บทที่ 243 ค่ายกลเคลื่อนย้ายพระราชวังมังกร มรดกอันทรงพลัง!
จ้าวอสูรวานรขาว!
จ้าวอสูรหมาป่าคลั่ง!
จ้าวอสูรวายุ!
จ้าวอสูรอีกาโลหิต!
จ้าวอสูรแห่งภูเขาไท่ซาน!
แจ้งข้อผิดพลาดในการอ่านนิยายเสียง
เมื่อจ้าวแห่งสัตว์อสูรทั้ง 5 ตัวมาถึงพวกเขาก็มองไปที่จักรพรรดิเงินเขาทองและจักรพรรดิแมวเก้าชีวิตด้วยความหวาดกลัว
พวกมันยังมองออกถึงความแข็งแกร่งของจักรพรรดิเงินเขาทองและจักรพรรดิแมวเก้าชีวิต
จักรพรรดิเงินเขาทองเป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดและตอนนี้ยังสามารถเปลี่ยนแปลงทางสายเลือดสําเร็จถึง 13 ครั้ง พลังของมันจะเพิ่มขึ้นถึงระดับไหน?แม้ว่าจักรพรรดิแมวเก้าชีวิตจะเปลี่ยนแปลงสายเลือดเพียงสิบเอ็ดครั้งแต่ร่างกายส่วนหนึ่ง ของมันได้เปลี่ยนเป็นร่างพระเจ้าแล้วมันกําลังอยู่ในกระบวนการสร้างร่างพระเจ้าความแข็งแกร่งของมันแน่นอนว่าต้องแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้มากดังนั้นจักรพรรดิแมวเก้าชีวิตจึงแข็งแกร่งกว่า
พวกมันโดยไม่ต้องสงสัยด้วยเหตุนี้พวกมันทั้งห้าจึงรวมตัวกัน เพราะเกรงว่าจักรพรรดิเงินเขาทองและจักรพรรดิแมว 9 ชีวิตจะลงมือกับพวกมันแต่เห็นได้ชัดว่าด้วยท่าทีของจักรพรรดิเงินเขาทองและจักรพรรดิแมวเก้าชีวิตดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่มีความคิดที่จะท่าเช่นนั้น
หากจักรพรรดิแมวเก้าชีวิตไม่เคยรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเผ่ามังกรมาก่อน มันคงจะลงมือสังหารจ้าวแห่งสัตว์อสูรเหล่านี้แล้วแต่ตอนนี้มันไม่มีความคิดที่จะทําเช่นนั้น
มันไม่จําเป็นเลยที่จะสังหารจ้าวแห่งสัตว์อสูรตัวอื่น
“จักรพรรดิเงินเขาทองเจ้าเป็นคนทําให้เกิดพระราชวังแห่งนี้ขึ้นมาใช่ไหม?นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
จักรพรรดิแมวเก้าชีวิตอดไม่ไดที่จะถามออกมา
จักรพรรดิเงินเขาทองเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า”ช่างเถอะ ข้าบอกแล้วไงว่าที่นี่คือตำหนักมังกรข้าได้รับวิธีเปิดมันได้โดยบังเอิญเดิมทีข้าต้องการสมบัติในตําหนักมังกรแห่งนี้แต่ตอนนี้ข้าก็เข้าไปไม่ได้!”
มัน
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่านี่คือตําหนักมังกร?”
จักรพรรดิแมวเก้าชีวิตตกใจมาก
สิ่งที่มันประหลาดใจคือจักรพรรดิเงินเขาทองรู้จักตําหนักมังกรและดูเหมือนจะดูข้อมูลดียิ่งกว่าตัวมันนั้นรู้เพียงแต่ว่าตําหนักมังกรอยู่ในทะเลแต่ไม่รู้ว่าจะเข้าไปยังตําหนักมังกรได้อย่างไรยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามีอะไรอยู่ในตําหนักมังกรแต่จากคําพูดของจักรพรรดิเงินเขาทองดูเหมือนว่ามันจะเข้าใจตําหนักมังกรนี้เป็นอย่างดี
“เต่าทมิฬไม่ได้บอกความลับทั้งหมดกับข้าแล้วบางทีมันอาจยังไม่รู้เรื่องนี้มากนัก!”
จักรพรรดิแมวเก้าชีวิตคิดเช่นนี้
“จักรพรรดิเงินเขาทองในเมื่อเจ้าเข้าไปไม่ได้ ทําไมเจ้าไม่เปิดเผยสิ่งที่เจ้ารู้ให้เราฟังบางทีเราอาจจะช่วยกันได!”จ้าวอสูรอีกาโลหิตกล่าวออกมา
จักรพรรดิเงินเขาทองไม่ได้ต้องการปิดบังอะไรแล้ว ดังนั้นมันจึงกล่าวตอบออกมาตรงๆ
“ข้าจะไม่ปิดบังทุกคน บรรพบุรุษของข้าเคยเป็นสัตว์อสูรระดับพระเจ้าและมีความรู้เกี่ยวกับตําหนักมังกรเป็นอย่างดี ภายในตําหนักมังกรมีค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตาที่ยอดฝีมือของเผ่ามังกร สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการเดินทางมายังโลกของเราเมื่อเก้าพันปีก่อน ยอดฝีมือเผ่ามังกรผู้หนึ่งได้เข้ามายังโลกของพวกเรา และได้นําสัตว์อสูรระดับพระเจ้าเก้าตัวไป”
“ค่ายกลเคลื่อนย้าย!”
จักรพรรดิแมวเก้าชีวิตตกใจมาก
มันไม่รู้เรื่องนี้เลย หากจักรพรรดิเงินเขาทองไม่พูด มันก็คงจะไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ
ณ จุดนี้เอง
มันก็ลอบวางแผนอยู่ในใจ—
หากว่ามันทําลายค่ายกลเคลื่อนย้าย ยอดฝีมือเผ่ามังกรก็คงมาที่นี่ไม่ได้ไม่ใช่หรือ?
“ไม่สิในตอนแรกโลกของเราไม่มีค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้อยู่แน่นอนว่ามันคงถูกสร้างขึ้นโดยเผ่ามังกรที่มายังโลกของเราเพื่อที่จะได้มายังโลกใบนี้ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว”เมื่อจักรพรรดิแมวเก้าชีวิตคิดเช่นนี้ มันก็ล้มเลิกความคิดที่จะทําลายค่ายกลเคลื่อนย้าย
เพราะหากทําลายค่ายกลเคลื่อนย้ายมันจะเป็นการดึงดูดความสนใจของเผ่ามังกรแน่นอนว่าหากเป็นเช่นนั้นเอามังกรคงจะส่งระดับพระเจ้าที่ทรงพลังมายังโลกใบนี้ นั่นไม่เท่ากับว่ามันกําลัง
สร้างปัญหาให้แก่ตนเองหรอกหรือ?ถึงตอนนั้นแม้แต่หนีมันก็ไม่มีทางทําได้
จักรพรรดิแมวเก้าชีวิตรู้อยู่แล้วว่าสัตว์อสูรระดับพระเจ้าถูกพาตัวไปโดยเผ่ามังกร แต่จ้าวแห่งสัตว์อสูรตนอื่นๆไม่ได้รู้ถึงเรื่องนี้!
มา
เมื่อพวกมันได้ยินคําพูดของจักรพรรดิเงินเขาทอง แต่ละตนก็ตกตะลึงและรู้สึกหวาดกลัวขึ้น
“จักรพรรดิเงินเขาทอง สัตว์อสูรระดับพระเจ้าทั้งเก้าตัวถูกเผ่ามังกรพาตัวไปหรือ?นี่เป็นเหตุ
ผลว่าทําไมโลกของเราถึงไม่มีสัตว์อสูรระดับพระเจ้า แล้วพวกมันเป็นอย่างไรหลังถูกพาตัวไป?”
เจ้าแห่งสัตว์อสูรหลายตนต่างตั้งคําถามหลายข้อติดต่อกัน
จักรพรรดิเงินเขาทองส่ายหัว “ข้าเองก็ไม่รู้ว่าสัตว์อสูรระดับพระเจ้าทั้ง 9 ตัวเป็นเช่นไรแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อกลายเป็นสัตว์อสูรระดับพระเจ้าก็จะถูกเผ่ามังกรพาตัวไปโดยไม่มีข้อยกเว้น”ในเวลานี้เหล่าจ้าวแห่งสัตว์อสูรทั้งหมดได้เงียบลงพวกมันบังเกิดความคิดที่แตกต่างกัน
“จักรพรรดิเงินเขาทอง เจ้าพูดมาขนาดนี้แล้วเจ้ายังไม่ได้พูดถึงตําหนักมังกรนี้เลย มีสมบัติอะไรอยู่ในนั้นถึงขนาดที่ทําให้เจ้าหวั่นไหวได้แล้วมีทางใดบ้างที่สามารถเข้าไปในตําหนักมังกรได้” จักรพรรดิแมวเก้าชีวิตกล่าว
ในเวลานี้จ้าวแห่งสัตว์อสูรตัวอื่นๆ ก็ได้สติกลับมาพวกมันมองไปที่จักรพรรดิเงินเขาทองและรอคำตอบจากปากของจักรพรรดิเงินเขาทอง
“ตําหนักมังกรแห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนของเผ่ามังกรในบั้นปลายของชีวิตเมื่อนานมาแล้วท้าย
ที่สุดมังกรตอนนั้นก็ได้เสียชีวิตที่นี่ กล่าวกันว่าก่อนที่จะเสียชีวิตมันได้ทิ้งมรดกเอาไว้เบื้องหลังเมื่อ 9,000 ปีก่อน สัตว์อสูรระดับพระเจ้าทั้ง 9 ตัวก็พยายามที่จะได้รับมรดกเช่นกันแต่พวกมันก็ล้มเหลวได้ประโยชน์กลับไปเพียงเล็กน้อยสําหรับวิธีการเข้าไปในตําหนักมังกรนั้นมีเพียงสัตว์อสูรระดับพระเจ้าที่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากค่ายกลป้องกันของวังมังกรแห่งนี้ไม่ได้แข็งแกร่ง
มากนัก เดิมทีขาคิดว่าข้าจะสามารถทําลายค่ายกลป้องกันและเข้าไปได้แต่คิดไม่ถึงว่าจะทําให้เกิดนิมิตรรูปมังกรขึ้น”จักรพรรดิเงินเขาทองกล่าวตามความเป็นจริงมรดกของเผ่ามังกรที่ทรงพลัง!
เมื่อเหล่าจ้าวแห่งสัตว์อสูรได้ยินเช่นนั้นหัวใจของพวกมันก็เต้นแรงขึ้นมาทันที!
ด้วยสิ่งนี้จะทําให้พวกมันเจอกับอนาคตที่สดใสหรอกหรือ ?
เผ่ามังกรมีความแข็งแกร่งระดับใดทุกคนต่างรู้ดีหากได้รับมรดกของเผ่ามังกรแล้วละก็มิใช่ว่า
จักรพรรดิแมวเก้าชีวิตก็หวั่นไหวเช่นกันหากได้รับมรดกของเผ่ามังกรมามันจะสามารถใช้ชีวิตบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านได้ง่ายขึ้น!
อย่างไรก็ตามสิ่งที่จ้าวแห่งสัตว์อสูรเหล่านี้ไม่รู้ก็คือเย่เทียนก็ได้ยินคําว่า “มรดกมังกร”เช่นกัน
“มรดกของเผ่าพันธุ์มังกร, ตําหนักมังกร, ค่ายกลเคลื่อนย้าย, เผ่ามังกรพาตัวสัตว์อสูรระดับพระเจ้าไป…”
มาก
เย่เทียนซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลนักเมื่อเขาได้ยินถึงความลับเหล่านี้มันก็ทําให้เขาตกใจเป็นอย่างตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทําไมโลกของสัตว์อสูรนี้ถึงได้มีผลมังกรศักดิ์สิทธิ์ที่ต่อต้านสวรรค์อยู่ มันเป็นสมบัติวิเศษที่สามารถทําให้สัตว์อสูรมีพรสวรรค์ทางสายเลือดระดับตะวันและเหตุใดที่สัตว์อสูรระดับพระเจ้าถึงได้หายตัวไป?
ที่แท้สัตว์อสูรระดับพระเจ้าเหล่านั้นก็ถูกเผ่ามังกรพาตัวไปดังนั้นจึงไม่มีสัตว์อสูรระดับพระเจ้าในโลกใบนี้อีกแล้ว!
“ต้นมังกรศักดิ์สิทธิ์อาจจะปลูกโดยเผ่ามังกรบางทีมันอาจเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งดูเหมือนว่าเผ่าพันธุ์มังกรจะเป็นผู้วางแผนเช่นนี้ไว้พวกมันได้ทิ้งสมบัติมากมายไว้ในโลกของสัตว์อสูรเพื่อให้สัตว์อสูรใช้ประโยชน์ต้นสามารถกลายเป็นระดับพระเจ้าได้เมื่อถึงตอนนั้นมันก็สามารถพาสัตว์อสูรระดับพระเจ้าเหล่านั้นไปเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวมของเผ่ามังกร!”
เย่เทียนคาดเดาทักเรื่องราวทั้งหมดได้ในทันที
ต้องกล่าวด้วยว่า ตอนนี้เขาเองก็สนใจตําหนักมังกรแห่งนี้เป็นอย่างยิ่งหากว่าได้รับมรดกตกทอดจากเผ่ามังกรย่อมเป็นเรื่องที่ดีสําหรับเขาหากว่าไม่ได้รับก็ไม่เป็นไรถึงอย่างไรเขาก็ไม่ต้องการให้เหล่าจ้าวแห่งสัตว์อสูรพวกนี้ได้รับผลประโยชน์ไปมิฉะนั้นการสังหารพวกมันก็ทําได้ยากยิ่งขึ้น
และเป้าหมายต่อไปของเขาก็คือจักรพรรดิแมว 9 ชีวิต
จักรพรรดิแมวเก้าชีวิตเริ่มเปลี่ยนร่างพระเจ้าแล้วและนี่ก็ต้องเป็นกระบวนการที่จะทะลวงไปยังขอบเขตพระเจ้า
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าจักรพรรดิแมวเก้าชีวิตจะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะกลายเป็นระดับพระเจ้า
อย่างสมบูรณ์แต่เขาก็ไม่สามารถรอได้มิฉะนั้นมันจะสายเกินไปเมื่อจักรพรรดิแมวเก้าชีวิตกลาย
เป็นสัตว์อสูรระดับพระเจ้า!
แม้ว่าเผ่ามังกรจะพาตัวสัตว์อสูรระดับพระเจ้าไปแต่หากพวกมันมาช้าล่ะ?
ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรเขาก็ไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นดังนั้นการสังหารจ้าวแห่งสัตว์อสูรทั้งหมดจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ในขณะเดียวกัน
จ้าวแห่งสัตว์อสูรทั้งเจ็ดก็เริ่มหารือกัน
พวกมันต้องการที่จะเข้าไปยังตําหนักมังกร ดังนั้นพวกมันต้องทําลายค่ายกลป้องกันนี้ให้ได้เสียก่อน
“มาร่วมมือกันกันเถอะ!”
จักรพรรดิแมวเก้าชีวิตเสนอ
“ตกลง!”
จักรพรรดิเงินเขาทองเห็นด้วย
จ้าวแห่งสัตว์อสูรตนอื่นๆก็เห็นด้วยเช่นกัน
ดังนั้นพวกมันจึงเจ้าเริ่มโจมตีค่ายกลป้องกันนอกตําหนักมังกรลัง
ตูม!!!!
ค่ายกลป้องกันถูกจ้าวแห่งสัตว์อสูรร่วมมือกันโจมตีจนเริ่มสั่นไหว แต่ก็ยังไม่แตกร้าว
แต่พวกมันก็สัมผัสได้ว่าค่ายกลป้องกันนี้ใกล้จะแตกแล้ว พวกมันจึงช่วยกันโจมตีอย่างสุดกําในเงามืด
เย่เทียนมองไปที่ค่ายกลป้องกันและประเมิน “คาดว่าอีกหนึ่งชั่วโมง ค่ายกลนี้ก็จะถูกทําลาย!”
เขาเตรียมพร้อมเสมอ เมื่อค่ายกลป้องกันแตกออก เขาก็จะตามจ้าวแห่งสัตว์อสูรเข้าไปด้านในทันที