ตอนที่ 176

Taming Master

ความคิดของเอียนรีบหาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับคู่ต่อสู้ของเขา

‘อย่างแรก ดูจากอุปกรณ์สวมใส่ที่พวกเขาใส่อยู่ ฉันสามารถบอกได้เลยว่าพวกเขาเป็นแอสซาซินแน่นอน…’

แอสซาซินยืนอยู่ในสภาพผ่อนคลายแม้จะรู้ถึงตัวตนของเอียน

จากสิ่งที่เอียนรู้ว่ามีแอสซาซินในไคลันไม่มากนักที่มีความสามารถสูงพอ

ความจริงนั่นคือเหตุผลที่เขาให้ผู้ติดตามไปก่อน

เพราะเขาแน่ใจว่าไม่มีผู้เล่นคนอื่นในหมู่แอสซาซินซึ่งเป็นอาชีพใหม่ที่สามารถเผชิญหน้ากับเขาได้

เนื่องจากเขามีความมั่นใจแล้วว่าเขาสามารถเผชิญหน้ากับพวกเขาคนเดียวได้ หากฝ่ายตรงข้ามของเขากำลังจะหนีไปเพราะเขานำผู้ติดตามของเขาไปกับเขา ไม่มีทางที่เอียนจะจับแอสซาซินที่หลบหนีได้

‘อย่างแรก ฉันคิดว่ามีเพียงหนึ่งคนในอาณาจักรลัสเปล… คนที่เอาชนะฉันในลีกหน้าใหม่มาก่อน ชื่อของเขาลิ่มหล่งใช่ไหม?’

อย่างไรก็ตามในขณะที่เอียนคิดว่าไม่มีเหตุผลที่แอสซาซินจะเข้าร่วมกับอาณาจักรลัสเปลเพื่อสอดแนมป้อมปราการป้องกันของเมืองไพโร เขาจึงเลิกคิดเกี่ยวกับลิ่มหล่งอย่างรวดเร็ว

‘ถ้าเป็นแอสซาซินของอาณาจักรไคม่อน ฉันได้ยินมาว่าผู้เล่นที่เป็นพันธมิตรกับกิลด์ไททั่นนั้นมีชื่อเสียง…’

ในปัจจุบันการจัดอันดับอย่างเป็นทางการอันดับแรกของแอสซาซินที่เป็นพันธมิตรกับกิลด์ไททั่นและจากสิ่งที่เอียนรู้ เขาอยู่ในช่วงเลเวล 140 ต้นๆ

‘ถ้าเป็นเจ้านั่น เขาก็มีสิทธิ์ที่จะมั่นแม้ว่าจะอยู่ต่อหน้าฉัน’

เอียนั้นเลเวลมากกว่า 150 แต่ก็ไม่เป็นที่รู้จักจากภายนอก

และไม่ว่าเอียนจะมีความสามารถในการต่อสู้ที่โดดเด่นเพียงใด หากเป็นแอสซาซินที่มีทักษะเหนือกว่าใน PvP ก็จะเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่รู้สึกหวาดกลัว แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในเลเวลที่ต่ำกว่าเล็กน้อย

เมื่อเอียนกำลังตามหาคู่ต่อสู้ของเขาขณะที่คิดเรื่องต่างๆ แอสซาซินก็เหวี่ยงกงล้อลมและไฟขณะที่พุ่งเข้าหาเอียน

Ta-tat-!

ด้วยฝีเท้าเบาๆ เขาตัดระยะห่างระหว่างเอียนกับเขาในทันที

หากสิ่งนี้เกิดขึ้นมาก่อน เอียนจะจัดลำดับความสำคัญเพิ่มระยะห่างระหว่างพวกเขา แต่เขามีบางสิ่งบางอย่างที่ต้องนับในขณะนี้

“อัญเชิญ!”

เอียนซึ่งเรียกสัตว์เลี้ยงทั้งหมดของเขาได้อย่างรวดเร็วและใช้สกิลการบัฟของเขา ใช้สกิลใหม่ที่เขาได้รับ ‘ความประสงค์ของนักรบเซลามัส’ โดยไม่ชักช้า

 

  • ท่านได้ใช้สกิล ‘ความประสงค์ของนักรบเซลามัส’
  • เป็นเวลา 20 นาที ค่าสถานะการต่อสู้ทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 40%
  • ท่านสามารถรวบรวมค่าสถานะการผลิตทั้งหมดของท่านลงในค่าสถานะการรบไว้ที่หนึ่งเดียว กรุณาเลือกค่าสถานะ

 

Clang-!

บล็อคการโจมตีของแอสซาซินที่พุ่งเข้าหาในขณะเดียวกันก็ถอยกลับไปเมื่อเขาติดตั้งสกิลเสร็จ

“ฉันจะลงมันทั้งหมดให้กับค่าความว่องไว!”

 

  • ค่าสถานะ ‘ความว่องไว’ ของท่านเพิ่มขึ้น
  • ความสามารถของท่านต่ออาวุธทุกประเภทเพิ่มขึ้น 15 เลเวล
  • เลเวลของ ‘พลหอก’ ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับอาวุธที่ใช้งานนั้น ถูกตั้งค่าเป็นระดับกลางเลเวล 5

 

นอกเหนือจากข้อความที่โผล่ขึ้นมาแสงสีทองก็เริ่มปกคลุมทั่วร่างกายของเอียน

ในขณะที่มองเอียนผู้ถือหอกที่มั่นคง ชายคนนั้นก็เยาะเย้ย

“แกกำลังตัดสินใจจะต่อสู้ระยะประชิด แม้ว่าแกจะเป็นซัมมอนเนอร์งั้นหรอ?”

เอียนพยักหน้าขณะที่เขายิ้ม

“แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะ?”

“แกจะต้องเสียใจ”

ตอบกลับอย่างสั้นๆ เขาพุ่งเข้าหาเอียนอีกครั้งและในขณะที่แกว่งหอกไปรอบๆ เอียนก็เริ่มต่อสู้กับเขาแบบตัวต่อตัว

Clang- Cla-clang-!

เมื่อใบมีดของล้อและเสาของหอกกระทบกันเสียงโลหะก็ดังขึ้น

ในไม่ช้า ทั้งสองคนก็แลกเปลี่ยนการโจมตีและบล็อกหลายครั้ง

Pung-!

เมื่อระยะทางเพิ่มขึ้นระหว่างทั้งสองคนจากการโจมตีที่รุนแรงและการตอบโต้กัน สัตว์เลี้ยงทุกตัวที่เริ่มต้นด้วยไลเริ่มโจมตีชายคนนั้น

ด้วยร่างกายที่ใหญ่และความเร็วในการโจมตีช้า บักค์ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้มากนักกับแอสซาซิน แต่ในทางกลับกันการโจมตีของไลและพินที่รวมกันนั้นซับซ้อนและรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ

Chwaaak-!

 

  • สัตว์เลี้ยง ‘ไล’ ได้สร้างความเสียหายคริติคอลกับ (ไม่ทราบ)
  • พลังชีวิตของ (ไม่ทราบ) ลดลด 13,253 หน่วย
  • สัตว์เลี้ยง ‘พิน’ ไดัสร้างความเสียหายคริติคอลกับ (ไม่ทราบ)
  • พลังชีวิตของ (ไม่ทราบ) ลดลง 10,233 หน่วย

 

ดวงตาทั้งสองของเอียนซึ่งให้และรับการโจมตีก็แคบลง

‘อะไรวะเนี่ย? เขาเป็นผู้เล่นอาณาจักรลัสเปล’

จากข้อความของระบบที่โผล่ขึ้นมา เขาสามารถที่จะรู้ถึงสัญชาติของแอสซาซิน

ถ้าเขาเป็นผู้เล่นที่เป็นพลเมืองของอาณาจักรไคมม่อน มันจะโผล่ขึ้นมาในฐานะ ‘ผู้เล่นอาณาจักรไคม่อน (ไม่ทราบ)’ ในข้อความของระบบ แต่ความจริงที่ว่าไม่มีการกล่าวถึงนั่นหมายความว่ามันเป็นหลักฐานโต้แย้งว่าเขาเป็นผู้เล่นอาณาจักรลัสเปล

‘เนื่องจากคุณไม่สามารถกำหนดสัญชาติของคุณเป็นส่วนตัวได้ เขาจึงเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรลัสเปลอย่างแน่นอน แต่ทำไมผู้เล่นลัสเปลถึงพยายามสอดแนม? พวกเขาวางแผนที่จะสร้างป้อมปราการตามเมืองของเรางั้นหรอ?’

ทฤษฎีที่เอียนคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงสุดคือเขาเป็น ‘สายลับ’ ที่ได้รับข้อเสนอจากฝ่ายอาณาจักรไคม่อน

เนื่องจากเป็นความจริงที่ว่าผู้เล่นที่เป็นพลเมืองของอาณาจักรลัสเปลซึ่งสามารถเข้าสู่เมืองได้อย่างอิสระ จะมีเวลาเข้ามาใกล้กับป้อมได้ง่ายขึ้น

ในขณะเดียวกัน เอียนก็กำลังคิดเรื่องนี้อยู่และการต่อสู้พุ่งเข้าถึงระยะสุดท้าย

แถบพลังชีวิตของแอสซาซินซึ่งเริ่มกระพริบอย่างช้าๆ

ในทางตรงกันข้าม ความเสียหายที่เอียนได้รับนั้นแทบจะไม่มีเลย

แอสซาซินที่ก้าวถอยหลังและสร้างระยะห่างระหว่างเอียนกับเขา พูดเหมือนกับว่าเขากำลังบ่น

“น่าแปลกใจยิ่งนักที่คิดว่าแกจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ฉันคิดว่าจะมีส่วนมากมายที่พูดเกินจริง”

เอียนเดาะลิ้นขณะที่เขาตอบกลับ

“จิ๊ จิ๊ หากแกรู้แล้ว ทำไมแกไม่ยอมแพ้อย่างเชื่อฟังเดี๋ยวนี้ล่ะ? ฉันอยากรู้ว่าแกมาจากไหนกัน”

ความจริงที่ว่าเอียนไม่ได้ใช้พลังการต่อสู้ทั้งหมดของเขา เขาจึงตกตะลึง

‘สำหรับเจ้านี่ที่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถแม้แต่จัดการกับไลตัวเดียวได้ เขาบลัฟเยอะมากจริงๆ’

ความว่องไวและการต่อสู้ของเขาดูยอดเยี่ยม แต่เนื่องจากเขาไม่ได้ใช้สกิลพิเศษใดๆหรือการโจมตีที่ผิดปกติ เขาจึงง่ายเกินไปที่จะเผชิญหน้า

แอสซาซินจ้องมองไปที่เอียนขณะที่พูดอีกครั้ง

“โชคร้ายนะ ดูเหมือนว่าจะจบลงแล้วในวันนี้”

เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น เอียนก็ยิ้ม

“ใครบอกว่าฉันจะปล่อยแกไป?”

เมื่อเอียนพูดจบ สัตว์เลี้ยงของเอียนล้อมรอบเขา

อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นก็ยังผ่อนคลาย

“ดูเหมือนว่าอย่างน้อยแกจะมีโพชั่นตรวจจับ”

โพชั่นตรวจจับเป็นไอเทมที่อนุญาตให้เห็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาที่ซ่อนตัวอยู่ในช่วงเวลาที่กำหนด หลังจากที่ดื่มมันและเอียนก็ทำเช่นนั้น

เอียนหยิบโพชั่นจากคลังของเขาและแสดงมันขณะที่เขาพยักหน้า

“แน่นอน ดังนั้นมันจะเป็นการดีที่สุดที่แกจะเปิดเผยตัวตนของแกด้วยความสมัครใจจากรูปลักษณ์ของมัน ดูเหมือนว่าอุปกรณ์ของแกจะดีเช่นกัน ดังนั้นมันจะไม่น่าเสียใจงั้นหรอหากแกตายและดรอปแม้แต่ชิ้นเดียว?”

อย่างไรก็ตามราวกับว่าเขากำลังเยาะเย้ยเอียน เขาดึงคัมภีร์เวทย์มนตร์ออกมาขณะที่โบกมือให้

“ขอโทษที แต่แกไม่สามารถจับฉันไดัในวันนี้”

และก่อนที่เอียนจะสามารถดำเนินการ เขาฉีกเปิดคัมภีร์

“เวรเอ้ย”

ร่างของเขาถูกห่อด้วยพลังงานแสงสีม่วงในขณะที่เขาหายตัวไปในอากาศอย่างสบายๆและเอียนเดาะลิ้น

“จิ๊ แท้จริงแล้วพวกมันใช้คัมภีร์ระดับ Rere เมื่อไม่นานมานี้”

คัมภีร์ที่ชายคนนั้นใช้นั้นเป็นชนิดเดียวกับคัมภีร์ที่อิลาฮันผู้เป็นหัวหน้าของกิลด์ดาร์ครูน่าใช้

แน่นอนว่ามันไม่ใช่คัมภีร์ย้อนกลับแบบ AoE มันถูกกว่าของที่อิลาฮันใช้มาก แต่ก็ยังไม่ถูก

“สิ่งนี้กำลังทำให้ฉันโกรธ จากลักษณะของมันเขาอาจเป็นสายลับใช่มั้ย?”

เมื่อเอียนพูดซึ่งเขากำลังบ่น ไลซึ่งอยู่ข้างๆเขาตอบกลับ

 

  • ผมก็คิดอย่างนั้น มีบางสิ่งแปลกๆเจ้านาย

 

“มันคืออะไร?”

 

  • ผมคิดว่าความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก แต่เขาไม่ได้ใช้อะไรนอกเหนือไปจากการโจมตีแอสซาซินทั่วไปที่เป็นการโจมตีพื้นฐานที่สุด

 

เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น เอียนพยักหน้า

“ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน เขาอาจจะพยายามปกปิดตัวตนของเขาเพราะถ้ามันเป็นอาชีพลับ ในขณะที่เขาใช้สกิลกำลังหลักของเขา เขาจะเปิดเผยตัวตนของเขา”

เอียนได้รีบเข้าไปในเมือง

‘พยายามจะหาพลังโครงสร้างภายในงั้นหรอ? เราจำเป็นต้องปกป้องอย่างละเอียดยิ่งขึ้น ในกรณีนี้เราควรสร้างหอคอยที่ตรวจจับให้มากกว่านี้ใช่ไหม?’

 

* * *

 

เอียนรีบเข้าสู่เมือง

การโจมตีไม่ได้เริ่มขึ้นในทันทีอย่างที่เขากลัว แต่กองกำลังพันธมิตรของอาณาจักรไคม่อนเริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ

ท่ามกลางสงครามการปิดล้อมหลายครั้งที่ถูกจัดขึ้นภายในไคลันจนถึงปัจจุบันมันมีขนาดใหญ่ที่สุดแน่นอน

เมื่อการเคลื่อนไหวของอิลาฮันถูกหยุด มันเป็นสถานการณ์ที่ชุมชนอย่างเป็นทางการและสถานีออกอากาศกำลังคลั่งไปแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าหลักของชุมชนอย่างเป็นทางการมีการโพสต์เกี่ยวกับเงื่อนไขของการต่อสู้หรือการวิเคราะห์พลังการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายอัปโหลดพร้อมชื่อที่ยั่วยุ

 

  • ความหวังสุดท้ายของอาณาจักรลัสเปล! เมืองไพโรจะสามารถต้านกองทัพขนาดใหญ่ของไคม่อนจำนวน 50,000 นายได้หรือไม่?
  • กิลด์ 3 อันดับแรกของลัสเปลที่ไร้กำลังไม่เหมือนกันป้อมปราการไพโรซึ่งเป็น ‘เมืองอันซิ’ ของอาณาจักรลัสเปลพ่ายให้กับไคม่อน
  • สงครามปิดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกม VR! พื้นหลังนั้นถูกขุดขึ้นมาอย่างละเอียด

 

แน่นอน ถ้าคุณเป็นผู้เล่นที่เล่นไคลัน ช่วยไม่ได้ที่จะมีความสนใจในสงครามปิดล้อมขนาดใหญ่นี้และในสถานที่เช่นกระดานข่าวหรือหน้าต่างแชทข้อโต้แย้งและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสงครามปิดล้อมขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้าก็เกิดขึ้นแล้ว

และสิ่งที่ร้อนแรงที่สุดในประเด็นเหล่านี้ก็คือ ‘ความไร้ความสามารถ’ ของกิลด์ยักษ์ใหญ่แห่งอาณาจักรลัสเปล

 

  • ไม่นะพวก ฉันเป็นพลเมืองของไคม่อน ดังนั้นมันไม่สำคัญสำหรับฉัน แต่จริงๆแล้วกิลด์ใหญ่ของลัสเปลกำลังทำอะไรอยู่? พวกเขาครอบครองเมืองทั้งหมดในทวีปตะวันออก แต่เมื่อทวีปกลางเปิดขึ้นและมีการต่อสู้ที่เหมาะสมเกิดขึ้น พวกเขาก็ทำได้แค่เดินไปรอบๆ
  • เฮ้อ แน่นอน นั่นคือประเด็นของฉัน… พวกเขาไม่ทำอะไรเลย
  • จะว่าไปแล้ว มันแปลกจริงๆ กิลด์โลตัสซึ่งเปรียบเทียบอันดับนั้นต่ำกว่าก็ยังอยู่เช่นนั้น ดังนั้นทำไมพวกเวรนี่ซึ่งขนาดใหญ่กว่าได้ถอยไปทางด้านหลังและซ่อนตัวอยู่ล่ะ? ฉันไม่เข้าใจ
  • คนด้านบน เราจะรู้กันถ้าโลตัสทนได้ดีจนกว่าสงครามปิดล้อมจะจบลง
  • ไม่ การที่จะต้านดาร์ครูน่ายังแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความทนทานพอ แม้ว่ากิลด์อื่นประมาณสามหรือสี่กิลด์ที่มีการป้องกันเหมือนโลตัส เราจะไม่ถูกพลักกลับมามากในพื้นที่ตอนกลางใช่ไหม?
  • เฮ้อ ฉันหวังว่าพวกเขาจะช่วยกิลด์โลตัสและต้านพวกเขาไว้…
  • มันสายไปแล้ว เมืองไพโรจะถูกยึดอย่างไรก็ตามและฉันคิดว่าจุดสำคัญคือสิ่งที่พวกเขาจะต่อต้านพวกเขาในด้านหลัง
  • ฉันก็ยังหวังว่าโลตัสจะต้านพวกเขาไว้ได้นานเท่าที่จะทำได้ เอียนสู้ๆ

 

ในขณะเดียวกันสมาชิกกิลด์ของกิลด์โลตัสภายในเมืองไพโรนั้นเคลื่อนไหวยุ่งเหยิงอย่างไม่น่าเชื่อ

นี่เป็นเพราะมีความต้องการให้พวกเขาเพิ่มพลังการป้องกันของพวกเขาขึ้นอีกเล็กน้อยก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น

เฮิร์ซเข้าหาและถามคาร์วินซึ่งออกมาจากสำนักงานจัดการค่ายทหาร

“เฮ้ คาร์วิน ตอนนี้คุณคิดว่าการฝึกของพวกเขาจะเสร็จสิ้นภายในวันนี้หรือไม่?”

“อืมมม… ฉันคิดว่ามันจะเร็วเกินไป ฉันรู้สึกว่ามันอาจจะเสร็จสิ้นก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในวันพรุ่งนี้”

เฮิร์ซขมวดคิ้วเล็กน้อย

“อืมมม… นั่นเป็นปัญหาเล็กน้อย”

“ทำไมล่ะ?”

“กองทัพอาณาจักรไคม่อนใกล้จะเสร็จสิ้นแล้วในตอนนี้ ถ้าพวกมันเร็วหน่อย ฉันรู้สึกว่าสงครามปิดล้อมอาจจะเริ่มคืนนี้…”

เมื่อทั้งสองคนกำลังสนทนากันเอียนซึ่งเข้าหาพวกเขาโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวก็เข้ามา

“ไม่หรอก ฉันไม่คิดว่าต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น”

“ห้ะ? มาได้ไงเนี่ย?”

เอียนตรวจสอบเวลาขณะที่เขาพูดต่อ

“จากสถานการณ์ปัจจุบันเวลาที่เร็วที่สุด พวกเขาสามารถโจมตีได้คือ 10 หรือ 11 โมงเช้า แต่หากการโจมตีเริ่มต้นขึ้น ผู้คนในสำนักงานจะต้องทำอะไรในวันพรุ่งนี้เมื่อพวกเขาต้องไปทำงาน? จะต้องสมมติว่าสิ่งนี้จะใช้เวลาอย่างน้อย 5 ชั่วโมง”

“โอ้…?”

ตรรกะของเอียนค่อนข้างโน้มน้าวใจและในขณะที่พยักหน้าของเขาคาร์วินเสริม

“มันเป็นเวลาพักของเรา แต่เนื่องจากพนักงานออฟฟิศไม่มีเวลาพัก…”

แน่นอนกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ติดอันดับชั้นนำเป็นคนงานที่ทำงานของตัวเองกำลังเล่นเกม แต่ถึงกระนั้นจากการดูโดยทั่วไปมีอัตราส่วนที่สูงขึ้นของคนที่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น

เฮิร์ซพูด

“อย่างไรก็ตามถ้าการต่อสู้ไม่ได้เริ่มในวันนี้เหมือนอย่างที่นายพูดนั่นก็โล่งอก ฉันต้องการใช้กองทหารม้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแม้ว่าเราจะแพ้ก็ตาม”

ทหารในการฝึกฝนที่เฮิร์ซถามคาร์วินเกี่ยวกับเป็นทหารที่เสร็จสิ้นการอัพเกรดที่ 3 และสามารถผลิตได้จากค่ายทหารในฐานะทหารม้า

เมื่อเลเวลเฉลี่ยของกองทหารม้าที่อยู่ใกล้กับ 170 พวกเขาเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สามารถครอบคลุมสำหรับผู้เล่นที่เหมาะสมอย่างน้อยหนึ่งคน

เอียนถามคาร์วิน

“คาร์วินจำนวนทหารทั้งหมดที่ผลิตในครั้งนี้คือเท่าไหร่?”

“อืมมม… มันน่าจะประมาณ 500 คน”

เอียนมองไปที่เฮิร์ซในคราวนี้

“ถ้าเราจะรวมพวกมันเข้ากับกองทหารที่มีอยู่แล้วเราจะมีกำลังสามถึงสี่พันคนใช่ไหม?”

เฮิร์ซส่ายหน้า

“ไม่ ถ้าการคำนวณของฉันถูกต้อง ฉันคิดว่าน่าจะประมาณเจ็ดพันคน?”

“ห้ะ? ทำไมพวกเราถึงมีจำนวนเยอะจังล่ะ?”

เมื่อได้ยินคำตอบไม่คาดคิด เอียนแสดงท่าทางงุนงง

และฟิโอลันให้คำตอบเกี่ยวกับสิ่งนั้น

“เราได้จัดตั้งกองกำลังเสริมที่แข็งแกร่ง”

“…?”

รวมทั้งเอียนซึ่งแสดงออกด้วยความงุนงง สายตาของทั้งสามคนหันไปในทิศทางที่ได้ยินเสียงของฟิโอลัน

และในจุดนั้น อีกสองคนยืนอยู่ข้างฟิโอลัน

สายตาเอียนจับจ้องอยู่ที่ชายคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ใกล้กับพวกเขามากที่สุด

‘ใครล่ะนั่น? ดูเหมือนว่าฉันจะเคยเห็นเขามาก่อน…’

ชายผู้นั้นมีชุดเกราะที่หรูหราซึ่งส่องแสงสีกรมท่าครอบคลุมทั้งร่างกายของเขา

เขาเดินไปข้างหน้าขณะที่ยื่นมือจับเอียน

“ยินดีที่ได้รู้จักเอียน”

ตามคำทักทายของชายคนนั้นซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้ที่ติดอันดับสูงสุด แม้จากการมองคร่าวๆเอียนจับมือของเขาด้วยแรงกระตุ้นขณะที่เขาถาม

“คุณ… คือใครครับ?”

เมื่อเขากำลังจะอ้าปากพูดตอบกลับ คาร์วินซึ่งอยู่ด้านหลังก็พูดก่อน

“รอยด์เฉิน? รอยด์เฉิน คุณใช่ไหม?”

ชายคนนั้นหัวเราะขณะที่เขาพยักหน้าอย่างช้าๆ

“ในขณะที่ฉันได้รับอนุญาตจากหัวหน้าเฮิร์ซ เรากิลด์วาเลี่ยนได้ตัดสินใจที่จะช่วยในการต่อสู้ปกป้อง”

รอยด์เฉินก้มหัวเล็กน้อย

และขณะที่มองเขาทำอย่างนั้น ดวงตาทั้งสองของเอียนเปล่งประกาย

‘วาเลี่ยน! หากทุกอย่างไปได้ดี การต่อสู้เพื่อการป้องกันนี้… เราอาจจะสามารถอยู่รอดได้จนกว่าจะถึงจุดจบ!

รู้สึกราวกับว่าเขาได้รับกองทหารและม้านับพัน เอียนก็ก้มหัวให้กับรอยด์เฉินเช่นกัน

“ขอบคุณมากครับสำหรับการตัดสินใจที่ยากอย่างนี้ รอยด์เฉิน”