บทที่ 24 การเดิมพัน

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

หลังจากความมั่นคงในตัว เย่เทียนก็ออกจากบ้านไป

เขามีเงินใช้ไม่มาก จุดประสงค์ที่ออกไปในครั้งนี้คือหาเงิน

สำหรับวิธีการหาเงิน เย่เทียนได้คิดตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว

“คุณพูดว่าอะไรนะ? คุณต้องการรายชื่ออาชญากรในช่วงสิบปีที่ผ่านมาของเรา”

ที่สถานีตำรวจเจียงหนัน เจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบตำรวจมองไปที่เย่เทียนที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยใบหน้าที่งงงวย

เย่เทียนสูงเกือบ 1.8 เมตร แต่ร่างกายของเขาผอมบาง ใบหน้าซีดเล็กน้อย ไม่เหมือนคนที่รู้เรื่องการต่อสู้เลยสักนิด!

อย่างไรก็ตาม บุคคลเช่นนี้ ต้องการรายชื่ออาชญากรในสถานีตำรวจ?

ต้องรู้ว่า อาชญากรที่หลบหนีออกไปได้ ซึ่งไม่มีใครที่ไม่เคยฆ่าคน บางคนยังเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ล้วนแต่โหดร้ายมาก!

แม้แต่ตำรวจก็จับตัวนักโทษพวกนี้แทบไม่ได้ หนุ่มคนนี้มีความสามารถอะไร?

“เอารายชื่อมาให้ผมก็พอ ผมจะจับพวกมันมาให้หมดภายในสองวัน”

เย่เทียนไม่รู้ความคิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับตัวอาชญากรแต่ละรายได้ จะได้เงินรางวัลอย่างน้อย 100,000 ขึ้นไป หากสามารถจับได้สองสามคน ช่วงนี้เขาก็ไม่ต้องเครียดเรื่องเงินแล้ว

“ผมว่าคุณมาเล่นตลกที่นี่ใช่ไหม? จะไปไหนก็ไป อย่ามาหาเรื่องที่นี่”

เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งโมโหทั้งตลก คิดว่าเย่เทียนมาวุ่นวายที่นี่ โบกมือให้เขาออกไป

เย่เทียนรู้สึกหดหู่ และพูดอย่างจริงจังว่า”ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อล้อเล่น ผมเย่เทียนไม่เคยพูดเล่น!”

เมื่อคำพูดเหล่านี้ออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนที่ดูอยู่ก็หัวเราะออกมา

แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงที่อยู่ข้างๆ ก็แอบหัวเราะ รู้สึกว่าเย่เทียนตลกจริงๆ

“เอารายชื่อมาเถอะ!”

ขณะที่ทุกคนกำลังดูอย่างสนุกสนาน จู่ๆก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นที่ประตูสำนัก

ทุกคนมองตามเสียงไป เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจคนสวยในชุดตำรวจเดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยใบหน้าที่เย็นชา แต่สายตาของเธอจับจ้องไปที่เย่เทียน ซึ่งซับซ้อนเล็กน้อย

“ตำรวาจจี้ ให้เขาจริงเหรอ?”

คนที่บอกให้เย่เทียนออกไปก่อนหน้านี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

ตำรวจหญิงที่โดนเรียกว่าตำรวาจจี้ คือจี้เยียนหรันที่เคยเห็นเย่เทียน!

นับตั้งแต่การพบกันครั้งแรก จี้เยียนหรันก็เริ่มมีความสงสัยในตัวเย่เทียน ซึ่งทำให้เธอต้องตื่นแต่เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้น โดยคิดว่าเธอจะได้พบกับเย่เทียนโดยบังเอิญอีกหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เกือบสิบวันแล้ว เย่เทียนก็ไม่ได้มาวิ่งถนนเส้นนั้นอีก ซึ่งทำให้เธอรู้สึกหดหู่มาก

เมื่อกำลังจะยอมแพ้ คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกันอีกในสถานีตำรวจแห่งนี้ และได้ยินอีกฝ่ายต้องการรายชื่ออาชญากร!

เมื่อเย่เทียนเห็นจี้เยียนหรัน มุมปากก็มีรอยยิ้ม เขาแอบคิดในใจว่าโลกนี้ช่างกลมจริงๆ สาวสวยที่เคยเจอก่อนหน้านี้กลับกลายเป็นตำรวจ เห็นคนรอบข้างเคารพเธอมาก ดูเหมือนว่าตำแหน่งของเธอจะค่อนข้างสูง

“เมื่อกี้คุณบอกว่า ภายในสองวัน คุณสามารถจับอาชญากรที่หลบหนีเหล่านี้กลับมาได้งั้นเหรอ?”

ในขณะนี้ จี้เยียนหรันเดินไปตรงหน้าเย่เทียน และถามด้วยความสงสัยในสายตาของเธอ

เย่เทียนพยักหน้า “แน่นอน ตราบใดที่พวกเขายังไม่ตาย และยังไม่ได้หนีไปต่างประเทศ โดยทั่วไปแล้วล้วนสามารถจับกลับมาได้”

เมื่อเห็นท่าทางที่มั่นใจของเย่เทียน ในใจจี้เยียนหรันก็ตกตะลึง

ต้องรู้ว่า อาชญากรที่สามารถหลบหนีได้นานกว่าหลายปีนั้น ล้วนเจ้าเล่ห์ทั้งนั้น แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะมีความสามารถอยู่บ้าง ทำไมเขาจึงมั่นใจที่จะจับคนเหล่านั้นได้?

ทันใดนั้น ก็คิดถึงความเป็นไปได้ ดวงตาของจี้เยียนหรันก็เปล่งประกาย “คุณเป็นนักล่าเงินรางวัลหรือ?”

นักล่าเงินรางวัล ถือเป็นทหารรับจ้างประเภทหนึ่ง เชี่ยวชาญในการทำภารกิจที่ได้รับค่าตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงต่ำในทุกที่

แต่เมื่อเสียงของเธอลดลง ทุกคนในนั้นก็ผงะ คนที่สามารถทำงานในสถานีตำรวจ ย่อมเคยได้ยินถึงอาชีพ “นักล่าเงินรางวัล” อย่างเป็นธรรมชาติ

เพียงแต่ ทุกคนมองมาที่เย่เทียนโดยไม่รู้ตัว ด้วยร่างกายเล็กๆของเขา เขาสามารถเป็นนักล่าเงินรางวัลในตำนานได้งั้นหรือ?

เย่เทียนมองดูเธอด้วยความสนใจ และไม่ปฏิเสธ

“นี่เป็นหนึ่งในงานของผมจริงๆ”

ดวงตาที่สวยงามของจี้เยียนหรันหรี่ลงเล็กน้อย และจดจำคำพูดของเย่เทียนไว้ รับเอกสารหนึ่งชุดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“รายชื่ออาชญากรที่ต้องการตัวมากที่สุดในช่วงสิบปีที่ผ่านมาอยู่ที่นี่ แต่…ขอบอกไว่ก่อน ภายในหนึ่งสัปดาห์ หากคุณไม่สามารถจับได้สามคน ฉันจะถือว่าคุณล้อเลียนสถานีตำรวจของเรา”

“แกล้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ใช่โทษที่หนักหนา แต่อย่างน้อยก็สามารถทำให้คุณติดคุกเกือบครึ่งเดือน!”

เย่เทียนยิ้ม “แล้วถ้าผมจับได้สามคนขึ้นไปล่ะ?”

จี้เยียนหรันพูดอย่างเป็นไปโดยธรรมชาติ “ถ้าอย่างนั้นคุณก็จะได้ค่าตอบแทนตามผลงาน!”

เย่เทียนยักไหล่ “ผมสมควรได้รับเงินรางวัลอยู่แล้วใช่ไหม?”

“แล้วคุณต้องการอะไร?”

จี้เยียนหรันจ้องมองด้วยสายตาที่สวยงาม และถามเสียงดัง

ดวงตาของเย่เทียนหมุนไปมา มองดูจี้เยียนหรันแล้วหัวเราะ

“เอาแบบนี้ละกัน มาเดิมพันกัน ถ้าผมไม่สามารถจับนักโทษสามคนได้ภายในสองวัน ผมก็ยอมติดคุก ในทางตรงกันข้าม คุณต้องตอบรับเงื่อนไขของผมหนึ่งข้อ!”

“เงื่อนไขอะไร?”

เย่เทียนโน้มตัวไปข้างหน้า และพูดอย่างไม่รู้อะไรควรไม่ควร “ให้ผมจูบคุณหน่อย!”

เมื่อคำพูดเหล่านี้ออกมา ฉากนั้นก็โกลาหล!

“เหี้ย ไอ้เด็กนี่ กล้าลวนลามตำรวจจี้ของเราเหรอ?”

“จูบตำรวจจี้ของเรา? ดอกฟ้ากับหมาวัดชัดๆ!”

“ไม่มีใครไม่รู้นิสัยของตำรวจจี้ เคยมีอาชญากรคนหนึ่งที่ล้อเลียนเธอ ถูกทุบตีและบาดเจ็บสาหัสจนส่งเข้าโรงพยาบาลโดยตรง! เด็กคนนี้ หาที่ตายชัดๆ!”

ผู้คนในนั้นซุบซิบกัน แต่สายตาที่มองมาที่เย่เทียนเต็มไปด้วยความนับถือ

ไม่ว่าเย่เทียนจะมีความสามารถจริงหรือไม่ สิ่งที่เขาพูดก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเขาเหนือกว่าคนส่วนมากในสถานีตำรวจแล้ว

เห็นได้ชัดว่า จี้เยียนหรันคิดไม่ถึงว่า เย่เทียนจะพูดการเดิมพันที่ไร้สาระเช่นนี้ออกมา ดวงตาของเธอหรี่ลงและลมหายใจที่อันตรายก็วาบขึ้น

ถ้าเป็นคนอื่น เกรงว่วเธอคงจะต่อยไปด้วยหมัดแล้ว!

แต่เมื่อมองดูท่าทางที่ล้อเลียนของเย่เทียน อารมณ์ที่ดื้อรั้นของเธอก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

“ถ้าจับไม่ได้ ฉันจะทุบตีคุณจนกลายเป็นหัวหมู!”

“คุณรอไว้เถอะ”

เย่เทียนหัวเราะและออกไปพร้อมกับกองเอกสาร

หลังจากที่เย่เทียนออกไป ข่าวการเดิมพันระหว่างจี้เยียนหรันกับเขากระจายไปทั่วสถานีตำรวจเพียงเวลาหนึ่งวัน

แม้แต่พวกขโมยก็ยังได้รับข่าว

นักโทษคนหนึ่งนั่งยองๆอยู่ที่มุมห้อง และเบะปากเยาะเย้ยอย่างดูถูก

“ผมว่านะ ไอ้หนุ่มคนนั้นขี้โม้ คนที่ก่ออาชญากรรมใหญ่ มีใครบ้างที่ไม่ใช่คนเฉลียวฉลาด ถ้าเป็นผม ผมหนีออกไปต่างจังหวัดแล้ว ยังอยากจับคนได้สามคนภายในสองวัน คลั่งไคล้เงินจนบ้าไปแล้วมั้ง?”

“ฟังสิ่งที่คุณพูด คุณต้องการทำคดีใหญ่ใช่ไหม?”

ในเวลานี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้โน้มตัวไปข้างหน้าและถามอย่างดุเดือด

“อะแฮ่ม คุณ คุณพูดเกินไป ผมเป็นคนซื่อๆ ทำตามกฎหมายมาตลอด แต่เพราะความลำบากในชีวิต จึงทำได้เพียงแอบขโมยแบตเตอรี่เพื่อประทังชีวิต ไม่กล้าไปทำเรื่องฆ่าคนอะไรนั่นหรอก”

นักโทษคนนั้นพูอย่างประจบสอพลอ

สีหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจดูดีขึ้นเล็กน้อย ส่งเสียงอย่างหนัก “ทำตัวดีๆ!”

“ครับๆ!”

นักโทษพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่กล้าสร้างปัญหา

“หัวหน้าจาง ผู้ชายคนนั้นกลับมาแล้ว!”

ในขณะนี้ มีคนรีบเข้ามาจากข้างนอก

“กลับมาแล้ว? เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”

เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น พวกเขาก็ดึงสติกลับมาและมองออกไปข้างนอกโดยไม่รู้ตัว

ทันใดนั้น ทุกคนในที่เกิดเหตุก็ตกตะลึง แข็งทื่อดั่งหุ่นไก่ ราวกับว่าเห็นผี มองดูฉากอันเหลือเชื่อตรงหน้าพวกเขา!