ตอนที่ 204 ค่ารักษาพยาบาล

ลงจากเครื่องบินมาแล้ว เฉาหยวนเต๋อก็มารับพวกของหยางโป ได้ยินว่าหยางโปซื้อเครื่องเคลือบเกอเหยาในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ เฉาหยวนเต๋อ ตื่นเต้นที่จะติดต่อสถาบันวิจัยSICCASทันที เพื่อขอให้อีกฝ่ายให้หยางโปเอาเครื่องเคลือบเกอเหยาเข้าไปทำการวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมี

หยางโปถือกล่องอยู่ ในกล่องเก็บเครื่องเคลือบเกอเหยาทั้งสองใบโดยเฉพาะ

เฉาหยวนเต๋อ เขาจ้องมองมาชั่วขณะหนึ่ง ยังไม่อยากไป “รถสะเทือนมาก อย่าให้ตกนะ รอจนกว่าจะถึงที่แล้วค่อยพูด”

หยางโปหัวเราะอย่างไม่ได้ใส่ใจ แค่รักษาสมบัตินี้ ไม่ต้องระวังมากขนาดนั้นเลย

 

เฉาหยวนเต๋อดูตื่นเต้นเล็กน้อย “ถ้าเป็นเครื่องเคลือบเกอเหยาของจริงอาจจะเป็นไปได้ว่าจะเปิดเผยความลึกลับของเตาเผาเกอเหยาได้!”

หยางโปยังไม่มีเวลาพูดคุย เสียงมือถือก็ดังขึ้นมา เขามองดู พบว่าเป็นหมายเลขนั้นโทรมาจากเยอรมนี

รับโทรศัพท์แล้ว เสียงของฝ่ายตรงข้ามคือเสียงของหงอวี้ “คุณหยางโปตอนนี้คุณยังอยู่ที่เยอรมนีไหม?”

หยางโปค่อนข้างประหลาดใจ คิดว่าหงอวี้ฝั่งนั้นต้องมีปัญหาอะไร เลยเอ่ยปากถาม “ผมกลับประเทศแล้ว ฝั่งนั้นคุณไม่มีอะไรใช่ไหม?”

“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร” หงอวี้รีบกล่าว “แค่แม่ของผมอยากจะขอบคุณอีกครั้ง อยากจะเชิญคุณมาทานอาหารสักมื้อ”

 

“ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นเลย จริงสิ คุณออกจากโรงพยาบาลแล้วหรือยัง?” หยางโปถาม

“ผมออกจากโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน นี่จะขยับยังขยับไม่ได้ รู้สึกเหมือนมีสนิมเกาะอยู่เลย”หงอวี้ตอบ

“ฟื้นฟูร่างกายให้ดี มีเรื่องอะไรก็ให้ไปปรึกษาแพทย์ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้หรอก” หยางโปกล่าว

“อืม” หงอวี้เอ่ย จากนั้นจึงถาม “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”

“ผมอยู่จิ่งเฉิง” หยางโปตอบ

“โอเค งั้นผมไม่รบกวนแล้ว”

 

กล่าวอำลาคำหนึ่งแล้วหยางโปจึงวางสาย เขามักจะรู้สึกราวกับว่าอีกฝ่ายมีอะไรอยากจะพูดแต่ไม่กล้าพูด แต่เขาไม่ว่างจริงๆ และก็ไม่ทันได้คิดมากความ

พอถึงห้องวิจัยSICCASแล้ว นักวิจัยได้นำเอาส่วนเล็กๆ จากฐานเครื่องเคลือบเกอเหยาทรงดอกทานตะวัน ไม่นานก็ส่งไปที่ห้องแล็บ เฉาหยวนเต๋อเลยได้รับโอกาสสังเกตมันอย่างใกล้ชิด

พลิกดูอยู่สักพัก ในที่สุดเฉาหยวนเต๋อก็ลุกขึ้นยืน ถอนหายใจแล้วกล่าว “เป็นของที่ดีจริงๆ เส้นไหมทองและสายใยเหล็ก ล้วนมีฟองอากาศในการเคลือบ”

เครื่องเคลือบเกอเหยามักจะเคลือบหนามาก ความหนาที่เท่ากันของยางและจุดที่หนาที่สุด ฟองอากาศในการเคลือบ ราวกับเม็ดไข่มุก ท่วงทำนองความงามเหมือนกับ “ไข่มุกฟองอากาศรวมกลุ่มกัน”

 

หยางโปหัวเราะ พยักหน้าแล้วกล่าว “ความงามที่แท้จริงของเครื่องเคลือบเกอเหยา มันอยู่ในลักษณะเหล่านี้”

เฉาหยวนเต๋อตื่นเต้นนิดหน่อย แม้ว่าจะพูดจากการประเมินตามที่เห็น ใบนี้เป็นเครื่องเคลือบเกอเหยาราชวงศ์ซ่ง แต่ในปัจจุบันมีเครื่องเคลือบเกอเหยาราชวงศ์ซ่งเพียงใบเดียว ที่เหลือคือเครื่องเคลือบเกอเหยาของเมืองหลงฉวนราชวงศ์ซ่งใต้ ถ้าหากได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นของจริงแล้วมันจะยิ่งใหญ่มาก

หยางโปอยู่ในอารมณ์สงบ เพราะมีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถมั่นใจได้ในตอนนี้ว่าเครื่องเคลือบเกอเหยาทรงดอกทานตะวันใบนี้ มันถูกสร้างขึ้นจริงในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ นึกถึงผลลัพธ์ที่เป็นไปได้แล้วเขาก็อดมีความสุขไม่ได้

เวลานั้นเงียบไปครู่หนึ่ง ทุกคนกำลังรอคอยอย่างเงียบๆ

 

แม่หยางโทรติดต่อตลอด ในที่สุดญาติที่ลี่ซุ่ยก็เอาเงินมาให้สองหมื่นหยวน แล้วเอาไปจ่าย ในเวลานี้การปฐมพยาบาลก็เสร็จลงแล้ว

พบว่าหมอเดินออกมา แม่รีบวิ่งเข้าไป “คุณหมอ เขาเป็นยังไงบ้างคะ?”

“คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ ดูจากรอยแผลเป็นที่หน้าท้อง เขาผ่านการผ่าตัดมายังไม่นานใช่ไหมครับ?” หมอถาม

แม่หยางพยักหน้า “ใช่ค่ะ ยังไม่นานมาก”

“คนไข้เป็นโรคหัวใจ คราวนี้มันเกิดขึ้นโดยฉับพลันเพราะมาจากการช็อกหรือมีการกระทบกระเทือนทางจิตใจ ต่อไปต้องระมัดระวัง ไม่ควรจะให้ผู้ป่วยต้องกระทบกระเทือนอีก”

 

แม่รีบพยักหน้า โค้งคำนับแล้วกล่าว “ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณคุณหมอจริงๆ ค่ะ”

ส่งคุณหมอแล้ว แม่นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เธอคิดไม่ถึงเลยว่าพ่อหยางที่พึ่งจะหายจากมะเร็งตับ ตอนนี้ยังมาเป็นโรคหัวใจอีก น้าที่นำเงินมาช่วยเหลือแม่เข้ามาปลอบใจ

“สองพี่น้อง หยางหล่างกับหยางโปล่ะ?” พบว่าการปลอบใจนั้นไม่ได้มีผลมากนัก ที่น้านั้นถามขึ้นมา

แม่ส่ายหน้า “หยางหล่างไปข้างนอก ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่ หยางโปก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน?”

“อีกคนไปข้างนอก อีกคนก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน?” น้ารู้สึกประหลาดใจ แล้วถามด้วยความโกธร “พ่อของพวกเขาเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ถึงแม้ว่าอยู่ข้างนอก ก็ต้องรีบกลับมา อีกคนก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน? เขาคงไม่สามารถไปถึงดาวอังคารใช่ไหม?”

 

พูดจบ น้าก็หยิบมือถือออกมา โทรไปหาหยางหล่าง กล่าวพึมพำ “โทรหาพี่ใหญ่ก่อน ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะกล้าไม่กลับมา?”

โทรไปไม่นานก็โทรติด น้าถามด้วยความร้อนใจ “หยางหล่าง แกอยู่ที่ไหน? พ่อของแกตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน แกรู้หรือเปล่า?”

หยางหล่างพึ่งจะลงมาจากการเดินบนกำแพงเมืองจีน รู้สึกอ่อนเพลีย พอได้ยินอย่างนี้แล้วก็ตกตะลึง “น้า น้าล้อกันเล่นใช่ไหม? พ่อแข็งแรงจะตาย ตอนที่ผมออกมา เขาก็ยังดีๆอยู่เลย แล้วจะไปอยู่ที่ห้องICUได้ยังไง?”

“เลอะเทอะ! พ่อแกพึ่งผ่าตัดได้ไม่นาน ตอนนี้ร่างกายอ่อนแอมาก ฉันบอกให้เขาเข้าห้องICUไป จะยังโกหกแกได้อยู่อีกรึไง? ไม่ว่าตอนนี้แกจะอยู่ที่ไหน รีบกลับมาหาฉันที่นี่ทันที!” น้ากล่าวด้วยความโมโห

 

หยางหล่างรู้สึกตกใจจนตัวสั่น พึมพำอยู่ในใจ แม่เคยโทรมาแล้ว เขาไม่ได้จริงจังกับมัน ในเวลานี้เขากังวลใจ เพราะว่าเขานั้นรู้ดีว่าพ่อคือที่พึ่งทางการเงินของเขา หากพ่อเกิดเรื่องจริงๆ แล้วในอนาคตเขาจะใช้ชีวิตยังไง?

“ได้ ผมจะรีบกลับเดี๋ยวนี้เลย!” หยางหล่างกล่าว

หลานเย่วยืนอยู่อีกฝั่ง ได้ยินอีกฝ่ายอย่างชัดเจน เห็นหยางหล่างตอบตกลง เธอเอ่ยปากกล่าว “ตาแก่บ้านคุณอยู่โรงพยาบาลยังไม่ตายเหรอ?”

“คุณพูดดีๆ หน่อย!” หยางหล่างกล่าวอย่างไม่พอใจ

“โอ๊ย!” หลานเย่วจ้องมองหยางหล่าง เธอเลิกคิ้วงามข้างหนึ่ง “นี่ใครจะพูดก่อน? ตอนอยู่บนเตียงก็ยอมจำนนทุกอย่าง ตอนนี้กล้าตะโกนใส่ฉันแล้ว?”

 

“หยางหล่าง คุณจำไว้นะ ฉันไม่ใช่ว่าจะโกรธได้ง่ายๆ ถ้าคุณกล้าที่จะยั่วโมโหฉัน ระวังฉันจะทำให้คุณเจ็บตัว! “

พูดจบ หลานเย่วจ้องมองหยางหล่างด้วยสายตาอาฆาตแล้วไม่ได้พูดอะไร

หยางหล่างไม่มีทางเลือก “เอาล่ะๆ ผมผิดไปแล้ว โอเคไหม? ตอนนี้พวกเราเรียกแท็กซี่ไปที่สถานีขนส่งกัน”

“หยางหล่าง คุณจะรีบกลับไปเหรอ?” หลานเย่วถาม

หยางหล่างเงยหน้าขึ้นมอง “เขาอยู่ในห้องICU จะไม่ให้ผมกังวลได้ยังไง? ก่อนนี้คุณบอกว่าจะออกไปเที่ยว ได้ พวกเราก็ออกไปแล้ว! คุณบอกว่าคุณสามารถขายบ้านได้ พวกเราก็ขายบ้านแล้ว! ผมเชื่อฟังคุณทุกอย่าง ตอนนี้ฟังผมอีกสักครั้งจะเป็นไรไป?”

 

หลานเย่วจ้องมองหยางหล่าง “งั้นคุณรู้สึกว่าฉันสำคัญตัวเองผิดไปใช่ไหม?”

“ผมไม่ได้พูดว่าอย่างนั้นเลย!” หยางหล่าง กล่าวแล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

หลานเย่วใบหน้าเต็มไปด้วยความโกธร “คุณไม่มีสมองเลยสักนิด? คุณรีบกลับไปแล้วจะทำอะไรได้ในเวลานี้? แม่ของคุณไม่โทรไปหาน้องชายของคุณเหรอ? เขากระเป๋าหนักขนาดนั้น ในเวลาแบบนี้ ค่ารักษาพยาบาลไม่ได้ถูกหักออกไปก่อนเหรอ? คุณจะรีบกลับไปจ่ายบิลหรือยังไง!”

ได้ยินแบบนั้นหยางหล่างก็นิ่งอึ้งไปทันที