ตอนที่ 937 อืม หลอกแกนั่นแหละแล้วจะทำไม

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

ก่อนหน้านี้เสี่ยวเชี่ยนไปขอกล้องจิ๋วมาจากอาข่า เดิมคิดจะติดไว้ในห้องน้ำเอาไว้ดูเสี่ยวเฉียงตอนทำธุระส่วนตัว—อย่าถามว่าทำไมเธอถึงได้มีความคิดพิเรนทร์ไร้สาระแบบนี้ เธอก็แค่อยากรู้ว่าเสี่ยวเฉียงที่ทำเป็นมาดขรึมตอนอยู่ข้างนอก เวลานั่งขี้จะหยิบขวดยาสระผมมานั่งอ่านวิธีการใช้หรือว่ามองเพดานขบคิดปัญหาชีวิต

เพราะตานี่ไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นที่นั่งสูบบุหรี่ไปพลาง ไม่เอาหนังสือเข้าไป ไม่เอาเครื่องเกมPSPเข้าไป ดังนั้นเสี่ยวเชี่ยนนึกสนุกถึงได้เล่นแบบนี้ สปายปลดประจำการย่อมมีอุปกรณ์พวกนี้อยู่แล้ว เล่นพิเรนทร์ใส่สามีตัวเองไม่ต้องมานั่งรับผิดชอบอะไรด้วย

แต่แผนนี้เพิ่งลงมือก็ถูกจับได้เสียแล้ว

มุมที่เสี่ยวเชี่ยนเอาไปติดตั้งและเธอคิดว่ารัดกุมดีแล้ว อวี๋หมิงหลางเจอได้ยังไงนี่ก็ยังเป็นปริศนาอยู่

แถมเธอยังโดนเขาจัดการอย่างหนักหน่วงเพราะเรื่องนี้ สภาพในตอนนั้น พอนึกแล้วก็มีแต่น้ำตา…

เสี่ยวเชี่ยนสะบัดความคิดติดเรทเหล่านั้นแล้วพูดกับผู้ชายที่มีสีหน้าตกตะลึงตรงหน้า

“แปลกใจที่ฉันรู้ได้ไงน่ะเหรอ?”

“แกขายพวกเรา?!” ผู้ชายคนนั้นมองสืออวี้ด้วยความโมโห

“มันปลอมตั้งแต่แรกแล้ว มาขงมาขายอะไร?”

สืออวี้ยกแก้วน้ำผลไม้ดื่มรวดเดียวหมดแล้วเอาแก้วปาลงพื้น

“มิตรภาพที่พวกแกมองว่าพอเข้าสังคมก็เปลี่ยนไปมันเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดของฉัน ยิ่งไปกว่านั้นพวกแกคงคิดว่าฉันโง่หลอกง่ายสินะ? อยากยืมมือฉันจัดการประธานเชี่ยนงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!”

“X!” ผู้ชายคนนั้นด่าหยาบคาย หิ้วกระเป๋าจะเดินออก

เสี่ยวเชี่ยนยิ้มมุมปากสะบัดมือ

ประตูร้านกาแฟถูกปิดลง

ผู้ชายคนนั้นถอยไปหลายก้าวพลางมองหลิวเหมยกับฉิวฉิวที่กำลังวอร์มมือพลางยิ้มและเดินเข้ามาหาเขา

“พวกแกจะทำอะไรน่ะ?”

“อัดแกไง! ไป๋จิ่น ปิดกล้องหรือยัง? ตานี่เป็นทนาย ชอบหลักฐานที่สุด พวกเราห้ามเหลืออะไรที่เป็นประโยชน์กับมัน! เหลือไว้แค่หลักฐานของพวกเราก็พอ!”

ฉิวฉิวตะโกน

ไป๋จิ่นทำมือโอเค หลักฐานถูกบันทึกไว้แล้ว ต่อไปก็เป็นคลิปอัดคน ตัดทิ้งได้

นักข่าวอาชีพ ไม่ว่าจะแอบถ่ายหรือถ่ายเอามัน มืออาชีพทั้งนั้น!

เสี่ยวเชี่ยนจับมือสืออวี้เหมือนกับตอนที่จับมือหนีออกมาจากในหุบเขาด้วยกัน เสี่ยวเชี่ยนพาสืออวี้ไปที่บาร์เครื่องดื่ม ไม่รู้พนักงานออกไปกันตั้งแต่เมื่อไร ตอนนี้ในร้านมีแค่พวกเธออยู่

“ความรู้สึกแบบปิดร้านเลี้ยงเป็นไงบ้าง?” สืออวี้ถามเสี่ยวเชี่ยน

เสี่ยวเชี่ยนเดินเข้าไปหลังบาร์อยากจะทำกาแฟให้สืออวี้ดื่มขณะนั่งชมการแสดง แต่สืออวี้พอเห็นเธอแตะเครื่องมือก็ตกใจรีบเข้าไปลากเสี่ยวเชี่ยนออกมา

เสี่ยวเชี่ยนเบ้ปาก เธอชงกาแฟเก่งนะ ทำไมไม่มีใครเชื่อใจเธอ?

เธอนั่งกันอยู่บนบาร์เครื่องดื่มมองฉิวฉิวกับหลิวเหมยกดดันผู้ชายคนนั้นจนสุดกำแพง ขาเรียวเล็กขาวเนียนแกว่งไปมา

“ได้สัมผัสประสบการณ์เป็นเจ๊ใหญ่จอมเผด็จการก็ดีเหมือนกันนะ เธอล่ะได้เป็นสปายรู้สึกโอเคมะ?” เสี่ยวเชี่ยนรับกาแฟมาจากสืออวี้พลางถาม

“ก็ดี อันที่จริงฉันยังรู้สึกว่าบางช่วงถ่ายทอดอารมณ์ยังไม่ดีพอ พอไม่ได้แสดงนานๆอารมณ์เข้าไม่ถึงเท่าไร อย่างเช่น บางจุดฉันควรเข้าถึงอารมณ์ได้มากกว่านี้ แสดงให้เห็นว่าตัวเองเหมือนคุณหนูตกอับ”

ตอนสืออวี้อยู่ในมหาวิทยาลัยเธออยู่ชมรมละครเวทีมีหน้าที่เขียนบทละคร สิ่งที่ถนัดที่สุดก็คือเดาอารมณ์ตัวละคร

ทั้งสองคนชนแก้วกัน เสี่ยวเชี่ยนเอามือตบข้างๆให้สืออวี้ขึ้นมานั่งด้วยกัน สืออวี้กระโดดขึ้นไปนั่ง เสี่ยวเชี่ยนโอบไหล่เธอไว้พลางดูละครตรงหน้า

“นี่ เธอโอบฉันไม่กลัวเสี่ยวเฉียงของเธอหึงเหรอ?” สืออวี้แซว

“เขาจะมาโกรธอะไร? การที่พวกเราได้คุยกันจนดึกดื่นก็เขานั่นแหละวางแผน”

เมื่อคืนตอนที่สืออวี้หนีออกไปครั้งแรก เสี่ยวเฉียงเห็นเสี่ยวเชี่ยนร้องไห้หนักจึงปลอบใจ บอกเสี่ยวเชี่ยนจะต้องตามหาตัวสืออวี้ให้เจอ แล้วมาเปิดอกคุยกัน

ในความเป็นจริงตอนที่เสี่ยวเฉียงเริ่ม ‘หึง’ ก็คือการแสดงที่เสี่ยวเฉียงกับเสียวเหม่ยร่วมมือกันจงใจให้เกิด

ถึงเสี่ยวเชี่ยนจะไม่รู้ว่าสภาพจิตใจของสืออวี้ผิดปกติตรงไหน แต่จากประสบการณ์การรักษาคนไข้ที่มีมาหลายปีของเธอได้บอกเธอว่า สืออวี่จำเป็นต้องรับการบำบัดจิตใจ พอสืออวี้กลับมาเสี่ยวเชี่ยนก็รีบปรึกษาหาแผนรับมือกับอวี๋หมิงหลาง ให้เสี่ยวเชี่ยนไปคุยกับสืออวี้ตามลำพัง

ถ้าเกิดว่าพอกลับมาก็พูด เห้ย มาคุยกันหน่อย มีเรื่องไม่สบายใจก็เล่ามา — วิธีแบบนี้ไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้สืออวี้พูดความในใจ อาจได้ผลตรงกันข้าม

ดังนั้นจึงใช้วิธีที่ดูเหมือนปกติที่สุด คุยกันธรรมดานี่แหละ ชีวิตปกติของเสี่ยวเชี่ยนถ้ามีคนมาบ้าน อวี๋หมิงหลางก็ต้องหึงไม่ใช่เหรอ?

ฉายาราชาจอมหึงสืออวี้เป็นคนตั้งให้ด้วย อวี๋หมิงหลางจึงยิ่งหาบทให้ตัวเองคล้อยไปตามความคิดของสืออวี้ สืออวี้จะได้เข้าสู่อารมณ์สนทนากับเสี่ยวเชี่ยนได้อย่างไม่เกร็ง

ถ้าสภาพจิตใจของสืออวี้ในตอนนั้นปกติ จะต้องดูออกว่าอวี๋หมิงหลางผิดปกติไปแน่นอน เฉียวเจิ้นเป็นเพื่อนที่ร่วมเป็นร่วมตายกับอวี๋หมิงหลางมา และสืออวี้ก็เป็นเหมือนน้องสะใภ้ของอวี๋หมิงหลาง เป็นเพื่อนสนิทของเสี่ยวเชี่ยน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน บ้านสืออวี้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เสี่ยวเฉียงจะทำตัวเป็นคนงี่เง่าหึงไร้สาระได้ยังไง?

เห็นได้ชัดว่าจงใจ ด้วยความที่สืออวี้สภาพจิตใจไม่มั่นคงจึงตกหลุมพรางของสองสามีภรรยาไอคิวสูงคู่นี้ได้ง่ายๆ เสี่ยวเชี่ยนได้พาสืออวี้เข้าสู่กระบวนการของเธอตั้งแต่อวี๋หมิงหลางเริ่มทำตัวหึงแล้ว

จากนั้นพอสองคนเข้านอนบนเตียงเดียวกันเหมือนสมัยเรียน เสี่ยวเชี่ยนก็เริ่มใช้วิชาทำให้สืออวี้ได้ระบายออกมา เดิมคิดว่าแค่นี้ก็ได้แล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าสืออวี้จะพูดเรื่องที่มีคนอยากซื้อสมุดโน้ตของประธานเชี่ยนออกมาด้วย

เดิมสืออวี้ก็อยากบอกประธานเชี่ยนอยู่แล้ว เพียงแต่ในสมองอะไรก็ไม่รู้ตีกันไปหมด เธอไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหน เสี่ยวเชี่ยนพูดได้ตรงจังหวะพอดีทำให้สืออวี้พูดเรื่องที่อยากทำออกมาได้อย่างไม่ติดขัด

จากนั้นทั้งสองคนก็ร่วมมือกัน วางแผนเพื่อสืบหาคนที่อยู่เบื้องหลัง

ถึงได้มีการเจรจาต่อรองยื่นสินค้าในภายหลัง

พอเห็นสืออวี้ที่ควรจะถูกซื้อตัวนั่งอย่างสนิทชิดเชื้ออยู่กับเสี่ยวเชี่ยน ผู้ชายรับซื้อสมุดโน้ตก็รู้สึกช็อคมาก

เขาเริ่มสงสัยในทัศนคติของตัวเองเป็นอย่างมาก

“ผู้หญิงอย่างพวกแกมันจอมหลอกลวง หลอกลวง หลอกลวง!” ผู้ชายคนนั้นถูกต้อนจนไปไหนไม่รอด ทำได้แค่ตะโกนด่าสืออวี้กับเสี่ยวเชี่ยน

จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สืออวี้ที่ติดกับแล้ว ทำไมไปเป็นพวกเดียวกับเสี่ยวเชี่ยน?

“ใช่ หลอกแกนั่นแหละ แล้วใครใช้ให้ฉลาดน้อยมาติดกับเข้าล่ะ? อยากตกปลาก็ต้องมีความสามารถก่อนนะ ถูกเอาคืนก็สมน้ำหน้าแล้ว! ผู้ชายบางคนมันก็โง่ โง่ โง่อย่างแกไง!”

สืออวี้ทำหน้าทะเล้นใส่

ผู้ชายคนนั้นหมดทางถอย ตัดสินใจสู้ตาย เขาจะต้องหนีออกไปให้ได้ห้ามถูกผู้หญิงพวกนี้กับผู้ชายอีกหนึ่งคนจับตัวได้ ไม่อย่างนั้นตัวตนของเจ้านายก็ต้องถูกเปิดเผยสิ?

เมื่อตัดสินใจว่าจะหนีแล้ว เป้าหมายแรกที่เขาคิดไว้คือหลิวเหมย