บทที่ 32 เสียท่าให้คุณเสียแล้ว

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

หน้าอกของนลินกลับกระเพื่อมอย่างหนักหน่วง อารมณ์โกรธเคืองต่างมาจุกกันตรงบริเวณนั้น

ณ เวลานี้ คุณชายออกัสยอมเปิดปากพูดแล้ว ใครจะกล้าก่อเรื่องต่อล่ะ?

“ช่างรักกันปานจะกลืนกิน ชิชะ!” นาโนบ่นกระปอดกระแปด แต่กลับหลงใหลกับน้ำเสียงอันอ่อนโยนนั้นจนสับสนไปหมด

หัสดินเกิดอาการไม่พอใจจนส่งเสียงพึมพำออกมา “คืนวันส่งตัวเข้าหอ ฉันเกือบทรมานจนตาย การลงโทษของคุณชายออกัสมันดูดีมากเกินไปไหมเนี่ย?”

เขายิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็พูดจาออกแนวเกียจคร้าน ด้วยน้ำเสียงทิ้งท้ายอย่างสง่างาม “งั้นคุณอยากให้ทำอะไร?”

พลันส่งเสียงบ่นพึมพำออกมา หัสดินได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้ ก็จัดการเบนประเด็นหัวข้อทันที “ไปเล่นสนุ๊กมาเป็นไงบ้าง?”

เมื่อได้ยินการถาม ดนัยก็มองมาทางเขา พร้อมทั้งยิ้มตอบ “แทงไม่โดน!”

“งั้นคุณลองอีกแบบดูไหมล่ะ?” หัสดินเหลือบมองเขาอย่างเยาะเย้ย

“รอให้ฉันแต่งงาน แล้วเข้าหอก่อน แล้วค่อยมาลองกันใหม่…” ดนัยพูดตามความเป็นจริง ในคืนวันแต่งงาน เขาเองก็กลัวจะถูกทรมานจนขาดใจตาย

หัสดินถึงกลับกลอกตาอย่างไม่สบอารมณ์ พอเถอะ แหมทำเป็นกระดี่ได้น้ำ ครึ่งๆ กลางๆ

จากนั้น ออกัส ดนัยและหัสดินก็เริ่มเล่นสนุ๊กกัน ส่วนผู้หญิงก็นั่งคุยกันที่โซฟา

ผ่านไปชั่วครู่ ออกัสก็ลุกขึ้น และสาวเท้ายาวเดินออกไปทางด้านนอก

หัสดินเงยศีรษะขึ้น และถามอย่างแปลกใจ “ไปไหนวะ?”

“ห้องน้ำ…” น้ำเสียงอันทุ้มต่ำของเขาปลิวมาพร้อมกับเสียงเพลง

นลินสายตาเบนไปทางนั้น ก็หลุบตาลง พลันทอความมืดหม่นออกมาแวบเดียว จากนั้นก็พูดกับเชอร์รีน “ฉันขอไปห้องน้ำหน่อย…”

นลินที่เดินตามอยู่ทางด้านหลัง แต่จงใจรักษาระยะห่างเอาไว้ ไม่ใกล้จะไม่ไกลนัก และไม่สามารถจับสัมผัสได้

เธอยืนอยู่ด้านหลังดอกไม้สีขาวบานสะพรั่งที่อยู่ด้านหน้าของห้องน้ำ เพื่อรอคอยอยู่เงียบๆ

อดีต สำหรับเชอร์รีนแล้ว เธอเคยเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ที่สนิทสนมที่สุดแล้ว

แต่ว่า ตอนนี้ เธอกลับไม่คิดเช่นนั้นแล้ว

ถ้าเชอร์รีนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ เช่นนั้นวันนี้เธอก็คงไม่โกหกเธอหรอก!

เธอทำเพื่อน้องชายของเธอ และไม่ได้นอนหลับสนิทสักครั้งมานานมากแล้ว!

อีกอย่าง เธอได้ขอร้องวิงวอนแบบนั้นกับเธอไปแล้ว แต่เธอกลับไม่มีน้ำใจสักนิด

ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่า แต่งงานกับประธานออกัสตอนที่เผชิญหน้ากับเธอ ปากก็พูดว่าทั้งสองคนไม่สนิทกัน แค่เคยเจอหน้ากันผิวเผินไม่กี่ครั้งเอง

ถ้าไม่อยากช่วยเธอก็พูดมาตรงๆ เลย ทำไมต้องจงใจทำเหมือนเป็นคนโง่ที่ต้องให้คนอื่นชักใยได้ง่ายๆ ด้วย?

การแต่งงานมันทุกข์ใจมากเหรอ

น่าจะเป็นเรื่องตลกที่ตลกที่สุดเท่าที่คนอย่างเธอนลินเคยได้ยินมา มันช่างเสียดแทงที่สุด!

เธอไม่ยอมช่วย เลยคิดว่าเธอนลินจะไม่ยอมปริปากพูดกับประธานออกัสเองเหรอ?

เธอกัดฟันเอาไว้แน่น และกำหมัดทั้งสองข้าง สายตากวาดตาหารูปร่างสูงโปร่งแบบนั้นอย่างไม่ได้จงใจนัก เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพยายามเก็บงำความรู้สึกอันตื่นเต้นพวกนั้นเอาไว้ก่อน

เมื่อเห็นว่าเขาเขยิบเข้าใกล้เรื่อย ๆ หัวใจของก็เต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเครียด อยู่ไม่สุข ทั้งอาย และตื่นเต้น จนมันอัดแน่นเต็มหน้าอกของเธอ

นลินก้าวเท้าไปทางด้านหน้า พร้อมทั้งใช้เสียงกระซิบทุ่มต่ำเรียกเขาอย่างตื่นเต้น “ประธานออกัส……”

เมื่อได้ยินดังนั้น ขายาวๆ ก็หยุดกึกเล็กน้อย ออกัสเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาลึกซึ้ง พลันเอ่ยเสียงแหบพร่า “ครูญาณิน……”

หัวใจ นลินเต้นผิดจังหวะ แค่รู้สึกว่าปากคอแห้งผาก แต่กลับไม่ลืมเรื่องสำคัญ “ประธานออกัสช่วยฉันสักเรื่องได้ไหมคะ?”

“หือ?” แววตาของออกัสหยุดนิ่งอยู่ชั่วครู่ พลันพยักหน้า เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้เธอพูดต่อไปได้เลย

“…คืองี้ค่ะน้องชายของฉัน ประธานออกัสเคยเจอที่ผับมาแล้วหนึ่งครั้ง เขา…เขาถูกเสกสรรจับตัวไป ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ช่วยพาน้องชายฉันออกมาได้ไหมคะ?”

เธอลังเลอยู่สักพัก จากนั้นก็อ้าปากพูดออกมาทีละคำอย่างแร้นแค้น

“ถ้าประธานออกัสยอมตกลง ให้ฉันทำอะไรได้หมดทั้งนั้นค่ะ…”

นี่เป็นคำเชื้อเชิญผู้ชายที่ผู้หญิงเสนอให้…..

นลินพูดคำพูดเหล่านี้ออกมา ทั้ง ๆ ที่สายตาก้มมองลงต่ำ เพราะเธอไม่กล้าจ้องตาอันลึกซึ้งของเขา ราวกับสามารถอ่านใจคนออก

ออกัสใช้สายตาหรี่ตามองมาที่ตัวของเธอ ทำดำมืดทั้งสุขุมราวสายน้ำวน มองไม่เห็นพื้น จนช่วงคิ้วขยับเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ใครก็ไม่มีวันรู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่…

นลินจับสัมผัสสายตานั้นได้อย่างชัดเจน เมื่อคำพูดนั้นมันหลุดรอดออกไปแล้ว ทว่าความรู้สึกของเธอมันกลับตึงเครียดหนักกว่าเก่า

ความตึงเครียดราวกับคันธนู พอดึงมันก็ขาดผึง….

เมื่อผ่านไปชั่วครู่ แต่ก็ยังไม่เสียงใดๆ ตอบกลับมา บรรยากาศห้อมล้อมไปด้วยความเงียบงัน มันยิ่งทำให้ใจของนลินเครียดหนักกว่าเดิม

แต่ในหัวสมองนั้นกลับมีเสียงหนึ่งที่คอยพูดกรอกหูเธออยู่ :นี่มันเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับประธานออกัส ถ้าขืนปล่อยไป ต่อไปเกรงว่า….

ความคิดที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลาเดียวกันก็ยิ่งมุ่งมั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน!

ในทางกลับกันมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่มีพื้นที่ให้ถอยหนีได้แล้ว อีกอย่าง เธอไม่เสียใจในสิ่งที่ตนเองได้ตัดสินใจทำลงไป แต่กลับยินดีเสียด้วยซ้ำ!

การที่ได้อยู่กับผู้ชายเช่นนี้ ยังมีอะไรที่เธอจะไม่ยินดีล่ะ?

นลินกัดฟัน และสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลันยื่นมือออกไป และกอดออกัสทางด้านหลัง เอาไว้แน่น แต่กลับตื่นเต้นมาก…

ถ้าครั้งแรกเป็นการสื่อความหมาย งั้นครั้งนี้ก็คือการเชื้อเชิญขั้นเต็มตัวนะสิ!

แม้ว่าจะมีเสื้อกันหนาวสีดำกั้นกลางอยู่ แต่นลินก็สัมผัสกล้ามเป็นลอนที่อยู่บริเวณหน้าท้องใต้ฝ่ามือได้ ความกำยำนั่น มันทำให้เธอหน้าแดงจนหัวใจเต้นโครมคราม

การได้ใกล้ชิดกับเขาขนาดนี้เป็นครั้งแรก จนโพรงจมูกได้กลิ่นอายทั้งหมดของเขา

เธอรู้สึกว่าตนเองหายใจไม่ออก ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขา เธอหลงรักอย่างหัวปักหัวปำ…

ออกัสหรี่นัยน์ตาอันเฉียบคมของเขา และจัดการเอามือของเธอออกอย่างไร้สะทกสะท้าน น้ำเสียงเคร่งขรึมมากกว่าเมื่อครู่ลงไปตั้งเยอะ

“ครูญาณินเป็นเพื่อนของคุณหญิงเชอร์รีนธุระนี้ ยังไงผมก็ต้องช่วย…”

เมื่อได้ยินดังนั้น นลินรู้สึกดีใจท่วมท้น เขายอมตกลงแล้ว!ในที่สุดเขาก็ยอมตกลงแล้ว! ดูสิ ไม่มีเชอร์รีน เธอก็ทำได้เหมือนกัน รู้สึกดีกับเธอเหมือนกัน!

แต่ รอให้เธอหวนคิดถึงคำพูดประโยคนั้นของเขา พลันตัวแข็งทันที ความยินดีกลับค่อยๆ ลดลงเรื่อย และอาการหน้าซีดโพลน พร้อมทั้งเขินอายยากแก่การบรรยายเข้ามาแทนที่

“ครูญาณินเป็นเพื่อนของคุณหญิงเชอร์รีนธุระนี้ ยังไงผมก็ต้องช่วย…”

ที่เขาช่วยเธอ ก็เป็นเพราะ เธอเป็นเพื่อนของเชอร์รีน แค่นั้นจริงๆ

วินาทีนั้น ความอับอายมันรุมล้อมรอบตัวเธอ ใบหน้าแดงราวกับมีเลือดไหลซึมออกมา จนไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้ นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าอับอายที่สุดในชั่วชีวิตนี้ของเธอ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อหน้าเขา

“คุณเป็นเพื่อนกับคุณหญิงเชอร์รีน เรื่องนี้คงไม่ต้องให้ผมคอยเน้นย้ำให้ฟัง เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ผมจะทำเหมือนว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หวังว่าจะไม่มีครั้งที่สองนะ ครูญาณิน…”

ออกัสพูดจาอย่างมีหลักการ น้ำเสียงสุขุมทุ้มต่ำ พร้อมทั้งแสดงความห่างเหินและเย็นเฉียบ

เมื่อจบประโยค เขาก็ไม่มองเธออีกเลย พลันหันตัว และเดินออกไป หางตายังทิ้งความเย็นชาให้ด้วย…

เหลือแค่นลินยืนอยู่ที่เดิมอยู่คนเดียว แก้มเธอร้อนผ่าวดั่งไฟสุม ก็เหมือนถูกใครตบหน้าอย่างแรงๆ อยู่หลายครั้ง ทั้งเจ็บจี๊ด จนชา

รอตอนที่เธอกลับเข้ามาในห้องรับรองนั้น เชอร์รีน ยู่ยี่และนาโนยังคงพูดคุยกันไปเรื่อย ดังนั้นเลยไม่มีใครเห็นถึงความผิดปกติของเธอ

จู่ ๆ นาโน ก็รู้สึกตื่นเต้นเลือดพลุ่งพล่านไปทั่วตัว ดวงตาแดงก่ำ “ประธานออกัสเป็นผู้ชายทั้งแท่ง! เขาเป็นผู้ชายชั้นเลิศแบบนี้ ตกลงว่าแกไปทำยังไงถึงได้เขามาเนี่ย?”

ยู่ยี่ก็อุทานออกมา นี่มันแรงไปมั้ย!

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ เชอร์รีนได้แต่กัดฟันไว้เล็กน้อย “ไม่ใช่เพราะว่าแกเหรอ!”

นาโนไม่เข้าใจ “ฉันทำไมเหรอ?”

“คืนวันแต่งงานของยู่ยี่ หลังจากที่แกจับยัดฉันเข้ามาในห้องแล้ว แกไปไหนล่ะ?”

“ก็กลับสิ ประเด็นสำคัญคือ หลังจากนั้นล่ะ?”

“จากนั้นเขาเองก็ดื่มเหล้าเมาแอ๋ ดันเข้าผิดห้อง เลยขึ้นผิดเตียง นาโนฉันนี่อยากแทงแกให้ตายไปเลยจริงๆ เชียว” แก้มเธอเริ่มร้อนผ่าว แถมยังกัดฟันพูด ทุกอย่างก็เป็นเพราะว่าเธอเตะโอกาสมาให้!

ทว่านาโนกลับสบถด่ากลับมาหนึ่งคำ

“โรแมนติกแถมได้พบเจอกันอย่างโชกโชน ทำไมกูถึงพลาดท่าได้เนี่ย? ชิชะ มีชีวิตมาตั้งนานแต่กลับมาเสียท่าให้กับคุณครูผู้แสนธรรมดาอย่างแก”