ในตอนท้ายของคลาสเรียนเสี่ยวหลัวรู้สึกราวกับว่าเขาเพิ่งผ่านพ้นจากหายนะมา ในเวลาพักเสี่ยวหลัวล้มลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็วและงีบหลับไปในทันที มันเจ็บปวดเกินไป คลาสเรียนใช้เวลา 45 นาทีมันเป็นผลทำให้เขาเจ็บจ้อนน้อยของเขาเป็นเวลากว่า 45 นาที!
แน่นอนว่าการนอนบนโต๊ะยังมีจุดประสงค์อื่นอีกนั่นคือการแกล้งนอนหลับและยุติการคุกคามจาก อันหวน
เมื่อเขาหลับกำลังสบายๆ เติ้งไค ที่ข้างๆเขาก็ผลักเขาและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ“พี่หลัว , ซ …ซ่ง เจียหนาน…”
“ซ่ง เจียหนาน คือใคร?”
เสี่ยวหลัวยืดตัวขึ้นมาและถามอย่างงัวเงียเหมือนคนที่ยังไม่ตื่น
จูเสี่ยวเฟยแทบจะเป็นลม“พี่หลัวพี่ชายที่ดีของผม พี่ลืม ซ่ง เจียหนาน ไปได้อย่างไรพี่จำ ถัง หยู่เจ๋อ นักศึกษาปีที่สามที่เข้ามาหาเรื่องพวกเราได้ไหม นั่นแหละคือผู้ชายที่หนุนหลังเขา!”
“โอ้ประธานชมรมศิลปะการต่อสู้ซานต้า!” เสี่ยวหลัวจำได้ในทันที
จูเสี่ยวเฟยและเติ้งไค พยักหน้ารัวๆเหมือนกับนกหัวขวาน แม้ว่าพวกเขาจะบอกว่าพวกเขาจะต่อสู้ร่วมกันกับเสี่ยวหลัวเมื่อหลายวันก่อนและความหวาดกลัวของพวกเขาก็หายไปนานแล้ว แต่เมื่อพวกเขาเห็น ซ่ง เจียหนาน อีกครั้งการแสดงออกของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากโดยเฉพาะ เติ้งไค เขามองออกไปข้างนอกห้องเรียนโดยไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว
“เขา … เขาเข้ามาในห้องเรียนของเรา เขาจะต้องมาสร้างปัญหาให้เราแน่!” ทันใดนั้นดวงตาของ เติ้งไค ก็เบิกกว้างและร่างกายที่ผอมแห้งของเขาก็สั่นเล็กน้อย
จูเสี่ยวเฟยกัดฟันของเขา และจ้องมองตรงไปที่ประตูห้องเรียนร่างกายของเขาเหยียดตัวแน่น
เสี่ยวหลัวมองออกไปที่ดวงตาของเขาปรากฏชายผู้หนึ่งที่มีความสูงกว่า 1.9 เมตร สวมเสื้อกั๊กสีดำบนร่างกายส่วนบนของเขาพร้อมกับกางเกงลำลองสีน้ำเงินเข้มที่ด้านล่าง กล้ามเนื้อของร่างกายของเขากระจายเป็นก้อนแน่นขนัด เหมือนชิ้นส่วนที่ซ้อนกันบนพื้นผิวของร่างกายของเขาแข็งแรงพอที่จะรัดเสื้อกั๊กสีดำแน่น ขยับตัวเพียงเล็กน้อยเสื้อกั๊กสีดำก็คงจะแตกกระจายออกไปได้แล้ว
เขามีใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมผิวไม่ค่อยดีเท่าไหร่และรูขุมขนของเขาก็หนามาก เมื่อมองดูเขาจากระยะไกลมันให้ความรู้สึกเหมือนว่า กำลังมองดูหลุมอุกกาบาต
ตัวของเขาใหญ่ยักษ์ราวกับวัว!
เสี่ยวหลัวเข้าใจแล้วว่าทำไมจูเสี่ยวเฟยและเติ้งไคถึงใช้คำว่า“วัวเถื่อน” เพื่ออธิบายถึง ซ่ง เจียหนาน ด้วยความแข็งแกร่งดังกล่าวเขาสามารถยกและขว้างหมูขนาด 200 ปอนด์ขึ้นมาได้อย่างสบายๆ
และผู้ชายคนนี้ก็เป็นแฟนของ อัน หวน หนึ่งตัวเล็กและหนึ่งตัวใหญ่ ทั้งสองคนนี้จับคู่เข้ากันได้อย่างไร?
เสี่ยวหลัวไม่สามารถช่วยได้ ได้แต่รู้สึกแปลกๆ
นอกจาก ซ่ง เจียหนาน แล้ว ถัง หยู่เจ๋อ และ เฉินเจีย ที่มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยสิวก็มาถึง พวกเขาเป็นเหมือนลูกหาบของ ซ่ง เจียหนาน ที่เดินขนาบอยู่ทั้งสองข้าง
เมื่อทั้งสามคนเข้ามาพวกเขาก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนที่อยู่ในคลาสเรียนภาษาอังกฤษระดับมืออาชีพ แต่ อัน หวน ที่ซึ่งเป็นแฟนสาวของ ซ่ง เจียหนาน กลับกำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบากซ่อนเร้นอยู่ภายในสายตาของเธอ เธอเรียนรู้จากเสี่ยวหลัวเธอแสร้งทำเป็นนอนหลับบนโต๊ะดูเหมือนตัวขี้เกียจ แล้วเหลือบๆมอง ซ่ง เจียหนาน
“พวกเธอทั้งสามคนเรียนวิชาอะไร เรากำลังจะเริ่มคลาสของเราในไม่ช้า หากพวกเธอมาที่นี่เพื่อมาเรียนด้วยตัวเอง พวกเธอช่วยไปเรียนในห้องเรียนอื่นได้ไหม” อาจารย์ผู้สอนภาษาอังกฤษเมื่อมองเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดี เธอก็กล่าวอย่างสุภาพและขอให้พวกเขาทั้งสามคนออกไป
ซ่ง เจียหนาน หยุดฝีเท้าของเขาและหันไปมองรอบๆ และยิ้มอย่างสงบ“อาจารย์เราสนใจภาษาอังกฤษมากและด้วยเหตุนี้เราจึงมาที่นี่เพื่อฟังในคราสเรียนของคุณ มั่นใจได้เลยเราจะไม่สร้างความรบกวนในคลาสเรียนแน่นอน!”
อาจารย์ผู้สอนภาษาอังกฤษที่อยู่ในคลาสเรียนไม่สามารถพูดอะไรได้ ในฐานะที่พวกเขาเป็นนักศึกษา เธอไม่สามารถไล่นักเรียนที่เข้ามาเรียนในคลาสเรียนด้วยความหลงใหลในภาษาอังกฤษได้
อาจารย์กระแอ้มไอออกมา“งั้นพวกเธอก็หาที่นั่งที่ว่างอยู่เถอะ!”
“ได้ครับ.”
ซ่ง เจียหนาน พยักหน้า หลังจากที่เขามองไปที่ห้องเรียน ในที่สุดเขาก็เดินไปหาอันหวน
“สาวน้อยที่น่ารักเธอช่วยยกที่นั่งนี้ ให้กับฉันได้ไหม” ซ่ง เจียหนาน พูดกับหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ อันหวน
ผู้หญิงคนนั้นรู้อยู่แล้วว่าคนที่ตัวโตคนนี้ เขาคือแฟนของ อันหวน เธอจึงเก็บหนังสือของเธอทันทีและกำลังที่จะลุกออกจากที่นั่ง
อันหวนยืนขึ้นแล้วจับเธอไว้“อย่าให้ที่นั่งของเธอกับเขา ใครขอให้คุณทำแบบนี้? หลิงหลิง นั่งที่นี่แหละ อย่าไปกลัวเขา!”
“แต่ฉัน…”
หวังหลิง เป็นกังวลอย่างมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าเธอไม่กลัว ซ่ง เจียหนาน เขาตัวใหญ่โตและดุร้ายขนาดนั้น ผู้หญิงที่ไหนจะไม่กลัวเขา
“อันหวน เธอกำลังทำอะไร! ฉันเป็นคนที่มาหาเธอเอง เราใจเย็นๆกันก่อนดีไหม?” ซ่ง เจียหนานกล่าว พร้อมกับคิ้วที่ขมวดแน่น
“ใจเย็น? ฉันเลิกกับคุณแล้ว! ไม่ต้องมาหาฉันอีก!” อันหวน พูดอย่างตรงไปตรงมา
ซ่ง เจียหนาน กล่าวว่า“อันหวน หยุดพูดล้อเล่นกับฉันได้ไหม ฉันพูดไปแล้วว่าฉันกับเหลียงฮุ่ยลี่ เป็นเพียงแค่เพื่อนธรรมดาๆกันเท่านั้น”
อันหวนกล่าวอย่างโมโหว่า“เพื่อนธรรมดาจะจับมือกันและกุมมือกันอย่างงั้นเหรอ? ซ่ง เจียหนาน ฉันทนคุณมามากพอแล้ว! เรื่องของเรามันจบลงไปแล้ว!”
อาจารย์ผู้ที่กำลังบรรยายบนแท่นไม่สามารถช่วยได้ ได้แต่ถอนหายใจอยู่ภายในใจของเธอ“เฮ้อ…นักศึกษาทุกวันนี้…พวกเขากลายเป็นคนแบบนี้ได้ถึงขนาดนี้ได้ยังไง พ่อแม่ของพวกเขาส่งพวกเขามาที่นี่เพื่อเรียนรู้ด้วยเงินที่แสนจะหามาได้อย่างยากลำบาก แต่สิ่งที่พวกเขาทำคือการตกหลุมรัก ฉันไม่สามารถทำการสอนด้วยความสงบได้”
ผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อหวังหลิงรีบหลบออกไป มันไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องอยู่ระหว่าง อันหวน และ ซ่ง เจียหนาน
“ไม่! เธอเป็นคนเดียวที่ฉันต้องการในชีวิตของฉัน!” ซ่ง เจียหนาน โบกมืออย่างไม่ยอมแพ้
ในเวลานั้น ฮวาง รั่วหราน ก็ยืนขึ้นและตะโกนอย่างเคร่งขรึมหันหน้าเข้าหาพวกเขา“เรากำลังเริ่มคลาสเรียนของเราในไม่ช้า ถ้าคุณมีอะไรกรุณาพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวหลังจากจบคลาสเรียน นี่คือห้องเรียนสถานที่เรียนรู้ไม่ใช่เพื่อความรัก!”
“หุบปาก! เธออย่ามาขัดจังหวะในขณะที่บอสของเรากำลังพูดอยู่” ถัง หยู่เจ๋อ ตะโกนใส่ ฮวาง รั่วหราน พร้อมกับชี้หน้าของเธอ
ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ พวกผู้หญิงหลายคนก็ลุกขึ้นยืนในทันทีเเละวิพากษ์วิจารณ์ ถัง หยู่เจ๋อ
“เธอเป็นผู้ดูแลของเรา! นายคิดว่านายเป็นใคร? ถึงมาพูดอย่างนี้กับเธอ!”
“ใช่แล้ว! นี่คือห้องเรียนภาษาอังกฤษระดับมืออาชีพ! นายกำลังพูดอยู่กับใคร”
“ถ้านายไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาเข้าคลาสเรียนก็ออกไปซะ! นายไม่ได้รับการต้อนรับที่นี่”
ประมาณหนึ่งในสามของพวกผู้หญิงลุกขึ้นยืน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นกลุ่มของผู้หญิง แต่พวกเธอก็ดูสง่างามเมื่อพวกเธอยืนขึ้น
ซ่ง เจียหนาน โบกมือเพื่อหยุด ถัง หยู่เจ๋อ จากการโต้เถียงกับ ฮวาง รั่วหราน ด้วยรอยยิ้มฝืดๆ “อา….เธอเป็นผู้ดูแลชั้นเรียนงั้นเหรอ ขออภัยแทนเพื่อนของฉันด้วยที่หุนหันพลันแล่นไปเล็กน้อย หากเธอรู้สึกขุ่นเคืองโปรดให้อภัยเราด้วย”
ฮวาง รั่วหราน ไม่อยากจะไปโต้เถียงอะไรกับพวกนั้น แต่ถ้าพวกเขาลงมือหรือกล้ารังแกผู้หญิงในห้องเรียนเธอจะไม่นั่งลงและดูอยู่เฉยๆแน่
“เกิดอะไรขึ้นกับ อันหวน? ทำไมเธอถึงตกลงที่จะเป็นแฟนของ ซ่ง เจียหนาน มันมีอะไรดีเกี่ยวกับผู้ชายแบบนั้น? กล้ามเนื้อของเขาทั่วทั้งร่างกายดูน่าขยะแขยงมาก” ชูเยว่ผู้ที่อยู่ในที่นั่งของเธอไม่สามารถเข้าใจถึงตัวเลือกของอันหวนได้
“คุณหนูชูเยว่ เธอไม่สามารถพูดอะไรแบบนั้นได้ ทุกคนมีความชอบเป็นของตัวเอง นอกจากนี้ ซ่ง เจียหนาน ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นไปซะทั้งหมด อย่างน้อยเขาก็สามารถทำให้ผู้หญิงรู้สึกปลอดภัย!” ไป่หลิง หัวเราะ
ชูเยว่ดึงลูกอมยิ้มออกมาจากในปากของเธอแล้วส่ายหัว“สาวๆ ควรให้ความรู้สึกที่มั่นคงกับตัวเอง มันช่างน่าสมเพชถ้าผู้หญิงคนหนึ่งต้องพึ่งพาแฟนของเธอไปซะทั้งหมดทุกเรื่อง”
“ไม่ผิดที่จะพูดอย่างนั้น แต่เราไม่ใช่ผู้หญิงที่อ่อนแอกว่าหรือ? เราจะต้องได้รับความคุ้มครองจากพวกผู้ชาย เธอจะรู้ได้เองเมื่อเธอลองสัมผัสกับความสัมพันธ์แบบนั้นด้วยตัวเอง”
“คายคำพูดของเธอออกมาเลยนะ ฉันจะไม่มีความสัมพันธ์ในมหาวิทยาลัย การออกเดทเป็นเรื่องเสียเวลา และฉันก็ไม่อยากที่จะต้องสละเวลาอันมีค่าของฉันไป ฉันจะไม่มอบช่วงเวลาอันมีค่าของฉันในครั้งแรกให้ใคร”
ครั้งแรกที่มีค่า?
ไป่หลิง รู้สึกเอียงอายและพูดอย่างอายๆ ว่า“ท…ทำไมเธอถึงพูดถึงเรื่องอะไรแบบนััน”
“อะไร? เธอก็จะต้องจูบเมื่อได้ออกเดทกับใครบางซักคนในมหาวิทยาลัย? มันไม่ได้หมายความว่าเราจะเสียจูบแรกที่มีค่าของเราไปงั้นเหรอ” ชูเยว่ กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างงุนงง
ไป่หลิง รู้สึกโล่งใจ“เธอกำลังพูดถึงจูบแรก ฉันก็คิดว่า…”
“เธอกำลังคิดว่า… ฉันกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?”
“ฉันคิดว่าเธอกำลังพูดถึง…”
ไป่หลิง ยื่นริมฝีปากของเธอไปใกล้ที่หูของชูเยว่ และพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาที่มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ชูเยว่ก็หน้าแดงก่ำและหูของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เธอผลักตัวไป่หลิงออกไป “เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กที่มีความคิดที่สกปรก สิ่งที่เธอพูดมันเป็นเรื่องที่น่าอายจริงๆ … “