ตอนที่ 244 ผมไม่ต้องการให้คุณมาชี้นิ้วสั่ง! / ตอนที่ 245 พวกคนร้ายที่เหลืออยู่ไหน (1)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 244 ผมไม่ต้องการให้คุณมาชี้นิ้วสั่ง!  

 

 

อันซย่าซย่ารีบลุกขึ้นยืนเมื่อเธอได้ยินเรื่องศัตรูตัวฉกาจ “พ่อนายงั้นเหรอ พ่อแบบพ่ออะนะ อ๊ากกก! ฉันตื่นเต้น…ฉันต้องไปเจอเขาจริงๆ เหรอ…” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อมองเธอด้วยสายตาเรียบเฉย “ใจเย็นๆ ฉันอยู่กับเธอน่า” 

 

 

มีบางสิ่งบางอย่างในน้ำเสียงของเขาที่ทำให้เธอสงบลง นิ้วเรียวยาวของเขาลูบผ่านผมของเธออย่างอ่อนโยน นั่นทำให้อันซย่าซย่าสบายใจขึ้นมาก เธออ้อนด้วยสายตาอยู่พักหนึ่ง แต่ทว่าไม่เป็นผล สุดท้ายเธอต้องยอมพยักหน้าพร้อมทำปากเบะ 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อจับมือเธอและพาเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย 

 

 

บอดีการ์ดในชุดดำสองคนยืนอยู่หน้าประตู และไม่ไกลออกไปมีชายหน้าตาดุดันหลายคนเดินตรวจตราบริเวณทางเดิน 

 

 

อันซย่าซย่าตระหนกเล็กน้อย ทุกอย่างชี้ชัดว่าพ่อของเซิ่งเจ๋อต้องเป็นบุคคลสำคัญแน่ๆ … 

 

 

หลังเธอผลักประตูให้เปิดออก ภาพที่เห็นคือห้องผู้ป่วยที่ถูกตกแต่งภายในอย่างหรูหราไม่ต่างกับบ้านหลังหนึ่ง ข้างในมีห้องนั่งเล่นด้วยซ้ำ 

 

 

ชายวัยกลางคนนั่งอยู่บนโซฟา เขาใส่ชุดขนาดพอเหมาะอย่างดี รูปลักษณ์ของเขาหล่อเหลาสะดุดตา สำหรับชายมีอายุแล้ว เขามีเสน่ห์บางอย่างที่ไม่ธรรมดาเลย 

 

 

เมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา เขาวางหนังสือพิมพ์ในมือลงและพยักหน้า “ลูกนี่เอง” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ “ครับ พ่อมาทำอะไร” 

 

 

เซิ่งชิงอี้เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนตอบ “มาตรวจร่างกายเฉยๆ” 

 

 

โรงพยาบาลนี้ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจของตระกูลเซิ่งเช่นกัน ส่วนใหญ่พวกเขามาตรวจร่างกายกันที่นี่ 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเอ่ยเป็นเชิงรับรู้ “อ๋อ” จากนั้นเขากระตุกมืออันซย่าซย่า “ซย่าซย่า มาสิมาเจอ…พ่อฉัน” 

 

 

เลือดฝาดแก้มของอันซย่าซย่า เธอกระวนกระวายใจไปหมด เธอโค้งคำนับอย่างมีมารยาท “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณลุง หนูชื่ออันซย่าซย่าค่ะ” 

 

 

สายตาของเซิ่งชิงอี้สะดุดกับมือของทั้งสองที่จับกันแน่น เห็นเป็นภาพที่น่าขัน 

 

 

“ซย่าซย่าใช่ไหม” เขาอมยิ้ม เซิ่งอี่เจ๋อมีดวงตาเหมือนเขา ทำให้นึกภาพของเซิ่งชิงอี้ตอนยังหนุ่มได้ไม่ยากนัก ตอนที่มีสาวๆ มากมายตกหลุมรักเขา 

 

 

หลังจากคุยกับอันซย่าซย่าไม่นาน เซิ่งชิงอี้โพล่งขึ้นมา “ซย่าซย่า ฉันต้องคุยส่วนตัวกับอี่เจ๋อหน่อย หนูไปรอข้างนอกแป๊บนึงได้ไหม ฉันบอกให้คนขับรถพาหนูไปร้านอาหารแถวนี้ได้นะ ถ้าหนูหิว” 

 

 

อันซย่าซย่ารีบส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกค่ะ ขอบคุณนะคะคุณลุง” 

 

 

เธอผละมือออกและพยักหน้าให้เซิ่งอี่เจ๋อ 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อขมวดคิ้วและพยักหน้ากลับ “อย่าไปไกลล่ะ เดี๋ยวฉันตามไป” 

 

 

“โอเค” 

 

 

เซิ่งชิงอี้หัวเราะเบาๆ หลังอันซย่าซย่าออกจากห้องไป “นี่ครั้งแรกเลยนะที่แกเรียกฉันว่า ‘พ่อ’ ” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยังคงแสดงสีหน้าไร้ความรู้สึก “พูดแบบนี้ต้องการจะบอกอะไรงั้นเหรอ” 

 

 

เขามองลูกชายที่ใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับเขา เซิ่งชิงอี้รู้สึกได้ถึงความโกรธที่ปะทุขึ้นมา 

 

 

“อี่เจ๋อ ที่ผ่านมาฉันตามใจแกมากไปเหรอ แกอยากเข้าวงการบันเทิง ฉันก็ยอม แกอยากทิ้งโรงเรียนชั้นนำในต่างประเทศมาเข้าเรียนที่ฉีซย่า ฉันก็ยอมแกอีก ตอนนี้อะไรอีกล่ะ เจอผู้หญิงริมทางก็เรียกว่าแฟนซะแล้ว แกรู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่!” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อไม่ขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้าแม้เพียงเล็กน้อย “พูดจบหรือยัง” 

 

 

“ไอ้ลูกเวร!” เซิ่งชิงอี้คว้าที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะและคว้างไปที่ลูกชายของตน เซิ่งอี่เจ๋อขยับศีรษะของเขาเล็กน้อยเพื่อหลบหลีก 

 

 

“แกไม่รู้เลยหรือไงว่าผู้หญิงคนนั้นต่างกับแกแค่ไหน เธอมีดีอะไร แกคิดว่าคบกันแล้วจะมีอนาคตเหรอ แค่เห็นหน้าสวยๆ ก็ลืมทุกอย่างที่ฉันสอนไปหมดแล้วหรือยังไง!” เขาเดือดดาลเพราะเซิ่งอี่เจ๋อไม่แสดงสีหน้าใดๆ 

 

 

ความเงียบปกคลุมไปชั่วครู่ ก่อนที่เซิ่งอี่เจ๋อค่อยๆ แสยะยิ้ม 

 

 

“คุณมาตัดสินใจแทนผมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ผมอาจจะยังเด็กและต้องการคำแนะนำในบางครั้ง แต่ผมไม่ต้องการให้คุณมาชี้นิ้วสั่ง!” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 245 พวกคนร้ายที่เหลืออยู่ไหน (1)  

 

 

เซิ่งชิงอี้กระแทกเสียง “แกเคารพพ่อของแกบ้างไหม ฉันบอกไว้เลยนะ เลิกกับผู้หญิงคนนั้นซะ ไม่งั้นฉันจะ…” 

 

 

“ไม่งั้นจะทำไม…” น้ำเสียงเซิ่งอี่เจ๋อเย็นยะเยือก “ผมไม่ใช่เด็กคนเดิมเมื่อหลายสิบปีก่อนอีกต่อไปแล้ว ผมมีชีวิตเป็นของตัวเอง ผมตัดสินใจเอง และผมชอบผู้หญิงคนนี้ ไม่ว่าผมจะเลือกเดินทางไหน มันก็เป็นการตัดสินใจของผม ผมจะยอมรับผลที่ตามมา ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม! คุณจะปิดกั้นผมจนผมเป็นบ้าอีกหรือไง หรือจะให้ผมใช้ชีวิตอย่างศพเดินได้” 

 

 

เซิ่งชิงอี้ชี้เขาด้วยนิ้วที่เริ่มสั่นเทา 

 

 

เขายอมรับว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเป็นพ่อที่แย่มาก 

 

 

เขาไม่ได้เป็นครอบครัวให้ลูกของเขาหรือให้ความรักแก่ลูกของเขามากพอ เขาไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนด้วยซ้ำ 

 

 

ครั้งหนึ่ง เขาเคยคิดว่าเขาสามารถใช้อำนาจความเป็นพ่อในการบังคับควบคุมเซิ่งอี่เจ๋อได้ แต่เขารู้ได้ว่าเด็กคนนี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของเขาแล้ว 

 

 

สีหน้าของเซิ่งอี่เจ๋อไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ โดยสิ้นเชิง “ผมแนะนำคุณให้เธอรู้จักตามมารยาทเท่านั้น ถ้าคุณไม่ชอบเธอ ผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะพบคุณอีก” 

 

 

มีหลายๆ สิ่งที่เขาไม่ยอมให้อันซย่าซย่าต้องมาเผชิญ 

 

 

เขาไม่สนเลยสักนิดว่าคนอื่นจะคิดกับพวกเขายังไง และเขาหวังว่าเธอจะไม่สนเช่นกัน 

 

 

เขาออกไปโดยไม่พูดอะไรอีก ทิ้งให้เซิ่งชิงอี้เอนหลังพิงโซฟาด้วยความโศกเศร้า เขาดูมีอายุมากขึ้นอีกสิบปีทันที 

 

 

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเป็นคนที่ทำผิดพลาดไปงั้นหรือ 

 

 

เขาทำให้ลูกชายคนเดียวของเขาเกลียดเขาขนาดนี้เชียวหรือ 

 

 

– 

 

 

วันนี้เป็นวันที่แดดจ้า อันซย่าซย่าอาบแดดอยู่บนม้านั่งในจัตุรัสที่ห่างออกไปจากโรงพยาบาลไม่มากนัก เธอสบายเสียจนหลับตาพริ้ม 

 

 

คนสองคนที่ดูเหมือนจะเป็นคู่รักกันเหลือบมองเธอ ก่อนมองหน้ากัน ผู้หญิงเดินเข้ามาหาอันซย่าซย่า 

 

 

เห็นได้ชัดเจนว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ เธอนั่งลงข้างๆ อันซย่าซย่า 

 

 

อันซย่าซย่าคิดว่าเธอน่าจะต้องการพื้นที่ เลยขยับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้เธอมีพื้นที่มากขึ้น 

 

 

ผู้หญิงคนนั้นเขยิบเข้ามากระทบกับอันซย่าซย่าจนเธอขมวดคิ้ว เธอคิดว่าเธอน่าจะกลับไปรอที่โรงพยาบาลดีกว่า 

 

 

หลังจากเธอเดินออกมาเพียงไม่กี่ก้าว ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องด้วยความตกใจไล่หลังเธอ “เอ๊ะ โทรศัพท์ฉันอยู่ไหน” 

 

 

ชายร่างกำยำที่เป็นคู่ของเธอเดินเข้ามาหา ก่อนถามด้วยท่าทีดุดัน “เกิดอะไรขึ้น โดนขโมยเหรอ” 

 

 

“เมื่อกี้เธอนั่งข้างฉัน!” ผู้หญิงคนนั้นตะโกนและชายคนดังกล่าวคว้าตัวอันซย่าซย่าไว้ทันที “เธอขโมยโทรศัพท์เมียฉันไปเหรอ” 

 

 

“หนู…หนูเปล่านะคะ…” อันซย่าซย่าตกใจ ผู้ชายคนนั้นตะคอก “ต้องเป็นเธอแน่ๆ! โทรศัพท์ใหม่ด้วย ไอโฟนเอ็กซ์เอส! เอาคืนมาเดี๋ยวนี้!” 

 

 

คุณยายที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเสริม “ใช่ๆ คืนเขาเดี๋ยวนี้นะ! เด็กผู้หญิงอะไรหน้าไม่อาย ขโมยโทรศัพท์ผู้หญิงท้อง!” 

 

 

มีผู้คนมากหน้าหลายตาเข้ามามุงดูเหตุการณ์ ทุกคนเห็นไปในทิศทางเดียวกัน อันซย่าซย่าไม่สามารถจะอธิบายให้พวกเขาฟังได้ทุกคนพร้อมกัน เธอไม่รู้จะรับมือยังไงดี 

 

 

ผู้หญิงท้องคนนั้นส่งสายตาให้ชายหนุ่ม เขาเหมือนจะรู้คิว “ถ้าไม่คืนมาเดี๋ยวนี้ ฉันจะแจ้งตำรวจ!” 

 

 

ทันใดนั้น คนสองคนในชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ทั้งสองถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคร่าวๆ พวกเขาจับตัวอันซย่าซย่า “ไปกับเรา!” 

 

 

อันซย่าซย่ารู้สึกเหมือนเธอกำลังจะเสียสติ เธอพยายามอธิบาย แต่ทว่ามีคนหนึ่งในฝูงชนไม่ปักใจเชื่อเธอ จากนั้นทุกคนจึงเร่งเร้าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวเธอไป 

 

 

เธอชำเลืองมองรถที่จอดห่างออกไปไม่ไกล และเธอพบว่ามันไม่ใช่รถตำรวจ! 

 

 

ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัวของเธอ… 

 

 

แย่แล้ว เธอคงไม่ได้เจอพวกค้ามนุษย์หรอกนะ ใช่ไหม