ตอนที่ 1688 ไป๋ซู่ (1)
ร่างของฉินเสวี่ยคุดลงกับพื้น และศิษย์ที่มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ก็แสดงสีหน้าสิ้นหวัง
สีหน้าของผู้อาวุโสชุดน้ำเงินซีดเผือดขณะที่นางมองอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วถามว่า “แม่นางอวิ๋น ถึงอย่างไรพวกนางก็เป็นคนของเผ่าสตรีศักดิ์ของพวกเรา ดังนั้นเจ้า…เพื่อให้แก่หน้าข้า เจ้าช่วยปล่อยให้พวกนางตายโดยไม่ทรมานได้หรือไม่”
หากผู้อาวุโสชุดน้ำเงินต้องการจะให้อวิ๋นลั่วเฟิงให้อภัยพวกนาง นางก็ไม่มีทางยอมแน่นอนแต่ว่า…สิ่งที่นางขอคือให้เหล่าศิษย์ได้ตายโดยไม่ทรมาน
อวิ๋นลั่วเฟิงเงียบไปนานก่อนจะตอบ “ข้าปล่อยให้พวกนางตายโดยไม่ทรมานได้ แต่ไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าเจ้า
สีหน้าของผู้อาวุโสชุดน้ำเงินแข็งค้างและถอนหายใจอย่างหนักหน่วง อันที่จริงเมื่อสักครู่พวกนางตั้งใจจะจัดการกับอวิ๋นลั่วเฟิง ดังนั้นนางจะเห็นแก่หน้าพวกนางได้อย่างไร
“แต่ว่า…” อวิ๋นลั่วเฟิงเงยหน้ามองผู้อาวุโสชุดน้ำเงิน “แต่เพราะเห็นแก่หน้ามารดาของเสี่ยวไป๋ ข้าจะไม่ทำให้พวกนางทรมานมาก”
ไม่ว่าจะเพราะอะไรผู้อาวุโสชุดน้ำเงินก็ได้ผลตามที่ตั้งใจนางจึงคลายกังวลลง
“อาจารย์เจ้าคะ” หลินรั่วไป๋ที่ทรมานซูจวิ้นจนพอใจแล้วก็เหลือบมองซูจวิ้นที่ใกล้ตายก่อนจะหันมาหาอวิ๋นลั่วเฟิง นางยื่นแขนออกมาหาสตรีชุดขาวและดวงตากระจ่างใสของนางก็เต็มไปด้วยความเสียใจ
“ท่านจะทิ้งข้าไว้ที่เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์หรือเจ้าคะ”
อวิ๋นลั่วเฟิงเงียบ
“อาจารย์” หลินรั่วไป๋วิตกกังวลและนางก็เกาะอวิ๋นลั่วเฟิงขณะที่น้ำตาแห่งความโศกเศร้าเกือบจะไหลออกมา “ข้าไม่อยากอยู่กับคนอื่นนอกจากท่าน ข้าไม่อยากอยู่กับคนพวกนี้ที่รังแกท่านนะเจ้าคะ! อย่าแม้แต่จะคิดที่จะทิ้งข้าไว้ที่นี่”
ถึงแม้ว่านางจะต้องทำตัวหน้าไม่อาย แต่นางก็อยากอยู่ข้างอาจารย์ของนางโดยไม่ต้องแยกจากกันไปไหน
ผู้อาวุโสทั้งสามไม่ได้พูดอะไร ในความคิดของพวกนาง อวิ่นลั่วเฟิงไม่มีทางยอมทิ้งขั้วอำนาจที่สำคัญอย่างเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์แน่นอนดังนั้นนางจะต้องทิ้งหลินรั่วไป๋ไว้ที่นี่แน่
แต่ไม่คาดคิดว่าหลังจากที่อวิ๋นลั่วเฟิงได้ยินคำขอร้องของหลินรั่วไป๋ นางก็ใจอ่อน
“ถ้าเจ้าไม่อยากอยู่ก็ไม่ต้องอยู่ เจ้าจะติดตามข้าออกไปก็ได้”
ก่อนหน้านี้นางต้องการจะให้หลินรั่วไป๋อยู่ที่นี่ก็เพราะที่นี่เป็นบ้านเกิดของมารดานาง แต่ว่านางก็ไม่อยากบังคับหลินรั่วไป๋ให้ทำอะไรที่นางไม่ต้องการ
ใบหน้าของหลิวรั่วไป๋เต็มไปด้วยรอยยิ้มขณะที่ดวงตาของนางเป็นประกาย
เมื่อได้ยินอย่างนั้นสีหน้าของผู้อาวุโสก็เปลี่ยนเป็นดูไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะว่าพวกนางไม่เคยคิดว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะยอมให้หลินรั่วไป๋จากไป เห็นได้ชัดว่าอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นอาจารย์ของหลินรั่วไป๋ และหลินรั่วไป๋ก็เชื่อฟังนางมาก หากหลินรั่วไป๋กลายเป็นหัวหน้าเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์นั้นจะได้หมายความว่าเผ่าสตรีอยู่ในมือของนางหรอกหรือ
นางปฏิเสธผลประโยชน์แบบนี้ได้อย่างไร
“หัวหน้าเผ่าน้อย ท่านไปไม่ได้นะเจ้าคะ!” สีหน้าของผู้อาวุโสชุดน้ำเงินเปลี่ยนไปและมองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยความดูถูก แต่น้ำเสียงของนางยังเต็มไปด้วยความเคารพ “แม่นางอวิ๋น ได้โปรดโน้มน้าวหัวหน้าเผ่าน้อยด้วย เผ่าของพวกเราขาดผู้นำไม่ได้ และนางก็ควรจะได้เป็นหัวหน้าเผ่าของพวกเรา เพราะนางเป็นบุตรสาวของหัวหน้าเผ่า”
คำพูดของนางชัดเจนมาก ถ้าหลินรั่วไป๋อยู่ที่เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างก็จะอยู่ในความควบคุมของนาง
ส่วนเรื่องเสี่ยวซู่…พลังของเขาแข็งแกร่งมากจริงๆ และยังทำให้พวกนางหวาดกลัวด้วย แต่ว่าเขาเป็นพืชอสูร! เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์สามารถควบคุมพืชอสูรได้ตั้งแต่เกิด และไม่แน่ว่าพืชอสูรตนนี้อาจจะเชื่อฟังคำสั่งของอวิ๋นลั่วเฟิงเพราะหัวหน้าเผ่าน้อยก็ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับอวิ๋นลั่วเฟิง….นางก็แค่โชคดีที่พบหัวหน้าเผ่าน้อยท่ามกลางผู้คนธรรมดาและได้รับความเชื่อใจจากนางเท่านั้นเอง
…………………………………..
ตอนที่ 1689 ไป๋ซู่ (2)
หลินรั่วไป๋ทำปากยื่นอย่างไม่พอใจ นางไม่ได้ใสซื่อเหมือนตอนที่นางสูญเสียความทรงจำอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นนางจะไม่เห็นการแสดงความดูถูกของพวกนางต่ออวิ๋นลั่วเฟิงได้อย่างไร แต่ว่า…ตอนที่นางกำลังจะระเบิดความโกรธ นางก็ถูกอวิ๋นลั่วเฟิงดึงไว้เสียก่อน
อวิ๋นลั่วเฟิงส่ายหน้าและเงยหน้ามองผู้อาวุโสทั้งสาม
“เหตุใดพวกเจ้าถึงคิดว่าข้าจะต้องยินดีโน้มน้าวเสี่ยวไป๋ให้อยู่ที่นี่ด้วย”
“เรื่องนี้…” ผู้อาวุโสชุดน้ำเงินเงียบ นางจะเปิดเผยความคิดในใจต่อหน้าหัวหน้าเผ่าน้อยได้อย่างไร
“เจ้าเชื่อว่าข้าต้องปราถนาในอิทธิพลของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้างั้นหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงยกยิ้มและกวาดสายตามองทุกคน “ถ้าเสี่ยวไป๋ไม่อยากอยู่ ข้าก็ไม่มีทางบังคับนาง! ถ้านางอยากอยู่ที่นี่ ข้าจะไม่หยุดนางเหมือนกัน…”
“ที่สำคัญในฐานะที่นางเป็นศิษย์ของข้า ต่อให้นางอยากได้แคว้นเจ็ดเมืองนี้ทั้งแคว้น ข้าก็ต้องเอามาให้นางให้ได้!” เสียงของหญิงสาวเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและเผด็จการจนกระแทกจิตใจของใครหลายคนอย่างหนักหน่วง
“หั่วหั่ว เจ้าจัดการทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการลักพาตัวและพาเยี่ยฉีกลับไปที่ตระกูลเยี่ย” อวิ๋นลั่วเฟิงหันไปดึงมือของหลินรั่วไป๋ช้าๆ “เสี่ยวไป๋ พวกเราไปกันเถอะ”
“เจ้าค่ะ” เสี่ยวไป๋ยิ้มอย่างสดใสจนเห็นฟันเขี้ยวของนางทำให้นางดูน่ารักไร้เดียงสา ในชีวิตของนาง นางยินดีติดตามอาจารย์ของนางไปพิชิตโลกใบนี้และเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายของนาง
“เดี๋ยวก่อนสิ!” ผู้อาวุโสทั้งสามวิตกกังวลแต่ตั้งใจจะหยุดหลินรั่วไป๋แต่ว่าทันใดนั้นเสียงร้ายกาจที่ดูเข้มงวดมากก็ดังขึ้น
“เสี่ยวซู่ สังหารทุกคนที่กล้าหยุดพวกเรา!” เมื่อได้ยินคำพูดของนาง ผู้อาวุโสทั้งสามก็หยุด
ถ้าพวกเขาทั้งสามลงมือพร้อมกันก็เป็นไปได้ที่จะเอาชนะเสี่ยวซู่ ด้วยไพ่ตายที่มืออยู่ในมือพวกนาง พวกนางสามารถทำให้หลินรั่วไป๋อยู่ที่นี่ได้แต่ว่าด้วยวิธีนี้เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์จะต้องพบกับการสูญเสียครั้งใหญ่…
เรื่องนี้คุ้มค่าหรือไม่
หัวหน้าเผ่าน้อยยังเด็กอยู่และต้องใช้เวลาหลายปีในการดูแล ขณะที่ถ้าเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์เสียไพ่ตายใบนี้ไป ศัตรูแข็งแกร่งจะรู้จุดอ่อนของพวกนางแล้วบุกเข้ามาในเผ่าได้ อีกอย่างพวกเขาเองก็โกรธหัวหน้าเผ่าน้อยเหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ไม่คุ้มเสีย…
หลังจากที่คำนวณผลลัพธ์ในใจผู้อาวุโสทั้งสามก็ไม่หยุดการจากไปของหลินรั่วไป๋อีกและทำได้แค่มองร่างของนางหายไปอย่างทำอะไรไม่ได้
…
ในภูเขาอวิ๋นลั่วเฟิงหยุดแล้วหันไปหาเด็กสาว นางถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เสี่ยวไป๋ เจ้าเสียดายหรือไม่ที่ไม่เลือกเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์”
หลินรั่วไป๋ส่ายหน้า “ถ้าข้าอยู่อย่างมากที่สุดข้าก็เป็นได้แค่หัวหน้าเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ มีแค่การติดตามอาจารย์เท่านั้นข้าถึงจะสามารถเดินทางไปทั่วโลกกว้างได้” ตอนนี้เองหลินรั่วไป๋ก็ตัดสินใจในสิ่งที่นางไม่มีทางเสียใจไปทั้งชีวิต!
“อันที่จริงถ้าเจ้าอยู่ไม่แน่…เจ้าอาจจะหาร่องรอยของมารดาเจ้าได้”
นี่เป็นเหตุผลที่อวิ๋นลั่วเฟิงลังเลตั้งแต่แรก แต่ถึงอย่างไรนางก็ตัดสินใจที่จะเคารพทางเลือกของหลินรั่วไป๋
หลินรั่วไปเผยรอยยิ้มเจิดจ้า “อาจารย์ ท่านจะยอมถูกจำกัดอยู่ในสำนักเพียงเพื่อตามหามารดาหรือเจ้าคะ”
ในเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์มีกฎและข้อห้ามมากเกินไป แค่กฎที่ว่าห้ามแต่งงานข้อเดียวก็ทำให้หลินรั่วไป๋ยอมรับไม่ได้แล้ว ดังนั้นถ้านางมีที่อยู่ข้างๆ อวิ๋นลั่วเฟิง นางก็ไม่จำเป็นต้องคิดให้เหนื่อเปล่า
“ข้าเชื่อว่าด้วยความแข็งแกร่งของข้า ข้าจะสามารถตามหาท่านแม่ได้เจ้าค่ะ” หลินรั่วไป๋กะพริบตาและมองเสี่ยวโม่ที่ตามอยู่ด้านหลังขณะที่รอยยิ้มของนางก็ยิ่งสดใส “ที่สำคัญ ข้ายังต้องรับเสี่ยวโม่เป็นสามี ดังนั้นข้าจะอยู่ที่เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ไปทำไมเจ้าคะ”
ตอนที่เสี่ยวโม่มาถึงข้างตัวของอวิ๋นลั่วเฟิง และได้ยินคำพูดของหลินรั่วไป๋ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็แดงเถือกแล้วเขาก็เหลือบมองหน้าหลินรั่วไป๋