ตอนที่ 784 ต่อแถวตอนเช้าตรู่

Elixir Supplier

หวังเย้าเพิ่งทายาออกมาได้หนึ่งส่วน แต่ด้วยข้อจํากัดทั้งหลาย แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว

“แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว” เขาพูด

ตัวยามีหน้าที่ในการจัดการกับพิษ มันจะช่วยล้างพิษทั้งหมดออกจากร่างกาย

เขาไปพบหลี่ฟางและลูกชายของเขาอีกครั้งในตอนกลางวัน หวังเย้าเอายาให้หลี่ฟางและพูดว่า“ให้กินยาวันละครั้งตอนเช้าติดต่อกันเจ็ดวันนะครับ”

“ได้ ขอบคุณมาก” หลี่ฟางพูด

“เขาอาจจะอาเจียนกับท้องเสียได้ เพราะมันคือการขับพิษออกจากร่างกาย” หวังเย้าพูด “ไม่ต้องกังวลมากจนเกินไปนะครับ ผมจะเขียนใบสั่งยาที่ช่วยบํารุงสุขภาพของเขาให้คุณไปต้มเอง”

“เยี่ยมครับ ขอบคุณมากจริงๆ” หลี่ฟางพูด

“ตอนนี้ช่วยให้เขากินยา แล้วหลังจากนี้ผมจะตรวจดูอาการของเขาอีกทีครับ” หวังเย้าพูด

หลี่ฟางป้อนยาให้ลูกชายของเขากินเข้าไป แล้วสีหน้าของเด็กชายก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

“ลูกเป็นอะไรไหม?” หลี่ฟางถาม

“ผมเจ็บท้อง” เด็กชายชี้ไปที่ท้องของเขา

“รออีกเดี๋ยวครับ” หวังเย้าหยิบเข็มเงินออกมาสองเล่ม แล้วฝังลงไปบนหน้าท้องของเด็กชายไม่นานเขาก็ดูผ่อนคลายลง

ตัวยาเพิ่งเริ่มออกฤทธิ์ มันจะเข้าไปฆ่าแมลงพิษ, ล้างพิษ, และขับพิษออกจากร่างกายของเด็กชาย

ประมาณ 30 นาทีหลังจากนั้น เด็กชายก็เข้าห้องน้ํา เขาถ่ายเอาของเสียสีน้ําตาลดําออกมาเป็นจํานวนมากทั่วทั้งห้องน้ําเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น ทั้งยังกระจายเข้ามาภายในห้องรับแขกด้วยหลี่ฟางแทบทนไม่ไหวเขาจึงเดินไปเปิดหน้าต่างออก

“ตอนนี้ เป็นช่วงที่เขาจะขับพิษออกจากร่างกายนะครับ” หวังเย้าพูด

เขารออยู่อีกหนึ่งชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจเด็กชายไม่เป็นอะไรแล้วถึงกลับออกไป

“เสี่ยวหมิง ลูกรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” หลี่ฟางถามอย่างอ่อนโยน

“ผมรู้สึกไม่มีแรงครับ” เด็กชายพูดเสียงอ่อนแรง

ในบางครั้ง เขามักไร้เรี่ยวแรงและอาการแย่ลง ตอนนี้ เขาได้ใช้พลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ไปกับการขับพิษออกจากร่างกาย โชคดีที่หวังเย้าเพิ่มชานจึงเข้าไปในตัวยาเพื่อช่วยบํารุงกําลังกายให้กับเขา ปริมาณชานจึงเพียงเล็กน้อยนั้นมีฤทธิ์อ่อนโยนต่างจากฤทธิ์ของโสม

“นอนพักเถอะ” หลี่ฟางพูด “หลังตื่นนอน ลูกก็จะดีขึ้นเอง”

“ครับ” เด็กชายหลับตาลง

หลี่ฟางและเจี้ยจื้อจายปิดประตูอย่างเบามือ และเดินไปที่ห้องรับแขก

“ตอนนี้ ก็ไม่จําเป็นต้องใช้ยานี้แล้ว” เลี้ยจื้อจายพูด พร้อมมองไปที่ตัวยานําเข้าราคาแพงที่หลี่ฟางซื้อมาให้ลูกชายของเขา

“อืม แต่ถ้ายาสมุนไพรไม่ได้ผล ฉันก็จําเป็นต้องใช้มันอยู่ดี” หลี่ฟางพูดเขายังไม่เชื่อใจหวังเย้าทั้งหมด

“แล้วนายจะได้เห็นว่า เขาอาการดีขึ้นภายในสามวัน” เจี้ยจื้อจายพูด

“นายดูเชื่อในสิ่งที่เขาทําทุกอย่างเลยนะ” หลี่ฟางพูด “ปกตินายไม่ใช่แบบนี้นี่”

เขาพบว่า เจี้ยจื้อจายเชื่อใจและนับถือหวังเย้ามาก จนเขารู้สึกแปลกใจ ด้วยอาชีพของพวกเขาการเชื่อใจหรือนับถือใครสักคนนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก

“เขามีความสามารถมากยังไงล่ะ” เจียจือจายพด

หวังเย้าเตรียมตัวยาสําหรับฟื้นฟูร่างกายเอาไว้หลายชนิด เขาแบ่งสมุนไพรเอาไว้แทนที่จะปรุงมันขึ้นมาและไปพบกับหลี่ฟางที่โรงแรมที่เขาพักอยู่

“นี่เป็นตัวยาคนละอย่างกันนะครับ” หวังเย้าพูด “ผมเขียนวิธีต้มยาไว้ให้แล้วคุณสามารถเอาไปทําเองได้ สมุนไพรพวกนี้คงพอสําหรับให้ลูกชายของคุณกินในเจ็ดวันถ้ามีคําถามอะไรก็ให้โทรหาผมได้ แล้วก็หยุดเอายานําเข้าพวกนั้นให้เขากินด้วยนะครับ”

“ขอบคุณ” หลีฟางพูด

เขากําลังจะจ่ายเงิน แต่หวังเย้าก็พูดขึ้นมาว่า “อีกเจ็ดวันคุณค่อยจ่ายก็ได้ครับ”

หวังเย้ากลับไปที่หมู่บ้านในเช้าวันต่อมา

จงหลิวชวนมาที่คลินิกของหวังเย้าทันทีที่รู้ว่าเขากลับมาแล้ว “หมอหวัง ตอนที่คุณไม่อยู่มีหลายคนมาถามหาด้วยครับ”

“พวกเขาเป็นคนไข้ใช่ไหม?” หวังเย้าถาม

“ใช่ครับ มีคนหนึ่งที่มาถามหาทุกวันเลย” จงหลิวชวนพูด “ผมไม่แน่ใจว่าทําไมแต่มีรถหลายคันที่มาจอดรออยู่ด้านนอกคลินิกของคุณ”

เขาจําวันนั้นได้อย่างชัดเจน ในตอนที่เขากําลังออกกําลังกายในตอนเช้าเขาก็เห็นรถคันหนึ่งจอดอยู่ด้านนอกคลินิกของหวังเย้าเป็นชายคนหนึ่งที่พาลูกสาวของเขามาหาหวังเย้าจงหลิวชวนได้เข้าไปบอกเขาว่าหวังเย้าไม่อยู่แต่คนๆนั้นก็ยังคงรอจงหลิวชวนที่แยกตัวไปออกกําลังกายประจําวันของเขาต่อและกลับมาที่คลินิกหลังจากนั้นไม่นานชายคนนั้นและลูกสาวของเขาก็ยังคงไม่ไปไหนและมีคนมีรอเพิ่มมากขึ้นด้วยจงหลิวชวนไม่ได้เดินจากไปด้วยกลัวว่าบางคน อาจเป็นผู้ไม่หวังดีวันต่อๆมาก็มีคนมารอมากขึ้นเรื่อยๆรถเข้ามาจอดต่อแถวยาวและส่วนใหญ่มักมาพร้อมกับลูกของพวกเขา

“เด็กๆเหรอ?” หวังเย้าถาม

“ใช่ครับ ส่วนใหญ่พาลูกของตัวเองมาให้คุณรักษา” จงหลิวชวนพูด “ผมได้ยินว่าเด็กพวกนั้นมีอาการไอรุนแรง พวกเขาพูดกันว่ายาของคุณให้ผลในการรักษาอาการไอได้ดีมาก”

“จริงเหรอเนี้ย?” หวังเย้าแปลกใจเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นจะได้ยินเรื่องประสิทธิภาพของตัวยาที่เขาทําขึ้นมาผ่านการพูดปากต่อปาก

“แล้วมีเรื่องอะไรอีกไหมครับ?” หวังเย้าถาม

“ไม่มีแล้วครับ?” จงหลิวชวนพูด

“ดีครับ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณนะครับ”

“ยินดีครับ” จงหลิวชวนพูด

“วันนี้ผมคงยังไม่รับคนไข้” หวังเย้าพูด “ผมจะกลับขึ้นไปบนเนินเขาหนานชานก่อน”

“ได้ครับ แล้วเจอกัน” จงหลิวชวนกลับไปที่บ้านของเขา

หวังเย้าเดินขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน ด้านบนเย็นสบาย เขาชื่นชอบช่วงเวลานี้ของปีฤดูใบไม่เป็นฤดูที่เขาชอบ

โฮ่ง!โฮ่ง! ซานเซียนวิ่งเข้ามาหาเขา หลังได้ยินเสียงฝีเท้าของเขา ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงตัวเขาและสะบัดหางไปมาแล้วเลียมือหวังเย้าด้วยความตื่นเต้น

“ซานเซียน นายอ้วนขึ้นอีกแล้ว” หวังเย้าลูบหัวขนาดใหญ่ของมัน

โฮ่งโฮ่ง!

หวังเย้าหัวเราะแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ”

เขาพาซานเซียนเดินดูเนินเขาซีชาน, ตงชาน, และหนานชานจนทั่ว ท้ายที่สุดก็มาถึงบริเวณยอดของเนินเขาหนานชาน

“ฮา!” หวังเข้าสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วค่าราม “ไม่มีที่ไหนเทียบกับบ้านได้เลย!”

เขาตัดสินใจจะเปิดรับคนไขในเช้าวันพรุ่งนี้ หลังมื้อเย็น เขาได้ล็อกอินเข้าสู่เวยป๋อและพบกับข้อความจํานวนมาก :

[หมอหวัง เมื่อไหร่คุณจะกลับมา? ลูกชายของฉันไอตลอดทั้งอาทิตย์ เราอยากพาเขาไปรักษาที่คลินิกของคุณ]

[ลูกชายของฉันก็เป็นเหมือนกัน]

โลูกชายของฉันรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลประจําเขตมาได้อาทิตย์หนึ่งแล้วฉันอยากจะพาเขาไปรักษาที่คลินิกของคุณเหมือนกัน]

มีข้อความที่คล้ายกันอีกหลายข้อความ เขาคิด อืมมม ดูเหมือนช่วงนี้จะมีเด็กที่เป็นแบบนี้กันเยอะมาก

หวังเย้าจึงได้พิมพ์ประกาศในเวยป๋อของตัวเอง เพื่อแจ้งให้ทุกคนทราบว่าเขาจะเปิดคลินิกในวันพรุ่งนี้เขาตัดสินใจเตรียมยาแก้ไอสําหรับเพิ่มขึ้น เขาลงมือปรุงยาแก้ไอในเย็นวันนั้นและบรรจุลงไปในขวดกระเบื้องขนาดเล็กเอาไว้

มันเป็นเช้าวันใหม่ที่สดใส รถแปดคันจอดรออยู่ด้านนอกคลินิก และตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงเช้าเท่านั้น

“มีรถหลายคันมาจอดที่นี่อีกแล้ว” ชาวบ้านคนหนึ่งที่เดินผ่านหน้าคลินิกไปพูดขึ้น

“ลูกชายของเฟิงฮวาอาจจะกลับมาแล้วก็ได้” ชาวบ้านอีกคนพูด

หวังเย้าลงจากเนินเขาหนานชานเช้ากว่าปกติ และต้องแปลกใจที่เห็นคนจํานวนมากกําลังรอคอยเขาอยู่เขาคิดพวกเขามาเช้ากันจริงๆ!

เขารีบเดินไปเปิดประตูคลินิก และเริ่มลงมือตรวจคนไข้

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ หมอหวัง ในที่สุดหมอกลับมาสักที” หญิงคนหนึ่งที่พาลูกของเธอมาพูดขึ้น“นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่ฉันมาที่นี่”

“ก่อนมา คุณควรเข้าไปดูในหน้าเวยป้อของผมก่อนจะดีกว่านะครับ” หวังเย้าพูด “ถ้าผมไม่อยู่ผมจะแจ้งเอาไว้ในนั้น ผมไม่อยากให้คุณต้องมาเสียเวลาเปล่า”
“ได้ค่ะ” เธอพูด“หมอช่วยตรวจลูกชายของฉันได้ไหมคะ?เขาไอหนักมาก แล้วก็มีเสลดด้วยหมอที่โรงพยาบาลเอาเลือดของเขาไปตรวจและพาเขาไปเอ็กซ์เรย์แล้วเขาบอกว่าลูกของฉันติดเชื้อที่ปอดแล้วฉีดยาเพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้นแต่เขาก็ยังไออยู่จะนอนก็หลับไม่สนิทจะกินก็กินไม่อิ่ม”

“ขอผมตรวจก่อนนะครับ” หวังเข้าพูด

เด็กชายอายุ 7 ขวบ ตั้งแต่เดินเข้ามาในคลินิกเขาก็ยังไปไม่หยุด สีหน้าของเขาดูแย่มากและหายใจเสียงดังคล้ายว่ามีบางอย่างปิดกั้นลําคอและปอดของเขาอยู่

“ช่วยเอาเขานอนคว่าได้ไหมครับ?” หวังเย้าบอกผู้เป็นแม่เด็ก

เขากดไปตามจุดฝังเข็มที่ด้านหลังของเด็กชาย

แค่ก!แค่ก! อยู่ๆเด็กชายก็เริ่มไอรุนแรงขึ้นและขับเอาเสลดสีเหลืองออกมาการหายใจของเขาราบรื่นขึ้น

“เขาติดเชื้อที่ปอดจริงครับ”หวังเย้าพูด