ตอนที่ 82 นี่มันไม่ถูกต้อง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งชั่วโมงครึ่งผ่านไปในพริบตา
ในระหว่างกระบวนการนี้ หลิงเซียวรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ส่วนอวี๋ฉีรู้สึกอยากจะฆ่าตัวตาย
เมื่ออวี๋ฉีพูดจบ หลิงเซียวก็กล่าวออกมาด้วยเจตนาบางอย่าง “ผมหวังว่าครั้งหน้าจะมีโอกาสได้ร่วมงานด้วยกันอีก”
เมื่ออวี๋ฉีได้ยินคําพูดนี้ เธอก็เงียบไม่พูดไม่จา จากนั้นเธอก็หันหลังและเดินจากไปทันที เพราะ กลัวว่าถ้าเดินช้ากว่านี้จะมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น
เมื่อหลิงเซียวเห็นดังนั้นก็กล่าวอย่างไร้เดียงสาว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเธอ”
พนักงานกลุ่มหนึ่งนิ่งเงียบ ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดกําลังหัวเราะอยู่ในใจ
ยังมีหน้ามาถามอีกเหรอว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ?
หลิงเซียวส่ายหัว “คนสมัยนี้เป็นอะไรกันไปหมด? ทําไมถึงได้เปราะบางจัง?”
หลังจากได้ยินคําพูดของหลิงเซียว พนักงานกลุ่มนั้นก็ถึงกับหยุดชะงัก จากนั้นพวกเขาก็รีบวิ่งจากไปในทันที
หลังจากที่ได้โฆษณาสมใจ หลิงเซียวก็ไม่สนใจอะไรอีก ถึงอย่างไรเขาก็บรรลุเป้าหมายของเขาแล้ว
การแข่งขันในสนามประลองยังคงดําเนินต่อไป ด้วยความแข็งแกร่งของหลิงเซียว แน่นอนว่า ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้
ดังนั้นหลิงเซียวจึงผ่านเข้ารอบไปตลอดทาง ผ่านเข้าสู่รอบ 6 อันดับแรก 3 อันดับแรกตามลําดับ
หลังจากการต่อสู้หลิงเซียวก็เอาชนะอีกฝ่ายได้สําเร็จ และได้เข้าสู่รอบการประลองชิงชนะเลิศ
ในรอบที่สองซูเหยาสามารถเอาชนะและผ่านเข้าสู่รอบ 50 อันดับแรกได้สําเร็จ คงไม่มีใครโชคดีเหมือนเธออีกแล้ว
แต่โชคดีของเธอดูเหมือนว่าจะหมดลงในรอบ 25 อันดับแรก
อย่างไรก็ตามแค่นี้ซูเหยาก็พอใจมากแล้ว ถึงอย่างไรเธอก็เป็นเพียงนักรบจิตวิญญาณระดับ 1 เท่านั้น การได้มาซึ่งตําแหน่งผู้เข้ารอบคัดเลือกนั้นเกินกว่าที่เธอคาดหมายเอาไว้มาก
และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของรอบคัดเลือก และยังเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของการประลอง
ผู้ชมในสนามประลองเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกถึงก้อง พวกเขาต่างก็พูดคุยกับเพื่อนๆของพวกเขา
“พวกคุณคิดว่าวันนี้ใครจะเป็นผู้ชนะ?”
“ฉันคิดว่าต้องเป็นหลิงเซียว!”
“ฉันเองก็คิดว่าเป็นหลิงเซียวเหมือนกัน แต่พลังของ หลิวรั่วเหยียน ก็ไม่ได้แย่นัก เธออยู่ใ ระดับนักรบจิตวิญญาณระดับ 3 และมีทักษะต่อสู้จิตวิญญาณเหมือนกัน”
“แต่ทักษะต่อสู้จิตวิญญาณของเธอไม่เข้ากับจิตวิญญาณของเธอมากนัก เพราะเธอไม่สามารถทําให้มันเปล่งเสียงแห่งจิตวิญญาณได้”
“แต่เธอสวยมาก ผิวขาวเนียน นิสัยดี เอวโค้งงอนเป็นรูปตัวเอส บางทีหลิงเซียวอาจจะหลงไหลเธอก็ได้?”
ซูเหยาที่นั่งอยู่ในที่นั่งผู้ชมแอบยิ้มเยาะ หลิงเซียวเนี้ยนะจะหลงไหล? ล้อเล่นรึเปล่า? ผู้ชายคนนั้นใจแข็งยิ่งกว่าหินผาซะอีก!
ไม่นาน หลิงเซียว และ หลิวรั่วเหยียน ก็เดินขึ้นไปบนสนามประลอง
หลังจากเสียงยิงปืนการแข่งขันก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
ในตอนนั้นเอง หลิว รั่วเหยียน ก็ถามขึ้นมาอย่างเอียงอายว่า “หลิงเซียว นายมีแฟนหรือยัง?”
เมื่อได้ยินคําพูดนี้ ผู้ชมทุกคนก็ถึงกับตกตะลึงตาค้าง
ไม่สิ! นี่มันไม่ใช่บทของหลิงเซียวหรอกหรือ? หรือว่าฉันเดินมาผิดกองถ่าย?
หลังจากนั้นไม่นานผู้ชมก็กลับมามีสติ ฉันไม่ได้เดินมาผิดที่
แต่… แต่นี่มันไม่ถูกต้อง
เปาะ!
เปาะ!
เสียงอกหักของชายหนุ่มนับไม่ถ้วนดังออกมาจากที่นั่งผู้ชม เพราะเทพธิดาในฝันของพวกเขาดูเหมือนจะสารภาพรักกับหลิงเซียว!
หลิงเซียวขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น ราวกับว่าเขาได้กลิ่นอะไรตุๆ
หัวใจของ หลิว รั่วเหยียน เต้นโครมคราม ตั้งแต่การแข่งขันครั้งแรกของหลิงเซียว เธอก็ถูกดึงดูดโดยหลิงเซียวแล้ว
หลิงเซียวแตกต่างจากสุนัขเลียที่ไล่ตามเธอ หลิงเซียวมีบุคลิกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
แม้ว่ามันจะหยาบคายมาก แต่มันก็แข็งแกร่งและมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร
หลิว รั่วเหยียน ตกอยู่ในห้วงความรักโดยไม่รู้ตัว
วันนี้เธอใช้ประโยชน์จากโอกาสที่ได้ต่อสู้กับหลิงเซียว ในที่สุดเธอก็รวบรวมความกล้าเพื่อสารภาพรัก
แม้ว่า หลิว รั่วเหยียน จะคิดคํานวณมานับครั้งไม่ถ้วน แต่เธอกลับลืมสิ่งที่สําคัญที่สุดไป
ว่าคนที่อยู่ตรงข้ามเธอคือหลิงเซียว!