ตอนที่ 414 เทรนเนอร์ส่วนตัวของซูมู่ชิง!
เทรนเนอร์ส่วนตัวของซูมู่ชิงโดนลากตัวลงมาจากฟิตเนสในตึกหรูหราไปที่ลานจอดรถใต้ดิน
เทรนเนอร์ตัวใหญ่ร่างกายกำยำคนนี้ร้องคร่ำครวญกับผู้ชายคนที่ตัวเตี้ยวกว่าเขาที่เป็นคนจับเขา
“พี่ครับ มือผมจะหักอยู่แล้ว พี่ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมไม่หนีไปไหนหรอกนะครับ? พี่ฟังภาษาจีนออกไหมครับ? พี่พูดสวัสดีค่ะใช่ไหม?”
ผู้ชายคนนั้นไม่ได้สนใจเขา แต่ลากตัวเขาไปหาซีกวา
การสอบสวนในครั้งนี้ซีกวาเป็นคนลงมือสอบสวน ส่วนเย่เฉินนั้นซ่อนตัวอยู่ไกลๆ ในลานจอดรถ
เขาไม่สามารถปล่อยให้ซูมู่ชิงหรือคนในครอบครัวรู้ได้ว่าเขาสืบเรื่องของหล่อนอยู่
เทรนเนอร์ส่วนตัวมองซีกวาใบหน้าสงสัย “ลูกพี่ ผมเองก็ไม่รู้จักพี่ มีเรื่องเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า?”
โครม!!
ซีกวาตะบันหมัดใส่อีกฝ่าย “เข้าใจผิดเหรอ? แกที่เป็นเทรนเนอร์ในฟิตเนส อ่อยลูกค้าผู้หญิงสวยๆ จะบอกว่าฉันเข้าใจผิดอะไรอีก”
เทรนเนอร์ ส่วนตัวหน้าซีด มีท่าทีตึงเครียดน้อยๆ “สมา…สมาชิกเหรอ? คุณเป็นสามีของสมาชิกผู้หญิงคนไหนครับ? พี่เข้าใจผิดแล้ว!”
ซีกวาสบถ “ถุย! เข้าใจผิดบ้านนายสิ! เมื่อครู่ฉันคอยจับตาดูนายตลอด ตอนนายช่วยพวกผู้หญิงยืดเส้นนานกว่าพวกผู้ชายตั้งสามเท่า! นายไม่ได้คิดอะไรเกินเลยแล้วมันคืออะไร? ตานายแทบจะกินพวกหล่อนอยู่แล้ว!”
เทรนเนอร์ส่วนตัวคนนนั้นย้อนคิด “เมื่อครู่เหรอ? อย่าบอกนะว่าคุณพูดถึงคุณหนูซูเหรอ? สวรรค์ พี่ชายครับผม พี่เข้าใจผมผิดแล้วล่ะครับ! คุณหนูซูเป็นถึงคุณหนูของตระกูลซูแห่งเมืองหลวง ต่อให้ผมใจกล้าขนาดไหนก็ไม่กล้าทำอะไรหล่อนหรอก! วันแรกที่คุณหนูซูมาที่ฟิตเนส น้องชายของหล่อนก็มาข่มขู่ผมแล้ว ผมจะไปแต๊ะอั๋งหล่อนก็ต่อเมื่อผมอยากตายเท่านั้นแหละ”
ซีกวาต่อยเทรนเนอร์ส่วนตัวคนนั้นอีกครั้ง “ยังจะโกหกอีก! นายสารภาพกับฉันมาแต่โดยดีว่านายเคยทำอะไรกับคุณหนูซูหรือเปล่าแล้วฉันอาจจะไว้ชีวิตนาย ไม่อย่างนั้นวันนี้นายอย่าได้หวังว่าจะได้ออกไปจากลานจอดรถนี้!”
เทรนเนอร์ส่วนตัวคนนั้นแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ “ลูกพี่ครับ ผมไม่ได้ทำเลยจริงๆ ผมไม่เคยพูดเรื่องไร้สาระอะไรกับหล่อนนอกจากเรื่องออกกำลังกายเท่านั้น อีกทั้งเราเป็นฟิตเนสที่หรูที่สุดในเมืองหลวง เทรนเนอร์ทุกคนมีมารยาทมากต่างจากพวกเทรนเนอร์ทั่วๆ ไป ผมสาบานเลยว่าผมไม่เคยพยายามจะไปจีบสมาชิกฟิตเนสคนไหนเลย!”
เทรนเนอร์ไม่ยอมรับสักทีทำให้ซีกวาหัวเสีย แต่จู่ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น สายเข้าคือเย่เฉิน
“ปล่อยเขาไปเถอะ” เย่เฉินกล่าว
ซีกวาจับเทรนเนอร์ส่วนตัวคนนั้นหมับใหญ่แล้วตะโกน “เจ้าหนู วันนี้ฉันจะปล่อยนายไปก่อน ต่อไปเวลาเทรนด์ในสมาชิกผู้หญิงเนี่ยเลิกทำตาหลุกหลิกได้แล้ว! อ้อ แล้วเรื่องวันนี้อย่าเที่ยวเอาไปโพนทะนาล่ะ นายเองก็เห็น แค่เด็กฉันที่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะก็จับนายมาได้ง่ายๆ ถ้าฉันส่งคนที่โหดกว่านี้ไปจัดการนายล่ะก็ นายลองคิดดดูนะว่านายจะมีจุดจบยังไง!”
เทรนเนอร์ส่วนตัวคนนั้นรู้ว่าไม่ควรไปมีเรื่องกับซีกวา เขาละลั่กละล่ำ “พี่สบายใจได้เลยครับ ผมไม่มีทางแพร่งพรายเรื่องวันนี้กับใครทั้งนั้น!”
“ไสหัวไป!”
ซีกวามองเทรนเนอร์ส่วนตัวคนนั้นหนีไปหัวซุกหัวซุน แล้วเดินไปยังรถที่เย่เฉินนั่งรออยู่
เขาขึ้นรถแล้วกล่าว “คุณชายเย่ เทรนเนอร์คนนั้นไม่กล้ายอมรับเลย ผมว่าเราต้องเล่นไม้แข็ง บีบให้เขาตอบ”
เย่เฉินส่ายหน้า “เขาไม่ได้โกหกหรอก”
เมื่อครู่เย่เฉินคอยสังเกตท่าทางและคำพูดของอีกฝ่ายตลอด จึงแน่ใจว่าอีกฝ่ายพูดความจริง
และด้วยความเข้าใจที่เขามีในตัวหญิงสาว เขาคิดว่าหล่อนคงไม่ใฝ่ต่ำไปชอบเทรนเนอร์คนหนึ่ง
ในเมื่อเย่เทียนก็พูดเองว่าซูมู่ชิงเคยมีอะไรกับกัวเยว่หมิง งั้นไปสนใจหมอคนนั้นดีกว่า
เย่เฉินกำชับ “ซีกวา เสี่ยวหวัง พวกนายไปคอยดูกัวเยว่หมิงที ลองสืบดูว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหน มีแฟนไหมรวมไปถึงคนรอบข้างคิดยังไงกับเขา”
“ครับ!”
หลังจากสั่งพวกลูกน้องเสร็จแล้วเย่เฉินก็โทรหาซูมู่ชิง
“ฮัลโหล ที่รัก”
“ที่รัก คุณอยู่ไหน? ยังอยู่ฟิตเนสหรือเปล่าครับ?”
“ไม่ค่ะ ฉันเพิ่งถึงบ้าน คุณทำธุระเสร็จหรือยังคะ?”
“อ้อ ผมเพิ่งทำธุระเสร็จนี่แหละ จะถามคุณว่าวันนี้จะไปกินข้าวนอกบ้านกันไหม”
“ได้สิคะ เราไม่ได้ไปกินข้าวข้างนอกกันนานแล้ว ที่รัก ฉันอยากกินหม้อไฟค่ะ คิกคิก”
“อ้อ ได้สิ งั้นเราจองร้านหม้อไฟตระกูลหยางดีไหม จริงสิ เย็นนี้เราไม่ต้องเอาซือซือไปด้วยก็ได้ ผมอยากชวนคนอื่นมาร่วมโต๊ะด้วย”
“ใครเหรอคะ?”
“กัวเยว่หมิง คุณหมอกัวน่ะ”
พอได้ยินว่าเย่เฉินจะชวนกัวเยว่หมิงมาร่วมรับประทานอาหาร ปลายสายก็ประหลาดใจ
“ที่รัก ทำไม…ทำไมคุณถึงอยากจะชวนเขามากินข้าวกับเราล่ะคะ?”
เย่เฉินกล่าว “อ้อ ก็ผมเห็นว่าตอนเราแต่งงานคุณหมอกัวเขาไม่ได้มาร่วมงาน แล้วคราวก่อนที่มีปัญหากันเพราะหลี่เฉิงเจี๋ยบีบบังคับเขา เรื่องคราวก่อนผมเองก็ไม่ได้โทษเขาหรอกนะ อย่างไรเสียหลี่เฉิงเจี๋ยเล่นเอาพ่อเอาแม่มาขู่เขาแบบนั้น เขาก็คงต้องจำใจ ที่รัก ที่เราได้รักกันก็เพราะคุณหมอกัวนะครับ ลองคิดดูสิว่าถ้าตอนนั้นเขาไม่ได้สะกดจิตคุณแบบนั้น ให้คุณรักผมมาสามปีในความฝัน ตอนนี้เราจะได้รักกันเหรอ?”
ซูมู่ชิงกล่าว “อืม ฉันก็คิดว่าคุณหมอกัวสำคัญกับเราสองคนมากเลยทีเดียว ถือว่าเป็นคนที่มีส่วนในความสัมพันธ์ของเรามากเลย! งั้นเดี๋ยวฉันจะโทรนัดเขาเดี๋ยวนี้เลย ถ้าเขารู้ว่าคุณให้อภัยเขาแล้วคงจะต้องดีใจมาก!”
เย่เฉินกล่าว “ครับ เดี๋ยวผมให้ซีกวาไปรับคุณ คุณไม่ต้องขับรถหรอกนะ เดี๋ยวเราดื่มเหล้าอีก เจอกันที่ร้านหม้อไฟตระกูลหยางนะครับ”
“ค่ะได้เลย บ๊ายบายนะคะ ที่รัก รักนะคะ! จุ๊บ!”
ซูมู่ชิงส่งเสียงจูบมาตามสาย
เย่เฉินกดวางสาย แล้วย้อนนึกถึงคำพูดของหญิงสาวเมื่อครู่ ก่อนจะยิ้มเย็น
“ซูมู่ชิงเอ้ยซูมู่ชิง แหมคุณยังจะกล้าพูดว่าเขาเป็นคนสำคัญของเราสองคน! เขาต้องสำคัญแน่อยู่แล้วสิ เพราะก่อนที่ผมยังไม่ปรากฏตัว เขาคอยอยู่เป็นเพื่อนคุณตลอดนี่! เขาคอยเติมเต็มความหนาวเหน็บในร่างกายคุณยังไงล่ะ!”
เย่เฉินลอบตัดสินใจอย่างลับๆ ว่าคืนนี้เขาจะต้องหาหลักฐานที่ยืนยันว่าสองคนนั้นเป็นอะไรกันให้ได้!
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเย่เฉินและซูมู่ชิงก็ไปถึงร้านอาหารก่อน และกัวเยว่หมิงตามมาทีหลัง
ตอนแรกที่เขารู้ว่าเย่เฉินจะเลี้ยงอาหาร ก็รีบลนลานออกไปหาซื้อของขวัญทำให้เขามาสาย
“คุณเย่ คุณหนูซู ดีใจกับชีวิตแต่งงานด้วยนะครับ ต้องขอโทษด้วยที่ผมไม่ได้ไปงาน นี่คือน้ำใจของผมหวังว่าคุณทั้งสองจะรับเอาไว้”
กัวเยว่หมิงส่งของขวัญที่หรูหราประณีตให้เย่เฉิน
เย่เฉินกล่าวพลางหัวเราะ “คุณหมอกัวครับ อย่าเกรงใจไปเลย รีบนั่งลงสั่งอาหารเถอะนะครับ”
“ครับ”
หลังจากที่กัวเยว่หมิงนั่งลงแล้ว ก็ถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก สั่งอาหารจากนั้นก็รินเหล้าใส่แก้วตนเองจนเต็ม แล้วยกขึ้นมาพลางกล่าว
“คุณเย่เฉิน คุณซูมู่ชิง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นคราวก่อนทำให้ผมไม่มีหน้าจะมาพบพวกคุณสองคน คิดไม่ถึงว่าผมจะช่วยไอ้เดียรัจฉานหลี่เฉิงเจี๋ยไปทำลายภาพฝันที่แสนสมบูรณ์ของคุณเย่เฉิน โชคดีที่สุดท้ายแล้วเขาทำไม่สำเร็จ ไม่อย่างนั้นผมคงกลายเป็นคนชั่ว ต้องขอบคุณที่พวกคุณไม่ติดใจแถมยังเห็นผมเป็นเพื่อนอีก ผมขอดื่มให้พวกคุณนะครับ!”
พูดจบเขาก็ยกเหล้าดื่มจนหมดแก้ว