โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.284 – ซุ่มโจมตี

 

วันต่อมา แน่นอนว่าฉินเฟิงไม่คิดหยุดอยู่เฉยๆ เขาเตรียมตัวตั้งแต่เช้า

 

เพราะวันนี้ คือวันที่สุสานเทพสงครามจะเปิดขึ้น

 

สุสานเทพสงครามไม่สมควรจะพลาดด้วยประการใดๆทั้งปวง แม้ระยะเวลาเดินทางจากเมืองนุ่ยเหมิงจะไม่นาน แต่สำหรับฉินเฟิงเกรงว่ากว่าจะไปถึงมันคงไม่ใช่เรื่องง่าย เขาพร้อมแล้วที่จะเหยียบย่ำไปบนหนทางที่เต็มไปด้วยเลือด!

 

ฉินเฟิงรับประทานอาหารในห้อง เสร็จแล้วก็พาเสี่ยวไป๋ลงไปชั้นล่าง เพื่อเช็คเอาท์โรงแรม

 

ในตอนนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็มาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าเขา

 

อีกฝ่ายสวมชุดต่อสู้ที่ดูโดดเด่นสะดุดตา บนหน้าอกติดโลโก้เลเวล E5

 

ดูจากการแต่งตัวแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่นักฆ่า

 

ที่สำคัญที่สุดก็คือ เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ มันคือชุดต่อสู้ของหน่วยลาดตระเวนประจำเมืองนุ่ยเหมิง

 

“สวัสดีนักล่าเงินรางวัลบลัดฮันเตอร์ ” ชายคนนั้นโบกมือทักทายฉินเฟิง แนะนำตัวเล็กๆน้อยๆ

 

“ฉันชื่อว่ารุ่ยเล่ย เป็นหัวหน้าสาขาที่ 5 ของหน่วยลาดตระเวนประจำเมืองนุ่ยเหมิง”

 

ฉินเฟิงเลิกคิ้ว อีกฝ่ายเห็นเขาไม่พูดก็อธิบายต่อ “ในครั้งนี้ ฉันถูกสั่งมาให้ช่วยคุ้มครองความปลอดภัยของคุณ คุณก็รู้ ว่าทางตระกูลซงได้ออกคำสั่งฆ่าคุณ ตอนนี้มีนักฆ่ามากมายอยู่ในเมือง ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือกระทบต่อความมั่นคงภายในเมือง ขอความกรุณาอนุญาตให้ทางเราตามอารักษ์ขาคุณด้วย”

 

ฉินเฟิงมองอีกฝ่ายแว่บหนึ่ง “ถึงจะบอกว่าขออนุญาตฉัน แต่สุดท้ายฉันจะตกลงหรือไม่ก็คงประกบตามอยู่ดี แบบนี้มันไม่ยุติธรรมไปหน่อยหรือ?”

 

รุ่ยเล่ยไม่กล้าคุกคามฉินเฟิง เพราะอีกฝ่ายคือการดำรงอยู่ที่กระทั่งผู้ใช้วรยุทธเลเวล D ก็ยังสามารถลงมือสังหารได้

 

ตอนนี้มีผู้คนมากมายกำลังคาดเดาสถานะของฉินเฟิง

 

แต่ไม่ว่าสถานะของเขาจะคืออะไร รุ่ยเล่ยย่อมไม่ใช่คู่ต่อกรอย่างแน่นอน!

 

“มิสเตอร์บลัดฮันเตอร์ ถึงภารกิจของฉันจะสร้างปัญหากวนใจให้คุณ แต่ทั้งหมดที่ทำไปก็เพื่อปกป้องคุณ”

 

ฉินเฟิงหัวเราะคำหนึ่ง “ฉันบอกตอนไหนว่าต้องการให้คุณปกป้อง?”

 

รุ่ยเล่ยทราบดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาให้เหตุผล “แต่อย่างน้อยฉันก็ช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่นล่วงเกินคุณได้ชั่วคราว ได้โปรดให้ความร่วมมือกับทางเรา ติดตามอารักษ์ขาจนกว่าจะออกจากเมืองนุ่ยเหมิงด้วยเถอะ”

 

ฉินเฟิงโบกมือ รถสายฟ้าสีเงินปรากฏขึ้นข้างกายเขา

 

“งั้นคงไม่จำเป็นแล้ว เพราะฉันกำลังจะออกจากเมืองตอนนี้”

 

รุ่ยเล่ยไม่คาดคิดเลยว่าฉินเฟิงจะตัดสินใจออกเดินทางกระทันหัน แต่อย่างไรนี่ก็เป็นข่าวดีสำหรับพวกเขา

 

“มิสเตอร์ เช่นนั้นฉันจะไปส่งคุณ”

 

“ตามสบาย”

 

ฉินเฟิงสตาร์ทรถ และขับออกไป รถของหน่วยลาดตระเวนหลายสิบคันขับล้อมรถของฉินเฟิงทันทีเพื่อป้องกันความปลอดภัยแก่เขา

 

ผู้คนที่กำลังลอบสังเกตฉินเฟิงจากในมุมมืด เมื่อเห็นฉากดังกล่าวก็พากันขบกรามแน่นทันที

 

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกหน่วยลาดตระเวนถึงติดตามเขา?”

 

“เป็นรุ่ยเล่ย? เขาคิดจะทำอะไรกัน อยากกลายเป็นศพลงไปนอนจมคลองเน่ารึไง?”

 

“หาข้อมูลกันก่อนเถอะ”

 

เหล่านักฆ่า เริ่มติดต่อหน่วยข่าวกรองของตนเอง วันนี้มีรถนับสิบคันประกบติดฉินเฟิง ภายในรวมแล้วน่าจะมีผู้คนมากกว่า 40 คน การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เช่นนี้ ไม่อาจเล็ดลอดสายสืบของพวกเขาไปได้

 

ไม่นาน พวกเขาก็ทราบข่าว ว่าจริงๆแล้วฉินเฟิงกำลังออกจากเมือง รุ่ยเล่ยเพียงทำหน้าที่คุ้มกัน

 

“รอให้ออกจากเมืองนุ่ยเหมิงก่อน ถึงเวลาก็ฆ่ามันซะ”

 

“ไอ้เจ้าบลัดฮันเตอร์นี่มันมั่นใจในฝีมือตัวเองซะจริง เวลาอย่างนี้ยังกล้าออกจากเมือง”

 

“หึ ช่างหยิ่งผยอง เช่นนั้นเตรียมมอบหัวให้ข้าไปขึ้นรางวัลเถอะ!”

 

เหล่านักฆ่าคิดกันไปต่างๆนาๆ แต่ทั้งหมดก็เร่งออกติดตามอย่างรวดเร็ว

 

เนื่องจากฉินเฟิงไม่ได้ใช้โหมดล่องเวหา การเดินทางเลยเป็นไปอย่างเชื่องช้า ส่งผลให้กลุ่มนักฆ่าสามารถไล่ตามเขาได้ทัน

 

แต่ฉินเฟิงก็ไม่สนใจ เพราะคนเหล่านี้ที่ต้องการชีวิตเขา แม้จะไม่เคยพบเจอกันมาก่อน แต่หากเลือกตั้งตัวเป็นศัตรูกับตน ฉินเฟิงก็ไม่คิดไว้หน้าใดๆ

 

รถสายฟ้าสีเงินขับออกจากเมืองนุ่ยเหมิงอย่างราบรื่น รถหน่วยลาดตระเวนคันหน้าสุดที่ตามหลังฉินเฟิงตบไฟส่งสัญญาณให้เขาหยุดรถ

 

รุ่ยเล่ยเปิดประตูเดินลงมา ตรงเข้าหาฉินเฟิง “มิสเตอร์บลัดฮันเตอร์ พวกเราส่งคุณได้เพียงเท่านี้”

 

ฉินเฟิงหัวเราะหยัน ไม่แม้กระทั่งลดกระจกลง เปิดใช้งานโหมดล่องเวหาโดยตรง บึ่งออกไปทันที ทิ้งไอเสียกลุ่มหนึ่งไว้กับรุ่ยเล่ย

 

“เฮ้อ ขอให้โชคดีแล้วกัน … ”

 

เมืองนุ่ยเหมิงช่วยได้มากที่สุดเพียงเท่านี้ ก็แล้วใครเล่าใช้ให้ฉินเฟิงไปยั่วยุตระกูลผู้ใช้วรยุทธโบราณ!

 

จากนี้ไปไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถช่วยฉินเฟิงได้อีกแล้ว!

 

ฉินเฟิงขับสายฟ้าสีเงิน ค่อยๆหายลับไปจากแนวสายตาของรุ่ยเล่ย ออกจากอาณาเขตคุ้มกันของเมืองนุ่ยเหมิงไป

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ถึง 5 นาทีที่ออกนอกเขต ฉินเฟิงก็รู้สึกได้ถึงสองพลังสมาธิล็อคลงบนร่างเขา

 

วูซซซ

 

วูซซซ!

 

สองกระสุนปืนใหญ่สีเหลือง ถูกยิงเข้าหาฉินเฟิง

 

“เหอะ!”

 

ฉินเฟิงหัวเราะเย็นชา วาดมือออกและเก็บสายฟ้าสีเงินเข้าสู่อุปกรณ์รูนมิติ เหลือเพียงคนที่ยืนหยัดอยู่บนถนน

 

สองกระสุนปืนใหญ่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

 

โดยปกติแล้วฉินเฟิงมักจะใช้พลังสมาธิสะท้อนกระสุนกลับไป

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาอยู่ในฐานะผู้ใช้วรยุทธโบราณ เป็นการดำรงอยู่ที่มีพลังป้องกันสูงที่สุดในบรรดาอาชีพทั้งหมด และยังมีความว่องไวมากที่สุด เมื่อกระสุนใกล้เข้ามา กำลังภายในของฉินเฟิงก็แพร่กระจายไปทั้งตัว ก่อเป็นโล่กำลังภายใน

 

นี่คือรูปแบบปราณกำลังภายในที่มีเฉพาะผู้ที่อยู่ในเลเวล D ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะสามารถปลดปล่อยออกมาได้

 

แต่สำหรับฉินเฟิงที่ครอบครองกำลังภายในมหาศาลยิ่งกว่าคนในเลเวลเดียวกันหลายเท่า มันจึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร

 

ยิ่งไปกว่านั้น ฉินเฟิงยังเห็นว่ากระสุนที่ตกลงมา จู่ๆก็มีการชะลอความเร็วลงอย่างกระทันหัน

 

บรึ้ม!

 

สองกระสุนตกลงกับพื้น

 

กรวดทรายจากพื้นสาดกระเซ็น ปะทะเข้ากับปราณกำลังภายในของฉินเฟิง ก่อตัวเป็นคลื่นกระเพื่อมจางๆ แต่แรงระเบิดไม่อาจเจาะเข้ามาได้ เสื้อผ้าของฉินเฟิงไม่สกปรกแม้แต่น้อย

 

“อย่ามัวแต่ใช้วิธีสกปรกแบบนี้อยู่เลย โผล่หัวออกมาซะดีๆ!”

 

ฉินเฟิงอัดฉีดกำลังภายในเข้าไปในเสียง ก้องกังวานไกลออกไป

 

ทว่าคนที่ซุ่มโจมตีกลับยังไม่ปรากฏตัวออกมา

 

เพราะพวกเขาต่างกำลังเฝ้ารอและรับชม

 

ดูเหมือนว่าทุกคนจะคิดเหมือนกัน ว่าสมควรเฝ้ารอโอกาสเหมาะสมที่จะกำจัดฉินเฟิง ไม่ว่าหน้าไหนก็อยากเป็นคนที่ได้รับเหยื่อ แต่ไม่มีใครยินยอมหว่านแหออกไปหยั่งเชิง

 

อย่างไรก็ตาม คนอย่างฉินเฟิงมีหรือจะหยุดนิ่งรอคอยพวกเขาอยู่เฉยๆ กำลังภายในถูกถ่ายเทลงไปที่เท้า มุ่งตรงไปยังทิศทางหนึ่ง

 

ทุกย่างก้าวของเขามิได้อยู่ในท่วงท่าวิ่ง มันเหมือนกับกำลังเดิน แต่เป็นการเดินที่ไม่เชื่องช้าเลย

 

คนแรกที่ซุ่มโจมตี เมื่อเห็นฉินเฟิงเคลื่อนไหว ตรงมายังทิศทางเขา ก็เริ่มกังวลขึ้นมา

 

ก่อนหน้านี้ พวกเขาเพียงจงใจล็อคพลังสมาธิและยิงกระสุนออกไปเพื่อขัดขวางฉินเฟิง ไม่ได้ต้องการให้เขาได้รับบาดเจ็บ แค่ต้องการหยุดรถล่องเวหาเท่านั้น ไม่ได้คิดเผชิญหน้ากับฉินเฟิงตรงๆแต่อย่างใด

 

และตอนนี้ก็บรรลุเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่นึกเลย ว่าฉินเฟิงจะตระหนักถึงตำแหน่งที่ยิงไป และกำลังตรงเข้ามา

 

หลายคนเริ่มบังเกิดความคิด ว่าถ้าในระหว่างที่ฉินเฟิงบุกเข้ามา มีคนอื่นๆชิงตัดหน้าสังหารเขาได้เสียก่อนเล่า มันจะเกิดอะไรขึ้น? นั่นไม่เท่ากับว่าตนสูญเสียเงินไปหรอกหรือ?

 

ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว คงต้องลงมือสินะ อย่างน้อยก็มีส่วนร่วมในการต่อสู้ เอาไว้ค่อยตกลงเรื่องแบ่งเงินกันทีหลังก็ได้ แต่หากไม่ทำก็จะไม่ได้อะไรเลย

 

นั่นเพราะ เงินกว่า 3,000 ล้านเป็นจำนวนที่ล่อตาล่อใจมากเกินไป!’

 

ยกตัวอย่างเช่น วัตถุดิบของจระเข้มังกรที่ฉินเฟิงได้มา จะมีราคาราวๆ 3,000 ล้าน ยิ่งไปกว่านั้นหนังของมันยังสามารถผลิตชุดต่อสู้ได้ กล่าวโดยสังเขปก็คือ เงินจำนวน 3,000 ล้านนับว่าเพียงพอที่จะซื้ออุปกรณ์ระดับราชันย์ชุดหนึ่ง

 

เพียงแต่ว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความสามารถในการหารายได้มหาศาลเหมือนกับฉินเฟิง ภารกิจต่อสู้เสี่ยงชีวิตภารกิจเดียว อาจได้รับเงินแค่2 – 3 ร้อยล้านเท่านั้น นี่คือรายได้ปกติของผู้ใช้พลังเลเวล E

 

ดังนั้นฉินเฟิงในสายตาของพวกเขา จึงไม่ได้ถูกมองในฐานะมนุษย์อีกต่อไป หากแต่เป็นถุงเงินถุงทอง!

 

“ฆ่ามัน!”

 

“มอบชีวิตมา!”

 

“ทุกคนร่วมมือกัน!”

 

เหล่าผู้คนที่หลบซ่อนอยู่ในที่มืด ผุดลุกขึ้นทันใด พุ่งเข้าชาร์จฉินเฟิง

 

ฉินเฟิงหัวเราะหยัน

 

คนแส่หาที่ตาย ไม่คิดเลยว่าจะมีเยอะถึงขนาดนี้!