เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1132 ยึดครองถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

แปลโดย iPAT

 

หลังจากเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะยังมีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์

 

ฟางหยวนรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่พบเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณทั้งหมด

 

สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขามากที่สุดคือเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณวัน วิญญาณเดือน และวิญญาณปีระดับมนุษย์

 

‘ข้าสามารถซื้อวิญญาณระดับมนุษย์เหล่านี้ได้ในสวรรค์สีเหลืองและยังสามารถหลอมรวมพวกมันด้วยตนเอง แต่การหลอมรวมด้วยตนเองจะทำให้ข้าเสียเวลา ข้าควรขอให้มนุษย์ขนของนิกายหลางหยาหลอมรวมพวกมันให้ข้า’

 

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ฟางหยวนต้องขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้

 

ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนิกายหลางหยาเริ่มห่างเหิน เขาต้องปรับปรุงความสัมพันธ์หากต้องการความช่วยเหลือ

 

ฟางหยวนยังอ่านข้อมูลต่อไป

 

หลังจากเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะและวิญญาณระดับมนุษย์ยังมีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์

 

พวกมันมีความสมบูรณ์ที่แตกต่างกัน

 

ต่อไปเป็นประสบการณ์ชีวิตของไห่ฟานรวมถึงเคล็ดลับเกี่ยวกับการอนุมานบนเส้นทางแห่งปัญญา

 

ฟางหยวนยิ้มเมื่อเห็นสิ่งนี้

 

เขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาและได้รับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งปัญญามาจากตงฟางชางฟาน ประสบการณ์ของไห่ฟานยังค่อนข้างตื้นเขินในมุมมองของฟางหยวน

 

ทุกคนมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน แม้ไห่ฟานจะเป็นตัวตนที่โดดเด่นแต่เขาก็มีจุดอ่อนเช่นกัน

 

เช่นเดียวกับเทพอมตะตะวันเดือดและเทพปีศาจปล้นสวรรค์ พวกขายังต้องร้องขอให้บรรพชนผมยาวช่วยหลอมรวมวิญาณอมตะ

 

ท่ามกลางข้อมูลมากมาย มีแผนที่ของทั้งห้าภูมิภาครวมถึงสวรรค์สีขาวและสวรรค์สีดำรวมอยู่ด้วย พวกมันมีคุณค่ามหาศาลในแง่ของการอ้างอิง แน่นอนว่าแผนที่ของภาคเหนือมีรายละเอียดมากที่สุด

 

ฟางหยวนให้ความสนใจกับแผนที่ของสวรรค์สีขาวและสวรรค์สีดำ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกได้เปิดหูเปิดตา

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดและผู้อมตะระดับแปดมักขึ้นไปสำรวจสวรรค์สีขาวและสวรรค์สีดำเพื่อค้นหาทรัพยากรต่างๆอยู่เสมอ

 

ในฐานะผู้อมตะระดับแปด ไห่ฟานก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

 

มีข้อมูลเกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือและวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงอยู่ด้วย แต่ตอนนี้มันไร้ประโยชน์ไปแล้ว

 

สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของฟางหยวนมากที่สุดคือเงื่อนงำเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเทพปีศาจบัวแดง

 

จากบันทึก ฟางหยวนสามารถสัมผัสได้ถึงความปรารถนาต่อมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงของไห่ฟาน

 

แต่นี่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้

 

เทพปีศาจบัวแดงเป็นผู้อมตะระดับเก้าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ยิ่งใหญ่ ไม่แปลกที่ทุกคนบนโลกใบนี้จะต้องการมัน

 

ประเด็นสำคัญประการสุดท้ายคือแนวความคิดเกี่ยวกับการพัฒนามิติช่องว่างของไห่ฟาน

 

ย้อนกลับไปหลังจากไห่ฟานสามารถครอบครองวิญญาณอมตะระดับแปดปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ เขาเริ่มขายวิญญาณปีระดับมนุษย์และกลายเป็นธุรกิจที่สร้างความมั่งคั่งให้กับเขา

 

ในเวลาเพียงไม่กี่ปีเขากลายเป็นผู้ขายวิญญาณปีรายใหญ่ที่สุดในโลกและได้รับกำไรมหาศาล

 

อย่างไรก็ตามไห่ฟานยังเตือนผู้สืบทอดเกี่ยวกับการโจมตีของอสูรปี เขายังบอกวิธีรับมือกับอสูรปี วิธีจับ วิธีขายอสูรปี และการเชื่อมต่อระหว่างอสูรปีกับมิติช่องว่างของผู้อมตะ

 

ฟาหงยวนขมวดคิ้ว

 

ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะระดับแปดปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ อสูรปีระดับสัตวอสูรแรกกำเนิดเคยบุกเข้าไปในมิติช่องว่างของไห่ฟานมาก่อน

 

พวกมันมีพลังการต่อสู้ระดับแปด!

 

ไห่ฟานต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสังหารพวกมัน เนื่องจากการต่อสู้เกิดขึ้นในมิติช่องว่างของเขา สิ่งที่เกิดขึ้นคือความเสียหายครั้งใหญ่ หลายครั้งที่ไห่ฟานรู้สึกเจ็บปวดกับการสูญเสียของเขา

 

หลังจากได้รับบทเรียน ไห่ฟานเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับวิธีปิดผนึกวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ

 

เขาคิดค้นวิธีการมากมาย พวกมันล้วนถูกบันทึกไว้ในมรดกที่แท้จริงของเขา

 

อย่างไรก็ตามไห่ฟานยังเตือนผู้สืบทอดให้ระวังบางสิ่ง นั่นคือการใช้วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำระหว่างการต่อสู้

 

ในการต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง หากอสูรปีบุกเข้าไปในมิติช่วงของพวกเขาในเวลานั้น มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่

 

‘ดูเหมือนข้าต้องระวังเกี่ยวกับการใช้วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ  หากประมาท เจตจำนงสวรรค์อาจฉวยโอกาสดึงดูดอสูรปีเข้ามาหาข้า!’

 

ฟางหยวนเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก เขาไม่สามารถต่อสู้กับศัตรูที่มีพลังการต่อสู้ระดับแปด

 

ด้วยความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากเกินไป มีเพียงโชคที่ไม่คาดคิดเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้

 

ฟางหยวนดึงสติกลับมาและถอนหายใจ

 

‘มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานเป็นผลงานของผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่บนเส้นทางแห่งกาลเวลาอย่างแท้จริง’ ฟางหยวนยกย่อง ‘แต่ความยากลำบากในการรับสืบทอดมรดกสูงเกินไป’

 

ด้วยความยากลำบากระดับนี้ บุตรหลานของเผ่าไห่จึงไม่เคยประสบความสำเร็จในการรับสืบทอด สุดท้ายมันจึงตกเป็นของฟางหยวน

 

แต่อย่าคิดว่าฟางหยวนมีช่วงเวลาที่ง่ายดาย โดยปราศจากวิญญาณทัศนคติ ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งเลือด ความช่วยเหลือจากชูตู๋ และอีกมากมาย เขาจะไม่สามารถมาถึงจุดนี้

 

‘ตามมาตรฐานของโลกผู้อมตะ การรับสืบทอดมรดกของไห่ฟานถือเป็นเรื่องยากมาก’

 

เปรียบเทียบกับมรดกของผู้พิทักษ์ดาบผู้อมตะระดับแปดเผ่าเหนียงเอ๋อ ผู้สืบทอดของเขายังปรากฏตัวขึ้นทุกๆสองหรือสามร้อยปี คนปัจจุบันคือเหนียงเอ๋อปิงซื่อ

 

ไห่ฟานและผู้พิกษ์ดาบต่างเป็นตัวตนที่สามารถฝากชื่อไว้ในประวัติศาสตร์และเป็นความภูมิใจของเผ่า เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะตั้งเงื่อนไขที่ยากลำบากเพื่อคัดเลือกผู้สืบทอดที่คู่ควร อย่างไรก็ตามระดับความยากของทั้งสองยังแตกต่างกันมาก

 

‘ต่อไปข้าต้องยึดครองถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน’ ฟางหยวนมองระฆังทองเหลืองและส่งสัญญาณบางอย่าง

 

ในช่วงเวลาต่อมาจิตวิญญาณสวรรค์ระฆังทองเหลืองก็บินเข้ามาหาฟางหยวนอย่างช้าๆ

 

ฟางหยวนยิ้ม

 

เมื่อเขาได้รับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน เขาได้กลายเป็นเจ้าของถ้ำสวรรค์เรียบร้อยแล้ว เขาสามารถออกคำสั่งจิตวิญญาณสวรรค์ระฆังทองเหลืองได้โดยธรรมชาติ

 

สิ่งที่น่าเสียใจคือถ้ำสวรรค์ไห่ฟานดูดซับเศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีฟ้าเข้าไป นั่นทำให้ระฆังทองเหลืองกลายเป็นไร้สติ ฟางหยวนไม่สามารถสื่อสารกับมันได้โดยง่าย

 

ฟางหยวนกวาดตามองภูเขามรดกอมตะ

 

ภูเขาลูกนี้มีศาลาอยู่หลายหลัง แต่ละหลังมีมรดกบางอย่างซ่อนอยู่ บางมรดกเป็นมรดกระดับมนุษย์ ขณะที่บางมรดกเป็นมรดกอมตะ

 

ผู้ใช้วิญญาณที่อาศัยอยู่ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานรับสืบทอดบางมรดกไปแล้ว นั่นทำให้พวกเขาค่อยๆเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ

 

แต่น่าเสียดายที่พวกเขามีความก้าวหน้าไม่มากและถูกสังหารโดยฟางหยวนจนหมดสิ้นในวันนี้

 

ฟางหยวนตรวจสอบและตระหนักว่ามีมรดกเหลืออยู่เล็กน้อย

 

เขาเก็บรวบรวมมรดกที่เหลือทั้งหมด

 

ตอนนี้เขาเป็นเจ้าของถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ทุกอย่างที่อยู่ภายในถือเป็นสมบัติของเขา

 

อย่างไรก็ตามมรดกส่วนใหญ่เป็นมรดกระดับมนุษย์ มีมรดกอมตะเพียงสามมรดก สองในสามไม่มีวิญญาณอมตะแต่มีเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะอยู่เล็กน้อย มรดกสุดท้ายมีวิญญาณอมตะเหลืออยู่หนึ่งดวง มันคือวิญญาณอมตะหนามกระดูกบนเส้นทางแห่งกระดูก แต่มันไม่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับฟางหยวน

 

หลังจากรื้อค้นภูเขามรดกอมตะ ฟางหยวนกวาดตามองโลกใบใหญ่ใบนี้

 

ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานมีทรัพยากรมากมาย แผนที่ในมรดกกล่าวถึงแหล่งทรัพยากรทุกอย่างที่อยู่ที่นี่ แต่หลังจากผ่านไปหลายปี หลายสิ่งยังเปลี่ยนแปลงไป

 

ขณะเดียวกันระฆังทองเหลืองก็ไม่สามารถสื่อสาร

 

โชคดีที่ฟางหยวนมีเชลย

 

แม้เขาจะสังหารผู้อมตะทั้งหมด แต่เขายังเก็บดวงวิญญาณของผู้คนเหล่านั้นเอาไว้ ตอนนี้พวกมันถูกขังไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ค้นวิญญาณ!

 

หลังจากไม่นานฟางหยวนก็เข้าใจถ้ำสวรรค์ไห่ฟานอย่างชัดเจน แต่ยังมีพื้นที่ต้องห้ามอีกอยู่หลายจุด

 

ในกระบวนการค้นวิญญาณ ฟางหยวนได้เรียนรู้ประสบการณ์การบ่มเพาะของพวกเขา

 

‘ท่าไม้ตายแสงสีเลือด? ฮ่าฮ่าฮ่า เจตจำนงสวรรค์…’ ฟางหยวนตระหนักถึงแผนการของเฉิงเทา โจวหมิง และเฟิงจุน

 

ท่าไม้ตายแสงสีเลือดที่เฟิงจุนคิดค้นขึ้นค่อนข้างน่าสงสัย ฟางหยวนสันนิษฐานว่าสิ่งนี้อาจเกิดจากอิทธิพลของเจตจำนงสวรรค์

 

โชคดีที่ฟางหยวนดำเนินการอย่างรวดเร็วและใช้เวลาน้อยมากเพื่อยึดครองมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน

 

‘ข้าต้องย้ายทรัพยากรทั้งหมดเก็บไว้ในมิติช่องว่างของข้า ที่นี่ไม่ปลอดภัย!’

 

‘สำหรับถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ข้าจะมอบมันให้กับชูตู๋ ถ้ำสวรรค์ถือเป็นส่วนแบ่งสามสิบส่วนในมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน’

 

สำหรับเรื่องที่เจตจำนงสวรรค์จะทำสิ่งใดกับชูตู๋ ฟางหยวนไม่สนใจ

 

เขาได้มอบส่วนแบ่งให้กับชูตู๋ไปแล้ว เขาไม่ต้องกังวลว่าชูตู๋จะพบกับสิ่งใด

 

ในเวลาไม่กี่วันฟางหยวนก็สามารถบรรลุเป้าหมาย

 

เขาได้รับทรัพยากรมากมายและได้เรียนรู้วิธีการพัฒนามิติช่องว่างที่สามารถใช้กับมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ในช่วงห้าร้อยปีของชีวิตก่อนหน้า พรสวรรค์ของเขาอยู่ในระดับต่ำ เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งเลือดที่มุ่งเน้นทักษะการต่อสู้ ในแง่ของการพัฒนามิติช่องว่าง เขายังไม่เก่งนัก โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นมิติช่องว่างขนาดใหญ่มากเช่นมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ตอนนี้ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานเป็นเหมือนสารานุกรมที่วางอยู่ตรงหน้าเขา!