ตอนที่ 412 แอบค้นมือถือซูมู่ชิง!
เหตุการณ์มันดันไปสอดคล้องกับคำพูดในภาพยนตร์เรื่องดาบมังกรหยกพอดี
ผู้หญิงในโลกใบนี้ยิ่งสวยยิ่งหลอกคนเก่ง!
หวังเจียเหยาอดีตภรรยาของเย่เฉินก็เป็นแบบนี้ ตอนนี้ซูมู่ชิงภรรยาคนที่สองก็เป็นเหมือนกันงั้นเหรอ!
ทำให้เย่เฉินคิดว่าตนเองทำผิดต่อหญิงสาว
แล้วเพราะรู้สึกว่าหล่อนน่าสงสาร ทำให้เขาคิดว่าที่หญิงสาวไม่มีชีวิตปกติเพราะตนเองดังนั้นถึงได้ยอมนอนกับหล่อน
แต่ใครจะรู้วันนี้ถึงได้รู้ว่าหลายปีมานี้ซูมู่ชิงก็มีชายอื่น!
หล่อนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากทีเดียว!
เย่เฉินกำหมัดแน่น เดินทีเขายังรักฉินหงเหยียนอยู่ ไม่อยากจะใกล้ชิดสนิทสนมกับซูมู่ชิง ไม่อยากจะกลายเป็นสามีของหล่อนจริงๆ
อนนี้เขาหลงรักใครคนหนึ่งอย่างยากลำบาก แต่ผลที่ได้รับกลับมากลับกลายเป็นแบบนี้!
เย่เฉินจึงสูบบุหรี่ในห้องของเย่เทียนเพื่อสะกดอารมณ์โกรธของตนเอง
จากนั้นจึงขึ้นลิฟท์ไปกับเย่เทียนแล้วกลับมาที่โซนอาหารเช้าอีกครั้ง
ตอนนี้ซูมู่ชิงกับยูมิกำลังนั่งคนละฝั่งของโต๊ะอาหาร มือสองข้างถือส้อมและมีดกินข้าวไปคุยกันพลางหัวร่อต่อกระซิก
ผู้หญิงสองคนนี้ล้วนแต่มีมาดของนางฟ้าแสนสวย โดยเฉพาะซูมู่ชิงที่อายุน้อยกว่า
ซูมู่ชิงมวยผม ใบหน้ากลมอิ่มของหญิงสาวไม่มีมุมบอดเสียสักนิดเดียว
โต๊ะด้านข้างมีผู้หญิงทำผมทรงเดียวกับหญิงสาว ใบหน้าของหล่อนทั้งใหญ่และเหลี่ยม
ยิ่งมีคู่เปรียบเทียยบก็ยิ่งเห็นความสวยของซูมู่ชิง
เมื่อเห็นสองศรีพี่น้องเดินมา ซูมู่ชิงก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ที่รักคุณกลับมาแล้วเหรอ? ฉันตักอาหารเช้ามาให้คุณแล้ว คุณลองดูหน่อยสิคะว่าคุณชอบกินหรือเปล่า หรือว่าอยากจะตักอะไรไหม เดี๋ยวฉันไปเอามาให้คุณอีก”
ซูมู่ชิงหันมองเย่เฉินด้วยแววตาอ่อนหวานและเอาใจใส่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเย่เฉินคงรู้สึกมีความสุขมากที่ได้มีภรรยาแบบนี้
แต่ว่าตอนนี้เย่เฉินรู้สึกว่าที่หญิงสาวทำมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงการเสแสร้งแกล้งทำ!
และแน่นอน ถึงแม้ว่าเย่เทียนบอกเรื่องราวในอดีตของซูมู่ชิงกับเย่เฉินแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ทำท่าทีไม่พอใจให้หญิงสาวเห็น
เขาทำท่าปกติ แล้วยิ้มน้อยๆ “ไม่ต้องหรอก ผมกินพวกนี้แหละ ขอบคุณนะครับ”
ซูมู่ชิงมีท่าทีขัดเขิน แล้วกล่าวกับเย่เฉิน “คุณเป็นสามีฉัน ฉันไปตักอาหารให้คุณก็เป็นเรื่องสมควรทำไมต้องเกรงใจฉันขนาดนี้ด้วยล่ะคะ จริงสิเมื่อกี้พี่สะใภ้บอกฉันว่าหล่อนกับพี่ใหญ่จะกลับอังกฤษคืนนี้”
เย่เฉินพยักหน้ารับ “อื้ม พี่ใหญ่บอกผมแล้วเมื่อกี้”
ทันใดนั้นเองซูมู่ชิงก็เสนอความคิด “ไม่งั้นเราไปอังกฤษกับพวกพี่ๆ เขาไหมคะ? ถือเสียว่าไปฮันนีมูนดีไหมคะ?”
คิดไม่ถึงว่าซูมู่ชิงจะอยากไปเจอคุณปู่ของเขาที่อังกฤษใจแทบขาด!
เย่เฉินคิดถึงคำพูดที่พี่ชายเขากล่าวเมื่อครู่ ที่บอกว่าซูมู่ชิงแต่งงานกับตนเองเพียงเพื่อล้วงความลับของตระกูลตนเองเท่านั้น ทำให้เขาไม่พอใจ
“ฮึ ซูมู่ชิงผมว่าที่คุณอยากไปฮันนีมูน เพราะอยากไปล้วงความลับของครอบครัวผมล่ะสิ?”
ยูมิเองก็ดีใจอย่างมาก“จริงสิ เย่เฉินกลับไปกับเราสิ อย่างไรพวกเธอสองคนก็ต้องไปฮันนีมูนอยู่ดี”
เย่เฉินพอจะมองออกว่าวมูเหมือนจะชอบซูมู่ชิงมาก เขาทายว่าเย่เทียนยังไม่ได้บอกเรื่องของหญิงสาวกับภรรยา
เย่เฉินกล่าว “รออีกสักพักแล้วกัน ช่วงนี้คุณปู่ยังไม่ค่อยแข็งแรง”
“ค่ะ ได้”
ซูมู่ชิงก็ไม่ได้งอแงอะไรต่อ หล่อนเคารพในการตัดสินใจของสามีมาก
ตกดึกเย่เฉินละซูมู่ชิงรวมไปถึงพ่อของหญิงสาวซูหมิงเจ๋อก็มาส่งพี่ชายและพี่สะใภ้ที่สนามบินด้วยตนเอง
ก่อนจะกลับเย่เทียนกอดน้องชายแล้วกล่าว “คิดเรื่องที่พี่พูดกับนายให้ดีๆ”
“ครับพี่”
เรื่องที่ว่าคือเรื่องที่บอกให้เย่เฉินหย่ากับซูมู่ชิงแล้วออกจากตระกูลซูไป
แต่ว่าเย่เฉินไม่อยากหย่าก็หย่า เขาอยากจะเจอหลักฐานก่อน หลักฐานที่บอกว่าซูมู่ชิงเป็นผู้หญิงไม่ดี!
แบบนี้พอไปถึงตอนที่หล่อนจะโดนเขาลงโทษ หล่อนก็จะไม่มีอะไรแก้ตัวได้อีก
เมื่อถึงบ้านก็พบว่าซือซือเข้านอนไปแล้ว ตอนซือซือเข้านอนมักจะชอบกอดผ้าไหมสีทองผืนหนึ่ง เด็กหญิงต้องจับผ้าผืนนี้เอาไว้ขณะนอนหลับเพื่อให้รู้สึกอุ่นใจ
มองดูท่าทางนอนหลับปุ๋ยที่แสนน่าเอ็นดูของซือซือแล้วก็คิดในใจ
“ซูมู่ชิง ผมไม่สนใจเรื่องที่คุณหลอกผมบอกว่ามีผมเพียงคนเดียวในชีวิต คุณกับคุณหมอกัวคนนั้นเคยนอนด้วยกันมาก่อนหรือไม่ นอนกันมากี่ครั้งผมก็ไม่สนใจ แต่ว่าเรื่องที่คุณเอาซือซือมาหลอกผม คุณทำเกินไปจริงๆ!”
ใช่แล้วตั้งแต่ที่เย่เทียนฉีกหน้ากากของซูมู่ชิงแล้วเย่เฉินก็เริ่มเป็นกังวล
ว่าสรุปแล้วซือซือใช่ลูกของเย่เฉินหรือเปล่า!
ถูกต้องเย่เฉินและซือซือเคยตรวจ DNA มาก่อนและผลตรวจก็ออกมาว่าเขาเป็นพ่อของซือซือจริงๆ
แต่ถ้าเกิดว่าคนตระกูลซูซื้อคนของศูนย์ตรวจพันธุกรรมหรือเปล่า?
ที่นี่คือเมืองหลวง เป็นพื้นที่ของตระกูลซูด้วย ด้วยศักยภาพของพวกเขาแล้วสมารถทำได้อยู่แล้ว!
อีกทั้งเย่เฉินยังไม่เคยสืบเรื่องของพนักงานของศูนย์ตรวจมาก่อน ไม่กล้ารับรองว่าพวกเขาโดนข่มขู่หรือว่าซื้อตัวหรือไม่
“ที่รัก ดึกแล้วเรากลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ”
ซูมู่ชิงเองเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จก็เดินมาหาเย่เฉิน
“ได้ครับ”
เย่เฉินเดินกลับเข้าห้องไปกับหญิงสาวอย่างแนบเนียน แล้วพลอดรักกันก่อนจะพักผ่อนเหมือนไม่กี่วันที่ผ่านมา
รอถึงตอนตีสามเย่เฉินถึงได้ตั้งใจฟังลมหายใจของซูมู่ชิง เมื่อแน่ใจหญิงสาวหลับแล้วก็เริ่มลงมือทันที!
ถูกต้องเย่เฉินอาศัยช่วงที่ซูมู่ชิงหลับค้นมือถือของหญิงสาว!
เย่เฉินไม่ได้มีนิสัยค้นมือถือของภรรยา ตอนแต่งงานกับหวังเจียเหยาเขาก็ไม่เคยทำแบบนี้ ตอนคบหากับฉินหงเหยียนเขาก็ไม่เคยทำเช่นกัน
เพราะทุกคนล้วนแต่ต้องมีพื้นที่ส่วนตัว อีกทั้งควรจะต้องเชื่อใจกัน ถ้าหากว่าในความสัมพันธ์มีแต่ความหวาดระแวงกันก็จะทำให้ความสัมพันธ์ไม่ยืนยาว
แต่ว่าซูมู่ชิงปกปิดเอาไว้ดีเกินไป ต่อให้เย่เฉินมีความรู้เรื่องจิตวิทยาและโหงวเฮ้งเป็นอย่างดี ก็ยังอ่านด้านที่เลวร้ายของซูมู่ชิงไม่ออก
ดังนั้นเย่เฉินจึงทำได้เพียงแอบดูมือถือหญิงสาว
มือถือของซูมู่ชิงวางไว้ข้างหมอน เย่เฉินยื่นมือไปคว้ามือถือของหญิงสาวมา
เพราะมือถือจำเป็นต้องตรวจรอยนิ้วมือหรือใบหน้าเพื่อปลดล็อค ดังนั้นเย่เฉินจึงค่อยๆ คว้ามือขวาของหญิงสาวมาอย่างระมัดระวังแล้วใช้นิ้วหัวแม่โป้งของหล่อนปลดล็อค
ในวินาทีที่ปลดล็อค มือถือก็ส่งเสียงร้อง เพราะซูมู่ชิงตั้งค่าเอาไว้ว่าถ้าปลดล็อคมือถือจะส่งเสียงแจ้งเตือน
เย่เฉินรีบร้อนกลั้นหายใจแล้วหันมองซูมู่ชิง
โชคดีที่ซูมู่ชิงเหนื่อยมากแล้ว ตอนนี้หญิงสาวนอนหลับสนิทจึงไม่ตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์
“พู่ว…”
เป็นครั้งแรกที่เย่เฉินแอบดูโทรศัพท์คนอื่น เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
หลังจากปลดล็อคหน้าจอ เย่เฉินก็รีบกดโทรศัพท์เพื่อเปิดดูวีแชท
วีแชทเป็นแอพพลิเคชั่นที่คนรุ่นใหม่ใช้มากที่สุด ในนั้นจะต้องมีความลับที่ซุกซ่อนเอาไว้มากมายแน่นอน
เย่เฉินเชื่อว่าถ้าซูมู่ชิงกับกัวเยว่หมิงมีอะไรกันล่ะก็ ในบทสนทนาของทั้งสองคนจะต้องมีร่องรอยอะไรเหลืออยู่แน่!
“อึก…”
เย่เฉินกลืนน้ำลายแต่ไม่กล้าดู
ถ้าหากว่าเขาไปเห็นคลิปวีดีโอและคลิปเสียงที่น่าอายเข้าจะทำยังไง!