ตอนที่ 105
ผลท้ออสูร
“คุณชาย ท่านแน่ใจนะเจ้าคะ”ราชินีมังกรถามพลางมองลงไปยังพื้นเบื้องล่างด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ใช่ ที่นี่ล่ะ”ไป๋จูเหวินตอบขณะนั่งอยู่บนร่างของราชินีมังกร หลังจากตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย เหล่ามังกรก็ตัดสินใจเดินทางมาตามที่ไป๋จูเหวินบอก โดยมังกรที่บินไม่ได้จะแปลงกายเป็นมนุษย์แล้วขี่หลังมังกรที่บินได้มาแทน ทำให้ตอนนี้สภาพท้องฟ้าเหนือป่าเมฆาอัสนีเต็มไปด้วยเหล่ามังกรบินเต็มท้องฟ้าเลยทีเดียว
“คุณชาย ท่านรู้หรือไม่ว่าที่นี่มันที่ไหน”ราชินีมังกรหน้าซีดเผือดโดยไม่แม้แต่จะลุกล้ำเข้าไปในเขตของป่าเมฆาอัสนีเสียด้วยซ้ำ
“ใช่แล้วไป๋จูเหวิน ที่นี่มันเขตอสูรเหวไร้ก้นไม่ใช่หรือยังไง เจ้าอยากตายหรือถึงได้มาที่แบบนี้”อาวุโส 7 ว่าพลางเกาะเกร็ดของราชินีมังกรแน่น เขคอสูรผาไร้ก้นนั้นเป็นหนึ่งในเขตอสูรที่ลึกลับที่สุดที่กลุ่มนักล่าอสูรก็ยังไม่สามารถไขความลับได้ เพียงมองจากบนหลังมังกรก็เห็นได้ชัดเจนแลวว่าสถานที่แห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 6 เขต หนึ่งคือป่าเมฆาอัสนีที่มีหมอกควันปกคลุมไปทั้งป่าอย่างเห็นได้ชัด ต่อมาเป็นป่าวัฒนะที่มีป่าไม้สีเขียวชอุ่มส่องประกายกับแสงอาทิตย์อย่างสวยงาม และด้านใต้สุดก็ปรากฏภูเขาไฟและภูเขาหิมะที่ตั้งคู่กันราวกับต่างภายต่างรักษาสมดุลของกันและกันเสียอย่างนั้น แต่พอพ้นเขตภูเขาหิมะมาแล้วกลับเป็นทุ่งหญ้าสีทองอร่ามราวกับเป็นทะเลทองเลยทีเดียว ส่วนอีกเขตที่เหลือกลับเป็นที่รกร้างซึ่งถูกผาไร้ก้นทับเอาไว้กว่าครึ่ง
เปรี้ยง! ยังไม่ทันที่เผ่ามังกรจะเข้าไปในเขตของป่าเมฆาอัสนี สายฟ้าสายหนึ่งก็พึ่งขึ้นมาจากผืนดินราวกับเหล่ามังกรกำลังถูกโจมตี แต่สายฟ้ากลับเร็วเกินไปกว่าราชินีมังกรจะรู้ตัวร่างของชายหนุ่มผมสีทองคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้านางแล้ว
“ท่านน้า”ไป๋จูเหวินยิ้มรับพลางมองร่างของพยัคฆ์อัสนีที่ลอยอยู่บนฟ้าราวกับร่างของมันไร้ซึ่งน้ำหนัก ทันทีที่เห็นหลานของมันเอ่ยทักทายพยัคฆ์อัสนีก็ยิ้มออกมา
“จูเอ๋อ เจ้ากลับมาแล้ว”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางหายวับไปยืนตรงหน้าไป๋จูเหวินโดยราชินีมังกรไม่ทันรู้ตัวเสียด้วยซ้ำ หากพยัคฆ์อัสนีต้องการสังหารนางมันคงสามารถทำได้อย่างง่ายดาย
“ท่านน้า พลังของท่าน”ไป๋จูเหวินเบิกตากว้างมองร่างของพยัคฆ์อัสนีด้วยดวงตาสีม่วงของมัน แม้จะใช้ชรวิตอยู่ด้วยกันมานับสิบปี แต่พลังของพวกท่านน้านั้นแทบจะไม่เคลื่อนไหวเลย เรียกได้ว่าทั้งไม่ลดและไม่เพิ่มมานานมากแล้วนั่นเอง
“ข้าขึ้นเป็นระดับบรรพกาแล้ว”พยัคฆ์อัสนียิ้มรับพลางยืดอกอย่างพึงพอใจ
“ท่านน้า แล้วดวงตาของท่านทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ”ไป๋จูเหวินถามด้วยความประหลาดใจหลังจากมองเห็นพลังของพยัคฆ์อัสนีแล้วมันก็เปลี่ยนดวงตากลับเป็นสีดำดังเดิม ทำให้มันได้เห็นบาดแผลบนดวงตาของพยัคฆ์อัสนีเข้า
“อ๋อ มันเป็นของที่ข้าใช้แลกกับพลังนี้ไง”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางยิ้มอย่างอารมดี หลังจากกินผลท้อที่ดูดซับพลังของมังกรทองหวงหลงเข้าไปแล้ว พลังที่ได้กลับคืนมากลับมากกว่าที่พวกมันให้มังกรธรณีไปเสียอีก พวกมัน 4 ตนรวมกันให้พลังขั้นหนึ่งกับมังกรธรณี ทำให้มันสามารถเลื่อนผ่านระดับบรรพกาลมาได้ แล้วการที่พวกมันกินผลท้อที่ดูดซับพลังของมังกรทองเข้าไป แม้จะแบ่งออกเป็นหลายส่วนแต่ก็มากพอที่จะดันพวกมันกลับขึ้นมาในระดับเดิมและเพิ่มไปเป็นระดับบรรพกาลกันทั้ง 4 ตน กลายเป็นว่าเหล่าราชาทั้ง 5 ของเขตอสูรผาไร้ก้นนั้นบรรลุขั้นระดับบรรพกาลทั้งหมด แต่ไม่ทราบเพราะอะไร ทุกตนกลับมีร่างระดับบรรพกาลเป็นมนุษย์ทั้งสิ้นอาจจะเพราะความรักที่พวกมันมีให้ไป๋จูเหวินก็เป็นได้
“ว่าแต่ จูเอ๋อ มังกรพวกนี้มาทำอะไรที่นี่”พยัคฆ์อัสนีถามพลางปล่อยพลังอสูรออกมาทำเอาเหล่ามังกรหน้าซีกเผือด
“ข้าพาพวกเขามาอยู่ที่นี่”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มกว้าง
“ที่นี่….”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางมองเหล่ามังกรด้วยท่าทีสงสัย ไม่ใช่ว่ามังกรพวกนี้เป็นอสูรในเขตของหวงหลงงั้นหรือ หากเป็นเช่นนั้นก็หมายความว่าเขตอสูรของหวงหลงล่มสลายไปแล้วสินะ
“พวกเขาพึ่งเสียราชาไป แล้วก็ไม่มีที่อยู่ เขตอสูรของพวกเราก็ออกจะกว้างใหญ่ข้าเลยอยากให้พวกเขามายู่ที่นี่ด้วย”ได้ยินไป๋จูเหวินพูดเช่นนั้น พยัคฆ์อัสนีก็ใจอ่อนขึ้นมาทันที มันราวกับได้เห็นหลานชายกำลังขอร้องว่าอยากเลี้ยงสัตว์ที่มันเก็บได้เลย
“อะ อืม…พวกมันเป็นมังกร ไปถามมังกรธรณีคงจะดีกว่า”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางกระแอมกระไอออกมาเล็กน้อย
“ขอรับ”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางบอกให้ราชินีมังกรเข้าไปในเขตอสูรผาไร้กันในทันที แม้นางจะไม่กล้าเท่าไหร่ แต่ในเมื่อไป๋จูเหวินสามารถพูดกับ 1 ในราชาของเขตอสูรผาไร้ก้นได้อย่างสนิทสนม นางก็เบาใจลงมาก
“พวกอสูรมรป่าเหมือนจะมีพลังเพิ่มขึ้นเลย”ไป๋จูเหวินว่าพลางใช้ดวงตาสีม่วงก้มมองลงไปบนพื้น
“อืม พวกข้าแข็งแกร่งขึ้น เหล่าอสูรก็เช่นกัน”พยัคฆ์อสันีว่าพลางมองป่าเมฆาอัสนีของตน พอราชาเลื่อนระดับแล้ว เหล่าอสูรก็ซึมซับพลังอสูรได้มากขึ้นเช่นกัน
“จูเอ๋อ”ยังไม่ทันจะเข้าสู่เขตป่าวัฒนะ ร่างของจิ้งจอกเหมันต์ก็พุ่งเข้ามาพร้อมร่างของราชสีห์เพลิงและไก่ฟ้าหงอนทองเช่นกัน
“เจ้ากลับมาแล้ว”เหล่าราชาที่พากันขึ้นมายืนบนหลังของราชินีมังกรทำเอาตัวนางแทบอยากจะเป็นลม นางยังจำวันที่เห็นหวงหลงบรรลุระดับบรรพกาลได้ดี วันนั้นนางหวาดกลัวและกังวลอย่างมากเพราะหวงหลงแข็งแกร่งเกินกว่านางจะก้าวถึงเสียแล้ว แต่กลายเป็นว่าหลังจากมันบอกว่าจะไปล้างแค้น มันกลับตายจากไปพร้อมการล่มสลายของเขตอสูรหุบเขามังกรเสียอย่างนั้น
“รีบไปเถอะ มังกรธรณีรอเจ้าอยู่”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางดึงมือของไป๋จูเหวินให้ตามนางไป ไม่นานนางก็ทะยานลงจากหลังของราชินีมังกรพร้อมราชาทั้ง 3 ที่ตามมาติดๆ พริบตาเดียวพวกมันก็ทิ้งฝูงมังกรเอาไว้ข้างหลังรวมืทั้งอาวุโส 7 หลินหลิน และ หงเยว่ด้วย
“นี่มันอะไรกัน”ไป๋จูเหวินถูกน้าจิ้งจอกดึงตัวมาจนมาถึงเขตป่าวัฒนะอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ไป๋จูเหวินแปลกตาที่สุดคือ ต้นท้อที่มีขนาดใหญ่อย่างมาก แถมมันยังออกผลสีทองอร่ามออกมาเสียเต็มต้นอีกต่างหากทั้งๆที่ผลท้อปกติจะเป็นสีชมพูหรือแดงแท้ๆ
“จูเอ๋อ เจ้ากลับมาแล้วงั้นเหรอ”ทันทีที่ไป๋จูเหวินเข้ามาใกล้ต้นท้อ มังกรธรณีก็ก้าวออกมาในทันที ทำให้ไป๋จูเหวินรีบประสานมือคารวะในทันที
“ท่านน้า ข้ากลับมาแล้ว”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มกว้าง คราวนี้มันเจอเรื่องลำบากไม่น้อย หลายครั้งที่มันอยากเจอท่าน้าอยู่หลายครั้งเลยทีเดียว
“จูเอ๋อ เจ้าบาดเจ็บงั้นเหรอ”มังกรธรณีถามพลางมองหน้าอกของไป๋จูเหวิน แม้ราชาตนอื่นจะดูไม่ออก แต่มังกรธรณีที่รับหน้าที่รักษาไป๋จูเหวินมาก่อนกลับสัมผัสได้ แม้จะกินยารักษาของราชสีห์เพลิงแล้ว แต่ก็ไม่สามารถรักษาได้หมดในทันที
“เป็นความผิดพลาดของข้าเอง”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มเจื่อนๆ แม้หวงหลงหัสหน้ากลุ่มนักล่าอสูรจะลงมือด้วยอารม แต่มันก็เป็นคนพาเหม่ยหลินออกมาจริงๆ ไป๋จูเหวินเลยไม่ได้แค้นเคืองอะไรหวงหลงมากมายนัก แถมการส่งมันไปเขตอสูรก็เป็นสิ่งที่มันอยากทำอยู่แล้วเสียด้วย
“ใครเป็นคนทำ”มังกรธรณีพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ใบหน้าของมันดุดันยิ่งกว่าตอนสู้กับหวงหลงเสียอีก
“ท่านน้า ท่านใจเย็นก่อน”ไป๋จูเหวินว่าพลางพยายามห้ามท่านน้าทั้ง 5 อย่างยากลำบาก ตัวมันไม่ใช่ว่าไม่เคยอยากพึ่งพาท่านน้า แต่เพราะมันอยากจะจัดการปัญหาของตนเองด้วยตนเองมากกว่า มันเลยเลือกที่จะไม่บอกเรื่องของหวงหลงหรือเรื่องของหยงเวยให้พวกท่านน้าฟังแต่อย่างไร
“เอาเถอะ….เจ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร”มังกรธรณีว่าพลางเลือกของอย่างหนึ่งออกมาจามิติของมัน
“เจ้ากินนี่ซะ จะได้ฟื้นฟูร่างกายของเจ้า”มังกรธรณีว่าพลางยื่นชิ้นท้อที่แบ่งออกมาจากท้อผลแรกของต้นท้อสีทองแห่งนี้ออกมา ท้อผลแรกนั้นอัดแน่นไปด้วยพลังของมังกรทอง แม้จะมีผลอื่นๆงอกออกมาแล้วแต่ก็เทียบกับผลแรกไม่ได้เลยเสียด้วยซ้ำ
“ขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบรับพลางนำผลท้อเข้าปากอย่างว่าง่าย มันเติบโตมาโดยกินสมุนไพรและผลไม้ของน้ามังกรมาตลอด มันไม่แม้แต่จะลังเลยอมกินอย่างว่าง่ายในทันที
“เป็นอย่างไรบ้าง”น้าจิ้งจอกถามพลางมองไป๋จูเหวินที่กลืนผลท้อลงคอไป แม้จะเป็นผลท้อสีทองที่พลังอ่อนลงแล้วยังส่งกลิ่นล่อเหล่าอสูรให้มากินกันอย่างล้นหลาม ทำให้มังกรธรณีต้องคอยเฝ้าอยู่ที่ต้นท้อเพื่อห้ามไม่ให้อสูรในปกครองของตนมากินลูกท้อจนหมด สุดท้ายเลยต้องทำข้อตกลงแบ่งลูกท้อ 100 ผลต่อปีให้เหล่าอสูรในทั้ง 5 เขต หรือก็คือแต่ละเขตจะได้ 20 ผลไปแบ่งให้ลูกน้องที่ทำงานได้ดีนั่นเอง
“ข้า…”ไป๋จูเหวินมองร่างกายของตนเองพลางขมวดคิ้ว ทันทีที่กินก็รู้สึกร่างกายร้อนรุ่มขึ้นมา แต่ก็เป็นอาการปกติเวลากินสมุนไพรหายากเข้าไปอยู่แล้ว
“ใจเย็นๆ เดี๋ยวมันก็มาเอง”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางยิ้มออกมา ที่มังกรธรณียอมให้ไป๋จูเหวินกินผลท้อที่อัดแน่นไปด้วยพลังของมังกรทองนั่นเพราะผลท้อที่มันสร้างขึ้นเป็นสิ่งที่พิเศษอย่างมาก นอกจากจะช่วยเพิ่มพลังแล้วมันยังเสริมสร้างพลังให้กับผู้กินอย่างอ่อนโยนอีกต่างหาก ทำให้ผู้กินมีพลังเพิ่มขึ้นโดยไม่มีผลเสียใดๆต่อร่างกายเลย
“ท่านน้า……”ไป๋จูเหวินเบิกตากว้างพลางจับที่หน้าอกของตนเอง ความรู้สึกที่พลัง 2 สายกำลังหมุนอย่างรวดเร็วทำเอาไป๋จูเหวินใจเต้นวูบ แต่ร่างกายของมันกลับไม่แสดงท่าทีทรมานออกมาเลยแม้แต่น้อย แถมพลังของมันกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็วจนวิชาโลหิตมังกรยังเทียบไม่ติด
“โอ้ ใช้ได้อย่างที่คิดเลย”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ พลังอสูรของไป๋จูเหวินเพิ่มขึ้นจากระดับทองขึ้นมาระดับหยกอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย แม้แต่พลังวิญญาณเองยังเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย พริบตาเดียวมันก็มายืนอยู่ปลายทางของระดับหลอมรวมนภาแล้ว มันกำลังจะก้าวเข้าสู่ระดับหลอมรวมวิญญาณ นั่นหมายความว่าพลังธาตุของมันกำลังจะตื่นขึ้นมา
“………”ไป๋จูเหวินนิ่งไปพักหนึ่งด้วยสีหน้ากังวล ตอนที่พลังอสุรก้าวเข้าสู่ระดับทอง มันปลุกพลังธาตุขึ้นมาเช่นกัน ตอนนั้นภายในจิตของมันก็ปรากฏร่างจำแลงของมารดาขึ้นมา พริบตาหนึ่งมันกลับคิดว่ามันอาจจะได้พบมารดาอีกครั้งก็เป็นได้
พริบตานั้นดวงตาของไป๋จูเหวินก็มองเห็นเพียงสีขาวโพลนราวกับไม่มีสิ่งใดอยู่รอบตัวเลย อยู่ๆร่างกายของไป๋จูเหวินก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นราวกับมีใครบางคนเข้ามากอดมันเอาไว้จากด้านหลัง ทำให้ไป๋จูเหวินมองหันกลับไปในทันที
วูบ… ดวงตาของไป๋จูเหวินเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันทีพร้อมมองร่างที่อยู่ด้านหลังอย่างตั้งใจ แต่แม้จะมีดวงตาสีแดงช่วยทำให้ภาพช้าลง มันก็เห็นภาพหญิงสาวเพียงครุ่เดียวเท่านั้น
“ท่านแม่….”ไป๋จูเหวินพูดพลางมองภาพหญิงสาวที่กำลังเลือนลางไป ความรู้สึกนั้นช่างแสนคุ้นเคย แต่มันกลับไม่ใช่ความรู้สึกของอสูรแมงมุม หญิงสาวคนนั้นไม่ใช่อสูรแมงมุม แล้วนางเป็นใครกัน..