กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 478
เยี่ยจิ่งหานโยนภาพเหมือนรูปหนึ่งไปตรงหน้าของกู้ชูหน่วน สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและรอให้นางอธิบาย

กู้ชูหน่วนหยิบขึ้นมาและจ้องมองไปที่ภาพวาดที่คลุมเครืออย่างตั้งใจ

นางพูดด้วยความประหลาดใจ “ท่านอ๋อง ไม่คิดเลยว่ารสนิยมของท่านจะต่างออกไปจากผู้อื่น คนที่ “งดงาม” มากเช่นนั้นท่านก็ตกหลุมรักได้ ท่านดูท่าทางของท่านสิ ดูชอบอกชอบใจนัก ฮึฮึ ท่านยังอยู่ข้างล่างอีกด้วย ท่านปฏิเสธผู้สาวแสนสวยจำนวนมากไป เพราะนางใช่หรือไม่”

ชิวเอ๋อร์อดไม่ได้อยากจะมุดดินเข้าไปเสียจริงๆ

คุณหนูหาที่ตายหรืออย่างไรกันนะ

นางไม่เห็นสีหน้าอันอำมหิตของท่านอ๋องหรืออย่างไร?

“เจ้าไม่มีอะไรจะอธิบายให้ข้าฟังอย่างนั้นหรือ?” เยี่ยจิ่งหานคิดว่าตัวเองอดทนจนถึงขีดสุดแล้ว

“ข้าเป็นพระชายาเอกของท่าน ท่านไปทำไม่ดีมิชอบกับผู้หญิงคนอื่นท่านยังไม่อธิบายกับข้าเลย เช่นนั้นข้ามีเรื่องอะไรต้องอธิบายท่านหรือ? หรือว่าท่านต้องการถอนตำแหน่งพระชายาของข้าเพื่อที่จะแต่งตั้งนางขึ้นมา?”

“กู้ชูหน่วน ข้าอดทนกับเจ้ามากพอแล้ว อย่าคิดว่าเจ้ากำลังตั้งครรภ์สายเลือดของข้า เช่นนั้นแล้วข้าก็จะไม่กล้าทำอะไรเจ้า” เยี่ยจิ่งหานกัดฟันกรอด

กู้ชูหน่วนจัดระเบียบเสื้อผ้าของนางอย่างเกียจคร้านและยิ้มออกมา “เช่นนั้นท่านอ๋องจะทำอย่างไรกับข้าหรือ? ฆ่าข้าให้ตายหรือทุบตีข้าให้สาแก่ใจ? หรือว่าจะอดน้ำอดอาหารข้าดีล่ะ?”

เมื่อเห็นท่าทางสบายๆ ของนางและการเยาะเย้ยที่มุมปากของนาง เยี่ยจิ่งหานโมโหจนแทบอดไม่ได้ที่จะตบนาง แต่เขาทำไม่ลง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรทั้งสิ้น เขาไม่มีทางทำร้ายผู้หญิงอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะผู้หญิงอันเป็นที่รักของเขา

ความโกรธนี้ เขาทำได้แค่เพียงเก็บเอาไว้ในใจ แต่กลับทำอะไรกู้ชูหน่วนไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

ผู้หญิงคนนี้จะต้องรู้อย่างแน่นอนว่าเขาไม่สามารถทำอะไรนางได้ นางถึงกล้าหาญอย่างไม่เกรงกลัวเช่นนี้

กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ “ท่านอ๋อง โกรธมากไปจะไม่ดีต่อสุขภาพนะเพคะ และยังส่งผลต่อการสืบพันธ์ุอีกด้วย ก่อนที่ท่านจะลงมือนั้น ท่านควรจะคิดไตร่ตรองถึงสุขภาพร่างกายของท่านให้ดีเสียก่อน ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าขาทั้งสองข้างเพิ่งจะหายดี แต่ขาที่สามดันมาเจ็บป่วยล้มลงนะเพคะ”

“ฮึ ส่งคนมาที่นี่ ตั้งแต่วันนี้ไปให้กักพระชายาอยู่ในบริเวณ หากไม่มีคำสั่งของข้า ห้ามให้นางก้าวเท้าออกจากจวนไปแม้แต่ก้าวเดียว”

“ขอรับ……”

“กู้ชูหน่วน เจ้าคิดทบทวนตัวเองเสียเถอะ”

เยี่ยจิ่งหานเดินออกไปด้วยสีหน้าเยือกเย็น

คำพูดสุดท้ายของเขานั้นเต็มไปด้วยความข่มขู่ ทุกคนในจวนท่านอ๋องต่างรับรู้ได้

หลังจากที่เยี่ยจิ่งหานจากไป ชิวเอ๋อร์ก็รีบพูดขึ้นมา “คุณหนู เหตุใดท่านถึงมักก่อเรื่องให้ท่านอ๋องตลอดเลยเจ้าคะ? ตอนนี้ท่านอ๋องโมโหมาก จะทำเช่นไรดีเจ้าคะ หากท่านอ๋องไม่โปรดปรานท่านอีกจะทำเช่นไร เช่นนั้นแล้วต่อไปจะใช้ชีวิตอย่างไรเจ้าคะ?”

“ชิวเอ๋อร์ เจ้าจำคำนี้เอาไว้ บนโลกนี้สิ่งที่ไม่ควรไว้เนื้อเชื่อใจที่สุดก็คือผู้ชาย และที่ไม่ควรพึ่งพาที่สุดก็คือผู้ชายเช่นกัน ผู้หญิงอย่างเรามีชีวิตอยู่โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้ชายมาโปรดปราน เราสามารถพึ่งพาตัวเองได้เท่านั้น”

“คุณหนู คำพูดนี้ช่างลึกซึ้งเหลือเกิน ชิวเอ๋อร์ไม่เข้าใจหรอกเจ้าค่ะ”

กู้ชูหน่วนกุมมือของนางเอาไว้และยิ้ม “เด็กโง่ เจ้าจะรู้เองในอนาคต”

“เช่นนั้นตอนนี้เราควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”

“ข้ามีสูตรยาอยู่ สั่งให้คนใช้ไปซื้อตามรายการข้างในนี้แล้วนำกลับมาให้ข้า นี่เงินตำลึง”

“สิ่งนี้สามารถทำให้ท่านอ๋องเปลี่ยนใจได้หรือเจ้าคะ?”

“เจ้าทำตามที่ข้าบอกนั่นแหละถูกแล้ว”

“เจ้าค่ะ ชิวเอ๋อร์จะรีบไปเจ้าค่ะ”

ประตูห้องนอนปิดลงอีกครั้ง

รอยยิ้มอันขี้เกียจของกู้ชูหน่วนค่อยๆ หุบลงอย่างช้าๆ และแทนที่ด้วยความกังวลที่ไม่สามารถแก้ไขได้

เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ขึ้นกับเผ่าหยก นางจะหลับลงได้อย่างไร

ก่อนที่เยี่ยจิ่งหานจะมาถึง นางกำลังคิดว่าขั้นตอนต่อไปควรจะทำเช่นไรดี

เรื่องม้วนตำราหนังแกะโบราณได้ทำให้เยี่ยจิ่งหานตื่นตระหนกแล้ว และเยี่ยจิ่งหานจะต้องไปทำการศึกษาม้วนตำราหนังแกะโบราณอย่างละเอียดถี่ถ้วนและไม่ยอมมอบให้กับนางอย่างแน่นอน

หากนางยังกดดันเช่นนี้ต่อไป ก็มีแต่จะต่อต้าน ไม่เช่นนั้นก็ปล่อยเขาไปก่อนสักสองสามวัน แล้วค่อยคิดหาแผนการใหม่

และใช้โอกาสในช่วงนี้ นางจำเป็นต้องรีบสะสมและเพิ่มความสามารถของนาง

ก่อนหน้านี้นางสามารถไปถึงระดับขั้นที่เจ็ด ตอนนี้นางก็ยังทำได้

อีกอย่าง นางจะต้องทำให้ความสามารถที่แท้จริงของนางไปให้ถึงระดับขั้นที่เจ็ดให้ได้ในระยะเวลาอันสั้นนี้

เมื่อนึกถึงคำสาปโลหิตของเผ่าหยก หัวใจของกู้ชููหน่วนก็ปกคลุมไปด้วยความเจ็บปวด นางค่อยๆ ลุกขึ้นและเริ่มเตรียมยาสมุนไพร

บ่ายวันนั้น

ภายในห้องกลั่นยาอายุวัฒนะของจวนท่านอ๋องเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นและมีหมอกควันดำเต็มไปหมด ทำให้คนในจวนต่างตกอกตกใจ

ภายในห้องตำรา ชิงเฟิงรีบเข้าไปรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“นายท่าน พระชายาทำการกลั่นยาอยู่ในห้องกลั่นยา จากนั้นเตากลั่นยาก็ระเบิดขึ้นขอรับ”

เยี่ยจิ่งหานขมวดคิ้ว “พระชายาเป็นอะไรหรือไม่?”

“พระชายาไม่เป็นอะไรขอรับ มีเพียงแค่บาดแผลเล็กน้อยเท่านั้นขอรับ”

“สั่งให้คนส่งน้ำแร่หวานไปให้พระชายาดื่ม อย่าทำให้นางบาดเจ็บไปถึงลำคอ”

“ขอรับ”

ชิงเฟิงเบะปาก

เตากลั่นในห้องกลั่นยาถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์อันดับขั้นที่สาม นายท่านต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อจะได้มาครอบครอง แต่ตอนนี้กลับถูกพระชายาทำพังไปเสียแล้ว ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน แต่นายท่านกลับไม่พูดถึงเตากลั่นเลยสักนิด

“ปัง……”

ไม่นานนัก ห้องกลั่นยาก็มีเสียงระเบิดดังเกิดขึ้นอีกครั้ง

ชิงเฟิงกลับไปรายงานอีกครั้ง “นายท่าน พระชายาทำเตากลั่นที่เหลือในห้องกลั่นยาพังลงทั้งหมดแล้วขอรับ”

“พระชายาเป็นอย่างไรบ้าง?”

“พระชายาหนีได้เร็วจึงไม่เป็นอะไรขอรับ แต่เตากลั่นที่ท่านอดทนพยายามหามาอย่างยากลำบากนั้นพังทลายไปหมดแล้วขอรับ” ชิงเฟิงพูดเตือนเพื่อให้เจ้านายของเขาเกิดความสนใจในเตากลั่นยา

หากพระชายายังคงทำเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าแม้แต่ห้องกลั่นยาก็คงจะพังไปด้วยอย่างแน่นอน

“นางกำลังกลั่นยาอะไรหรือ? เหตุใดถึงเกิดการระเบิดขึ้นตลอดเวลา นักปรุงยาในจวนไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเลยหรือ?”

“พระชายาไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้ กล่าวว่ากลัวว่าพวกข้าน้อยจะขโมยสูตรยาลับไป ข้าน้อยจึงไม่ทราบว่าพระชายากำลังเล่นแร่แปรธาตุกลั่นยาตัวไหนขอรับ”

สิ่งที่สำคัญก็คือ ฝีมือการเล่นแร่แปรธาตุไม่ใช่จะเรียนรู้ได้ภายในสองสามวัน พระชายาไม่เคยเรียนรู้สิ่งนี้มาก่อน เช่นนั้นนางจะกลั่นยาอะไรออกมาได้ ช่างน่าเสียดายเตาเผาเหล่านั้นเสียเหลือเกิน

เยี่ยจิ่งหานเอานิ้วเคาะลงไปบนโต๊ะอย่างต่อเนื่อง

ผ่านไปนาน จากนั้นจึงออกคำสั่ง “ส่งคนไปเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด อย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับพระชายา”

“ขอรับ……”

ชิงเฟิงทำสีหน้าบูดบึ้งเดินออกไป

ระเบิดไปแล้วไปรู้กี่เตาเผา เหตุใดนายท่านถึงยังไม่ให้พระชายาหยุดเสียที ต่อให้จวนท่านอ๋องจะมีเงินทองมากมายก็ไม่สมควรฟุ่มเฟือยเช่นนี้

เช้าวันถัดมาก่อนฟ้าสาง จวนท่านอ๋องเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องขึ้นอีกครั้ง เสียงที่ดังก้องกังวานขึ้นนั้น เกือบครึ่งของเมืองหลวงก็ได้ยิน

เยี่ยจิ่งหานก็ถูกทำให้ตื่นด้วยความโกรธ

ชิงเฟิงรีบเข้าไปรายงาน

“นายท่าน พระชายาระเบิดห้องกลั่นยาไปแล้วขอรับ”

“ห้องกลั่นยาระเบิดไปแล้วหรือ? เช่นนั้นแล้วพระชายาล่ะ?”

“พระชายาหนีออกไปได้และตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วขอรับ เพียงแต่เส้นผมถูกเผาไหม้จนม้วนหยิกและใบหน้าก็คล้ำดำไปด้วยควันไฟ แต่ห้องกลั่นยาหายไปกับตาแล้วขอรับ” ชิงเฟิงพูดซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง

เยี่ยจิ่งหานรีบหาเสื้อคลุมและต้องการจะไปดูกู้ชูหน่วน

แต่เมื่อนึกถึงท่าทางของนางและรวมไปถึงเรื่องที่นางได้ก่อขึ้น จังหวะการก้าวเท้าของเยี่ยจิ่งหานก็หยุดชะงักลง

หากไปหานางตอนนี้ เช่นนั้นก็เท่ากับว่าเขายกโทษให้นางแล้ว

กู้ชูหน่วนจะยิ่งได้ใจมากขึ้นและไม่เกรงกลัวใดๆ และไม่เห็นเขาในสายตา

“ในท้องของนางมีลูกของข้าอยู่ ให้หมอหลวงเข้ามาดูอาการของนาง ห้ามให้มีอะไรเกิดขึ้นกับนางโดยเด็ดขาด”

“ขอรับ……”

ชิงเฟิงเดินก้มหน้าออกไปอย่างสิ้นหวัง

เขาคิดว่า นายท่านจะลงโทษพระชายา แต่สุดท้ายกลับไม่ทำอะไร เตาเผาอันเป็นของมีค่าและหวงแหนยิ่งของนายท่านถูกทำลายไป แต่นายท่านกลับไม่สนใจเลยสักนิด

ทันใดนั้น เยี่ยจิ่งหานเรียกเขาให้หยุดลง แววตาของชิงเฟิงเปล่งประกาย เขาคิดว่าในที่สุดนายท่านก็คิดได้ว่าควรลงโทษพระชายาแล้ว

“หลายวันมานี้ที่พระชายาถูกกักบริเวณนางได้รู้สึกผิดบ้างหรือไม่?”