เมื่อชูเยว่และไป่หลิงกำลังจะเปิดประตูรถยนต์ เสียงที่แหบแห้งของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังเข้ามาหาพวกเธอจากทางด้านหลัง

“รอเดี๋ยวคุณผู้หญิง!”

เสียงมันดังขึ้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้ามันปรากฏขึ้นในถนนที่ว่างเปล่าแห่งนี้

ชูเยว่และไป่หลิงหันหัวไปเพื่อดูว่าต้นเสียงนั้นมาจากที่ไหน พวกเธอตัวสั่นเทาโดยไม่รู้ตัวพวกเธอไม่รู้ว่ามีคนคนหนึ่งมาปรากฏตัวที่ข้างหลังของพวกเธอตั้งแต่ตอนไหน ชายคนนั้นสวมเสื้อโค้ทสีดำและหมวกสีดำ เขาดึงหมวกปีกกว้างลงมาที่ดวงตาของเขา แสงจากไฟถนนส่องลงมาในมุมลาดเอียงบนหัวของเขามันทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นใบหน้าของเขา ตัวของเขานั้นมันเป็นสีดำทั้งตัว

ก่อนหน้านี้พวกเธอได้ตรวจสอบถนนและพื้นที่รอบๆรถแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย และมันก็ไม่มีใคร ทุกอย่างดูโอเค แต่คนแปลกหน้าคนนี้มาข้างหลังของพวกเธออย่างเงียบเฉียบได้ยังไง โดยที่พวกเธอไม่ได้ยินแม้แต่เสียงฝีเท้าของเขาเลย ซึ่งมันทำให้พวกเธอรู้สึกขนลุก

“คุณเป็นใคร มีอะไรหรือเปล่า?”

ชูเยว่มองผู้ชายคนนี้อย่างระมัดระวัง เธอนำมือของเธอล้วงกระเป๋าแล้วจับสเปรย์พริกไทยไว้ หากชายผู้นี้กล้าลงมือ เธอก็ไม่ลังเลเลยที่จะพ่นสเปรย์ลงในดวงตาของเขา

“คุณคือ คุณชูเยว่ หรือเปล่า?” ชายในชุดดำถาม

ชูเยว่พยักหน้ารับตามจิตใต้สำนึกโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเธอก็ส่ายหัวในทันที เธอรู้ดีว่าไม่ค่อยปลอดภัยในช่วงนี้

“อืม… ดูเหมือนว่าจะไม่ผิดคน! ”

ชูเยว่เหลือบมองเห็นรอยยิ้มอันน่าเกลียดของชายผู้นี้ที่อยู่ในเงามืด

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดี เธอก็คว้าสเปรย์พริกไทยออกมา แต่มันก็สายเกินไปแล้ว ชายคนนั้นโบกมืออันใหญ่โตของเขาแล้วขว้างผงที่ไร้สีไร้กลิ่น ไปบนใบหน้าของเธอและไป่หลิง มันราวกับเป็นลมหายใจของปีศาจ หลังจากหายใจเข้าไปไม่นานพวกเธอก็เริ่มรู้สึกถึงความอ่อนแรงที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย

ในครั้งแรกพวกเธอรู้สึกเวียนหัว จากนั้นวิสัยทัศน์ของพวกเธอก็เริ่มพร่ามัว

พวกเธอสองคนเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ทรุดตัวลงราวกับร่างตุ๊กตาที่ไร้กระดูก

“คุณ…คุณทำอะไรกับพวกเรา” ไป่หลิงพูดออกมาอย่างแผ่วเบา

“ไม่ต้องกังวล มันไม่ใช่ยาพิษ มันเป็นเพียงยาชนิดหนึ่งที่ทำให้พวกเธอหลับไปอย่างรวดเร็ว” ชายในชุดดำเดินเข้ามาหาพวกเธอและยิ้มเหมือนว่าเขากำลังชื่นชมผลงานศิลปะทั้งสองชิ้น

ชูเยว่พยายามดิ้นรนด้วยความยากลำบาก “ว…, คุณเป็นใคร”

“มันไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือเธอคือลูกสาวของ ชู หยุนเชียง เธอแค่คิดว่าตัวเองเป็นคนที่โชคร้ายก็แล้วกัน” ชายในชุดดำกล่าว

“ปล่ …ปล่อยเพื่อนของฉัน สิ่งนี้ไม่มีอะไร…เกี่ยวข้องกับเธอ!…”

ในฐานะที่เป็นลูกสาวของ ชู หยุนเชียง ถึงแม้ว่า ชูเยว่ จะมีอารมณ์ที่ดือดึง แต่เธอก็ยังสืบทอดลักษณะบางอย่างของ ชู หยุนเชียง มาเมื่อพบกับสิ่งนี้เธอก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ เธอค่อนข้างสงบ และแน่นอนว่าเธอไม่สามารถสร้างปัญหานี้ให้กับเพื่อนที่ดีของเธอได้

“โทษที นอกเหนือจากเงินแล้วฉันยังชอบผู้หญิงที่น่ารักโดยเฉพาะนักศึกษาอย่างพวกเธอสองคนที่ยังบริสุทธิ์อยู่”

ชายในชุดดำสูดหายใจเข้าลึก แล้วพูดว่า“มันมีกลิ่นหอมของร่างกายที่บริสุทธ์ อา…มันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ”

ใบหน้าของชูเยว่ขาวซีด ไป่หลิงตกอยู่ในสภาพที่สิ้นหวัง สำหรับผู้หญิงอย่างพวกเธอไม่ต้องสงสัยเลยว่าร่างกายของพวกเธอนั้นมีค่ามาก หากพวกเธอถูกยำยีโดยชายผู้นี้ที่ดูเหมือนมนุษย์ก็ไม่ใช่หรือผีก็ไม่เชิง พวกเธอรู้สึกอยากฆ่าตัวตายหลบหนีไปให้พ้นๆ

“อย่าขัดขืนไปเลยฮิฮิ ทำตัวเป็นผู้หญิงที่ดีและติดตามฉันดีกว่าฮิฮิ…”

ด้วยเสียงหัวเราะที่น่าเกลียดน่ากลัว ชายในชุดดำยื่นมืออันใหญ่โตของเขาที่ดูเหมือนกรงเล็บปีศาจเข้าไปจับชูเยว่และไป่หลิงที่นอนอยู่บนพื้น

แต่ในขณะนั้นที่มือของเขากำลังจะเอื้อมไปถึง เขาก็ตรวจพบภัยคุกคามที่อยู่ทางด้านขวาของเขา ในฐานะที่เขาเป็นนักฆ่ารับจ้างเขาเคยตกอยู่ในสถานการณ์ชีวิตและความตายมามากมาย มันทำให้เขามีสัมผัสที่เฉียบคม

เขารู้สึกถึงภัยคุกคาม เขารู้สึกราวกับอะดรีนาลีนของเขากำลังสูบฉีด

เมื่อเขาหันหน้าไปเพื่อมองว่าใครอยู่ที่ตรงนั้น หน้าอกของเขาก็รู้สึกแน่นขนัด

แล้วคนล่ะ มันอยู่ที่ไหน!

เมื่อความคิดนี้ส่งประกายผ่านจิตใจของเขา เสียงคำรามก็ดังมาจากทางด้านหลังของเขา

ม่านตาของเขาหดลง มันก็สายเกินไปแล้วที่จะคิดอะไร เขารีบลุกขึ้นยืนทันทีเพื่อพยายามหลบหลีกจากการโจมตีที่พุ่งเข้ามา

แต่มันก็สายเกินไป ฝ่ามือที่โหดเหี้ยมกระแทกหลังของเขาอย่างรุนแรง ชายในชุดดำตัวสั่นสะท้านและในปากก็เต็มไปด้วยเลือดอุ่น ความรู้สึกของเขาราวกับว่าเขาถูกรถพุ่งเข้าชน ตัวของเขาบินออกไปโดยไร้การควบคุมและตกลงพื้นอยู่ในท่าทางเหมือนสุนัขที่กำลังกินขี้

ชูเยว่และไป่หลิงตกตะลึง ใครเป็นคนส่งชายชุดดำไปในอากาศ? พวกเธอมองเห็นเพียงภาพที่สลัวหลาง ในวินาทีต่อมาก็มีชื่อหนึ่งปรากฏออกมาอยู่ภายในใจของพวกเธอ: เสี่ยวหลัว! ชายที่มีภาพที่สลัวรางนี้มีความสูงและรูปร่างที่เหมือนกับเขามาก

แต่ภายใต้ผลกระทบของยา พวกเธอเป็นอัมพาตชั่วคราวและไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้ ในที่สุดพวกเธอก็ไม่สามารถทนได้และหลับตาลงไป

ชายในชุดดำพยุงตัวเองลุกขึ้นอย่างช้าๆจากพื้น ขณะที่เขามองไปที่ชายหนุ่มสวมเสื้อยืดสีขาวที่มีความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ด้วยความหวดกลัว หากไม่ใช่เพราะการตอบสนองที่รวดเร็วของเขาหลังของเขาอาจจะหักเหมือนแผ่นกระเบื้องที่ถูกสับด้วยคาราเต้ไปแล้วก็ได้

คนคนนี้คือใครกัน?

จากสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดของนายจ้างก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่ามีบุคคลเช่นนี้อยู่ บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่คอยปกป้องชูเยว่ก็ได้ถูกแยกตัวออกไปแล้ว หมอนี่มาจากไหน? เขาอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องชูเยว่หรือไม่?

“คุณคือใคร?” ชายในชุดดำถามเสียงดัง

“เช่นเดียวกับคุณ ฉันรับเงินมาเพื่อช่วยเหลือนายจ้างของฉัน แต่งานของคุณคือการจับตัวชูเยว่ ในขณะที่งานของฉันคือการปกป้องเธอจากอันตราย” เสี่ยวหลัว กล่าว

สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ มันทำให้เขารู้สึกไม่ชอบชูเยว่อย่างไม่อาจพูดได้ แต่ตอนนั้นเขาได้สัญญากับ ชู หยุนซียง ไปแล้วดังนั้นเขาจะไม่ผิดคำพูดของเขา นี่คือหลักการในการใช้ชีวิตของเขา แน่นอนว่าเขานั้นรับเงินสองล้านมาแล้วอีกด้วย

“มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรมากไปกว่านี้ เข้ามาเลย!”

เมื่อคำพูดของเขาจบลง ดวงตาของเสี่ยวกหลัวก็เต็มไปด้วยความเย็นชา เสี่ยวหลัวก็พุ่งเข้าไปที่ชายผู้นั้นเหมือนเสือชีตาห์ ฝ่ามือขวาของเขากลายเป็นกรงเล็บ เขาใช้วิถีที่ฝ่ามือเหมือนงูเลื้อยเข้าไปที่ลำคอของชายในชุดดำ มือของเขาว่องไวราวกับสายลมที่เปล่งประกาย

ความเร็วนี้คืออะไรกัน!

ชายในชุดดำหน้าซีดเผือด

ไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับมันเขาหันหลังและหนีไปในทันที เขามั่นใจว่านี่เป็นบุคคลที่เขาไม่สามารถยั่วยุได้

“จะหนีไปไหน!”

ตาของเสี่ยวหลัวหรี่ลงเล็กน้อย เขารีบไล่ตามไป เนื่องจากชายผู้นี้เป็นคนที่จะมาลักพาตัวชูเยว่ เขาไม่ต้องการที่จะปล่อยโอกาสที่ดีเช่นนี้หลุดไป

ในขณะที่เสี่ยวกำลังตามชายผู้นั้น ชายผู้นั้นก็หันหลังกลับมาและโบกมือของเขาที่มียาที่มีลักษณะเป็นผง มันก็กระจายไปตามสายลมเข้ามาที่ใบหน้าของเสี่ยวหลัว

เสี่ยวหลัวหลบหลีกโดยสัญชาตญาณ ชายชุดดำวิ่งหนีห่างออกไปกว่า20เมตร เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วกระโดดขึ้นต้นไม้และกระโดดข้ามกำแพงหายไป

“กระต่ายตัวนี้ วิ่งหนีเร็วจริง”

เสี่ยวหลัวไม่ได้ไล่ตามต่อ เพราะเขากลัวว่าจะมีนักฆ่าคนอื่นออกมาจัดการกับชูเยว่และไป่หลิง ถ้าเขาตามไป ซึ่งมันจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆถ้าเป็นเช่นนั้น

เสี่ยวหลัวหันหลังกลับและเดินไปที่ชูเยว่และไป่หลิง เขามองไปที่ผู้หญิงทั้งสองคนที่กำลังนอนสลบอยู่ที่พื้น พร้อมขมวดคิ้ว

ในเวลานั้นก็มีเสียงเท้าของสองคนเข้ามาใกล้

ดวงตาของเสี่ยวหลัวหดแคบลง “ดูเหมือนว่าจะมีคนอื่นอยู่อีก!”

เมื่อรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ที่ข้างหลัง เสี่ยวหลัวก็ไม่ลังเลเขากางฝ่ามือออกเป็นกรงเล็บพุ่งเข้าไปที่ข้างหลังอย่างรวดเร็ว เสียงของมือที่ฉีกแหวกอากาศดังวีดหวิว

“คุณเสี่ยว พวกเราคือบอดี้การ์ดที่คุ้มกันคุณชู!” เสียงของผู้ชายดังขึ้น