ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 289

ในขณะที่ลิเลียนวางแผนเพื่อให้เขายืมเงินอีกแปดแสนดอลลาร์เพื่อการใช้จ่ายของตัวเธอเอง ก็เกิดเหตุการณ์ครั้งใหญ่ขึ้นที่สนามบินนิอัมมี่

มีเที่ยวบินไม่มากมาลงสนามบินนิอัมมี่ และส่วนใหญ่มาจากจังหวัดใหญ่ ๆ

ในขณะนั้นชายผู้มีเสน่ห์ในชุดสูททรงสลิม ผมของเขาถูกเซ็ตไว้อย่างดีกำลังยืนอยู่ที่ประตูผู้โดยสารขาเข้า เขาเอามือไพล่หลัง

เขาไม่เล่นโทรศัพท์ แต่ถือช่อดอกกุหลาบโดยเอามือไพล่หลัง ดูท่าทางเย็นชา

สาว ๆ หลายคนที่เดินผ่านไปมาก็อดไม่ได้ที่จะส่งสายตาเป็นประกาวเมื่อเห็นเขา

ทุกวันนี้หายากเหลือเกินที่จะเห็นผู้ชายไม่เล่นโทรศัพท์ขณะรอใครบางคนที่ประตูผู้โดยสารขาเข้า ท่าทางนั้นทำให้สาว ๆ หลายคนหลงเสน่ห์

หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนเดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า

มีบอดี้การ์ดแปดคนในชุดสูทสีดำเดินนำหน้าเคลียร์ทาง หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งวัยห้าสิบปีเดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า เธอมีรูปร่างที่สมบูรณ์และดูร่ำรวย แต่เธอก็ยังถือว่าค่อนข้างผอม

แม้ว่าเธอจะเข้าสู่วัยชรา แต่เธอก็ยังคงแต่งหน้าหนาเตอะ ทั้งยังสวมใส่เครื่องประดัยหรูหราใหม่ประจำฤดูกาลทั้งที่มีและลำคอ

เพียงแค่การเดินของเธอก็ดูมีอำนาจและมีอิทธิพล ออร่าของเธอแข็งแกร่งมากจนคนอื่น ๆ ไม่กล้าเข้าใกล้เธอ

เธอเป็นผู้หญิงพิเศษที่มีความสามารถที่น่าทึ่งในตระกูลยอร์ก รุ่นที่สองจากเซาท์ไลท์ เธอคือ ธีอา ยอร์ก

เธอสูญเสียสามีในวัยกลางคน นอกจากนี้เธอยังไม่มีลูก ดังนั้นในตระกูลยอร์กจึงไม่มีใครชื่นชอบเธอ

อย่างไรก็ตามเธอค่อนข้างทำได้ดีในด้านการทำธุรกิจ ตัวเธอเองได้รับเงินเป็นจำนวนมากโดยอาศัยสถานะของคนในตระกูลยอร์กในเซาท์ไลท์ จากนั้นเธอก็ได้รับสิทธิ์ในการมีปากมีเสียง

ในยอร์กกลับคืนมา

แน่นอนว่าเธอไม่ใช่คนที่ได้รับความนิยมในยอร์ก แต่คนแบบนั้นน่ากลัวมากสำหรับคนอื่น ๆ ในเซาท์ไลท์

ในขณะนั้นเธอมาที่นิอัมมี่โดยมีจุดมุ่งหมายเพียงอย่างเดียวในใจของเธอ เธอมาที่นี่เพื่อเห็นแก่คนรักของเธอ ไวแอตต์ จอห์นสัน

ก่อนหน้านี้ไวแอตต์เป็นคนที่ไปต่างจังหวัดเพื่อปรนนิบัติรับใช้เธอเสมอ แต่เมื่อไม่นานมานี้ ไวแอตต์ได้ขอร้องเธอหลายครั้งเพื่อต้องการความช่วยเหลือจากเธอ เป็นเพราะเขาถูกรังแกอย่างโหดร้าย

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ในที่สุดธีอาก็มาที่นิอัมมี่ นั่นเพราะเธอค่อนข้างจะชื่นชอบเขา

เมื่อเห็นเธอออกจากประตู ไวแอตต์ซึ่งถือดอกไม้อยู่ข้างหลังเขาก็แววตาเปล่งประกาย เขาพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจสีหน้าแปลก ๆ ของทุกคนรอบตัวเขา จากนั้นเขาก็ยื่นดอกไม้ให้ธีอาและพูดว่า “ที่รักในที่สุดคุณก็มาถึงที่นี่ คุณสวยงามมาก ผมคิดถึงคุณมากเหลือเกิน!”

เด็กสาวที่ซ่อนตัวอยู่ที่มุมอาคารและดูฉากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นระริก พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะได้เห็นชายหนุ่มที่ดูร่ำรวยและหล่อเหลาจะเป็นสามีเก็บลับ ๆ มีผู้หญิงคอยเลี้ยงดูอยู่

ธีอายิ้มอย่างมีความสุขและรับดอกไม้จากเขา แม้ว่านั่นจะไม่ได้มีความหมายกับเธอมากนัก แต่อย่างน้อยก็บ่งบอกว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า เขายังคงยอมจำนนต่อความปรารถนาของเธอในตอนนี้

“ที่รัก คุณรู้ไหมว่าผมรอคุณมาตลอด นิอัมมี่ช่างเป็นที่ ๆ น่าสมเพช คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้มีคนร้ายทุกประเภทที่นี่ ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยผม ผมถูกคนอื่นรังแกจนเกือบตาย!” ไวแอตต์พูดราวกับว่าเขากำลังหวาดกลัวอย่างมาก

ธีอาดูเศร้าใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอยื่นมือออกไปลูบใบหน้าของเขา “ไม่ต้องกังวล ฉันมาครั้งนี้เพื่อเป็นคอยสนับสนุนคุณ ตราบใดที่คืนนี้คุณจะปรนนิบัติฉันอย่างดี”

เมื่อได้ยินแบบนั้นไวแอตต์ก็มีอาการหนาวสั่นและรู้สึกเวียนหัว แต่เขายังคงฝืนยิ้มและพูดว่า “ที่รัก ผมจองโต๊ะที่ร้านอาหารเดอะเวสเทิร์นที่โรงแรมแกรนด์นิอัมมี่ไว้ เราไปทานอาหารที่นั่นกันก่อนเถอะ”

“ไม่จำเป็น…” ธีอายิ้ม “เราไม่ได้เจอกันมาครึ่งเดือนแล้ว ฉันคิดถึงคุณ ไปที่วิลล่าของฉันเลยดีกว่า”

คนอย่างธีอามีทรัพย์สินเป็นของตัวเองในเซาท์ไลท์ ตอนนี้เธอรีบมุ่งหน้าไปที่วิลล่า เพราะความต้องการของเธอที่มีมากล้นต่อไวแอตต์

ไวแอตต์ไม่ถูกใจ แต่เขาไม่กล้าปฏิเสธเธอ เขารู้สึกหมดหวัง จากนั้นเขาก็พูดว่า “ที่รัก ผมไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างดีเมื่อไม่มีคุณอยู่เคียงข้าง ผมไม่สามารถนอนหลับหรือกินอะไรได้เลย แต่ผมเป็นผู้ชายที่ต้องรับผิดชอบงานและธุรกิจของตัวเอง และผมไม่สามารถยอมแพ้เพื่อมาเจอคุณ …

“ที่รัก เมื่อผมกำจัดคนที่ต้องการจัดการ และได้ทำทุกอย่างที่ต้องการแล้ว ผมจะไปอยู่กับคุณ เมื่อถึงเวลานั้นเราจะเป็นคู่รักที่น่ารักที่สุด…” ไวแอตต์ดูมีความหวังเหมือนกับความฝันที่สวยงามอยู่ตรงหน้าเขา

“ฉันรู้ เราจะเริ่มจัดการวันพรุ่งนี้ ฉันจะช่วยให้คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการ คุณจะสามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการในนิอัมมี่ ทุกอย่างในแบบของคุณเอง…” ธีอาส่งรอยยิ้มเคลือแคลง

“ที่รัก มันคืออะไร” ไวแอตต์ถามอย่างตื่นเต้น

“ยอร์ก เอ็นเตอร์ไพรส์ …” ธีอาพูดออกมาเบา ๆ แต่ตอนนี้เธอกำลังสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ในความเงียบ