไมฉันจะไม่เอา? นายว่าจริงไหม?”

ลาเต้ส่งเสียงอุทาน “แม่เจ้า สร้อยเส้นละ 100 ล้าน? น้องสาวเจ๋งไปเลย โกยเงินก้อนใหญ่จากเปปเปอร์!”

“แน่นอนฉันรู้ว่าฉันเจ๋ง” มายมิ้นท์ฮัมเสียงในลำคอ ปิดกล่องเครื่องประดับ โยนให้เขา “หาช่องทางขายให้ฉัน 100 ล้าน เงินส่วนเกินฉันให้เป็นค่าเหนื่อยของนาย!”

“โอเค!”

ราเม็งเห็นมายมิ้นท์สีหน้าปกติ ไม่เหมือนหลอกตัวเองด้วยการโกหก จึงคลายคิ้วที่ขมวดแน่นออก “เห็นพี่เป็นแบบนี้ ผมก็สบายใจ”

“น้องสาว ฉันหาแฟนใหม่ให้เธอดีไหม!” ลาเต้ยิ้มแฉ่ง มองมายมิ้นท์จากกระจกหลังอีกครั้ง “บอกความต้องการขอเธอมา หรือมาคบกับฉันก็ได้นะ ยังไงแม่ของฉันก็ค่อนข้างชอบเธอ…”

“ไม่ได้!” เขายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกราเม็งขัดจังหวะ

“ทำไมจะไม่ได้?” ลาเต้กลอกตา พูดชมตนเอง “พี่ไม่ได้แค่หล่อ แต่ยังมีความสามารถรอบตัว คบกับมายมิ้นท์มาตั้งแต่เด็ก ฉันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสามีของเธอ!”

ราเม็งเม้มริมฝีปากบาง กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากร่างกายค่อนข้างเยือกเย็น “นายไม่สนใจครอบครัว”

“ไม่จริง ฉันสนใจครอบครัวหรือเปล่า นายจะรู้ได้ยังไง? นายไม่เคยอยู่กับฉันมาก่อน!” ลาเต้มองท่าทางของราเม็งจากกระจกหลัง พลันยิ้มชั่วร้าย “แหม่ๆ นายชอบมายมิ้นท์เหรอ?”

มายมิ้นท์ชะงักงัน หลังจากมีการตอบสนอง ก็เอื้อมมือไปทุบลาเต้ทันที “หุบปากเลยนะ เขาเพิ่งจะ 22 ยังเป็นเด็ก!”

“อายุ 22 เป็นผู้ชายแล้ว ไม่ใกล้คำว่าเด็กเลย” ลาเต้ถามด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายต่อ “ราเม็งนายบอกมาสิ นายยังเวอร์จินหรือเปล่า?”

แม้ราเม็งจะอ่อนโยนแค่ไหน ถูกลาเต้ถามเช่นนี้ก็ลำบากใจ กระแอ่มไอออกมา “คือ…”

“นายคิดอะไรกับมายมิ้นท์หรือเปล่า?”

“…”

มายมิ้นท์เห็นลาเต้ยิ่งพูดยิ่งลุกลาม ไม่มีท่าทีจากเงียบ หลังจากเห็นช็อกโกแลตบนกล่องตรงที่วางแขนแถวกลาง จึงเปิดออกทันที หยิบทั้งชิ้นยัดเข้าปากลาเต้

ลาเต้กินช็อกโกแลตชิ้นใหญ่ ส่งเสียงครวญคราง แทบจะสำลักตาย

“เขาก็เป็นแบบนี้ พูดอะไรไม่มีขอบเขต” มายมิ้นท์พูดกับราเม็ง “นายอย่าสนใจ อย่าเอาคำพวกนี้มาใส่ใจ”

ราเม็งส่งเสียงอือ สายตายังคงจับจ้องบนใบหน้าของมายมิ้นท์

ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขากำลังคิดจะพูดอะไรกับมายมิ้นท์ มือถือในกระเป๋าก็สั่นอย่างกะทันหัน

หยิบมือถือมาดู ราเม็งสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เขาย้ายไปอีกด้านหนึ่งของหน้าต่างรถ ลดเสียงเบาลงมาก “มีเรื่องอะไร?”

หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ ราเม็งพูดกับ “ลาเต้ ผมมีเรื่องต้องจัดการ นายส่งฉันลงแยกหน้าก็พอ”

“สายจากผู้จัดการเหรอ?” มายมิ้นท์ถาม “ให้ลาเต้ไปส่งนายไหม?”

ราเม็งยิ้มบางๆ น้ำเสียงละมุนละไมน่าฟัง “ไม่เป็นไร รถตู้อยู่กำลังมา ผมอยากให้ลาเต้ส่งพี่กลับไปเร็วหน่อย จะได้พักผ่อน”

เห็นเด็กหนุ่มพูดแบบนี้ มายมิ้นท์ก็ไม่ฝืนใจ เธอพยักหน้า

ในไม่ช้า ราเม็งก็ลงจากรถ

เมื่อรถขับออกไปอีกครั้ง มายมิ้นท์ยื่นหน้าออกไปเล็กน้อย เห็นร่างสูงของราเม็งข้างถนน เค้าโครงใบหน้าด้านข้างชัดเจน

เธอมองไปมองมา ประหนึ่งว่าคนนั้นในสายตากลายเป็นเปปเปอร์เมื่อเจ็ดปีก่อน…