บทที่ 1016 ประตูในน้ำ

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

“นั่นมันวิ่งเร็วเกินไปรึเปล่าวะนั่น! ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ก็ต้องโดนตามทันน่ะสิ!” ระหว่างวิ่งหนี หลิงม่อหันกลับไปมองข้างหลัง พลันรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว สัตว์ประหลาดตัวนั้นวิ่งด้วยแขนขาทั้งสี่ข้าง มันวิ่งไล่ตามเขามาติดๆ ในระยะห้าเมตร และไม่นาน เสียง “สวบสาบๆๆ” ก็ดังออกมาจากไอหมอกมืดอย่างรวดเร็ว

ดีที่ในเวลาเท่านี้ ก็น่าจะมากพอให้เฮยซือหนีออกไปได้แล้ว…

ขณะเดียวกัน ร่างจริงของหลิงม่อพลันเร่งความเร็ว เขาพูดกับอวี๋ซือหรานโดยไม่หันไปมอง “ตามฉันมา ฉันพอรู้ทิศทางคร่าวๆ แล้ว”

เดิมทีอวี๋ซือหรานกำลังพยายามหาเส้นทาง พอได้ยินก็ร้องดีใจขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้นก็ดีน่ะสิ แต่ว่านายรู้ได้ยังไง?” แต่ไม่รอให้หลิงม่อตอบ ปากของโลลิน้อยก็เบะคว่ำอีกครั้ง “แต่ว่า เฮยซือไม่อยู่…ฮือออออ…”

“เจ้าเฮยซือบ้านั่น!” หลิงม่ออดลอบด่าไม่ได้ จากนั้นก็ได้แต่พูดอย่างจนใจ “วางใจเถอะ ฉันหาเจ้าโง่นั่นเจอแล้วเหมือนกัน”

“ฮืออ…หา?” อวี๋ซือหรานเงยหน้าขึ้น เบิกตากว้าง พูดว่า “จริงอ่ะ?”

“จริง! แต่ว่าสถานการณ์ของมันค่อนข้าง…ช่างเถอะ อีกเดี๋ยวให้มันเป็นคนบอกเธอเองแล้วกัน” หลิงม่อโบกมือไปมา ความจริงแล้ว เขาไม่รู้จะบอกอวี๋ซือหรานยังไงจริงๆ…เพราะตัวเขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นเลย!

ดีที่อวี๋ซือหรานไม่ทันฟังประโยคสุดท้าย พอได้ยินว่าหาเฮยซือเจอแล้ว เธอรีบกระโดดโลดเต้นไปข้างหน้า บิดตัวไปมาแล้วหัวเราะร่าเริง “ฮี่ๆ…”

“หัวเราะบ้าอะไรของเธอ…”

“ฮี่ๆๆๆ…”

ขณะเดียวกัน แสงไฟฉายในมือของหลิงม่อที่ส่ายไปส่ายมาสาดส่องไปยังกำแพงเบื้องหน้า…สิบวินาทีต่อมา ท่ามกลางความร้อนรน ในที่สุดเขาก็หารูโหว่บนกำแพงที่ไม่สะดุดตาเจอ พอเห็นรั้วเหล็กที่คุ้นตาเหล่านั้น หลิงม่อก็ถอนหายใจออกมาทันที ถึงแม้ไม่ใช่จุดเดียวกัน แต่รั้วเหล็กพวกนี้ก็เหมือนกับที่อยู่ในบ่อน้ำนั่นเป๊ะ

“พวกเราไปเถอะ” หลิงม่อกระโดดข้ามไปอย่างไม่รีรอ

“ที่นี่ที่ไหนน่ะ…” อวี๋ซือหรานมุดตามมาติดๆ จากนั้นก็มองซ้ายมองขวาอย่างสงสัย ขณะที่ถาม เธอได้ยื่นนิ้วมือออกไปปาดของเหลวหนืดที่อยู่บนกำแพงออกมาอย่างไม่อยู่สุข ของสิ่งนี้พอปาดออกมาเหมือนอำพันมาก เพียงแต่สีไม่ได้โปร่งใสเท่า เธอบดขยี้มันแรงๆ แล้วของเหลวหนืดนั้นก็ได้กลายเป็นผุยผงอยู่ในระหว่างนิ้วมือเธอ เหลือแต่ส่วนที่ค่อนข้างเหนียวหนืด

ซอมบี้โลลิทำหน้าขยะแขยงทันที แต่หลังจากสะบัดมือแรงๆ กลับพบว่าไม่สามารถสลัดมันทิ้ง…

“ตามคาด…” หลิงม่อเองก็ขยับเข้าไปดูใกล้ๆ “พวกมันเคยผ่านทางนี้จริงๆ ด้วย”

“พวกมัน?” อวี๋ซือหรานแอบเช็ดของเหลวหนืดตรงชายเสื้อหลิงม่อ แล้วถามขึ้น ปรากฏว่ายังพูดไม่ทันจบ อยู่ๆ เธอก็ร้อง “โอ๊ย” ขึ้นมา จากนั้นก็ยกมือกุมหัวพึมพำอย่างเจ็บใจ “ชิ…”

หลิงม่อถือไฟฉายเดินไปข้างหน้า “มาเร็ว”

นี่คือช่องทางเดินที่ค่อนข้างต่ำ และยิ่งเดินลึกเข้าไป ก็ยิ่งเปียกชื้น

หลังจากเดินไปได้ไม่ไกล อยู่ๆ หลิงม่อก็นั่งลง จากนั้นก็วางไฟฉายลงบนพื้น

ขณะที่อวี๋ซือหรานเขย่งปลายเท้าและจ้องมองด้วยความสงสัย ไฟฉายกระบอกนั้นก็กลิ้งหลุนๆ ลงไป หลิงม่อรีบจับมันไว้ก่อนจะกลิ้งไปไกล เงยหน้าบอกว่า “ช่องทางเดินเส้นนี้ทอดลงไปข้างล่าง ปลายทางอีกด้านของมัน ต้องเป็นบ่อน้ำนั่นแน่ๆ พวกเรารีบไปกันเถอะ!”

ทว่าขณะเดียวกันเขาก็คิดได้ว่า ตอนที่เฮยซือพูดถึงที่นี่ มันบรรยายที่นี่อย่างไม่ค่อยมั่นใจ : วุ่นวาย ที่นี่เป็นสถานที่ที่วุ่นวายแห่งหนึ่ง…ถ้าหาก “ความวุ่นวาย” ที่มันพูดถึงคือสัตว์ประหลาดใต้น้ำพวกนั้นล่ะก็ มันจะกลายเป็นเรื่องดีสำหรับหลิงม่อในตอนนี้ แต่ปัญหาอยู่ที่ เฮยซือไม่มั่นใจเรื่องนี้นัก และหลิงม่อก็ไม่มีเบาะแสอื่นใดเลย

อีกอย่าง ตอนนี้เขาก็ไม่มีเวลาสำหรับตรงนี้ด้วย…

หลังจากวิ่งมาเกือบสามสิบเมตร ด้านหน้าพลันปรากฏบันไดทอดลงข้างล่างเส้นหนึ่งขึ้น

บันไดเส้นนั้นสร้างขึ้นอย่างลวกๆ แต่กลับยาวมาก…พอหลิงม่อส่องไฟฉายออกไปเพื่อสำรวจดู เขาก็รู้สึกได้ว่ามันเป็นบันไดที่สัตว์ประหลาดพวกนั้นสร้างขึ้นมา แต่เพราะอะไรนั้น…

ในเมื่อแม้แต่พลังแปลงร่างก็ยังมี อย่างนั้นสร้างบันไดสักเส้นสองเส้นก็คงไม่ใช่เรื่องน่าตกใจแล้ว ไม่แน่ว่า นี่อาจเป็นวิธีการเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์อย่างหนึ่งของพวกมันก็ได้

เอาเป็นว่าในท่อน้ำทิ้งทั่วไป คงไม่มีบันไดอย่างนี้อยู่แน่นอน…ก็แน่ล่ะสิ จะมีไปเพื่ออะไรกันล่ะ!

“ประหลาดมาก” แม้แต่อวี๋ซือหรานก็ยังอุทานออกมา

“พวกเราต้องรีบแล้ว” หลิงม่อรีบคำนวณเวลาอย่างร้อนรน พลางบอก

อวี๋ซือหรานพยักหน้า จากนั้นก็คลี่ปาก ส่งรอยยิ้มบางๆ ให้เขา “ถ้าไง…ฉันพานายลงไปเอง เอาไหม? นายชอบเล่นรถไฟเหาะไหม?”

“แน่นอนว่า…ว๊ากก!”

ในห้าวินาทีต่อมา…ไม่สิ อาจจะแค่สามวินาที หลิงม่อรู้สึกเหมือนตัวเองแหกปากตะโกนแบบไม่มีเสียงตลอดสามวินาทีที่ผ่านมา ผนังที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำและของเหลวหนืดพุ่งผ่านหน้าเขาไปในระยะห่างห้าเมตรด้วยความเร็วที่บ้าคลั่ง และเมื่ออวี๋ซือหรานพาเขามาถึงปลายทาง หลิงม่อก็รู้สึกเหมือนอวัยวะภายในของตัวเองแทบจะพุ่งออกทางปากแล้ว…

“ว้าวว…” อวี๋ซือหรานจ้องไปข้างหน้า พลันร้องตื่นเต้น

หลิงม่อใช้มือยันกำแพง พยายามสะบัดหัวไล่อาการมึน แล้วรีบมองไปข้างหน้า

น้ำขัง…ไม่นึกเลยว่าสุดปลายสายช่องทางเดินเส้นนี้ กลับเป็นพื้นที่ที่มีน้ำขังที่ทั้งมืดมิด แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกกว้างขวางแบบนี้ เขาลองใช้ไฟฉายส่อง แต่กลับพบว่ามองไม่เห็นฝั่งตรงข้ามเลย…

“ซย่าน่า?” หลิงม่อลองตะโกนเรียกหนึ่งครั้ง แต่กลับไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆ

“ไส้กรอก…” เวลานี้ อวี๋ซือหรานกลับดึงเขา แล้วชี้ไปยังผิวน้ำที่อยู่ไม่ไกล ปากก็พูดเสียงเบา “ดูนั่นเร็ว…”

“มีอะไรงั้นหรอ?” หลิงม่อใช้ไฟฉายส่องไป แล้วก็ต้องตกใจ

นั่นมันศพลอยน้ำ…

พูดให้ถูกก็คือ มันเป็นศพที่ดูเหมือนจะเป็น “มนุษย์หน้าอืด” เพศหญิงตัวหนึ่ง แม้ถูกแสงไฟสว่างแยงตาส่องไป มันก็ยังคงนิ่งไม่ไหวติง…

“…มันเหมือนจะตายแล้วจริงๆ” หลิงม่อส่องไฟฉายสำรวจศพของมันอย่างละเอียด…จุดที่อยู่ใต้น้ำ และตรงเอวของมัน ดูเหมือนจะมีรูแผลขนาดใหญ่อยู่…แผ่นฟิล์มแผ่นหนึ่งยังคงลอยอยู่ข้างตัวมัน แต่กลับไม่หลุดลอกออกไปเอง และไม่มีแผ่นฟิล์มถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วย

“เป็นฝีมือพวกซย่าน่า…” มีเพียงซอมบี้สาวสองตัวนั้นเท่านั้นที่จะฆ่าพวกมันได้…และพอคำนึงถึงว่าที่นี่เป็นแหล่งน้ำนิ่ง ศพศพนี้ไม่มีทางลอยมาจากที่อื่นแน่นอน มันอยู่ที่นี่มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

“ที่นี่น่าจะมีทางเชื่อมที่ทะลุไปถึงบ่อน้ำแห่งนั้นได้ ตอนนั้นฉันมองเห็นได้ไม่กว้างนัก ก็เลยไม่รู้ว่ามีอยู่ ที่มั่นใจได้ก็คือ พวกซย่าน่าเคยมาที่นี่ แต่พวกเธอกลับไม่เคยผ่านบันไดเส้นนี้ และสัตว์ประหลาดพวกนั้นก็ใช้ทางเส้นนี้น้อยครั้งมาก” หลิงม่อชี้ไปยังตะไคร่น้ำที่เกาะอยู่บนบันได เขาพูด พลางเดินตามขั้นบันไดลงไปในน้ำ

เมื่อเขาเดินมาสุดบันได ระดับน้ำก็ลึกประมาณหนึ่งเมตรแล้ว และน้ำก็เย็นมากด้วย หลิงม่อสูดหายใจลึก จากนั้นก็หันไปห้ามอวี๋ซือหรานที่ทำท่าจะตามลงมา “สูงแค่ 120 อย่าลงมาจะดีกว่า…เธอรอฉันอยู่ที่นี่ ถ้าหากฉันยังไม่…ถ้าหากผ่านไปสามสิบวินาทีแล้วยังไม่ได้สัญญาณอะไรจากฉัน เธอก็กลับไปที่ทางออกก่อน แล้วรีบออกไปจากที่นี่พร้อมกับพวกอวี่เหวินซวน ฉันจะหาทางออกไปเอง”

“โอเค…” อวี๋ซือหรานพยักหน้า ทว่าดูจากสีหน้าเธอ ยังคงเดาออกว่าเธออยากลงมากับเขามาก…เพียงแต่ความสูงแค่ 120 เซนติเมตรของเธอ แทบจะเท่ากับระดับน้ำที่ลึกประมาณหนึ่งเมตรกว่า จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เธอจำต้องยอมรับ…ลองนึกภาพที่ตัวเองเหลือแค่ส่วนหัวอยู่บนน้ำสิ รออยู่ที่นี่อย่างว่าง่ายดีกว่า…

เวลานี้ เงาร่างของหลิงม่อกับแสงไฟฉายที่ส่ายไปส่ายมาอยู่เหนือผิวน้ำนั่น ห่างออกไปเรื่อยๆ แล้ว…เพื่อทำเวลา หลิงม่อเดินเร็วมาก และหลังจากที่เขาเดินผ่านไปได้ไม่นาน ศพของ “มนุษย์หน้าอืด” ที่กระจัดกระจายอยู่ใต้น้ำก็เริ่มพลิกลอยขึ้นมา เหมือนว่าพวกมันจะถูกเหยียบเข้า…

อวี๋ซือหรานนั่งกอดเข่าอยู่บนขั้นบันได จากนั้นใช้สองมือดุนคางมองศพเหล่านั้น พลางนับเวลาเสียงเบา “หนึ่งวิ…สองวิ…”

“ฮู่ว…ฮู่ว…”

ไม่กี่วินาทีต่อมา หลิงม่อหันหลังไปมองแวบหนึ่ง เห็นเพียงผิวน้ำที่กระเพื่อมไหวอยู่ข้างหลัง ส่วนบันไดและอวี๋ซือหราน ได้ลับหายไปในความมืดเป็นที่เรียบร้อย เขาพ่นหายใจแรง พลางกระชับไฟฉายในมือแล้วหันกลับมา เริ่มมองหาทั่วผิวน้ำ

“อะไรกันแน่ที่ทำให้พวกซย่าน่าไปจากที่นี่ก่อนจะเจอบันได? ย้อนกลับทางเดิม? ไม่…ถ้าหากเลือกที่จะย้อนกลับไป พวกเธอจะต้องสำรวจที่นี่ให้ทั่วก่อนแน่นอน แล้วพวกเธอก็จะเจอบันไดนั่น” หลิงม่อกำลังครุ่นคิด แล้วอยู่ๆ เขาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างในความมืด

เขารีบตวัดแสงไฟฉายส่องไปทันที จากนั้นก็เดินแหวกน้ำเข้าไปดูอย่างรวดเร็ว หลิงม่อเคลื่อนไหวเร็วมาก แต่ที่เร็วกว่าเขาก็คือแสงไฟฉาย…ก่อนที่ตัวเขาจะเดินไปถึง เขาก็มองเห็น “สิ่ง” นั้นแล้ว…

มันคือประตูบานหนึ่ง

ไม่ว่ายังไงหลิงม่อก็ไม่คาดคิด ว่าตัวเองจะมาเจอประตูนิรภัยบานหนึ่งที่ขึ้นสนิม ซ้ำยังมีตาแมวอยู่ในบ่อน้ำในท่อน้ำทิ้งใต้ดินแห่งนี้…นี่ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์แน่นอน

หลิงม่อถือไฟฉายเดินเข้าไป จากนั้นก็ลองยื่นมือไปจับกลอนประตูดู

ตอนที่สัมผัสกลอนประตูอันเย็นเฉียบ หลิงม่อก็เข้าใจทันที…ในเมื่อเขายังตกตะลึงขนาดนี้ ซย่าน่ากับหลี่ย่าหลินที่เป็นซอมบี้สาวขี้สงสัยย่อมไม่มีเหตุผลที่จะไม่เข้าไป

แอ๊ดดด—

ก่อนที่เขาจะทันได้คิดอะไร บานประตูก็แง้มเปิดเป็นช่องเล็กๆ

เดิมทีประตูบานนี้ก็เปิดไว้อยู่แล้ว แต่หากจะผลักมันออกในน้ำ กลับต้องออกแรงซักหน่อย โชคดีที่ร่างกายของหลิงม่อก็ผ่านมากลายพันธุ์มาเล็กน้อยเหมือนกัน หลังจากที่เขาออกแรงผลักอยู่ครู่หนึ่ง ประตูบานนี้ก็ถูกผลักออกจนเกิดเป็นเกลียวคลื่นเล็กๆ บนผิวน้ำ

“ฮู่ว…”

หลิงม่อรีบแนบตัวติดกำแพงข้างประตูทันที จากนั้นก็มองเข้าไปข้างในอย่างระมัดระวัง หนึ่งวินาทีต่อมา เขาก็หันกลับไปมองทางบันไดอีกครั้ง…

“ไม่ทันแล้ว”

หลิงม่อคิด พลางเดินเข้าไปในประตู…

—————————————————————————–