ท่านเทาพูดด้วยสีหน้ากังวล: “หัวหน้า เรารีบถอนไปก่อน! ไม่อย่างนั้นการสูญเสียจะหนักหนาสาหัส!”
ใบหน้าของเฉาซือไห่ลังเลไม่แน่ใจ
พวกเขามาอย่างดุดัน จะถอยไปด้วยความจนกตรอก มันไม่พอใจจริงๆ!
และหากพ่ายสงครามครั้งนี้ แก๊งเขียวต้องเสียชื่อในหู้ไห่ย่างแน่นอน
เฉ่าซือไห่กัดฟันและพูดว่า “เดี๋ยวก่อน!”
เมื่อได้ยินดังนั้นท่านเทาอ้าปากแต่ไม่ได้พูดอะไร
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป
การต่อสู้ระหว่างสองฝ่ายดุเดือดยิ่งขึ้น
บนพื้นถูกย้อมด้วยเลือดสีแดง
แต่ละคนล้มลงไปในกองเลือด
ทั้งสองฝ่ายบ้าคลั่งอย่างถึงที่สุด
“ต้องรีบจบการต้องสู้ให้เร็วที่สุด มิฉะนั้นหากกำลังเสริมของแก๊งเขียวเข้ามาเราซวยแน่ๆ!”
“ใช่! แก๊งเขียวเป็นแก๊งที่ใหญ่ที่สุดในหู้ไห่และมีภูมิหลังที่ลึกซึ้ง ซึ่งสี่ตระกูลใหญ่ของเราเทียบไม่ได้เลย!”
“เหมือนว่าเราต้องเปิดไพ่ตายของเราแล้ว!”
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์อยู่ในทางตัน หวงเหอและคนอื่นๆก็ตะโกนขึ้น
ตู้เฟิงหรี่ตาและกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เราทุกคนไม่ต้องออมมือแล้ว ให้แสดงไพ่ตายของตัวเองออกมาให้ทั้งหมด!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้นอีกสามตระกูลก็พยักหน้า
เมื่อถึงตอนนี้พวกเขาไม่มีความให้ลังเลอีกต่อไป
หากไม่กำจัดแก๊งเขียวโดยเร็ว สิ่งที่รอพวกเขาคือการทำลายล้าง!
“ลุย!”
ผู้นำสี่ตระกูลใหญ่ตะโกนพร้อมกัน
ซู!
ซู!
ซู!
……..
เงาของคนนับร้อยคนปรากฏขึ้นรอบๆด้าน
คนเหล่านี้สวมหน้ากากดวงตาของพวกเขาเย็นชาอย่างยิ่ง และพวกเขาถือดาบยาวอยู่ข้างหลัง ทั้งตัวฉายรัศมีสังหารที่น่าสยดสยอง
ทุกคนเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด
คนเหล่านี้คือคนที่ยอมตายเพื่อสงครามที่ได้รับการปลูกฝังจากสี่ตระกูลใหญ่มาหลายปี
พวกเขาจะออกมาในเวลาจำเป็นเท่านั้น!
“ฆ่า!”
เมื่อเสียงตะโกนดังขึ้น นักรบพลีชีพหลายร้อยคนบุกไปฆ่าคนของแก๊งเขียว
นักรับพลีชีพเหล่านี้โหดเหี้ยมและหมายถึงชีวิต!
ทีแรกแก๊งเขียวเสียเปรียบในเรื่องจำนวนคนอยู่แล้ว
ตอนนี้เผชิญหน้ากับนักรบพลีชีพนับร้อยราวกับกำลังจะพังทลาย
ไม่นาน คนของแก๊งเขียวถูกฆ่าและพ่ายแพ้
เมื่อเห็นว่าเหล่าสาวกของแก๊งเขียวเริ่มไม่ไหวแล้ว ท่านเทาก็พูดอย่างกังวลว่า “หัวหน้า เราอีกไม่ได้แล้ว เราต้องรับถอยทัพ มิฉะนั้น ยอดฝีมือสามพันนายของแก๊งเขียวจะถูกทำลายที่นี่คืนนี้!”
เฉ่าซือไห่หลับตาด้วยความเจ็บปวด
แม้ว่าเขาจะไม่พอใจ
แต่เขาไม่มีทางเลือก
สาวกสามพันคนเหล่านี้เป็นยอดฝีมือของแก๊งเขียว เขาจะสูญเสียคนเหล่านี้ไม่ได้!
เขาถอนหายใจเบาๆลืมตาขึ้นและตะโกนว่า “ถอย!”
เมื่อพูดจบ เฉ่าซือไห่ก็เริ่มถอยภายใต้การคุ้มครองของท่านเทา
ขณะเดียวกันสาวกของแก๊งเขียวก็ถอยร่นออกไปเหมือนกระแสน้ำ
เมื่อผู้นำของสี่ตระกูลใหญ่ก็ตะโกนทันทีว่า: “ตามมันไป อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไป!”
“ฆ่า!”
เมื่อคนของสี่ตระกูลใหญ่เห็นสิ่งนี้ ไล่ตามคนของแก๊งเขียวอย่างบ้าคลั่ง
ในระยะไกลบนหลังคา
“ท่านแม่ทัพ เฉ่าซือไห่ได้ลถอยแล้ว ต้องการให้ผมไปหยุดเขาหรือไม่”
เสือขาวถาม
หยางเฟิงส่ายหัวและกล่าวว่า “ไม่! เก็บเฉ่าซือไห่ไว้ยังมีประโยชน์ ถ้าฆ่าเขาฉันจะให้หมากัดกันได้อย่างไรและฆ่ากันเองได้อย่างไร”
หยางเฟิงมองดูการต่อสู้ตั้งแต่ต้นจนจบ
แต่เขาไม่ได้เคลื่อนไหว
สำหรับเขาการทำลายเฉ่าซือไห่ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ
แต่หยางเฟิงไม่เพียงแต่ต้องการจัดการเฉ่าซือไห่แค่คนเดียวเท่านั้น เขาต้องการล้างบางพื้นที่สีเทาในหู้ไห่อย่างสมบูรณ์
นี่คือเหตุผลที่เขาไม่ได้ใช้กองทัพหรือสำนักเทพมรณะ
เพราะหูไห่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของต้าเซี่ยและไม่ควรมีปัญหาใดๆ
เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจแล้วจะไม่คุ้มกับสูญเสีย