ตอนที่ 159 ข่าวดีกับข่าวร้าย

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

ตอนที่ 159 ข่าวดีกับข่าวร้าย โดย Ink Stone_Fantasy

คำว่า’ฉันเชื่อในตัวนาย’ทำให้ลู่โจวเข้าใจว่างานนี้จะไม่ง่ายแน่นอน

มีนักวิจัยสามคนที่มาจากมหาวิทยาลัยจินหลิง สองคนเป็นนักฟิสิกส์เชิงทฤษฎี ส่วนอีกคนเป็นเด็กฝึกงาน แต่เด็กฝึกงานคนนี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามเขาก็รับผิดชอบแค่ข้อมูลจากพาร์ติชัน B1 เท่านั้น

ห้องแล็บทั่วโลกก็มีส่วนช่วยเหลือเช่นกัน

ถ้าไม่มีอินเทอร์เน็ต มันคงไม่มีทางเลยที่จะทำวิจัยขนาดใหญ่แบบนี้

ยกตัวอย่างถ้าเราอยากสร้างมวลสเปกตรัมคงที่ เราต้องใช้วิธีวิเคราะห์แอมพลิจูด ในกระบวนการวิเคราะห์ แอมพลิจูด ทั้งสองจะเกี่ยวข้องด้วย มันสร้างภาระงานอย่างหนัก ถ้าหากไม่มีความช่วยเหลือของอินเทอร์เน็ต แค่สื่อสารก็เสียเวลาเปล่าไปมหาศาลแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทิม เบอร์เนิร์ส-ลีผู้คิดค้นอินเทอร์เน็ตคงไม่ได้คาดหวังว่าเครื่องมือสื่อสารที่เขาออกแบบเพื่อสถาบันฟิสิกส์ของอนุภาคแห่งยุโรปจะไม่ได้ใช้เพื่อให้คนแลกเปลี่ยนทางวิชาการเท่านั้น แต่มันยังเป็นสังคมออนไลน์อีกด้วย…

การประชุมทางวิชาการกับศาสตราจารย์หรูเสินเจียนนั้นมีประสิทธิภาพมาก ในสิบนาทีงานประชุมก็จบลง และงานก็ถูกแจกจ่ายให้ทุกคน

เนื่องจากลู่โจวรับผิดชอบในการคำนวณ เขาจึงต้องจัดการกับข้อมูลที่ศาสตราจารย์หรูเสินเจียนมอบให้

แม้ว่าลู่โจวชำนาญในการวิเคราะห์เชิงฟังก์ชันและทฤษฎีกรุป แต่เขาก็ยังเป็นมือใหม่ในด้านการวิเคราะห์ฟิสิกส์เชิงทฤษฎี

โชคดีที่เหยียนซินเจวี๋ยช่วยเติมเต็มความรู้ด้านทฤษฎีที่เขาขาดหายไป

วันที่สามของการเป็นเด็กฝึกงาน…

ในห้องประชุมชั้นหกของโรงแรม ลู่โจวยืนอยู่หน้าไวท์บอร์ด

ห้องประชุมข้างๆเป็นของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ เขาได้ยินเสียงการอภิปรายที่ดุเดือดดังทะลุกำแพงมา

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา

เขาพยายามมองข้ามปัญหาฟิสิกส์และทำเหมือนมันเป็นปัญหาคณิตศาสตร์

อย่างไรก็ตาม…

นี่มันไม่ง่ายเลย

[M2π=(Mμ+Md)/2Fπ1<0|ΨΨ’|0>]

[จาก <0|Λ(x)|π^b>=ip^μ·FπΨ^(ab)e^(-ipx), พลังงานเรโซแนนซ์ของ Λ* คำนวณได้เป็น…]

ตัวอักษรและตัวเลขที่เรียงกันจนแน่นถูกผสมเข้าด้วยกัน

เขาจ้องมองบนไวท์บอร์ดพักใหญ่ๆ

ทันใดนั้นลู่โจวก็เอ่ยถาม “มีสองสถานะเรโซแนนซ์ที่ใกล้กับ 1.02 BeV?”

เหยียนซินเจวี๋ยช็อก เขามองกระดาษทดแล้วหันไปมองไวท์บอร์ด เขาถาม “นายคำนวณได้ไง?”

ลู่โจวจ้องมองไวท์บอร์ดแล้วพึมพำกับตัวเอง “บรรทัดที่ยี่สิบเจ็ดเพิ่มฟิลด์สย่อยของแฟร์มีลงในลากรองจ์ และแนะนำฟังก์ชันศักย์ยูคาว่า…”

เหยียนซินเจวี๋ยเข้าสู่โหมดสมาธิเช่นกัน

จากนั้นสักครู่เขาก็กล่าวในที่สุด”กระบวนการคิดของนายเป็นเอกลักษณ์มาก…แต่มันน่าจะถูกต้องนายเข้าร่วมการแข่งขันคณิตศาสตร์ IMO ไหม?”

ลู่โจวส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่ครับ แต่ผมทำข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยมาตรฐานของมหาวิทยาลัยจินหลิง”

เหยียนซินเจวี๋ยกล่าว “เหลือเชื่อ นายน่าจะได้เหรียญทองนะ”

“มันสายไปแล้ว ผมจะปล่อยโอกาสนี้ให้คนอื่น”

ลู่โจวหายใจเข้าไปเต็มปอด

ไม่ใช่ว่าเขาได้แรงบันดาลใจกะทันหัน

ฟิสิกส์เชิงทฤษฎีประเภทนี้ต่างจากโจทย์ทฤษฎีจำนวน แต่ก่อนเขาต้องการการคำนวณและการคิดเชิงนามธรรม แต่หลังๆมานี้เขาต้องการแรงบันดาลใจ

เมื่อกี้เขาใช้แต้มทั่วไปหนึ่งร้อยแต้มแล้วคำนวณข้อมูลนี้มา

อย่างไรก็ตามการใช้แต้มทั่วไปมีผลข้างเคียง ลู่โจวรู้สึกเหมือนสมองของเขามีข้อมูลไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เขารู้สึกเหมือนมีมดนับพานไต่บนหนังศีรษะ

อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ก็คุ้มค่า

หลังจากระบบปลูกฝังความรู้ลงในสมอง ไม่เพียงแต่เขาจะได้คำตอบเท่านั้น แต่เขายังได้กระบวนการคิดปัญหานี้ด้วย

สำหรับนักศึกษาโง่ ได้คำตอบก็ถือว่าจบแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ศึกษาควอนตัมโครโมไดนามิกส์ กระบวนการคิดนั้นเป็นส่วนสำคัญ

ห้านาทีที่แล้ว เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับตัวเลขและสมการพวกนี้ดี ตอนนี้เขาสามารถใช้ความรู้คณิตศาสตร์ของตนเองแก้ปัญหาเหล่านี้ได้แล้ว…

เหยียนซินเจวี๋ยเห็นว่าลู่โจวอยู่ในห้วงสมาธิ ดังนั้นเขาจึงไม่รบกวนอีกฝ่าย

ด้วยการแบ่งงานและร่วมมือกัน จากต้นเดือนพฤษภาถึงปลายเดือนพฤษภา ในที่สุดลู่โจวก็ประมวลข้อมูลจำนวนมหาศาลได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตามนี่ยังไม่พอ เขายังต้องวาดแผนภูมิให้เสร็จ

แผนภูมินี้มีชื่อว่าแผนภูมิดาลิทส์

เส้นแต่ละเส้นในแผนภูมิแสดงให้เห็นถึงเลือดเนื้อและหยาดเหงื่อของนักฟิสิกส์…

ลู่โจวจ้องมองบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เขาจะเขียนบนกระดาษก่อนแล้วค่อยพิมพ์บนคีย์บอร์ด

จู่ๆเขาก็พูด “ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมคนที่สำเร็จการศึกษาจากพรินซ์ตันถึงมาบรรจบกันที่วอลสตรีต”

เหยียนซินเจวี๋ยหาวก่อนจะเอ่ยถาม “ทำไมล่ะ?”

“คุณไม่คิดว่าสิ่งนี้เหมือนกับการวิเคราะห์หุ้นเหรอ?”

“…นายพูดถูก” เหยียนซินเจวี๋ยพึมพำ เขาพูดไม่ออก

ลู่โจวถอนหายใจ “ผมคิดว่าเมื่อผมเข้าใจสิ่งนี้ ผมคงทำงานที่วาณิชธนกิจที่วอลสตรีตได้ง่ายๆเลย”

“ไม่ ถ้านายเข้าใจสิ่งนี้ รางวัลโนเบลคงอยู่ไม่ไกล”

“บางทีอะนะ”

แน่นอนเรื่องทำงานบนวอลสตรีตลู่โจวแค่พูดเล่น

เขายังมีความฝันอื่น

แม้ว่าฟิสิกส์เชิงทฤษฎีจะไม่ได้ทำให้เขามีเงินเดือนมากมาย แต่มันก็ทำให้เขามีอะไรมากกว่านั้น

อย่างแต้มประสบการณ์ของระบบ

พอเขาปลดล็อคระบบไฮเทคได้ขั้นสูงสุด ต่อให้เป็นวอลสตรีตก็อยู่แทบเท้าเขา

เมื่อมีจินตนาการนี้ในใจ จู่ๆ ลู่โจวก็รู้สึกเหมือนงานน่าเบื่อน้อยลง

ในที่สุดก็ถึงสิ้นเดือนพฤษภา ลู่โจวทำ’แผนผังดาลิทส์’เสร็จแล้ว

เวลานี้ยังมีเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์กว่าจะถึงวันรายงานข้อมูลของ LHCb เขามีเวลาวิเคราะห์ภาพขั้นตอนสุดท้ายและตรวจสอบข้อมูลคำนวณซ้ำอยู่เหลือเฟือ

ลู่โจวปิดโน้ตบุ๊คแล้วบิดขี้เกียจ จากนั้นเขาก็คิดว่ามื้อค่ำจะทานอะไรดี ทันใดนั้นเหยียนซินเจวี๋ยก็กลับมาจากการไปซื้ออาหารค่ำ สีหน้าเขาดูเคร่งเครียดมาก

ลู่โจวอยากถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เหยียนซินเจวี๋ยนั่งตรงข้ามเขาแล้วถามอย่างจริงจัง

“ข่าวดีกับข่าวร้าย นายอยากฟังอันไหนก่อน?”

ลู่โจวถาม “ข่าวดี”

รุ่นพี่เหยียน “มหาวิทยาลัยซีราคิวส์วิเคราะห์ข้อมูลจาก B1 เรียบร้อยแล้ว”

เรียบร้อยแล้ว?

ลู่โจวประหลาดใจกับความเร็วของคู่แข่ง จากนั้นเขาก็ถาม “แล้วข่าวร้ายล่ะ?”

รุ่นพี่เหยียน “ข่าวร้ายคือพวกเขานำเราไปก้าวหนึ่ง”

ลู่โจว “…”

บัดซบ!

ไหนข่าวดีวะ?

……………………………….