บทที่ 18 หาเรื่องจนซวย

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

เย่เทียนยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย ตอนที่เห็นภาพคนตรงหน้าชัดๆ โดยเฉพาะตอนที่พี่เบียวยืนอยู่ด้านหลังหลิวจื่อหยัง สีหน้าอดดูแปลกประหลาดขึ้นมาไม่ได้

“ฮ่าๆ ตกใจจนค้างเลยสิ?”

หลิวจื่อหยังเห็นแบบนี้ เพียงคิดว่าเย่เทียนตกตะลึงแล้ว จึงหัวเราะดังสองทีอย่างได้ใจ

เขามัวแต่กระหยิ่มยิ้มย่อง ไม่ได้สังเกตพี่เบียวที่อยู่ข้างกายเขาโดยสิ้นเชิง เวลานี้กำลังทำท่าทางเหมือนเจอผีตอนกลางวันแสกๆ!

พี่เบียวเป็นคนนำหน้าพุ่งเข้ามา ดังนั้นวินาทีแรกที่มองเห็นหน้าตาของเย่เทียนชัดเจน ชั่วขณะนั้นในใจปรากฏภาพเหตุการณ์ที่ก่อนหน้านี้ถูกเย่เทียนถีบกระเด็นไปไกลหลายเมตร ความรู้สึกหวาดกลัวก็ผุดขึ้นมาเอง!

หลิวจื่อหยังไม่รู้ว่าพี่เบียวที่อยู่ด้านหลังกำลังคิดอะไร สีหน้าของเขาดุร้ายไร้ที่เปรียบ นึกถึงความอัปยศอดสูที่เย่เทียนมอบให้เขา เขากุมหมัดแน่นโดยจิตใต้สำนึก ตัดสินใจว่าต้องให้เย่เทียนชดใช้อย่างสาสม!

“เย่เทียน แกที่รู้จักเอาตัวรอดก็คุกเข่าขอร้องฉันซะ ไม่แน่ว่าฉันอารมณ์ดีอาจจะพิจารณาปล่อยแกไปสักครั้ง!”

หลิวจื่อหยังโอหังอวดดีมากที่สุดเลย ท่าทางครั้งที่สองนั้น เหมือนแปลงร่างเป็นมีดและเขียง ส่วนเย่เทียนก็คือเนื้อปลาที่ปล่อยให้เขาฆ่าแกง

พี่เบียวฟังจนเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก ประสบการณ์ก่อนหน้านี้ยังชัดแจ้งในหัวสมอง เผชิญหน้ากับวายร้ายแบบนี้เขากล้าหาเรื่องที่ไหนกัน อยากจะหมุนตัวกลับไปเดี๋ยวนี้เลย

เพียงแต่ เขาเพิ่งมีความคิดนี้ขึ้น กลับตาไวมองออกว่าเย่เทียนกะพริบตาให้ตนเอง จึงรีบลบความคิดที่จะหนีไปทิ้งทันที

เขาสามารถมาอยู่ในตำแหน่งของปัจจุบันนี้ได้ หากไม่พูดถึงคุณค่าด้านพละกำลังของตัวเอง ด้านสติปัญญาย่อมไม่โง่เป็นธรรมดา

หลังจากตกตะลึงไปก็เดาความคิดของเย่เทียนได้ทันที เหลือบตามองท้ายทอยของหลิวจื่อหยังอย่างสงสาร แล้วแอบส่ายหน้า

หาเรื่องใครไม่เอาล่ะ? ต้องไปหาเรื่องเย่เทียนวายร้ายคนนี้ อยากหาที่ตายจริงๆ!

เห็นเย่เทียนที่ไม่โวยวายสักนิด ไฟโกรธในใจหลิวจื่อหยังปะทุขึ้นพึ่บๆ ด่าว่าแบบโหดเหี้ยม “เย่เทียน ในเมื่อแกไม่ยอมก้มหัวให้ฉัน งั้นก็อย่ามาโทษฉันแล้วกัน!”

หลังจากหยุดไป เขาก็หันหน้ามา ชี้นิ้วไปยังเย่เทียน พูดกับพี่เบียวไปด้วย “พี่เบียว ขอเพียงนายจัดการไอ้หมอนี่ให้ฉันได้ เงินที่รับปากนายไว้ฉันจะโอนให้นายทันที!”

มุมปากเย่เทียนวาดรอยยิ้มเรียบๆ ขึ้น ชายตามองนักเลงสิบกว่าคนด้านหลังพี่เบียวอย่างสบายใจ แววตาหยอกเย้าในดวงตายิ่งเข้มข้นขึ้น

“นึกไม่ถึงแกแม่งยังยิ้มได้? อีกเดี๋ยวฉันจะทำให้แกแม้แต่จะร้องไห้ยังร้องไม่ทันเลย! ใครใช้ให้แกแม่งมาด่าฉัน รอดูฉันเล่นงานแกให้ตายเถอะ!”

หลิวจื่อหยังตะคอกอย่างประสาทเสียมาก เขาเคยคิดที่ไหนว่าเย่เทียนเจ้าสารเลวคนนี้ถึงช่วงเวลาแบบนี้แล้วยังยิ้มออกมาได้อีก

นี่คือการยั่วยุเต็มที่ เป็นการเยาะเย้ย!

เรื่องนี้ยังแข็งใจทำออกมาได้ ยังมีเรื่องอะไรแข็งใจทำไม่ได้อีก!

หลิวจื่อหยังที่ถูกความโมโหปั่นหัว ในใจวางแผนไว้ว่าอีกสักครู่ควรจะเหยียดหยามเย่เทียนอย่างไรดี เดิมทีไม่ได้สังเกตเห็นพี่เบียวที่สีหน้าแปลกประหลาดข้างกายเลย

ถ้าไม่ใช่เมื่อสักครู่สังเกตเห็นสายตาของเย่เทียน พี่เบียวคงหมุนตัวหนีไปตั้งแต่แรกแล้ว จะอยู่ที่นี่ดูหลิวจื่อหยังวิจารณ์เหยียดหยามที่ไหนกัน?

พี่เบียวที่ตัดสินใจแน่วแน่ในใจก้าวขึ้นมาสองก้าวแบบให้ความร่วมมือดีมาก “คุณชายหลิว ครั้งนี้ผมพาพวกพ้องเข้ามามากขนาดนี้ ถ้าที่ตกลงกันไว้เรียบร้อยก่อนหน้านี้ไม่พอ ไม่อย่างนั้น……”

พอหยุดไปแล้ว พี่เบียวก็พูดแบบการแสดงยอดเยี่ยม “คุณจ่ายเพิ่มอีกหน่อย ผมจะจัดเป็นชุดให้คุณโดยตรงเลย”

“แบบเป็นชุด?”

หลิวจื่อหยังงุนงง กลับนึกไม่ถึงว่าเรื่องแบบนี้ยังมีแบบเป็นชุดวิธีการอย่างนี้ด้วย จึงถามด้วยความสงสัย “พี่เบียว งั้นนายบอกฉันหน่อยสิ วิธีการแบบเป็นชุดเป็นยังไง?”

“ตีมือไอ้หนุ่มนี้ให้พิการก่อน กรอกน้ำที่ใส่ยาไปหน่อยให้เขากิน แล้วเอาเขาขังไว้ในห้องว่างดูหนังรักโรแมนติกสักหน่อย รอตอนที่เขาทนไม่ไหว ค่อยถอดเสื้อผ้าเขาจนเกลี้ยงแล้วทิ้งไว้ถนนคนเดินที่พลุกพล่าน!”

พี่เบียวหัวเราะหึๆ บอกว่า “รับรองพรุ่งนี้เขาลงข่าวหน้าหนึ่งแน่ ต่อไปอย่าคิดอยู่ที่ต่อไปเลย!”

“เชี้ย! นึกไม่ถึงพี่เบียวนายเล่ห์เหลี่ยมมากขนาดนี้ ทำตามที่นายพูดแล้วกัน!”

พี่เบียวยิ่งพูดหลิวจื่อหยังยิ่งดวงตาเป็นประกาย ล้วงเช็คออกจากในหน้าอกอย่างไม่ลังเล “พี่เบียว นายว่าสักเท่าไร ฉันเขียนเช็คให้นายเลย! อย่ามัวแต่เสียเวลาอีก!”

เย่เทียนส่ายหน้าแบบน่าตลก นึกไม่ถึงว่าพี่เบียวที่ดูเหมือนผู้กล้าหาญ ในสมองยังมีความคิดเลวมากขนาดนี้ มองหลิวจื่อหยังที่รีบร้อนจนรอไม่ไหวแบบมีเลศนัย “หลิวจื่อหยัง แกแน่ใจว่าอยากทำให้เรื่องราวเด็ดขาดขนาดนี้จริงๆ เหรอ?”

“งั้นจะทำยังไง? แกแม่งมากัดฉันไง!”

หลิวจื่อหยังเห็นว่าคนมากกว่าไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย พูดยั่วยุอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง “เมื่อกี้ฉันให้โอกาสแกไปแล้ว เป็นแกเองไม่รู้จักเห็นค่า ตอนนี้ต่อให้แกคุกเข่าขอร้องฉันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว!”

“ก็ได้ แกอยากเล่นยังไงก็เล่นแบบนั้นเถอะ”

เย่เทียนทอดถอนใจแบบจำใจ “เตือนแกเอาไว้อย่างหนึ่ง หนทางเป็นแกเลือกเอง หวังว่าแกจะร้องไห้เดินลงไปได้”

“แม่งเอ๊ย ความตายมาเยือนแกถึงที่แล้วยังกล้าข่มขู่ฉัน? อยากตายจริงๆ สินะ?”

หลิวจื่อหยังไฟโกรธรุมเร้าหัวใจ ไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป ออกคำสั่งทางพี่เบียว

“พี่เบียว นายอย่ามั่วงงอยู่สิ ต่อยมันให้คว่ำก่อนแล้วค่อยว่ากัน ฉันจะดูว่ามันจะโอหังยังไง!”

พี่เบียวรีบพยักหน้า ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ไม่สามารถยั่วยุเย่เทียนได้

เพราะกำลังต่อสู้ของเย่เทียนเกินกว่าคนทั่วไปมากเหลือเกิน หาเรื่องเย่เทียนเข้า รับรองว่าตายสถานเดียว!

ส่วนล่วงเกินหลิวจื่อหยังนั้น เขาสามารถหนีไปได้ ไปหลบอยู่ข้างนอกสักสองสามเดือน

ชั่งความสำคัญดูในใจแล้วจึงตัดสินใจ ในใจพี่เบียวมีหลักการมาตั้งแต่แรก

พิจารณาถึงจุดนี้ พี่เบียวสูดหายใจลึกๆ มือไม่สั่นแล้ว จากนั้นยกฝ่ามือขึ้นหมุนตัวแล้วตบไปทางหลิวจื่อหยังอย่างแรง

ป้าบ!

เสียงตบหน้าชัดแจ๋วดังขึ้น หลิวจื่อหยังที่น่าสงสารโดนตบจนโซซัดโซเซไปหลายก้าวโดยตรง ก้นกระแทกนั่งบนพื้น

หลิวจื่อหยังไม่ทันได้สติกลับมา จับแก้มที่มีความเจ็บปวดแสบร้อนลอยมา หลุดปากด่าพี่เบียวยกใหญ่ “แกแม่งตบใครกันวะ? ยังอยากได้เงินอยู่รึเปล่า!”

พี่เบียวทำเสียงเย็นชา พูดด้วยสีหน้าอึมครึม “ที่ตบเพราะแกพวกไม่ลืมตาดูอะไรเลยนี่ไง มีเงินเหม็นเน่าอยู่บ้างเลยคิดว่าอยากทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ? แม่งยังอยากตีพี่เทียน สมองผิดปกติอะไรรึไง? ตัวเองอยากตาย งั้นฉันจะทำให้แกสมหวัง!”

พูดจบ พี่เบียวถีบเข้าไปทีหนึ่งแบบไม่ปรานีสักนิด ถีบจนหลิวจื่อหยังคว่ำอยู่บนพื้นโดยตรง

“ยังยืนงงทำอะไรอยู่?”

พี่เบียวกวาดตามองลูกน้องสิบกว่าคน โบกมือออกคำสั่ง “ตีให้ฉัน! ตีจนแม่มันจำมันไม่ได้ถึงค่อยหยุด!”

ลูกน้องสิบกว่าคนตกตะลึงแล้ว แต่ลูกพี่สั่งมา จะมัวพูดมากได้ที่ไหน รีบกรูกันเข้าไป บ้างต่อยบ้างเตะรวดเดียวไปบนตัวหลิวจื่อหยัง เสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดชั่วขณะนั้นดังขึ้นลงเป็นจังหวะอยู่ในห้อง

ช่วงเวลาไม่กี่นาทีสั้นๆ หลิวจื่อหยังที่ไม่รู้ว่าโดนถีบไปมากเท่าไรมึนงงจนถึงที่สุด

เสื้อผ้าหรูหราบนตัวชุดนั้น แต่ละที่เปื้อนรอยรองเท้าไปทั่ว ต่อให้เป็นแม่แท้ๆ ของเขาเข้ามายังจำลูกชายคนนี้ไม่ได้

เห็นสภาพย่ำแย่ของหลิวจื่อหยังแล้ว เย่เทียนอดส่ายหน้าเล็กน้อยไม่ได้ ในใจทอดถอนใจอย่างยิ่ง: คนเรานี่นะ ทำไมแกต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะ? หาเรื่องจนซวยแท้ๆ!

หลิวจื่อหยังที่โดนถีบจนจมูกช้ำหน้าบวมกระเซอะกระเซิงสุดๆ หอบเฮือกใหญ่ด้วยความเจ็บปวดอยู่ ในใจด่าทอว่าเหยดแม่งเป็นล้านรอบ เดิมทีไม่รู้ว่าพี่เบียวเล่นไม้ไหนกันแน่

ตกลงกันว่ามาจัดการเย่เทียนล่ะ? ตกลงว่ามาหักแขนขาเขาให้หมดล่ะ? ชั่วพริบตาเดียวทำไมถึงต่อยและเตะเอาแทน แต่ละคนยังลงมือโหดขนาดนั้นด้วย

พี่เบียวรีบเดินไปตรงหน้าเย่เทียน พูดเอาใจ “พี่เทียน ท่านว่าแบบนี้ได้หรือเปล่าครับ? หรือว่าทำตามวิธีเมื่อกี้ที่ผมบอกไป?”

เย่เทียนชำเลืองมองหลิวจื่อหยังที่บาดเจ็บอ่อนล้า ภายในพอใจทว่าบนหน้ากลับไม่แสดงออกแม้แต่น้อย ยื่นปากบอกว่า “แกถามฉันทำไม? ฉันไม่ได้ให้แกตีเขา”

คำพูดนี้ออกมา พี่เบียวงงตาค้างถึงที่สุดแล้ว……