บทที่ 338 ของขวัญ

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 338 ของขวัญ
เดิมทีคิดว่าเผชิญหน้ากับหมัดที่แข็งแกร่งและรุนแรงอย่างนี้ของตัวเองแล้ว ฉินเทียนจะต้องหลบหนีอย่างตื่นตระหนกแน่นอน

หยวนหลางก็เตรียมทางออกสุดท้ายไว้ล่วงหน้านานแล้ว

ไม่ว่าฉินเทียนหลบไปทางไหนต่างก็จะต้องเผชิญหน้ากับทางออกสุดท้ายที่ยิ่งดุร้ายของเขา

จากนั้นด้านหลังของทางออกสุดท้ายยังมีทางออกสุดท้าย

พอลงมือจะไม่ให้โอกาสฝ่ายตรงข้ามได้หายใจอย่างเด็ดขาด นี่คือส่วนสำคัญที่พิถีพิถันของมวยแปดสุดยอด

เขาคิดไม่ถึงอย่างเด็ดขาดฉินเทียนไม่เพียงไม่หลบ ยังกล้าปะทะหมัดกับเขาอีก

หมัดของเขานี้เคยต่อยควายตัวหนึ่งตายมาแล้ว

ฉินเทียนนี่คือรนหาที่ตาย!

ในดวงตาของหยวนหลางปรากฏความภาคภูมิใจที่น่ากลัวออกมา เอาพลังที่เหลือทั้งหมดรวมไว้ที่หมัดนี้ต่อยขึ้นไป

“ปัง!”

สองหมัดปะทะกัน ในอากาศมีเสียงที่แตกร้าวของกระดูกดังขึ้นมาอย่างชัดเจน

มองเห็นหมัดของตัวเองเปลี่ยนรูปร่างอย่างทำอะไรไม่ได้ สองดวงตาของหยวนหลางเบิกตากว้างอย่างหวาดกลัว

จากนั้นการจู่โจมยังไม่ได้หยุดลง

เขารับรู้ถึงความรู้สึกที่ชัดเจน กำลังภายในผุดมาแล้วผ่านทางหมัดของฉินเทียน

ใช้พลังทำลายหมัดของเขาในเวลาเดียวกันก็เอากระดูกทั้งแขนของเขาระเบิดแตกละเอียด!

“โอ๊ย!”

เสียงร้องที่น่าเวทนาเศร้าใจมากเสียงหนึ่ง เขาทั้งคนบินออกไปแล้ว

ครั้งนี้แล้วกระทั่งสมาชิกสองคนของแก๊งมังกรต่างก็อึ้งแล้ว

พวกเขารู้พี่เทียนร้ายกาจแต่ก็คิดไม่ถึง จะร้ายกาจถึงจุดนี้

พวกเขาก็ถือว่าเป็นปรมาจารย์แต่พูดตามตรง หมัดพลังแข็งแกร่งและรุนแรงของหยวนหลางนั้นเมื่อกี้ถ้าหากเป็นพวกเขาจะต้องถอยหลบอย่างแน่นอน

คิดไม่ถึงฉินเทียนเพียงแค่ยื่นหมัดหนึ่งออกมาสบาย ๆ ก็ทำลายแขนของหยวนหลางได้เลยทันที!

“พี่ใหญ่ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

“พี่ใหญ่ คุณเป็นยังไงบ้าง!” ลูกน้องสองคนของหยวนหลางมีปฏิกิริยากลับมา กระโจนไปแล้วอย่างตื่นตระหนก

“ไสหัวไป!”

“ฉินเทียน กูจะฆ่ามึง!”

“อ๊าก ๆ ๆ ๆ!”หยวนหลางสมแล้วที่เป็นบทบาทหมาป่าหนึ่ง แขนข้างหนึ่งถูกทำลายแต่กลับกระตุ้นความดุร้ายของเขาขึ้นมาแล้ว

เขาตาแดงอยู่ร้องเสียงดัง กระโจนหันไปทางฉินเทียน

แขนอีกข้างหนึ่งควงขึ้นมา หมัดถึงแก่ชีวิตหนึ่งหันต่อยไปทางฉินเทียนอีกครั้ง

หมัดนี้คิดไม่ถึงจะยิ่งน่ากลัวกว่าหมัดนั่นเมื่อกี้!

ฉินเทียนฮึอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง ยังคงทำตามวิธีที่ใช้งาน ปะทะหมัดหนึ่งกับหยวนหลางอีกครั้งแล้ว

ฟิ้ว!

หยวนหลางบินออกจากป่าเลยทันที ตกกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง พ่นเลือดสดออกมาแล้วสลบไป

ครั้งนี้สองแขนถูกทำลายแล้ว เขากลายเป็นคนไร้ประโยชน์คนหนึ่งแล้วจริง ๆ

“ไม่มีความน่าสนใจ”

“เดิมทียังคิดว่านายจะมีความสามารถ คิดไม่ถึงจะอ่อนแออย่างนี้”

ฉินเทียนมีใบหน้าที่เสียดาย พูดต่อลูกน้องสองคนนั่นของหยวนหลางที่ตกใจตะลึงงันอยู่“พาเขากลับไป”

“บอกจ้าวซวู่ นี่คือของขวัญที่ฉันมอบให้เขา”

“หวังว่าเขาสามารถทำถึงขอบเขตที่เหมาะสมแล้วหยุด”

“ถ้าหากดูเหตุการณ์ไม่ออก หยวนหลางก็คือแบบอย่าง”

“ไสหัวไปซะ!”

พูดจบเขามุ่งตรงออกจากป่าแล้ว เขานึกขึ้นมาได้ยังมีเรื่องหนึ่งไม่ได้ทำ

นั่งรถคันหนึ่งแล้ว ขับไปทางตลาดเทคโนโลยี

ระหว่างทางเขาเงียบพักหนึ่งยังคงออกคำสั่งให้เนี่ยชิงหลงแล้วข้อหนึ่ง จัดเตรียมสองคนเข้าในบริษัทเทียนยู่คุ้มครองหลิวหรูยู่

เนี่ยชิงหลงตอบกลับทันที วางใจเถอะพี่ใหญ่ มอบให้ผมจัดการ

เหมือนกลัวฉินเทียนจะมีภาระแบกรับในใจ เนี่ยชิงหลงพูดอธิบายอีกว่า หลิวหรูยู่ตอนนี้เป็นทูตเอเชียของสมาคมเงินทุนดูแลเด็กยากจนขององค์การสหประชาชาติ เพียงแค่ฐานะนี้ก็คุ้มค่าให้พวกเราคุ้มครองแล้ว

ฉินเทียนนั่งรถมาถึงตลาดเทคโนโลยีก็ไม่ได้เข้าไป แต่อ้อมไปถึงด้านหลังในซอยหนึ่งแล้ว

ที่นี่ต่างก็เป็นหน้าร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางอย่าง

ค่าเช่าบ้านถูกกว่าตำแหน่งข้างในตลาดครึ่งหนึ่ง

เพราะมีช่องทางปกติมากมายที่ซื้อเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยไม่ได้ ดังนั้นการไหลเวียนของลูกค้าก็ไม่น้อยแม้แต่นิด

ฉินเทียนใส่เสื้อผ้าลำลองทั้งตัว มองไปแล้วเหมือนกับนักศึกษามหาลัย กวัดแกว่งมาตลอดทางมาถึงร้านข้างในสุดเรียกว่า“เทคโนโลยีเทียนโก่ว”

ร้านไม่ใหญ่ข้างในยัดแน่นเอี้ยดไปด้วยคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ แต่ละชนิด

เถ้าแก่มองไปแล้วก็เป็นนักศึกษามหาลัยที่เพิ่งเรียนจบคนหนึ่ง ผมยุ่งเหยิงกำลังหมอบกินมาม่าบนโต๊ะอยู่

บนหน้าจอด้านหน้าของเขากำลังเล่นวีดีโอหนึ่งอยู่ ก็คือในงานแถลงของเมื่อวานหวางเฉียงอีกทั้งหญิงสาวสองสามคนนั่นที่เคยเข้าร่วมการแข่งขันร้องเพลงในช่วงเวลาเดียวกันกับหลิวหรูยู่ กำลังล้างมลทินข่าวฉาวให้หลิวหรูยู่อยู่

“น่าดูไหม?”ฉินเทียนพูดประโยคหนึ่งจาง ๆ

เถ้าแก่รีบเงยหน้า มองเห็นฉินเทียนเขาเอามาม่าวางลงเช็ดปากเล็กน้อย พูด“ต้องการซื้อคอมพิวเตอร์เหรอ?”

“ใช้ทำอะไร กำหนดค่าอะไร”

“ขอแค่คุณบอกผม รับรองทำให้คุณพอใจอีกทั้งราคาถูกกว่าในตลาดครึ่งหนึ่ง”

เขาพูดอย่างมั่นใจมาก

ฉินเทียนเดินดูรอบหนึ่งสบาย ๆ มองเห็นด้านข้างโต๊ะมีหนังสือที่เข้าเล่มปึ๊งหนึ่ง ข้างบนเขียนอยู่“หลานไห่ หนังสือโครงการจัดหาเงินทุนสร้างสรรค์สำหรับอีคอมเมิร์ซ”

เปิดดูตามสบาย เนื้อหาประมาณคือตามเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูคอมพิวเตอร์เป็นที่เผยแพร่ทั่วไป ก้าวต่อมาการช้อปปิ้งออนไลน์จะกลายเป็นแนวโน้มของธุรกิจ

กลุ่มลูกค้าหลักก็คือเผชิญหน้ากับพนักงานที่ทำงานด้านสมองที่ไม่มีเวลาเดินช้อปปิ้งบางคน อีกทั้งหญิงชายที่ชอบอยู่แต่บ้าน

ลงชื่อหลิวหยุนตงด้านล่างของหนังสือโครงการ

“นี่เป็นโครงการที่คุณทำ คุณก็คือหลิวหยุนตง?” ฉินเทียนถามอย่างมีความสนใจ

“ผมคือหลิวหยุนตง。”

“พวกพ้อง คุณเคยได้ยินร้านค้าเทียนโก่วไหม?ก็คือผมเป็นคนทำ”

พูดถึงโครงการ หลิวหยุนตงก็มีแรงแล้ว กระทั่งลืมแนะนำคอมพิวเตอร์ให้ฉินเทียนแล้ว

เขาเปิดหน้าเว็บหนึ่ง พูด“ดูสิ ก็คืออันนี้”

“ขายสินค้าในอินเตอร์เน็ต พูดง่ายหน่อยผมเว็บไซน์นี้ก็คือซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ ยี่ห้ออะไรต่างก็สามารถเข้าไปอยู่ได้”

จากนั้นก็พูดแนะนำขึ้นมาอย่างน้ำลายเต็มปาก

มองเห็นฉินเทียนมีความสนใจมาก เขาพูดอย่างตื่นเต้น“พวกพ้อง คุณก็คือเพิ่งจบการศึกษาเหรอ?”

“จะเข้าร่วมภายใต้การบริหารของผมไหม พวกเราเริ่มต้นสร้างธุรกิจด้วยกัน!”

“ผมบอกคุณให้ นี่เป็นแนวโน้มใหญ่ของอนาคตอย่างเด็ดขาด!”

“ขอแค่มีคนยอมลงทุน ผมมีความมั่นใจในห้าปี ลงชื่อเข้าใช้แนสแด็กทำอีคอมเมิร์ซเข้าตลาดแรก!”

ฉินเทียนยิ้มแล้ว“ดังนั้นคุณปลิ้นเล่มโบรชัวร์จำนวนมากอย่างนี้ก็คือหวังว่าสามารถหาคนที่ลงทุนเจอได้?”

หลิวหยุนตงฝืนยิ้มพูด“ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง”

“ผมเคยไปหาคนที่ลงทุนมากมาย แต่สายตาของพวกเขาต่างก็สั้นและตื้นมากไปแล้วเดิมทีก็มองไม่เห็นแนวโน้มของอนาคต”

“มีสองสามคนดีนิดหน่อยแต่ได้ยินจำนวนเงินที่ผมอยากจะลงทุน ก็เอาผมไล่ออกไปทันที”

“พวกเขาพูดว่าผมอยากได้เงินจนบ้าแล้ว”

ฉินเทียนยิ้มพูด“คุณอยากลงทุนเท่าไหร่?”

หลิวหยุนตงพูดมากไม่หยุดอีกครั้ง จากนั้นพูด“นี่คือการแข่งขันที่รุนแรงดังนั้นจะต้องทำให้ใหญ่ในเวลาที่สั่นที่สุด”

“เทคนิคผมสามารถจัดการได้ แต่ผมต้องการทีมงาน”

“รวมถึงเวลาระยะหลัง ผมหวังจะสร้างโกดังและโลจิสติกส์ของตัวเองดังนั้นสำหรับความคิดแบบอนุรักษ์นิยมแล้ว เงินทุนระยะที่ 1อย่างน้อยหนึ่งร้อยล้านมั้ง”

“สามารถมีห้าร้อยล้านจะดีที่สุด”

“นี่เพียงแค่เงินทุนระยะที่ 1”

ฉินเทียนยิ้มพูด“คุณคนหนึ่งเดิมทีเป็นเว็บไซน์เล็ก ๆ ที่ไม่มีชื่อเสียงอะไร เอ่ยปากก็ต้องลงทุนนับร้อยล้านก็มิน่าล่ะคนอื่นถึงไล่คุณออกมา”

หลิวหยุนตงไม่ดีใจเล็กน้อยแล้ว เขาหยิบเอาหนังสือออกมาจากในมือของฉินเทียนแล้ว พูดอย่างเย็นชาว่า“คุณสามารถไม่เชื่อผมได้ แต่ไม่สามารถเหยียดหยามความฝันของผมได้!”

“คุณอยากที่จะได้คอมพิวเตอร์อะไร รีบพูดเถอะ”

ฉินเทียนฮึแล้วเสียงหนึ่ง พูด“ผมอยากได้คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งที่สามารถประกาศข่าวฉาวของคนอื่นได้ คุณที่นี่มีไหม?”

หลิวหยุนตงตะลึงเล็กน้อย พูด“หมายความว่ายังไง?”

ฉินเทียนยิ้มอย่างเย็นชาพูด“หมายความว่ายังไง หรือว่าคุณไม่รู้เหรอ?”

“ข่าวฉาวของหลิวหรูยู่ครั้งนี้ ก็เป็นคุณที่ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ส่งออกไปใช่ไหมล่ะ”

“อ่ะ หอยทากที่วิ่งอยู่?”