ตอนที่ 1718 ผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับสูง (4) / ตอนที่ 1719 ผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับสูง (5)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1718 ผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับสูง (4)

“คุณหนู ท่านตั้งใจจะทำอะไร”

“เจ้าให้คนของเราไปปล่อยข่าวลือว่าเยี่ยฉีที่มีความสัมพันธ์อันดีกับคุณหนูตระกูลจวิน จวินหลิงเอ๋อร์เป็นนางโลมขายร่างกาย นางไม่เพียงแต่เคยตั้งครรภ์มาแล้วหลายครั้งแต่ยังเปลี่ยนสามีบ่อยด้วย! และจวินเฟิ่งหลิงก็เป็นมารดาของนางใช่หรือไม่ เจ้าบอกคนอื่นด้วยก็ได้ว่า…ครั้งหนึ่งมารดาของนางเคยส่งเยี่ยฉีไปขึ้นเตียงของยอดฝีมือคนนึงเพื่อประจบประแจงเขา”

“แน่นอนว่าแค่นั้นยังไม่พอ ข้ายังหาตัวตนของเยี่ยฉีไม่เจอแต่ข้าส่งคนไปหลอกล่อเยี่ยฉีเพื่อให้นางเล่าว่าตั้งแต่เกิดมานางไม่เคยเห็นบิดามารดาที่แท้จริง ดังนั้นเจ้าก็บอกคนอื่นไปว่าบิดามารดาที่แท้จริงของเยี่ยฉีตายเพราะพวกเขาโกรธที่นางมีนิสัยเสเพล!”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเว่ยหลิงกว้างขึ้นและดวงตาของนางก็เป็นประกายชั่วร้าย

จวินเฟิ่งหลิง เจ้าไม่ยอมยกบุรุษของเจ้าให้ข้าใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะทำลายเจ้าและบุตรสาวของเจ้า! ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะยังอาศัยอยู่ในตระกูลจวินต่อไปได้อีกหรือไม่! …

ตระกูลจวิน

อวิ๋นลั่วเฟิงกำลังเล่นหมากรุกกับผู้เฒ่าจวินอยู่ และอวิ๋นเซียวก็กำลังมองใบหน้านาง เขาไม่สามารถละสายตาไปจากนางได้…

 ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องดีใจดังขึ้นมากจากประตู “ท่านพี่รอง พี่สะใภ้ ท่านแม่กับท่านพ่อมาแล้วเจ้าค่ะ”

ผู้เฒ่าจวินที่ถือหมากรุกอยู่มือสั่น เขากระโดดลงจากเก้าอี้เสียงดังและหันหน้าไปมองที่ประตู…

หลังจากนั้นไม่นาน ร่างสีแดงก็ปรากฏในสายตาเขา นัยน์ตาของผู้เฒ่าจวินหดตัวเข้าหากันก่อนเขาจะพูดอย่างแปลกใจ “เจ้าเองหรือ”

จวินเฟิ่งหลิงและเยี่ยจิ่งเฉินเองก็ตะลึงไปเหมือนกันและมองผู้เฒ่าจวินกับอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยความฉงน…

“เฟิงเอ๋อร์ เซียวเอ๋อร์ เจ้ารู้จักชายชราผู้นี้ด้วยหรือ” จวินเฟิ่งหลิงประหลาดใจ หลังจากที่พวกเขาแยกกันที่ภูผาสุสานเทพ พวกเขาก็กังวลว่าชายชราจะไปเจออันตรายอะไรหรือไม่ ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเขายืนที่ตรงนั้นอย่างสบายดี พวกเขาก็โล่งใจ

ผู้เฒ่าจวินไม่สามารถสะกดกลั้นความดีใจภายในใจเขาได้อีกต่อไปและวิ่งเข้าไปหาจวินเฟิ่งหลิง

ไม่แปลกใจเลยที่ครั้งแรกที่เขาเจอจวินเฟิ่งหลิง เขาถึงได้รู้สึกดีกับนางแบบหาเหตุผลไม่ได้ กลายเป็นว่านางเป็น…

ปัง!

ทว่าตอนที่เขากำลังจะถึงตัวจวินเฟิ่งหลิง เยี่ยจิ่งเฉินก็เตะเขาออกมาทันทีและหน้าผากของเขาก็ปรากฏเส้นเลือดที่เต้นตุบๆ “ข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะเป็นคนแบบนี้! ท่านกล้ากินเต้าหูภรรยาข้างั้นรึ! ท่านทำให้ข้าผิดหวังมาก!”

เยี่ยจิ่งเฉินไม่สนว่าผู้เฒ่าจวินจะรู้จักอวิ๋นลั่วเฟิงหรือไม่ เขารู้แค่ว่าชายชราคนนี้วิ่งมากอดภรรยาเขา เขาจะยอมให้คนอื่นมาแตะต้องภรรยาของเขาได้อย่างไร

ใบหน้าของผู้เฒ่าจวินเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินจากความอับอาย “เจ้ากล้าตีพ่อตาตัวเองอย่างนั้นรึ ข้าจะให้บุตรสาวข้าหย่ากับเจ้า”

“ตาแก่…” เยี่ยจิ่งเฉินกำลังจะก่นด่าออกไปแต่เขาพึ่งรู้สึกตัวว่าอีกฝ่ายพูดว่าอะไร เขาถามอย่างเหม่อลอยว่า “ท่านว่าอะไรนะ”

ตอนนั้นเองอวิ๋นลั่วเฟิงที่กำลังดูการแสดงตรงหน้าอย่างมีความสุขก็เดินออกมาแล้วเอ่ยปากในที่สุด “ท่านตาจวินพูดถูกแล้ว เขาเป็นบิดาของท่านแม่และเป็นพ่อตาของท่านด้วย”

ใบหน้าของเยี่ยจิ่งเฉินเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีขาวแล้วจากสีขาวเป็นสีแดง ในที่สุดเขาก็รู้ว่าเขาพึ่งทำเรื่องผิดพลาดอะไรไป เขารีบเดินไปหาผู้เฒ่าจวินแล้วถามอย่างกังวลว่า “ผู้เฒ่าจวิน…ไม่สิ ท่านพ่อ ท่านเป็นอะไรหรือไม่ขอรับ ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าคิดว่าท่านจะมากินเต้าหูภรรยาข้า”

ผู้เฒ่าจวินส่งเสียงขึ้นจมูกแล้วหันหน้าหนี ไม่ยอมสนใจเยี่ยจิ่งเฉิน

เขาโกรธมาก!

เยี่ยจิ่งเฉินกล้ามาเตะเขาได้อย่างไร!

เยี่ยจิ่งเฉินรีบคุกเข่าให้เขา “ท่านพ่อ ข้าขอโทษจริงๆ ขอรับ ข้าทำผิดไปแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย”

ผู้เฒ่าจวินยื่นนิ้วไปชี้หน้าเยี่ยจิ่งเฉินอย่างโกรธเคือง

…………………………………..

ตอนที่ 1719 ผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับสูง (5)

“เจ้าไม่ได้แค่แย่งบุตรสาวข้าไปแต่ยังเตะข้าด้วย! และเจ้าก็ทำแค่ขอโทษข้างั้นหรือ”

เยี่ยจิ่งเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิดและไม่กล้าพูดสักคำเดียว เขาทำแค่ฟังผู้เฒ่าจวินสั่งสอนและเอาแต่ขอโทษเพียงอย่างเดียว

ตั้งแต่แรกจวินเฟิ่งหลิงไม่ได้พูดอะไรนอกจากจ้องผู้เฒ่าจวินด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา

ท่านพ่องั้นหรือ

สรุปว่า…นางเองก็มีบิดาเหมือนกัน!

อาจจะเป็นเพราะสัมผัสได้ว่าจวินเฟิ่งหลิงมอง ผู้เฒ่าจวินจึงหันไปหานางไม่นานเขาก็ร้องไห้

“เด็กน้อยของข้า ในที่สุดข้าก็หาเจอเสียที”

จวินเฟิ่งหลิงกัดริมฝีปากสีแดงสดของนางและปล่อยให้น้ำตาไหล

“ท่านเป็น…บิดาของข้าจริงหรือเจ้าคะ”

ผู้เฒ่าจวินพยักหน้าจริงจัง “ตอนปีนั้นข้าต้องการจะแก้แค้นให้มารดาเจ้าและทุกคนในตระกูลจวินดังนั้นข้าจึงฝากเจ้าไว้กับเพื่อนเก่าของข้าและขอให้เขาดูแลเจ้าให้ข้า แต่ว่าหลังจากที่ข้าสังหารศัตรูหมดแล้วและกลับไปหาเจ้า ข้าก็หาเจ้าไม่เจอแล้ว! ข้าตามหาเจ้าไปทั่วทุกมุมของแคว้นแต่ก็ยังหาเจ้าไม่เจอ บุตรสาวของข้า เจ้าไม่โทษข้าใช่หรือไม่”

“ไม่เคยเจ้าค่ะ”

นางไม่เคยโทษเขามาตั้งแต่แรก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมื่อนางรู้เหตุผลแล้ว

“บุตรสาวของข้า! ข้าคิดถึงเจ้ามาก”

ผู้เฒ่าจวินพุ่งเข้าไปคว้าตัวจวินเฟิ่งหลิงเข้ามากอดแล้วร้องไห้เหมือนเด็กๆ

จวินเฟิ่งหลิงตัวแข็งแต่นางก็ไม่อยากผลักเขาออกไปเพราะอ้อมกอดของเขาอบอุ่นมาก…

“ท่านตาจวิน ท่านแม่ พวกท่านไว้คุยกันทีหลังเถอะ ตอนนี้พวกเรายังมีบางอย่างที่ต้องตัดสินใจนะเจ้าคะ” อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้วแล้วพูดพร้อมรอยยิ้มบาง

เมื่อผู้เฒ่าจวินได้ยินอย่างนั้น เขาก็ปล่อยตัวจวินเฟิ่งหลิงออกจากอ้อมกอดแล้วเช็ดน้ำตาก่อนจะยกยิ้ม “เฟิงเอ๋อร์พูดถูกแล้ว ข้ายังมีบางอย่างต้องจัดการ”

เขาหยุดก่อนจะพูดต่อ “ข้าบอกคนอื่นแล้วว่าเฟิงเอ๋อร์เป็นหลานสาวของข้าแต่ยังไม่ได้ให้ฐานะที่เป็นทางการกับเยี่ยฉีเลยแม้ว่านางจะอยู่ที่นี่มานานแล้ว ข้าอยากจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาให้เจ้าหลังจากที่เจ้าแสดงตัวและข้าก็จะประกาศตัวตนของเจ้าให้คนทั้งแคว้นได้รับรู้”

“แล้วแต่ท่านเลยเจ้าค่ะ ท่านพ่อ” จวินเฟิ่งหลิงยิ้มทั้งน้ำตา นางไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่นางได้เห็นบิดาของนาง…

บิดาบุตรธรรมของนางไม่ได้บอกอะไรนางเลยก่อนที่เขาจะตายดังนั้นนางจึงไม่รู้ว่าครอบครัวของนางอาศัยอยู่ที่แคว้นเจ็ดเมือง

“ได้เลย!” ผู้เฒ่าจวินปรบมือ “ข้าส่งคนไปรับครอบครัวของเจ้ามาจากแดนลับแลแล้วและข้ายังเชิญเจ้าเมืองต่างๆ มาร่วมงานเลี้ยงด้วย ตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปเจอพี่ชายและหลานสาวของเจ้าก่อน…”

ถึงแม้ว่าที่จริงแล้วนายท่านจวินจะเป็นศิษย์ของผู้เฒ่าจวินแต่ผู้เฒ่าจวินก็ไม่ได้เรียกเขาว่าศิษย์แต่เรียกเขาว่าเป็นพี่ชายจวินเฟิ่งหลิง แสดงให้เห็นว่าผู้เฒ่าจวินดูแลศิษย์เหมือนบุตรชายของเขาเอง

เมื่อเห็นรอยยิ้มของผู้เฒ่าจวินและจวินเฟิ่งหลิงร้องไห้ อวิ๋นลั่วเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้ม แต่จู่ๆ ก็มีบางอย่างเกิดขึ้นกับนางและนางก็หันมาหาอวิ๋นเซียว

“เจ้าหาฉินลั่วเจอหรือยัง”

สตรีผู้นี้เป็นห่วงพวกเขา

อวิ๋นเซียวส่ายหน้า “นางฉลาดมาก หลังจากที่วันนั้นนางหนีไป นางก็ไม่ได้กลับไปที่พระราชวังนั้นอีก ข้าหานางไม่เจอเลยแม้ข้าไปที่นั่นหลายครั้ง”

อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้วและหลังจากที่ผ่านไปสักพัก นางก็ยกยิ้ม

“ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็รอให้นางมาหาพวกเราเองเถอะ ข้ามั่นใจว่าอีกไม่นานนางจะมาหาพวกเราแน่ ก่อนที่จะถึงตอนนั้นข้าจะมีสมาธิกับการฝึกพลังฌาน”

อวิ๋นลั่วเฟิงรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังจะผ่านด่านเลื่อนระดับแล้ว ก่อนที่นางจะใช้เวลานานเกินไปนางจึงตัดสินใจจะปิดด่านฝึกตนเพื่อฝึกพลังฌานและจะไม่ออกมาจนกว่านางจะผ่านด่านเลื่อนระดับและกลายเป็นผู้ฝึกฌานขั้นเซียนปราชญ์ระดับสูง…