ตอนที่ 288 – มาถึงเมืองทหารรับจ้าง
ประตูมิติเปิดให้ใช้แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ทุกคนต้องมอบแกนอสูรระดับ 5 ในขณะที่จำนวนนั้นแตกต่างกันไป คนทั่วไปโดยเฉลี่ยแล้วต้องส่งมอบคนละ 1 แกน
ด้วยราคาเริ่มต้นขนาดนี้จะทำให้ตระกูลเซียและนิกายเทียนหัวในอาณาจักรวายุครามพบว่ามันยากที่จะจ่าย แต่นี่เป็นที่ที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนจากหลายอาณาจักรรวมตัวกันพร้อมด้วยเซียนสวรรค์ แกนอสูรไม่กี่แกน ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเห็นว่ามันมีราคาแพง
ตระกูลเทียนฉินมีชาย 40 คนที่เข้าร่วมงานชุมนุม แต่ครึ่งหนึ่งของพวกเขาเป็นเพียงผู้คุ้มกันในการเดินทาง ในความเป็นจริงมีคนเพียง 10 คนเท่านั้นที่ไปที่เมืองทหารรับจ้าง
ผู้อาวุโสสูงสุดนำกลุ่มไปที่ประตูมิติและกวาดตามองคนที่อยู่ข้างหลังเขา ก่อนที่จะส่งแกนอสูร ระดับ 5 จำนวนหลายแกนไปยังเซียนสวรรค์ท่านหนึ่งที่ยืนเฝ้าดูอยู่ ” มีคนทั้งหมด 9 คนที่นี่ และพวกเรามีแกนอสูรจำนวน 9 อัน
เซียนสวรรค์จากอาณาจักรต้าโจวรับเอาแกนอสูรด้วยรอยยิ้ม “เจ้าเข้าไปได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะมีผลการแข่งขันที่น่าพอใจ”
ผู้อาวุโสสูงสุดพูดจาอย่างสุภาพอีกสองสามคำกับเซียนสวรรค์ก่อนที่จะเดินผ่านประตูมิติไป ด้วยก้าวเพียงก้าวเดียว เขาก็สามารถข้ามหลายพันไมล์ไปยังอีกด้านหนึ่งของทวีปเทียนหยวน
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินและหมิงตงก็ตามหลังฉินเซียวผ่านประตูมิติไป
ด้านข้างของผู้อาวุโสสูงสุด มีเทียนโจวและเพื่อนทหารรับจ้างทั้งสามของเขา หมิงตง เจี้ยนเฉิน ฉินเซียวและยังมีชายวัยกลางคนที่ดูเย็นชาอีกคน เขาสวมเสื้อคลุมสีดำและมีหน้าตาราวกับว่าไม่เคยยิ้มมาก่อนเลย ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเย็นชาเป็นพิเศษ พวกมันทอประกายดุร้าย
“เจี้ยนเฉิน ชายผู้นี้เรียกว่าฉินเจว่ อย่างไรก็ตามเขาไม่ใช่ทายาทสายตรงของตระกูลเทียนฉิน เขาเป็นทารกที่ถูกทอดทิ้งจากโลกภายนอกที่บิดาของข้าเก็บมาเลี้ยง ข้างนอกเขาเย็นชาและถือสันโดษ แต่เนื่องจากเขาได้รับการเลี้ยงดูจากตระกูลเทียนฉิน หัวใจของเขาจึงภักดีต่อเรา นอกจากนี้เนื่องจากความสามารถในการบ่มเพาะและความแข็งแกร่ง รวมถึงการฝึกฝนอย่างหนักของเขา เขาจึงกลายเป็นเซียนปฐพีเมื่อสามปีที่แล้ว” ฉินเซียวพูดกับเจี้ยนเฉินด้วยเสียงเบา ๆ สีหน้าของเขาได้แสดงความชื่นชมเป็นอย่างมาก
ด้วยสิ่งนั้นตระกูลเทียนฉินก็ข้ามผ่านประตูมิติ ช่วงเวลาที่เจี้ยนเฉินก้าวข้ามไป เขาจะไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากชั้นพลังงานที่มองไม่เห็นได้ปกคลุมเขาก่อนที่จะถึงอีกด้านหนึ่ง
เขาปรากฏตัวในป่าทึบที่ซึ่งผู้คนหลายร้อยคนได้รวมตัวกันอยู่ พวกเขาผ่านประตูมิติมาก่อน
“ข้าไม่คิดว่าโลกนี้จะมีอะไรที่ลึกลับเหมือนประตูมิติ ผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมที่เป็นคนสร้างประตูมิตินี้ได้ใช้วิธีการที่น่าอัศจรรย์เพียงใด” เจี้ยนเฉินถอนหายใจด้วยความชื่นชม เขาต้องการบรรลุเป้าหมายเป็นอย่างมากและตั้งตารอจนถึงวันที่เขาจะไปถึงระดับดังกล่าวเช่นกัน
“ไปกันเถอะ เมืองทหารรับจ้างอยู่ตรงหน้าพวกเรา” หลังจากรอให้ทุกคนมาถึงผู้อาวุโสสูงสุดนำกลุ่มออกจากป่า เนื่องจากสัตว์อสูรไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในประตูมิติ ทุกคนจึงได้แต่เดินเท่านั้น แม้จะมีข้อเท็จจริงดังกล่าว การเดินทางนั้นค่อนข้างเร็ว
ป่าไม่ได้ใหญ่มากนัก เมื่อพวกเขาเดินออกจากมัน พวกเขาเข้าไปในทุ่งราบที่มีคนเพียงไม่กี่คนดั่งเช่นกลุ่มของเจี้ยนเฉินที่กำลังเดินไปที่เมืองทหารรับจ้าง ในบางครั้งกลุ่มอื่น ๆ ที่ขี่สัตว์อสูรที่ผ่านไปจะส่งฝุ่นให้ลอยขึ้นไปในอากาศ มีบางคนที่บินผ่านท้องฟ้าไปด้วยสัตว์อสูรที่บินได้บางชนิดเช่นกัน
ทุกอย่างเหมือนกับเมื่อกลุ่มของเจี้ยนเฉินที่ออกจากตระกูลเทียนฉินเป็นครั้งแรก ข้อแตกต่างในการเดินทางของพวกเขาในตอนนี้ก็คือพวกเขากำลังเดินแทนที่จะบิน
บนถนน เทียนโจวยังคงจ้องมองอย่างเย็นชาไปที่หลังของเจี้ยนเฉิน หากไม่ใช่เพราะความกังวลของเขาเกี่ยวกับผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว เทียนโจวก็น่าจะฆ่าเขาไปแล้ว
เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินไม่สนใจเขาราวกับว่าเขาไม่ได้สังเกตเห็นการมีอยู่ของเทียนโจว เทียนโจวก็โกรธมากจนต้องกัดฟันกรอด ๆ ใจของเขาปรารถนาให้เจี้ยนเฉินพูดจาขัดแย้งกับเขา ด้วยวิธีนั้นเทียนโจวจะสามารถสอนบทเรียนให้กับเขาได้
2 ชั่วยามต่อมา ผู้อาวุโสสูงสุดนำกลุ่มทั้งหมดไปยังเมืองทหารรับจ้าง เมืองทหารรับจ้างเป็นเมืองใหญ่ที่แผ่กระจายไปทั่วผืนดินอันกว้างใหญ่ ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างเมืองทหารรับจ้างและเมืองอื่น ๆ คือเมืองทหารรับจ้างไม่มีกำแพงเมืองเลย ทุกคนสามารถเข้าไปในเมืองได้จากทุกทิศทาง แต่กลับกัน มันมีเกราะป้องกันสีทองขนาดยักษ์ที่เปล่งประกายรอบ ๆ เมืองเพื่อปกป้องเมืองทหารรับจ้างที่อยู่ด้านใน
” ข้าอยากให้ทุกคนจำไว้ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามอย่าเริ่มการต่อสู้ภายในเมืองทหารรับจ้าง ไม่เช่นนั้นเจ้าจะเสี่ยงต่อการถูกลงโทษอย่างรุนแรง มีขุมอำนาจมากมายในเมืองที่เราไม่สามารถทำให้ขุ่นเคืองได้ ดังนั้นเจ้าน่าจะจำกฎข้อนี้ให้ดี” ผู้อาวุโสสูงสสุดพูดอย่างเข้มงวดกับกลุ่มที่เขาเป็นผู้นำ
“ขอรับ ผู้อาวุโสสูงสุด ! ” ทุกคนต่างร้องออกมาด้วยความเคารพ
จากนั้นทุกคนก็เริ่มเดินเข้าไปในเมืองทหารรับจ้าง แม้ว่าจะไม่มีกำแพงเมือง แต่การตกแต่งภายในของเมืองก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเมืองอื่น ๆ มากนักโดยมีร้านค้าและโรงเหล้าหลายแห่งรวมตัวกันอยู่ทั่วเมือง
งานชุมนุมของกลุ่มทหารรับจ้างจะเริ่มขึ้นหลังจากนี้อีกครึ่งเดือน ดังนั้นตระกูลเทียนฉินจึงจัดตั้งสถานที่พำนักชั่วคราวในโรงเตี๊ยม ในวันถัดไปฉินเซียว เจี้ยนเฉินและหมิงตงทุกคนออกไปเดินเล่นรอบเมือง
ผู้อาวุโสสูงสุดได้หายตัวไปในวันที่สองเหมือนเมื่อตอนที่พวกเขาอยู่ที่พระราชวังของอาณาจักรต้าโจว ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน แต่เขาไม่ได้จำกัดไม่ให้ใครไปไหน
ไม่กี่วันต่อมาค่อนข้างสงบ แต่ผู้คนจำนวนมากเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในเมืองทหารรับจ้าง โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ ทุกแห่งเต็มไปด้วยผู้คนเต็มไปหมดและมีกระโจมตั้งอยู่มากมายนอกเมือง
ในชั่วพริบตาเวลาเพียงครึ่งเดือนก็ผ่านไป เช้าตรู่ของวันนั้น ในที่สุดผู้อาวุโสสูงสุดก็ปรากฏตัวต่อหน้าตระกูลเทียนฉินอีกครั้งและพากลุ่มไปที่ศูนย์กลางของเมืองทหารรับจ้าง
“หมิงตง เจ้าใช้เวลาสองสามวันเพื่อพักผ่อนและระวังตัวด้วย” เจี้ยนเฉินร้องบอกหมิงดงเมื่อเขาจากไป
หมิงตงพยักหน้าก่อนที่จะตบมือเขาบนบ่า” ข้าเข้าใจ เจ้าต้องกลับมาอย่างปลอดภัย ข้าจะรอเจ้า
ผู้อาวุโสสูงสุดหันมามองหมิงตง “เมืองทหารรับจ้างเป็นเมืองที่ปลอดภัยอย่างยิ่ง เจ้าจะไม่พบเมืองที่ปลอดภัยมากกว่าเมืองนี้อีก เพียงจำไว้ว่าอย่าเริ่มการต่อสู้ภายในเมืองทหารรับจ้าง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม มิฉะนั้นจะไม่มีใครช่วยเจ้าได้”
“ข้าขอบคุณผู้อาวุโสสำหรับคำเตือน” หมิงดงคำนับเขาด้วยความเคารพ
กลุ่มเดินทางมาถึงใจกลางเมืองทหารรับจ้างอย่างรวดเร็ว มันเป็นตลาดนัดที่มีขนาดใหญ่มาก แต่ก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมายเหลือที่จะนับ เจี้ยนเฉินเดาได้ว่าอย่างน้อยก็แสนคน ตรงกลางมีหอคอยสูง 50 เมตรที่มีรูปปั้นของชายวัยกลางคนที่สดใสเหมือนมีชีวิต มีเสน่ห์ลึกลับที่ทำให้ดูเหมือนว่าเป็นคนจริง ๆ ซี่งทำให้น่าหวาดกลัว นิ้วของเขาชี้ไปที่ขอบฟ้าที่ห่างไกลราวกับว่าพยายามที่จะทะลวงสวรรค์
บริเวณรอบ ๆ รูปปั้นมีผู้อาวุโสสองสามคนรวมถึงชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างแปลกตาซึ่งกำลังดูรูปปั้นที่มีทั้งความเคารพและความหวาดกลัวที่ซ่อนอยู่
“เป็นไปได้หรือไม่ว่ารูปปั้นนี้เป็นของผู้ก่อตั้งเมืองทหารรับจ้าง ? ข้าได้ยินมาว่าผู้ก่อตั้งเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อและยังได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ภายใต้สวรรค์ กล่าวกันว่าไม่มีใครสามารถสู้กับเขาได้ น่าเสียดายที่เขาหายตัวไปหลายปี … “
“ตามบันทึกโบราณ เมื่อยุคแห่งความโกลาหลมาถึงทวีปเทียนหยวนนั้น มนุษยชาติกำลังจะสูญพันธุ์หลังจากเผชิญกับหลายร้อยเผ่าพันธุ์ แต่เมื่อมนุษยชาติใกล้ถึงจุดสิ้นสุด อัจฉริยะของพวกเขาที่มีพลังมากพอที่จะทำให้โลกตกใจ ดูเหมือนว่าจะต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญของแต่ละเผ่าพันธุ์ ในที่สุดศัตรูของมนุษยชาติก็ได้ถูกขับไล่และทำให้มนุษย์ในทวีปนี้ปลอดภัย ผู้ช่วยให้รอดชีวิตนี้จึงสร้างเมืองทหารรับจ้างและกระตุ้นการพัฒนาของทหารรับจ้างในทวีป … “
“บันทึกโบราณยังกล่าวว่าผู้ก่อตั้งเมืองทหารรับจ้างมีชื่อว่าโม่หยุนเทียน เขาบอกว่าเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่เคยมีมา ไม่มีบันทึกของเขาในภายหลัง; เขาอาจจากโลกนี้ไปสู่อีกโลกหนึ่ง”
” ถึงตอนนี้เป็นเวลากว่าหนึ่งแสนปีแล้วที่ยุคของโม่หยุนเทียนแต่ไม่มีใครสามารถอยู่ได้นานเท่านี้ เป็นเรื่องน่าละอายที่ความสามารถครั้งหนึ่งในหนึ่งพันปีนี้ไม่สามารถแยกตัวออกจากจุดจบที่กำหนดไว้ล่วงหน้า..”
มีคนเห็นผู้อาวุโสคุยกันเรื่องนี้ในทุกจุดในตลาดนัด ผู้อาวุโสทุกคนมองไปที่รูปปั้นด้วยความเคารพและแม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดก็ไม่มีข้อยกเว้น