67 ย้ายตำแหน่งให้เธอ

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 67 ย้ายตำแหน่งให้เธอ

เย่เฉินได้ยินเสียงฝีเท้าด้านหลัง ชำเลืองมองกระจกที่อยู่ด้านข้าง พบว่า คนที่อยู่ด้านหลังคือต่งรั่งหลิน!

ซวยแล้ว!

ถ้าปล่อยให้ต่งรั่งหลินจำตนได้ที่นี่ เธอต้องคิดเชื่อมโยงได้อย่างแน่นอนว่าตนคือประธานตี้เหากรุ๊ป!

ถึงขึ้น สามารถคิดเชื่อมโยงได้ว่าตนคือคุณชายตระกูลเย่!

นี่มันแย่มากๆ!

ด้วยเหตุนี้ เมื่อเห็นต่งรั่งหลินกำลังวิ่งตามมา เขาจึงรีบสาวเท้าเดินเร็วขึ้น เข้าไปในห้องทำงานประธานอย่างรวดเร็ว แล้วล็อคประตูห้อง

ต่งรั่งหลินเองก็คิดไม่ถึง ว่าฝ่ายนั้นจะเดินเร็วกะทันหัน ตอนที่เธอรู้ตัวแล้วจะรีบตามไปนั้น ฝ่ายนั้นก็เดินเข้าไปในห้องทำงานแล้ว

เมื่อเห็นเย่เฉินเดินเข้าไปในห้องทำงาน ต่งรั่งผิดหวังมาก พูดบ่นพึมพำ:“แปลกจัง ทำไมเหมือนว่าประธานกำลังหลบหน้าตน……”

เมื่อคิดได้แบบนี้ เธอก็ยังคงไม่ตายใจ เดินไปเคาะประตู แล้วเอ่ยพูด:“สวัสดีค่ะท่านประธาน ฉันคือผู้อำนวยการฝ่ายบริหารคนใหม่ต่งรั่งหลิน มีเรื่องอยากจะรายงานท่านค่ะ”

เย่เฉินจงใจพูดเสียงทุ้มต่ำแล้วเอ่ยตอบ:“คุณรายงานหวังตงเสวี่ยนรึยัง? บริษัทไม่อนุญาตให้รายงานข้ามระดับ คุณไม่รู้หรือไง?”

“ขอโทษค่ะ ท่านประธาน ฉันลืม……”

ต่งรั่งหลินตกใจจนกระวนกระวาย ครุ่นคิดในใจ:“ประธานคนนี้ดุจัง……โมโหเพราะตนรายงานข้ามระดับ หรือเป็นเพราะไม่อยากเจอหน้าตนกันแน่?”

แต่ว่า ตอนนี้ต่งรั่งหลินไม่กล้ายืนอยู่ตรงหน้าห้องทำงานของเย่เฉินแล้ว เธอทำได้เพียงเดินจากไปด้วยความจนปัญญา

เย่เฉินฟังเสียงฝีเท้าของต่งรั่งหลินที่ไกลออกไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็โล่งใจ

เธอเกือบจะจำได้แล้ว อันตรายจริงๆ!

เพียงแค่คิดว่าวันข้างหน้าตนเลี่ยงไม่ได้ที่จะมาตี้เหากรุ๊ป และตอนนี้ต่งรั่งหลินก็เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของตี้เหากรุ๊ป ห้องทำงานอยู่ชั้นเดียวกับตน

เมื่อเป็นแบบนี้ คราวหน้าตนก็มีโอกาสจะเจอเธอสูงขึ้น

ประจวบเหมาะ เวลานี้หวังตงเสวี่ยนเข้ามารายงานการดำเนินงานให้เขาพอดี

เย่เฉินจึงบอกกับเธอ:“ตงเสวี่ยน ผมมีเรื่องอยากจะให้คุณช่วยจัดการหน่อย”

หวังตงเสวี่ยนพยักหน้า:“คุณชายเชิญพูดได้เลยค่ะ”

เย่เฉินพูด:“คุณช่วยเปลี่ยนตำแหน่งให้ต่งรั่งหลินหน่อย”

พูดจบ จึงเอ่ยถาม:“บริษัทของเรา ตำแหน่งอะไรบ้างที่ไม่ต้องเอาแต่อยู่ในห้องทำงาน?”

“การตลาด การค้าค่ะ” หวังตงเสวี่ยนตอบ:“สองตำแหน่งนี้มักจะได้ออกไปวิ่งดูงาน ไม่ค่อยได้อยู่ในบริษัทเท่าไหร่”

“อื้ม” เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูด:“ถ้าอย่างนั้นก็ย้ายเธอไปเป็น ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด”

“ไม่มีปัญหาค่ะ เดี๋ยวฉันกลับไปแล้วจะดำเนินการให้ค่ะ” หวังตงเสวี่ยนตอบตกลง

จากนั้น หวังตงเสวี่ยนก็รายงานสถานการณ์ของบริษัทในช่วงนี้ให้เย่เฉินฟัง

ตอนนี้ โปรเจคโรงแรมหกดาวของตี้เหากรุ๊ปได้เริ่มดำเนินการแล้ว ตั้งอยู่ที่เขาชิงเฉิง วิวสวย สิ่งแวดล้อมหรูหรา

หลังจากโรงแรมนี้สร้างเสร็จ ก็จะกลายเป็นโรงแรมหกดาวแห่งแรกของเมืองจินหลิง ที่หรูหราที่สุด

ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมพัฒนาได้อย่างราบรื่นมาก คาดว่าภายในสองปีจะสามารถเสร็จสิ้น หลังจากสองปีครึ่งก็สามารถใช้งานได้ เมื่อถึงตอนนั้น รายได้ของตี้เหากรุ๊ปก็จะเพิ่มขึ้นไปในระดับใหม่

เย่เฉินพูดแนะนำเธอ:“ถ้าหากทางด้านภรรยาของผมไปได้สวย ทั้งยังมีเวลาพักผ่อน คุณก็แบ่งธุรกิจของตี้เหาไปให้เธอ”

หวังตงเสวี่ยนพูดทันที:“คุณชายวางใจได้ค่ะ ฉันจะทำแน่นอน!”

อีกไม่นานภรรยาก็จะประชุมเสร็จแล้ว เย่เฉินจึงบอกกับหวังตงเสวี่ยน:“คุณตามต่งรั่งหลินไปพบคุณที่ห้องทำงานตอนนี้เลย ผมจะได้อาศัยโอกาสนี้ออกไป”

หวังตงเสวี่ยนรีบพยักหน้า กลับไปที่ห้องทำงานของตนเอง โทรศัพท์ไปหาต่งรั่งหลิน

เมื่อได้ยินว่าหวังตงเสวี่ยนมีเรื่องจะคุยกับตน ต่งรั่งหลินจึงรีบไปที่ห้องทำงานของเธอทันที

ในเวลานี้ เย่เฉินรีบไปชั้นล่าง

เมื่อไปถึงล่างตึก เห็นเซียวชูหรันเดินออกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย

เห็นได้ชัดว่าเซียวชูหรันเหนื่อยเพราะเรื่องการทำงานร่วมกัน พูดด้วยความเหลืออด:“ตอนนี้งานเยอะมาก ยุ่งจนแทบไม่มีเวลา”

เย่เฉินถามด้วยความปวดใจ:“·จะแบ่งงานออกไปสักส่วนหนึ่งไหมครับ? หรือไม่ก็ไม่ต้องทำแล้ว”

“ไม่ได้ค่ะ” เซียวชูหรันพูด:“ฉันเพิ่งได้เป็นผู้อำนวยการไม่นาน พื้นฐานยังไม่แน่น ต้องพยายามให้มากๆ ไม่อย่างนั้น ลูกพี่ลูกน้องของฉันต้องเข้ามาแทนที่อย่างแน่นอน”

เมื่อคิดถึงเซียวไห่หลง เซียวชูหรันโมโหทันที คนๆนี้น่ารำคาญมาก เอาแต่หาเรื่องตนตลอดเวลา ทั้งยังชอบทำเรื่องไม่ดีกับคนอื่นอีกด้วย

ระหว่างทางกลับไป เซียวชูหรันหลับตาพักผ่อนในรถ เย่เฉินขับรถด้วยความตั้งใจ ไม่รบกวนเธอ

…….

ในเวลานี้ ห้องทำงานของหวังตงเสวี่ยน

หวังตงเสวี่ยนบอกคำสั่งใหม่ให้กับต่งรั่งหลิน

ต่งรั่งหลินตกใจเล็กน้อย

ตนเองเพิ่งได้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารได้ไม่นาน ตอนนี้จะย้ายตนไปทำงานฝ่ายการตลาด เป็นเพราะอะไร?

หวังตงเสวี่ยนพูดอธิบายให้เธอฟัง:“ฉันรู้สึกว่าคุณมีความสามารถ ให้อยู่บริษัทคอยทำงานด้านบริหารมันคงจะแย่เกินไป อีกทั้งฉันดูประวัติของคุณแล้ว สิ่งที่คุณเรียนตอนอยู่มหาวิทยาลัยคือบริหารธุรกิจและการตลาด ดังนั้นงานตำแหน่งการตลาดจึงเหมาะสมกับคุณที่สุด อีกทั้งฝ่ายการตลาดก็สำคัญกับบริษัทมากกว่า ถ้าคุณทำงานนี้ได้ดี วันข้างหน้ายิ่งมีอนาคตก้าวไกล!”

หวังตงเสวี่ยนไม่ได้หลับหูหลับตาพูด

แผนกการตลาด สำคัญกว่าแผนกบริหารมาก

แผนกการตลาดเป็นแผนกหาเงินที่แท้จริงของบริษัท

แผนกบริหาร เป็นการบริหารจัดการบริษัท จัดการเรื่องเล็กๆน้อยๆเท่านั้น

ต่งรั่งหลินไม่ได้คิดมาก เธอกลับคิดว่า หากตนสามารถทำหน้าที่ในแผนกการตลาดได้ดี ทำให้บริษัทได้กำไร วันข้างหน้าประธานก็จะสนใจในตัวตนมากขึ้น!

ดังนั้น สำหรับตนแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ดี!

เดินออกมาจากห้องทำงานของหวังตงเสวี่ยนอย่างมีความสุข สิ่งแรกที่ต่งรั่งหลินทำก็คือโทรศัพท์ไปหาเพื่อนรักของเธอเซียวชูหรัน

เมื่อปลายสายรับสาย เธอก็พูดด้วยความดีใจทันที:“ชูหรัน ฉันได้ย้ายไปเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดแล้ว!”

“จริงหรอ?” เซียวชูหรันดีใจขึ้นมาทันที แล้วพูดขึ้น:“นี่มันเป็นเรื่องที่ดีมาก! แกเป็นคนที่ควรทำงานด้านการตลาดอยู่แล้ว ทำงานฝ่ายบริหารไม่คุ้มกับความสามารถของแกเลย! ตอนนี้แกมีพื้นที่ให้แสดงความสามารถ อีกไม่นานก็คงทำผลงานยอดเยี่ยมออกมา!”

“ฮี่ๆ!”ต่งรั่งหลินเองก็รู้สึกดีใจมาก จึงพูดขึ้น:“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เรากินข้าวฉลองกันหน่อยไหม? แกเรียกเย่เฉินมากินด้วย”

เซียวชูหรันพูดด้วยความลำบากใจ:“พวกฉันสองคนใกล้ถึงบ้านแล้ว พูดตามจริงวันนี้ฉันเหนื่อยมาก เราค่อยฉลองด้วยกันวันอื่นไหม?”

ต่งรั่งหลินรู้ดีว่าช่วงนี้เซียวชูหรันเหนื่อยมาก ด้วยเหตุนี้จึงรีบพูด:“อื้ม!ช่วงนี้แกเหนื่อยมาก เอาแต่ทำงานล่วงเวลาและประชุมตลอด งั้นเอาแบบนี้ แกกลับไปพัก รอให้แกไม่ค่อยยุ่งเราค่อยนัดเจอกัน!”

“ได้เลย” เซียวชูหรันพูด:“รอให้ฉันเคลียร์งานช่วงนี้ให้หมดก่อน เราค่อยไปกินและดื่มกันให้มันส์สุดเหวี่ยง!”

ต่งรั่งหลินหัวเราะแล้วพูด:“พูดแล้วนะ!”

วางสาย ภายในใจของต่งรั่งหลินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

ตนเองไม่มีเพื่อนที่แท้จริงในเมืองจินหลิงเทาไหร่ เพื่อนสนิทคนเดียวที่มีก็คือเซียวชูหรัน

ตอนนี้ตนได้ย้ายไปเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เป็นเวทีที่กว้างใหญ่มากขึ้น เป็นโอกาสดีในการพิสูจน์ตัวเอง แต่ตนกลับไม่เจอคนที่สามารถร่วมฉลองด้วยกันได้

ขณะที่เธอกำลังถอนหายใจอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกะทันหัน

คนที่โทรมาคือ เซียวไห่หลง!