บทที่ 34 ฉากที่ยอดเยี่ยม

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

อารมณ์ของเหลียงเยว่หรูค่อนข้างไม่ดี และประกอบกับการจูบเย่เทียนเป็นครั้งแรก หน้าก็ดูเลอะเทอะเล็กน้อย และเธอก็ไปห้องน้ำเพื่อแต่งหน้าโดยไม่พูดอะไรมากับเย่เทียน

และจังเวยที่มุมห้อง เปลวไฟโกรธจัดอยู่ในดวงตาของเขา จ้องมองไปที่เย่เทียนอย่างไม่ละสายตา

หากสายตาของเขาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าเย่เทียนคงจะถูกประหารและฟันด้วยดาบนับพันแล้ว

เย่เทียนไม่สนใจเรื่องนี้ นั่งสบายๆที่โต๊ะอาหารยาว ดึงขาไก่แล้วยัดเข้าไปในปากของเขา

“คุณชายจัง คุณเหลียงจากไปแล้ว เราจะใช้โอกาสนี้จัดการไอ้สารเลวนั่นไหม?”

สุนัขรับใช้ ที่อยู่ข้างๆจังเวยก็กระโดดออกมาทันที จ้องมองไปที่เย่เทียนด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรและให้คำแนะนำ

“หวางฝัน ปกติคุณดูพูดน้อยและเฉื่อยชา คิดไม่ถึงว่าในเวลาที่คับขันเช่นนี้สมองของคุณจะคล่องแคล่วแบบนี้”

จังเวยตบไหล่ของสุนัขรับใช้อย่างชื่นชม จากนั้นจึงย้ายสายตาที่เย็นชาจ้องมองไปที่เย่เทียนอีกครั้ง หัวเราะคิกคักและกล่าวว่า “ไป กล้าที่จะแย่งผู้หญิงกับจังเวย ผมจะหักขาสุนัขของเขาให้ได้!”

หลังจากนั้น จังเวยก็เดินหน้าไปก่อน นำสุนัขรับใช้สองสามคนที่อยู่ข้างๆเขาและเดินไปหาเย่เทียน

“ผมจำได้ว่าคุณชื่อเย่เทียนใช่ไหม?”

จังเวยเดินขึ้นไปหาเย่เทียนด้วยใบหน้าที่หยิ่งผยอง เงยหน้าขึ้นฟ้า และเหล่มองไปทาง เย่เทียน ขู่ว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณโผล่ออกมาจากไหน แต่ผมขอเตือนคุณว่าทางที่ดีอยู่ห่างจากเสี่ยวเยว่จะดีกว่า มิฉะนั้นผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่!”

และสุนัขรับใช้ที่อยู่ข้างหลังจังเวยก็ทำแบบนี้เช่นกัน โดยตะโกนว่า “ไอ้แซ่เย่ ไม่ดูเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งที่ตนเองใส่เลยนะ กล้ามาแย่งผู้หญิงกับคุณชายจัง อยากตายใช่ไหม?”

“นั่นสิ ไม่ลองตักน้ําใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองว่าตนเองเป็นยังไง คิดว่าตัวเองคู่ควรกับคุณเหลียงเหรอ?”

“อย่างคุณเนี่ยนะยังอยากจะเกาะที่พึ่งใหญ่อย่างตระกูลเหลียง แต่น่าเสียดาย คุณไม่มีโอกาสนี้!”

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ฉากกะทันหันนี้ดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ในทันที

อย่างไรก็ตาม แทนที่จะออกมาเพื่อหยุดพวกเขา ทุกคนกลับหยุดและยืนอยู่ที่นั่น เฝ้าดูพัฒนาการของสถานการณ์ด้วยความคิดที่เฝ้าดูเรื่องสนุกสนาน

เหลียงเยว่หรูเป็นสาวงามที่เป็นที่รู้จักในแวดวง ถ้าเธอคบคนในแวดวงก็แล้ว แต่กลับถูกคนนอกอย่างเย่เทียนเอาไป พวกเขาจึงมีความคิดที่อยากจะให้เย่เทียนถูกสั่งสอน

นอกจากนี้ เย่เทียนเป็นคนจน ไม่มีภูมิหลัง ไม่มีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าไม่คุ้มที่จะไปผิดใจกับจังเวยเพื่อเขา

เมื่อเผชิญหน้ากับจังเวยผู้หยิ่งผยองและคนอื่นๆ สีหน้าของเย่เทียนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้แต่จะสนใจพวกเขาหน่อยไม่ก็

หันความสนใจมาที่น่องไก่ ดูเหมือนว่าจังเวยพวกเขาไม่สำคัญเท่าน่องไก่แสนอร่อยในมือของเขา

ผัวะ!

ทัศนคติที่เพิกเฉยของเย่เทียน ยิ่งไปกระตุ้นจังเวยที่ถูกความโกรธครอบงำอย่างไม่ต้องสงสัย

เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หวางฝันสุนัขรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ที่อยู่ข้างๆเขา กระโดดออกมา แล้วกระแทกจนน่องไก่ของเย่เทียนตกลงกับพื้น

“เจ้าหนู มึงหูหนวกหรือใบ้หรือ? ไม่ได้ยินที่คุณชายจังพูดเหรอ!”

เมื่อเห็นสิ่งนี้ สุนัขรับใช้อีกสองสามคนที่เหลือ เหมือนกลัวว่าหวางฝันจะแย่งคุณงามความดีไปหมด จึงรีบก้าวออกมาและรุกรานเย่เทียน

“อย่าคิดว่าคุณไม่พูดเรื่องนี้ก็จะผ่านไป ถ้าไม่อยากตาย ก็รีบคุกเข่าและขอโทษคุณชายจังซะ!”

“เรื่องถึงขนาดนี้แล้วยังจะมาเก๊กหล่อ เชื่อหรือไม่เราสามารถฆ่าคุณได้ทุกเมื่อ!”

เย่เทียนยังคงนิ่งเงียบ หันกลับมาอย่างไม่สนใจ ดึงผ้าปูโต๊ะมาเช็ดมือของเขา

จังเวยที่ยืนอยู่ด้านหลัง เผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย เห็นเย่เทียนไม่กล้าพูดอะไร คิดว่าเขากลัว เขาเยาะเย้ยและพูดว่า “นามสกุลเย่ อย่างน้อยก็ตอบอะไรหน่อยสิมิฉะนั้น พูดแค่พวกเรา แบบนี้มันก็น่าเบื่อน๊า”

เย่เทียนที่เช็ดมือเสร็จ หันศีรษะ ยิ้มกว้าง สายตาของเขาทะลุผ่านสุนัขรับใช้สองสาม คนนั้น ตกลงบนตัวจังเวยที่อยู่ด้านหลัง พูดติดตลกว่า “เหรอ? ถ้าอย่างนั้นไม่ทราบว่าคุณคิดว่าแบบไหนถึงไม่น่าเบื่อ? ”

“ไม่ได้ยินสิ่งที่เราเพิ่งพูดไปหรือ? ขอเพียงคุณคุกเข่าและกราบคุณชายจังเพื่อขอโทษ…”

โดยไม่รอให้จังเวยพูด หวางฝันผู้พยายามใช้โอกาสเพื่อประจบจังเวย ตะโกนก่อนแล้วเหยียดมือออกเพื่อพยายามผลักเย่เทียน

ผัวะ!

เสียงตบดังขึ้นอย่างฉับพลัน และดูเหมือนดังมากในห้องจัดเลี้ยงที่เงียบและว่างเปล่านี้

ในขณะที่หวางฝันยื่นมือออกมา เย่เทียนก็ตบเขาอย่างรุนแรง

หวางฝันผู้น่าสงสารไม่คาดคิดว่าเย่เทียนจะลงมืออย่างกะทันหัน และเขาก็ถูกตบเต็มๆ หมุนตัวกลางอากาศสามร้อยหกสิบองศา

ก่อนที่เขาจะล้มลงกับพื้น เย่เทียนก็เตะขาของเขาออกไปอย่างแรง

หวางฝันที่หมุนตัวไม่ทันตั้งตัวและไม่มีแรงต้านทานเลย ในหัวมีดาวโผล่ออกมา รู้สึกเพียงความเจ็บปวดในท้องส่วนล่างที่ลึกเข้าไปในกระดูกของเขา ร่างกายที่เจ็ดสิบกว่าโลเหมือนว่าวที่เชือกขาด ถูกทุบลงบนพื้นที่เรียบและเย็นยะเยือกดังเส้นพาราโบลา

ตุ้ม!

หลังจากตกลงไปบนพื้น หวางฝันก็อดไม่ได้ที่จะคายเลือดออกมา 2 คำ เลือดสีแดงสดกระฉูดออกมาจากปากของเขาพร้อมกับฟันขาว 2 ซี่ เขาไม่สามารถพูดอะไรได้และศีรษะของเขาเอียงและเป็นลมหมดสติ

“แบบนี้น่าสนใจพอไหม?”

เมื่อทุกอย่างจบลง เย่เทียนจึงค่อยมองไปที่จังเวยและพูดด้วยรอยยิ้ม

ว้า!

ความแตกต่างที่มากนี้ทำให้ผู้ชมเดือดทันที

ทั้งๆที่จังเวยพวกเขาเป็นคนหาเรื่องเย่เทียน ทำไมคนที่ถูกทุบตีในตอนนี้ กลับเป็นสุนัขรับใช้ของจังเวย?

ในความเป็นจริง ไม่ต้องพูดถึงกลุ่มผู้ชมที่กระตือรือร้นที่เฝ้าดูฉากนี้ แม้แต่จังเวยที่อยู่ในเรื่องนี้ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอย่างสมบูรณ์

เย่เทียน เขากล้าเกินไปไหม? !

“แม่มึงสิ มึงกล้าลงมือก่อน?คิดว่าเราไม่กล้าจัดการมึงเหรอ!”

“เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นเราอยู่ในสายตา!พวกเราลงมือพร้อมกัน !ทุบตีเขาจนให้มันลืมแม่ตัวเองไปเลย!”

หลังจากผงะไปชั่วครู่ เหล่าสุนัขรับใช้ของจังเวยก็โกรธขึ้น คำรามในปากของพวกเขาและพุ่งเข้าหาเย่เทียน

เมื่อเผชิญหน้ากับการล้อมโจมตีของคนสองสามคน เย่เทียนไม่กลัวเลย รอยยิ้มชั่วร้ายเผยที่มุมปากของเขา และร่างของเขาพุ่งเข้าไปในวงสงคราม ต่อยซ้ายและเตะขวา

แค่ในเวลาเพียงหนึ่งนาที สุนัขรับใช้ไม่สามารถแม้แต่จะแตะเสื้อผ้าของเย่เทียนได้ด้วยซ้ำพวกเขาทั้งหมดก้ล้มลงกับพื้นด้วยความน่าสังเวช หอนและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

คนเดียวที่ยืนอยู่คือจังเวย ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ปากของเขาอ้ากว้างราวกับว่าเขาสามารถยัดไข่เข้าไปได้!

การแสดงออกเหมือนเห็นผี เขามองไปที่เย่เทียนที่มีรอยยิ้มแปลกๆตั้งแต่ต้นจนจบตรงหน้าเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

“คุณยังยืนทำอะไรโง่ๆที่นั่น”

เย่เทียนยิ้มและพูด “มาเลย! คุณจะจัดการผมไม่ใช่เหรอ?”

“แม่ง คิดว่าตนเองเก่งนักใช่ไหม? กูเป็นเทควันโดสายดำสาม!”

จังเวยดึงสติในทันที ด้วยเปลวไฟในสายตาของเขา และเขากวาดสายตาไปรอบๆฝูงชน กัดฟันของเขาและกระทืบเท้า รีบวิ่งขึ้นไปหาเย่เทียน