ตอนที่ 222 คนหน้าไม่อาย! / ตอนที่ 223 คิดถึงฉันไหม (1)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 222 คนหน้าไม่อาย!

 

 

นั่นก็เพราะฉันกำลังจีบเธออยู่ไง ยัยซื่อบื้อ…

 

 

กำลังจีบเธออยู่ไง ยัยซื่อบื้อ…

 

 

ยัยซื่อบื้อ…

 

 

ใบหน้าของอันซย่าซย่าฉายชัดว่าไม่เชื่อสิ่งที่เพิ่งได้ยินไป หญิงสาวกะพริบตารัวๆ สงสัยว่าตัวเองกำลังฝันอยู่หรือเปล่า

 

 

ปัง ปัง ปัง—

 

 

ฉือหยวนเฟิงเคาะประตูจากด้านนอก

 

 

“พี่ชาย! แย่แล้ว! อ้าาา! เสี่ยวไป๋เป็นตัวผู้! ฉันจะฆ่าตัวตาย!” ฉือหยวนเฟิงคร่ำครวญออกมาเสียงดัง ส่วนอันซย่าซย่าก็กลั้นหายใจ กลัวว่าจะส่งเสียงอะไรเข้า

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยึดข้อมือเธอไว้และดันเธอชิดกับผนังกว่าเดิม ทั้งสองอยู่ใกล้กันจนหญิงสาวได้ยินเสียงหัวใจของคนตรงหน้า

 

 

อันซย่าซย่าใจเต้นรัว ออกแรงที่มีทั้งหมดผลักชายหนุ่มให้ออกห่าง ทว่าเซิ่งอี่เจ๋อไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย เขายังขานรับฉือหยวนเฟิงอย่างไม่เร่งรีบ “แมวตัวผู้แล้วทำไมงั้นเหรอ พวกนายก็ยังไปต่อกันได้อยู่นี่”

 

 

ฉือหยวนเฟิงคร่ำครวญ “ไม่…ฉันชอบผู้หญิง ฮึก ซย่าซย่าอยู่ที่ไหน ฉันต้องการให้เธอปลอบฉัน…เดี๋ยวนะ แล้วทำไมพี่ไม่ปลอบฉันล่ะ”

 

 

สีหน้าเซิ่งอี่เจ๋อดูน่ากลัวกับประโยคที่ว่า “ฉันต้องการให้เธอปลอบฉัน” ของคนตรงหน้า อันซย่าซย่าไม่รู้ว่าความโกรธนั่นมาจากไหน แต่เธอก็ก้มหน้างุด ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่เอาความโกรธมาลงที่เธอ

 

 

“นายมีแผนจะขอจากซย่าซย่าแล้ว แล้วคำปลอบใจของฉันจะช่วยอะไรนายได้” เซิ่งอี่เจ๋อตอบเนือยๆ ซึ่งฉือหยวนเฟิงพยักหน้าตาม “นั่นก็ถูก! งั้นฉันไปหาซย่าซย่าล่ะ!”

 

 

เสียงฝีเท้าเร่งรีบด้านนอกค่อยๆ เบาไป ขณะเดียวกันอันซย่าซย่าก็รู้สึกถึงความอัปยศท่วมท้นในอก

 

 

“หลังจากนี้ถ้าเจอเขาแล้ว เธอจะปลอบเขายังไงดีนะ” เซิ่งอี่เจ๋อเชยคางเธอขึ้น ความนุ่มของนิ้วมือคนตรงหน้าช่างยากที่จะต้านทาน

 

 

อันซย่าซย่าส่งยิ้มที่ดูเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อให้เขา “เอิม…แต่ก็นะ…เซิ่งอี่เจ๋อ นายช่วยปล่อยฉันทีได้ไหม”

 

 

“แล้วทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงธรรมดาๆ ราวกับเขาเป็นพระราชาของโลก

 

 

อันซย่าซย่าตอบตามตรง “ไม่ใช่ว่ามันไม่อึดอัดไปเหรอ…อีกอย่างคือนายอยู่ใกล้เกินไปแล้ว! เรายังไม่ได้เป็นคู่รักกันนะ!”

 

 

คำพูดของเธอดูจะโน้มน้าวเซิ่งอี่เจ๋อที่ครุ่นคิดไปสักพักได้ “ถ้าอย่างนั้นแล้ว ซย่าซย่า เป็นแฟนกันไหม”

 

 

อันซย่าซย่ายืนตัวตรงและส่ายหน้าโดยไม่ลังเล

 

 

ตอนนี้เซิ่งอี่เจ๋อดูน่ากลัวกว่าเดิม…เขาเหมือนเป็นนักล่าที่กำลังเล่นกับเหยื่อของตัวเอง หญิงสาวคิดไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอถ้าตอบตกลงไป!

 

 

ต้องยอมรับว่าผู้หญิงมีสัมผัสที่หกแม่นมาก เพราะในจังหวะนั้นเองเซิ่งอี่เจ๋อกำลังคิดว่าจะฆ่าหั่นศพเธอเป็นชิ้นๆ แล้วทำลายหลักฐานอยู่จริงๆ แต่กระนั้นเขาก็ต้องใจอ่อนเมื่อเห็นสีหน้าสุดพิลึกพิลั่นของหญิงสาว เขาลูบผมเธอก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา “ไม่หรือ งั้นก็กลับไปเรื่องเรียนของเรากันเถอะ ฉันซื้อหนังสือแบบฝึกหัดทั้งชุดมาให้เธอเลยนะ”

 

 

อันซวย่าซย่าโมโห “เซิ่งอี่เจ๋อ นายไม่มีอย่างอื่นที่ดีกว่านี้ทำแล้วเหรอ ฉันจะไม่ทำแบบฝึกหัดพวกนั้นอีกแล้ว!”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อปล่อยคนตรงหน้า เขาเปิดกระเป๋านักเรียนของตัวเองแล้วหยิบหนังสือเรียนวรรณกรรมขึ้นมาสุ่มๆ ชายหนุ่มโยนหนังสือให้อันซย่าซย่าพร้อมกระตุกยิ้ม “จำเนื้อหาให้ได้สิ ถ้าเธอจำร้อยแก้วแนวโบราณได้เธอจะออกไปไหนก็ได้ แต่ถ้าไม่…ก็นะ ตอนที่เฟิงเฟิงหรือคนอื่นๆ มาที่นี่ ฉันจะบอกพวกเขาว่าเธอตั้งใจมาหาและขืนใจฉัน…”

 

 

“คนหน้าไม่อาย!” อันซย่าซย่าหยัดตัวขึ้น แผดเสียงออกมาพร้อมชี้หน้าเขา “พวกเขาไม่มีทางเชื่อนายแน่!”

 

 

“งั้นเหรอ” เซิ่งอี่เจ๋อสวนกลับ

 

 

อันซย่าซย่าถอยหลังทันที

 

 

อันซย่าซย่าจำใจหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาก่อนจะเริ่มท่องจำบนกลอนด้วยน้ำตา

 

 

“เรียก ‘เอ้อ’ เติบโตไว ใหญ่และยาว

 

 

แต่คือ ‘เฮา’ หาใช่ ‘เอ้อ’ ดั่งกล่าวหา

 

 

โอ้หนอ โอ้หนอ บิดรมารดา

 

 

กำเนิดข้าสุดระกำลำเค็ญ!”

 

 

อันซย่าซย่าสาปแช่งเซิ่งอี่เจ๋อในใจขณะพยายามจะจำกลอนให้ได้

 

 

ฮึก…ใครก็ได้มาช่วยเด็กน้อยผู้น่าสงสารตรงนี้ที…

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 223 คิดถึงฉันไหม (1)

 

 

เรื่องที่อ่านคือ “เหลี่ยวเอ้อ” จากคัมภีร์ซือจิง ซึ่งเป็นบทบรรยายจากมุมมองของเด็กที่กตัญญูต่อพ่อแม่ ร้อยแก้วค่อนข้างยืดเยื้อและพอนานๆ ไปหญิงสาวเองก็เริ่มจะจำไม่ได้

 

 

อันซย่าซย่าเป็นประเภทคนที่สับสนอะไรได้ง่ายหากเธออารมณ์เสีย หญิงสาวอ่านเรื่องดังกล่าวมาหลายรอบแล้วแต่ก็ติดที่ว่าเรื่องนี้อ่านยาก แล้วยิ่งต้องมาจำอีก

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเริ่มเยาะเย้ยเธออีกครั้ง “แค่นี้เธอยังจำเนื้อหาไม่ได้อีกเหรอ ทำไมล่ะ เป็นเพราะว่าเธอไม่รักพ่อกับแม่เธอมากพอ หรือว่าเธอโง่มากๆ กันแน่”

 

 

เขารู้ดีว่าควรอ่อนโยนและทำตัวดีๆ กับเธอ แต่ชายหนุ่มหยุดปากตัวเองไม่ได้

 

 

อันซย่าซย่าน้ำตาคลอ เธออารมณ์เสียจริงๆ แล้ว หญิงสาวสวนกลับ “ใช่สิ! ฉันจำไม่ได้หรอก! แล้วรักพ่อแม่งั้นเหรอ ฉันไม่มีแม่ด้วยซ้ำ จะให้ฉันไปรักใครล่ะ”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อประหลาดใจเลยรีบนึกถึงเรื่องราวที่รู้มาเกี่ยวกับอันซย่าซย่า เขาจำได้ว่าแม่ของเธอเคยถูกหยิบยกขึ้นมาพูดตอนที่เขาตรวจสอบประวัติของอันซย่าซย่า

 

 

แสดงว่ามีเพียงคำอธิบายเดียวหากไม่สามารถหาหลักฐานการมีชีวิตอยู่ของคนๆ หนึ่งได้

 

 

คุณแม่อันเสียชีวิตไปแล้ว

 

 

เขากระแอม ใบหน้าดูอ่อนลงเล็กน้อย “ซย่าซย่า…”

 

 

“อย่ามาเรียกชื่อฉัน!” อันซย่าซย่าขึ้นเสียงด้วยความโกรธ ความเสียใจที่ตอนเด็กๆ ไม่มีแม่เอ่อล้น ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่อ่านยิ่งจี้จุดตรงนั้นทำให้หญิงสาวอยากร้องไห้ออกมาจริงๆ

 

 

ในที่สุดเธอก็จำร้อยแก้วและเล่าออกมาได้แม้จะตะกุกตะกัก หลังจากพูดจบเธอก็ฟาดหนังสือใส่เซิ่งอี่เจ๋อและปรี่ออกจากห้องของเขาขณะที่ปาดน้ำตาไปด้วย

 

 

หญิงสาวไม่อยากจะเห็นหน้าไอ้สารเลวนั่นอีกแล้ว!

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อดี

 

 

 

 

โดยปกติแล้วอันซย่าซย่าไม่ใช่คนที่จะจองล้างจองผลาญใคร แต่หลังจากเหตุการณ์นั้น หญิงสาวไม่ยอมปริปากพูดกับเซิ่งอี่เจ๋อเลยเป็นเวลาสองวัน

 

 

ด้วยความที่เป็นคนหยิ่งและรักสันโดษ เซิ่งอี่เจ๋อไม่กล้าขอสงบศึกกับเธอ อีกอย่างคือทั้งสองเพิ่งจะก้าวเข้าสู่สนามรบที่ยืดเยื้อกัน

 

 

แต่ขณะที่ทั้งสองใช้ชีวิตได้ตามปกติ คนรอบข้างกลับรู้สึกเหมือนตกนรกแทน

 

 

ซูเสี่ยวมั่วและคังเจี้ยนได้รับผลกระทบเป็นคนแรกๆ เนื่องจากพวกเขาไม่เคยเห็นอันซย่าซย่าเฉื่อยชาแบบนี้มาก่อน ทั้งสองพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้เธอกลับมาร่าเริงแต่ก็ไม่เป็นผล

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยิ่งกลายเป็นคนน่ากลัวกว่าเดิม จากเดิมที่เป็นเพียงแอร์คอนดิชันเนอร์ตอนนี้เขากลายเป็นตู้แช่แข็งเลย ไม่เลือกที่จะแช่แข็งใครก็ตามที่กล้าดาหน้ามาเข้าใกล้เขา ขนาดเหอจยาอวี๋และฉือหยวนเฟิงยังพยายามอย่างมากที่จะไม่ไปแหย่ชายหนุ่มก่อน ไหนจะพวกสาวๆ ที่หลงเสน่ห์ของเขาและคอยตามจอแจอีก ดีที่พวกพวกเธอฉลาดพอที่จะรักษาระยะห่างเอาไว้

 

 

หลังคาบเรียนพลศึกษา คุณครูเรียกเซิ่งอี่เจ๋อเพื่อคุยเรื่องการแข่งขันบาสเก็ตบอลกับเขา

 

 

หลังจากที่แข่งกับเฉินเจียงไป ฉีซยาก็โชคดีมาตลอดที่ได้แข่งกับทีมที่อ่อนกว่ามาสามทีมติด แถมต้องขอบคุณที่พวกเขามาไม่ถึงรอบชิงชนะเลิศอีกด้วย

 

 

เกมนัดต่อไปจะเป็นการแข่งขันกับโรงเรียนมัธยมปลายเย่หยางซึ่งจะไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป คุณครูบอกให้เซิ่งอี่เจ๋ออยู่ต่อหลังเลิกเรียนเพื่อฝึกซ้อมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

 

ขณะที่เซิ่งอี่เจ๋อพยักหน้ารับส่งๆ อันซย่าซย่าก็แอบฟังบทสนทนาด้วยสีหน้าเป็นกังวล

 

 

อาการบาดเจ็บของชายหนุ่มน่าจะหายแล้วแต่อันซย่าซย่าก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง

 

 

ถ้าการแข่งขันที่ต้องออกแรงมากขนาดนี้ทำให้อาการบาดเจ็บของเขาแย่ลงล่ะ

 

 

แหวะ! ใครจะสนล่ะ! ปล่อยให้หมอนั่นเจ็บตัวไปสิ! เธอไม่สนใจหรอก!

 

 

เธอเดินปลีกตัวออกมาด้านข้าง หยิบโทรศัพท์ที่ซื้อเองออกมา เลื่อนหาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องซุบซิบใหม่ๆ บทสรุปเกม ไปจนถึงสูตรอาหารและสูตรไดเอท แต่เอาเข้าจริงเธอกลับจำที่อ่านไปไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

 

 

หากฉีเหยียนซียังอยู่ตรงนี้ละก็…เธอสงสัยเหลือเกินว่าเขาจะหายดีหรือยัง

 

 

ขณะที่เธอพึมพำกับตัวเองอยู่นั้น โทรศัพท์ของเธอก็สั่นขึ้นมาหนึ่งครั้ง เธอจิ้มที่หน้าจอและเห็นข้อความจากฉีเหยียนซีคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น

 

 

“ไม่เจอกันตั้งนานนะยัยบื้อซย่าซย่า เธอซื่อบื้อกว่าเดิมเยอะเลยนะ!”