ในช่วงเวลานี้ ณ นอกอวกาศ มียานอวกาศลำหนึ่งกำลังบินอยู่

“ฟู้!”

เซี่ยปิงนั่งอยู่ภายในห้องที่เงียบสงบภายในยานอวกาศ พลังงานของจักรวาลกำลังหลั่งไหลเข้ามา ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็สั่นไหว เหมือนกับว่ามีลาวาไหลอยู่ตามเส้นปราณแต่ละเส้นก็ว่าได้

อากาศรอบๆนั้นเหมือนกับจะอยู่ในสภาวะที่บิดเบือน ข้างหลังของเขามีสัญลักษณ์ของนกศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏขึ้นมา แสงสีแดงส่องสว่างไปรอบๆ เป็นเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าก็ว่าได้

“ขาดอีกเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น”

ในตอนนี้เซี่ยปิงลืมตาขึ้นมา เดิมทีเขาคิดว่าตนเองนั้นจะสามารถเลื่อนขั้นไปในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ได้ ทว่าเขากลับค้นพบว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดในการเลื่อนขั้นไปในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์

ถึงแม้ว่าในตอนนี้นั้นเขาจะอยู่ในระดับสมปรารถนาขั้นสูง ทว่ามันก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่สมบูรณ์

เฉพาะในสภาวะที่จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์และพลังเวทมนตร์อยู่ในจุดที่สมบูรณ์เท่านั้นจึงจะมีรากฐานที่มั่นคงในการเลื่อนขั้นไปในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ ไม่อย่างนั้นมันจะส่งผลให้รากฐานในอนาคตไม่เสถียรอย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้นการที่ต้องการเลื่อนขั้นไปในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์นั้น จะต้องควบแน่นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา หากเกิดความผิดพลาดแม้แต่น้อยล่ะก็ ความพยายามทุ่มเททั้งหมดก็อาจจะสูญเปล่า จำเป็นที่จะต้องมองหาสถานที่ที่ปลอดภัยและเงียบสงบอย่างแท้จริง ในเวลาเดียวกันก็ต้องเป็นสถานที่ที่มีพลังฉีของธรรมชาติที่เพียงพอสำหรับการบ่มเพาะเช่นกัน

ในช่วงเวลานี้ เขากำลังอยู่ภายในยานอวกาศ ซึ่งไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการบ่มเพาะมากนัก

ดิ้ง!

ทันใดนั้นเสียงของระบบก็ได้ดังขึ้นมา “ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น การที่ทำให้ยอดฝีมือของชนเผ่าวิญญาณจำนวนมากภายในทวีปโลหิตวิญญาณเกลียดชังนั้น ครั้งนี้ได้รับคะแนนความเกลียดชังไปทั้งหมดหนึ่งพันล้านคะแนน ขอให้ผู้เล่นพยายามต่อไป”

คะแนนความเกลียดชังหนึ่งพันล้านคะแนน?!

เซี่ยปิงกำหมัดขึ้นมา รู้สึกมีความสุขมาก ก่อนหน้านี้ที่ได้ครอบครองทักษะผนึกวิญญาณนั้น เขาก็ต้องใช้คะแนนความเกลียดชังไปถึง800ล้านคะแนน ตอนนี้การที่ได้คะแนนความเกลียดชังมาหนึ่งพันล้านคะแนนนั้น มันจะทดแทนคะแนนที่สูญเสียไปอย่างกะทันหัน ยิ่งไปกว่านั้นยังเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

หลังจากที่เขาทำการคำนวณคร่าวๆ เขาก็พบว่าตอนนี้ตนเองมีคะแนนความเกลียดชังอยู่ทั้งหมด1.08พันล้านคะแนน

ยิ่งไปกว่านั้นการเก็บเกี่ยวที่ได้มาจากทวีปโลหิตวิญญาณนั้นก็มหาศาล ครอบครองหินวิญญาณมากว่าสี่แสนก้อน ซึ่งเป็นหินวิญญาณในจำนวนที่มากอย่างยิ่ง เพียงพอที่จะช่วยให้เขาบ่มเพาะจนเลื่อนขั้นขึ้นไปในระดับสูงได้

นอกจากนั้นเขาก็ได้ครอบครองสมุนไพรวิญญาณและเม็ดยาจำนวนมากมาจากฟ่านหมิงและคนอื่นๆเช่นกัน สมบัติระดับสุดยอดก็ได้ครอบครองมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากนำสิ่งเหล่านี้ไปขาย จะเป็นมูลค่าที่น่าอัศจรรย์อย่างแน่นอน

อีกทั้งการที่ได้ครอบครองเงินจำนวนมากมาจากกลุ่มเจ็ดนักฆ่ามือฉมังนั้น หากหักค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่งพันล้านเหรียญจักรวาลก่อนหน้านี้สำหรับการซ่อมแซมดูแลยานดาราจักรนั้น เขาก็จะมีเงินอยู่ประมาณ590ล้านเหรียญจักรวาล

“ยังมีเงินที่น้อยเกินไป”

เซี่ยปิงเอามือเท้าคาง เขาต้องการที่จะซื้ออาวุธระดับสุดยอดโดยเฉพาะ้ที่สามารถใช้ในการปกป้องโลกแห่งเมฆาได้ ทว่าอย่างน้อยก็จำเป็นต้องใช้เงินถึงหนึ่งหมื่นล้านเหรียญ

ในตอนนี้เขามีเงินเพียงแค่เกือบๆหกร้อยล้านเหรียญเท่านั้น มันน้อยเกินไป

ทว่าหากขายหินวิญญาณจำนวนกว่าสี่แสนก้อนนี้ไป เขาก็จะได้เงินในจำนวนแสนล้านเหรียญมาอย่างง่ายดาย เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วหินวิญญาณนั้นก็มีมูลค่าที่น่าอัศจรรย์ ผู้บ่มเพาะจำนวนมากต่างก็โหยหาอยากที่จะครอบครองมัน

“หรือว่าจะต้องขายหินวิญญาณเหล่านี้?!”

เซี่ยปิงคิดเสียงดังออกมา

“ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามขายหินวิญญาณเด็ดขาด”

ได้ยินเช่นนี้ แมวนักปราชญ์ก็พูดออกมาทันที “หินวิญญาณในจักรวาลนั้นถือว่าเป็นแร่ที่ล้ำค่า สามารถที่จะเสริมสร้างพลังงานวิญญาณได้ นอกจากทวีปโลหิตวิญญาณนั้น ก็พบเห็นน้อยมากในสถานที่อื่นๆ”

“หากเจ้าขายหินวิญญาณไปในตอนนี้ การที่ต้องการจะหามาใหม่นั้น บางทีอาจจะเป็นเรื่องที่ยากลำบาก”

“เงินนั้นสามารถที่จะหามาได้ทุกเมื่อ แต่ปัญหาก็คือว่าหากขายหินวิญญาณไปในตอนนี้นั้น การที่ต้องการซื้อมาใหม่นั้นจะไม่ใช่เรื่องที่เรียบง่าย”

มันได้บ่งบอกว่าหินวิญญาณนั้นเป็นสิ่งที่ล้ำค่ายิ่งกว่าเงินเหรียญจักรวาล ไม่สามารถที่จะขายได้

“สิ่งที่สำคัญก็คือข่าวที่เจ้ามีหินวิญญาณในการครอบครองนับแสนก้อนนั้นได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งอาณาเขตจำนวนมาก” แมวนักปราชญ์พูดออกมาอย่างเคร่งขรึม “นักวิทยายุทธจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังจับจ้องเจ้าเหมือนกับเสือที่จ้องมองเหยื่อ กำลังเฝ้าจับตาดูอยู่ว่าจะมีใครพยายามขายหินวิญญาณในจำนวนมหาศาลหรือไม่”

“หากเจ้านำหินวิญญาณเหล่านี้ไปขาย มันจะต้องทำให้ผู้คนจำนวนมากล่วงรู้อย่างแน่นอนว่าเจ้าคืออู๋ไท่โต่ว เมื่อถึงเวลานั้นจำนวนศัตรูที่ถาโถมเข้ามานั้นก็คงจะไม่สามารถนับได้”

“แน่นอนว่าการที่เจ้ามีเซนต์อสูรมืดหนุนหลังอยู่นั้น บางทีก็อาจจะไม่ได้เผชิญกับอันตรายที่ถึงแก่ชีวิต แต่ปัญหาก็คือว่าเจ้าจะทำอย่างไรหากว่าตนเองถูกโจมตีจากทุกทิศทาง เจ้าอาจจะเผชิญกับปัญหาที่ตามมาเรื่อยๆได้”

เซี่ยปิงพยักหน้า ในช่วงเวลาหลายวันมานี้เขาก็ได้เห็นข่าวในเครือข่ายเสมือนจริงเช่นกัน ล่วงรู้ว่าข่าวที่อู๋ไท่โต่วได้ครอบครองหินวิญญาณจำนวนนับแสนก้อนนั้นได้ถูกปล่อยออกไปโดยผู้คนของชนเผ่าวิญญาณ

คาดการณ์ได้ว่าในตอนนี้คงจะมีมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนในอาณาเขตดวงดาวต่างๆที่ต้องการตามหาตัวเจ้าเศรษฐีอู๋ไท่โต่วนี่ ต้องการที่จะสังหารเพื่อปล้นชิงทรัพย์สมบัติ หากเขาขายหินวิญญาณไปในจำนวนมหาศาลล่ะก็ ไม่ว่าใครก็ต้องล่วงรู้ว่าเขาคืออู๋ไท่โต่ว

“พูดถูก ไม่สามารถที่จะขายหินวิญญาณได้ ดูเหมือนว่าจะต้องใช้วิธีอื่นในการหาเงินมา” เซี่ยปิงเอามือเท้าคาง

แมวนักปราชญ์เริ่มพูดออกมา “ใช่สิ ก่อนหน้านี้ที่เจ้าได้ใช้ชื่ออู๋ตี่ในการก่อปัญหาภายในเครือข่ายเสมือนจริงนั้น ตอนนี้ก็มีกลุ่มของผู้คนจำนวนมากที่ส่งจดหมายส่วนตัวมาหาเจ้าอย่างไม่หยุดหย่อนผ่านทางเครือข่ายเสมือนจริง พยายามที่จะติดต่อกับเจ้า”

“บางคนต้องการที่จะสร้างปัญหากับเจ้า บางคนต้องการให้เจ้ารับเป็นศิษย์ อีกทั้งบางคนก็ต้องการที่จะร่วมมือในการทำธุรกิจบางอย่างกับเจ้า”

มันนั้นมีสีหน้าที่แปลกประหลาด ถึงแม้ว่าเซี่ยปิงนั้นจะฉ้อโกงเงินมาเป็นจำนวนพันล้านเหรียญจักรวาล ทำให้ผู้คนจำนวนมากสูญเสียไปอย่างสาหัส ทำให้ผู้คนจำนวนมากเกลียดชังเซี่ยปิงและปรารถนาที่จะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ

ทว่าก็ยังมีบางคน โดยเฉพาะนักต้มตุ๋นบางคน พวกเขานั้นเห็นเซี่ยปิงเป็นดั่งไอดอล เคารพนับถือเซี่ยปิงอย่างมาก หวังว่าจะสามารถเรียนรู้เคล็ดลับในการหลอกลวงของเซี่ยปิง ทำให้ตนเองร่ำรวยขึ้นมาภายในคืนเดียว

เพราะว่าถึงอย่างไรก็ไม่ใช่นักต้มตุ๋นทุกคนที่จะสามารถฉ้อโกงเงินมาเป็นจำนวนพันล้านเหรียญจักรวาลได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังรอดออกมาโดยที่ไร้รอยขีดข่วน นี่มันคือความสามารถในการหลอกลวงระดับสุดยอด สามารถที่เรียกตนเองว่าเป็นยอดปรมาจารย์ในด้านนี้

“จดหมายเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไรกับข้า? บล็อกพวกมันทั้งหมด”

เซี่ยปิงกวักมือ เขาไม่ต้องการที่จะสนใจข้อมูลไร้สาระเหล่านี้

“ไม่ หนึ่งในจดหมายที่ถูกส่งมานั้นบอกว่าต้องการร่วมทำธุรกิจกับเจ้า เขาบอกว่าตนเองเป็นซีอีโอของบริษัทหนังสือจักรวาลในสาขาอาณาเขตดวงดาวเมฆาสายธาร ฝ่ายตรงข้ามนั้นต้องการที่ติดต่อร่วมมือกับเจ้า”

แมวนักปราชญ์พูดออกมา

“บริษัทหนังสือจักรวาล?! นี่มันคือบริษัทอะไรกัน?” เซี่ยปิงถามขึ้นมา

แมวนักปราชญ์อธิบาย “นี่คือบริษัทสื่อหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาล หนังสือที่พวกเขาตีพิมพ์ออกมานั้นกระจายอยู่ทั่วทุกซอกทุกมุมของจักรวาล เป็นบริษัทที่มีอิทธิพลมหาศาล”

“ถึงแม้ว่าพวกเขานั้นจะไม่สามารถเทียบกับบริษัทขนส่งจักรวาล ธนาคารจักรวาลหรือกลุ่มอิทธิพลระดับสุดยอดอื่นๆในจักรวาลได้ ทว่าพวกเขาก็เทียบได้กับกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่ มีความมั่งคั่งมหาศาล นี่คือซีอีโอของบริษัทสาขาย่อยในอาณาเขตดวงดาวเมฆาสายธารที่ขอติดต่อร่วมมือกับเจ้า ข้าคิดว่ามันอาจจะนำพาผลประโยชน์มาให้กับพวกเราได้”

“ดังนั้นข้าจึงคิดว่าควรที่จะแจ้งเตือนเจ้าถึงเรื่องนี้”

เซี่ยปิงถามขึ้นมา “ขอติดต่อร่วมมือกับข้า? ผู้จัดการของบริษัทสาขาย่อยใดกันที่ต้องการร่วมมือกับข้า ต้องการที่จะร่วมมือกับข้าในการฉ้อโกงคนอื่นๆอย่างนั้นหรือ?”

เขารู้สึกสับสน

“เขาต้องการที่จะร่วมตีพิมพ์หนังสือขึ้นมากับเจ้า เป็นหนังสือเกี่ยวกับเคล็ดลับการหลอกลวง”

แมวนักปราชญ์กัดมุมปาก “ดูเหมือนว่าเจ้านี่จะคิดว่าเจ้าเป็นยอดปรมาจารย์ด้านการหลอกลวง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีชื่อเสียงที่โด่งดัง หากตีพิมพ์หนังสือขึ้นมากับเจ้า จะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากได้อย่างแน่นอน จะได้ผลกำไรมาอย่างมหาศาล”

มันคิดว่าผู้จัดการของบริษัทสาขาย่อยนี้ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน เป็นผู้ที่สามารถทำทุกวิถีทางเพื่อเงิน

“น่าสนใจ ติดต่อกลับไป ข้าต้องการที่จะรู้ว่าท้ายที่สุดแล้วเขาจะมีข้อเสนออะไรให้ข้า”

เซี่ยปิงพูดออกมา

“เข้าใจแล้ว”

แมวนักปราชญ์พยักหน้า มันได้ทำการติดต่อซีอีโอคนนั้นไปทันที

ไม่นานหลังจากนั้น คนๆนั้นก็ได้ตอบกลับมาทันที บ่งบอกว่าต้องการนัดเจอเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดทั้งหมด