ตอนที่ 1704 อวิ๋นลั่วเฟิงมาถึงแล้ว (2) / ตอนที่ 1705 อวิ๋นลั่วเฟิงมาถึงแล้ว (3)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1704 อวิ๋นลั่วเฟิงมาถึงแล้ว (2)

ตูม!

ตอนที่พลังทั้งสองสายปะทะกัน พื้นดินก็สั่นสะเทือนและภูเขาก็ขยับ ทันใดนั้นแม้แต่ท้องฟ้าก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันหนาแน่นมากจนไม่มีใครมองเห็นท้องฟ้าได้ชัดเจน

ชายชรานั่งลงที่ด้านข้างชั่วคราวและหยิบขาเหยี่ยวย่างที่เขาซ่อนไว้ออกมาแล้วมองดูทั้งสองสู้กับขณะที่มีความสุขกับอาหารรสเลิศ

“ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างขาดไป…” ชายชราขมวดคิ้วและยิ้มอย่างรวดเร็ว เขาหยิบถ้วยชาออกมาจากธำมรงค์มิติและใส่ใบชาก่อนจะตามด้วยน้ำลงไป แล้วเขาก็ทำให้อุณหภูมิของฝ่ามือสูงขึ้นจนน้ำชาเดือด

“นี่เป็นใบชาที่เฟิงเอ๋อร์ให้ข้ามาก่อนที่นางจะออกจากตระกูลจวิน ข้าจำได้ว่าชานี้เรียกว่าชาพลังฌาน น้ำชานี้รสดีมากแต่ที่นี่ไม่มีน้ำร้อนดังนั้นข้าจึงต้องใช้วิธีนี้เพื่อทำน้ำชา…”

เมื่อมีอาหารและน้ำชา ตอนนี้เขาสามารถดูการแสดงได้อย่างมีความสุข ผู้เฒ่าจวินหัวเราะเบาๆ แน่นอนว่าถ้าเพื่อนเก่าของอยู่ที่นี่ในเวลาแบบนี้ พวกเขาก็คงนั่งเล่นหมากรุกด้วยกัน

“ชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งไม่เลว ถึงแม้ว่าเขาจะอายุยังน้อยแต่ความแข็งแกร่งของเขาก็เอาชนะเขาได้แล้ว! เฟิงเอ๋อร์ตาดีจริงๆ”

ความจริงแล้วผู้เฒ่าจวินรู้มาตั้งแต่แรกว่าเป็นอวิ๋นเซียวแต่เขาก็รู้เหมือนกันว่าเขามีเป็นคนเย็นชาโดยธรรมชาติ เขาไม่ได้เข้าไปพูดอวิ๋นเซียวก่อนที่อวิ๋นลั่วเฟิงจะพูดกับอวิ๋นเซียวเรื่องของเขา ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดเขาคิดว่าเขามีเป้าหมายแอบแฝงล่ะ

นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้เฒ่าจวินดูถูกการกระทำของฉินลั่ว นางต้องการจะขโมยผู้ชายของเฟิงเอ๋อร์งั้นหรือ นางได้ส่องกระจกบ้างหรือไม่ และนางยังพยายามจะแกล้งทำตัวเป็นเฟิงเอ๋อร์อีก นางคิดว่าพวกเขาตาบอดหรือ

ความจริงแล้วเป็นเพราะอวิ๋นเซียวเป็นบุรุษ ถ้าเป็นอวิ๋นลั่วเฟิงที่ตกอยู่ในอันตราย ผู้เฒ่าจวินก็คงกระโดดเข้าไปสังหารสตรีผู้นี้แทนที่จะนั่งดูการต่อสู้อยู่เฉยๆ แบบนี้! ส่วนเรื่องที่ว่าฉินลั่วบอกว่านางส่งคนไปจัดการกับอวิ๋นลั่วเฟิง เขาไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว…

ถ้าอวิ๋นลั่วเฟิงตายด้วยน้ำมือนาง นางไม่มีทางมีสีหน้าและน้ำเสียงแบบนี้ ถ้าสตรีผู้นี้ไล่ล่าอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยตัวเอง เขาก็คงกังวลแต่ว่านางแค่ส่งคนไปจัดการแล้วคนพวกนี้จะจับตัวเฟิงเอ๋อร์มาได้อย่างไร

ปัง!

ฉินลั่วยกมือขึ้นแล้วโจมตีอวิ๋นเซียว น่าเสียดายที่นางโจมตีของผลาดและโจมตีไปถูกถ้วยชาของผู้เฒ่าจวินแทน ถ้วยชาแตกและน้ำร้อนๆ ที่พึ่งชงสร็จใหม่ๆ ก็หกใส่มือของผู้เฒ่าจวิน

ใบหน้าของผู้เฒ่าจวินมืดครึ้ม แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเขาถูกน้ำร้อนลวกแต่เป็นเพราะน้ำชาของเขาหก…

อวิ๋นลั่วเฟิงให้ใบชาเขามาและเขาก็มีใบชาแค่แปดใบเท่านั้น เขามีเหลืออยู่ไม่มากแต่ว่า…

เขาต้องเสียชาไปเพราะสตรีชั่วคนนี้งั้นหรือ

ผู้เฒ่าจวินลุกขึ้นจากพื้นด้วยความโมโหและเดินเข้าไปหาอวิ๋นเซียวและฉินลั่วอย่างเดือดดาล

“หลีกไป ไอ้หนู! ปล่อยให้ข้าจัดการกับนางเอง!”

อวิ๋นเซียวยังไม่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บดังนั้นเขาจึงอ่อนแอเล็กน้อย ถึงอย่างนั้นฉินลั่วจะยังเอาชนะเขาไม่ได้ ผู้เฒ่าจวินที่รู้เรื่องความแข็งแกร่งของอวิ๋นเซียวมาตั้งแต่แรกจึงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับอวิ๋นเซียวแม้แต่นิดเดียว แต่เขาไม่คิดว่าฉินลั่วจะทำลายถ้วยชาของเขาซึ่งทำเขาโกรธจนคลั่ง!

“ตาแก่ยาจก ข้าไม่สนใจในตัวเจ้าและตอนนี้ก็ยังไม่อยากจะสังหาร ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!” ฉินลั่วโกรธมากจนหน้าอกของนางขยับแรงขึ้นและดวงตาของนางก็จับจ้องไปที่ผู้เฒ่าจวิน

ตาแก่ยาจกงั้นหรือ

ผู้เฒ่าจวินก้มมองตัวเอง ความจริงแล้วตั้งแต่ที่เขาตกลงมาในกับดัก เขาก็ไม่ได้อาบน้ำอีกเลย ชุดคลุมสีขาวของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นและเส้นผมสีดอกเลาของเขาก็ยุ่งเหยิง เขาดูเหมือนดูขอทานจริงๆ นั่นแหละ

“สาวน้อย อย่าได้ดูถูกข้า ถึงแม้ว่าข้าจะปกปิดความแข็งแกร่งเอาไว้หลายปีแต่ข้าเกรงว่าตอนนี้ข้าคงต้องแสดงให้เจ้าเห็นแล้ว”

 …………………………………..

ตอนที่ 1705 อวิ๋นลั่วเฟิงมาถึงแล้ว (3)

ผู้เฒ่าจวินส่งเสียงขึ้นจมูกและทันใดนั้นก็ปลดปล่อยกลิ่นอายออกมา

อวิ๋นเซียวมองผู้เฒ่าจวินก่อนจะรีบถอนสายตาและไม่ได้พูดอะไร

“ผู้ฝึกฌานขั้นกึ่งเทพงั้นหรือ”

สีหน้าของฉินลั่วเปลี่ยนไปเล็กน้อย แผ่นดินนี้มีคนที่เป็นผู้ฝึกฌานขั้นกึ่งเทพด้วยงั้นหรือ

ผู้เฒ่าจวินพูดอย่างเย็น “สองสามปีที่แล้ว ข้าบรรลุเลื่อนระดับเป็นผู้ฝึกฌานขั้นกึ่งเทพ แต่เพราะมีข้อจำกัดบางอย่าง ข้าจึงไม่กล้าเปิดเผยความแข็งแกร่งที่แท้จริง แต่ในเมื่อข้าอยู่ที่ภูผาสุสานเทพ ข้าก็สามารถแสดงความแข็งแกร่งของข้าได้!”

ยังมีขั้นพลังฌานที่อยู่สูงกว่าขั้นจักรพรรดิปราชญ์อีก…

หนึ่งในนั้นคือขั้นกึ่งเทพที่คนผู้นั้นขาดอีกเพียงก้าวเดียวก็จะถึงสวรรค์ ตราบใดเราเขาไปถึงสวรรค์ เขาก็ไม่ต่างกับเทพเซียน ถึงกระนั้นทรัพยากรในการฝึกพลังฌานบนแผ่นนี้ขาดแคลนดังนั้นฉินลั่วไม่คิดเลยว่าจะมีคนผ่านด่านถึงขั้นกึ่งเทพได้…

“ตาแก่ เป็นผู้ฝึกฌานขั้นกึ่งเทพก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ถ้าข้าไม่ได้ถูกขังอยู่ที่นี่และความแข็งแกร่งที่แท้จริงของข้าถูกจำกัดไว้ล่ะก็ ข้าก็คงสามารถสั่งการเจ้าเพียงพริบตาเดียว!” ไม่นานฉินลั่วก็ใจเย็นลง นางเชิดหน้าขึ้นอย่างยโสและก้มลงมองผู้เฒ่าจวินอย่างเหยียดหยาม

ผู้เฒ่าจวินหัวเราะเบาๆ “ใช่แล้ว การเป็นผู้ฝึกฌานขั้นกึ่งเทพก็ไม่ได้พิเศษอะไรแต่ก็มากพอที่จะจัดการกับเจ้าแล้ว!”

ใบหน้าของฉินลั่วมืดครึ้มลงทันที นางสามารถทนรับการโจมตีของอวิ๋นเซียวได้เพราะเขายังไม่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บแต่กับชายชราผู้นี้ที่ไม่มีบาดแผลหรือเจ็บปวดก็เป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับเขา

นางต้องใช้วิธีนั้นจริงๆ หรือ ฉินลั่วกัดปากแน่นแล้วครุ่นคิด

ตอนนั้นเอง แรงทรงพลังก็เข้าโจมตีนางจนทำให้ใบหน้าของฉินลั่วเปลี่ยนไปอีกครั้ง นางรีบหันหน้าไปก็เห็นสายตาเย็นชาของอวิ๋นเซียว

ถึงแม้ว่าชายชราจะเป็นผู้ฝึกฌานขั้นกึ่งเทพ แต่นางก็มีโอกาสประมาณแปดในสิบที่จะสามารถหนีรอดจากเงื้อมมือเขาไปได้ แต่จักรพรรดิปีศาจอยู่ที่นี่ ถ้าเขาพยายามจะหยุดนาง นางจะเหลือโอกาสหนีรอดเพียงสี่ในสิบเท่านั้น

ที่สำคัญ ข้าไม่มีทางปล่อยอวิ๋นเซียวไป!

ฉินลั่วกลอกตาและสุดท้ายก็ตัดสินใจได้ จากนั้นนางก็ยกมือขึ้นแล้วใบหน้างามของนางก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา

“โชคดีที่ตอนที่ตระกูลฉินขังข้าไว้ พวกเขาให้สิ่งของเพื่อช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ด้วยสิ่งนี้ข้าก็สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ชั่วคราว…”

ขณะที่นางพูด สายลมแรงก็พุ่งขึ้นมาโอบล้อมตัวนางและเส้นผมยาวสีดำของนางก็ปลิวไปตามสายลม

เสี่ยวฉงขยี้ตาแล้วมองฉินลั่วที่จู่ๆ ความแข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้นมากอย่างแปลกใจ เสียงของเขาเต็มไปความตะลึง

“นายท่าน มาเร็ว รีบหนี! สตรีผู้นี้มาจากที่แห่งนั้น…”

อวิ๋นเซียวไม่ขยับ

ผู้เฒ่าจวินดูสับสนและงุนงง “เกิดอะไรขึ้นที่นี่กัน เหตุใดจู่ๆ พลังของนางถึงเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้”

ความจริงแล้วกลิ่นอายของฉินลั่วในตอนนี้น่าหวาดกลัวมากแม้แต่ผู้เฒ่าจวินเองก็รู้สึกเย็นเยียบไปทั้งตัว

ถึงแม้ว่าอวิ๋นเซียวจะไม่ได้ขยับแต่ดวงตาสีนิลของเขาก็ปรากฏร่องรอยหวาดระแวง

“จักรพรรดิปีศาจ เจ้าเป็นผู้ชายของข้า!” ฉินลั่วหัวเราะอย่างชั่วร้าย “ข้าต้องการเจ้าตกหลุมรักข้า จากนั้นพวกเราก็จะมีช่วงเวลาดีๆ บนเตียงด้วยกัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าข้าคงต้องใช้กำลังเพื่อให้ได้ตัวเจ้ามาแล้ว ฮะๆ!”

ในฐานะสตรี สิ่งที่นางพูดน่าอับอายมากแต่นางดูเหมือนไม่ได้รู้สึกผิดแปลกอะไร…

ตอนที่นางพูดแบบนี้ จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะร้ายกาจดังมาจากท้องฟ้า “สามีของข้าไปเป็นผู้ชายของเจ้าตั้งแต่เมื่อไรกัน”

บนท้องฟ้ามีสตรีที่งดงามและน่าดึงดูดในชุดคลุมสีขาวคนหนึ่งยืนอยู่ นางค่อยๆ บินลงมาตรงหน้าอวิ๋นเซียวช้าๆ พร้อมรอยยิ้มร้ายกาจบนใบหน้าของนาง