เซี่ยปิงกำลังยืนอยู่ใกล้ๆและได้ยินเสียงของคนเหล่านี้ที่พูดคุยกัน เขาก็คิดว่างานประมูลครั้งนี้หรูหราอลังการอย่างมาก ผู้คนจำนวนมากถูกดึงดูดเข้ามา เข้าร่วมในการประมูล ข้าก็หวังว่าครั้งนี้คงจะไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้ที่เขามาหลักๆก็เพื่อที่จะประมูลระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ ถึงแม้ว่าการประมูลจะล้มเหลวมาแล้วหลายครั้ง ทว่าใครจะไปรู้ว่ากันว่าครั้งนี้อาจจะมีคนแข่งประมูลกับเขา ส่งผลให้ราคาของมันพุ่งสูงขึ้น

ดวงตาของเขากระพริบเผยให้เห็นแสงประกาย

“ดูเร็ว นั่นมันผู้อาวุโสของนิกายกระทิงเขียว”

ในตอนนี้ ใครบางคนได้ตะโกนอออกมา ทันใดนั้นก็ได้เห็นชายชราที่กำลังขี่ดาบบินมาที่นี่ ร่างของเขานั้นสวมใส่ชุดคลุมวิทยายุทธอยู่ ซึ่งข้างหลังนั้นเย็บปักด้วยสัญลักษณ์ของกระทิงสีเขียว ที่เอวมีขวดน้ำเต้า มีออร่าที่ทรงอำนาจแผ่ออกมาจากร่างกาย

การปรากฏตัวของคนๆนี้นั้น เหมือนกับว่าจะทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆเงียบลงอย่างกะทันหัน

“แม่เจ้า ไม่คาดคิดว่าผู้อาวุโสของนิกายกระทิงเขียวก็มาเช่นกัน”

“นิกายกระทิงเขียวนั้นเป็นนิกายที่ยิ่งใหญ่ซึ่งรองลงมาจากนิกายฟ้าดิน ลูกศิษย์ของนิกายนี้มีเป็นจำนวนนับล้านคน พลังอำนาจของผู้อาวุโสคนนี้อย่างน้อยก็อยู่ในระดับแกนทอง พลังอำนาจนั้นล้ำลึกและไม่สามารถประเมินค่าได้”

ผู้อาวุโสของนิกายกระทิงเขียวที่กลุ่มผู้คนกำลังพูดถึงนั้นดูมีความน่าเกรงขามขึ้นมาอย่างกะทันหัน

เซี่ยปิงก็ล่วงรู้ว่าอาณาเขตดวงดาวทั้งหกที่นิกายฟ้าดินปกครองอยู่นั้น ถึงแม้ว่านิกายฟ้าดินนั้นจะเป็นนิกายระดับเซนต์ที่ใหญ่ที่สุด ทว่าพื้นที่ปกครองนั้นก็ใหญ่เกินไป เพียงแค่นิกายเดียวนั้นไม่สามารถที่จะควบคุมอำนาจได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ดังนั้นอาณาเขตดวงดาวทั้งหกก็จะมีนิกายขนาดเล็กขนาดใหญ่มากมายที่ปรากฏขึ้นมาเช่นกัน พวกเขานั้นต่างก็กระจายกันอยู่ตามมุมต่างๆของอาณาเขตดวงดาวทั้งหก มีอาณาเขตเป็นของตนเอง ทว่าในทุกๆปีนั้นพวกเขาก็จะต้องมอบของบรรณาการให้กับนิกายฟ้าดินเช่นกัน

สำหรับผู้คนปกติธรรมดาของอาณาเขตดวงดาวทั้งหกนี้ นิกายฟ้าดินนั้นเป็นนิกายที่ยิ่งใหญ่ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงเกินไป เป็นผู้คนที่อยู่เหนือเมฆ ไม่สามารถที่จะสัมผัสหรือแตะต้องได้ ทว่านิกายที่เล็กลงมาเหล่านี้นั้นเป็นกลุ่มอิทธิพลที่พวกเขาได้พบเห็นบ่อยครั้ง เทียบเท่ากับผู้ปกครองของท้องที่ก็ว่าได้

ผู้อาวุโสของนิกายกระทิงเขียวคนนี้ก็ได้ยินคำพูดของผู้คนที่อยู่รอบๆเช่นกัน ทว่าเขาก็ไม่ได้แยแส ก้าวยาวเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้าโดยตรง หายไปจากสายตาของผู้คนอย่างรวดเร็ว

ทว่าการปรากฏตัวของผู้อาวุโสของนิกายกระทิงเขียวนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง บนท้องฟ้าก็มีแสงปรากฏขึ้นมา มีบางคนที่ก้าวออกมาจากความว่างเปล่า บางคนขี่เรือบินมา บางคนขี่ดาบบินและบางคนขี่สัตว์ที่แปลกประหลาด แต่ละคนนั้นต่างก็สวมใส่ชุดจีน มีพลังอำนาจที่แข็งแกร่ง ล้ำลึกและไม่สามารถประเมินค่าได้ มาถึงที่สถานที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว

“ดูเร็ว นั่นมันผู้อาวุโสของนิกายพยัคฆ์เดือด เป็นยอดฝีมือในระดับแกนทอง”

“นั่นไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจ ผู้อาวุโสของนิกายแรดทมิฬ นิกายสายวารี นิกายหวงเหอและนิกายอื่นๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาเช่นกัน นิกายเหล่านี้มีลูกศิษย์เป็นจำนวนนับล้านคน มีพลังอำนาจและอิทธิพลที่ล้นหลาม มีความเป็นไปได้สูงว่าพลังอำนาจของพวกเขาอยู่ในระดับกฎเทวรูป”

“แม่เจ้า นี่มันไม่ใช่เจ้าชายของอาณาจักรนอร์ตันหรือ? ข้าเคยเห็นเขาในทีวีมาก่อน ไม่คาดคิดว่าจะมีวันได้พบเจอตัวจริงเช่นนี้ มีผู้คุ้มกันจำนวนมากที่ติดตามมาด้วย ออร่าของแต่ละคนนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก หากใครเข้าไปใกล้ จะต้องถูกดาบโกลาหลฟันจนตายอย่างแน่นอน”

“ผู้นำตระกูลหวาง หวางเก๋อปี่ผู้นำตระกูลหวางก็ปรากฏตัวอยู่ที่นี่เช่นกัน ว่ากันว่าตระกูลหวางนั้นปกครองดาวเคราะห์36ดวง ร่ำรวยอย่างมหาศาล ดูเหมือนว่าเขาก็ต้องการเข้าร่วมงานประมูลในครั้งนี้เช่นกัน”

ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ พวกเขาคิดว่าวันนี้ตนเองได้พบเจอกับผู้มีอิทธิพลในจำนวนที่มากมายซึ่งมากกว่าจำนวนที่เคยเห็นมาทั้งชีวิตนี้เสียอีก บรรยากาศรอบๆดูยิ่งใหญ่จริงๆ

ทว่าผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ก็ไม่ได้สนใจคำอุทานของคนที่อยู่รอบๆ พวกเขาเดินทอดน่องเข้าไปโดยตรง เข้าไปในงานประมูลอย่างรวดเร็ว

“เดี๋ยว นั่นมันเฉียนซาน ผู้สืบทอดโดยตรงของตระกูลเฉียน”

ทันใดนั้นก็มีบางคนที่ตะโกนออกมา

เห็นเพียงแค่บนท้องฟ้าที่ห่างออกไปมีไวเวิร์นเก้าตัวที่บินเข้ามา ข้างหลังพวกมันนั้นมีรถม้าที่หรูหราอยู่ ข้ามผ่านท้องฟ้าไป บดบังท้องฟ้าและปกคลุมพื้นดิน รอบๆนั้นเต็มไปด้วยออร่าที่ชั่วร้ายที่แผ่ออกมา

ไวเวิร์นทั้งเก้าตัวนี้เผยเขี้ยวออกมา ดูดุร้ายอย่างมาก ว่ากันว่าพวกมันเป็นอสูรดุร้ายที่ปรากฏอยู่บนดาวเคราะห์บางดวง มีสายเลือดของเผ่าพันธุ์มังกร มีพลังอำนาจที่เหนือธรรมชาติ ตัวหนึ่งสามารถที่จะทำลายยานอวกาศจักรวาลลำเล็กได้มากกว่าสิบลำ

ทว่าตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่เชื่องเช่นนี้ เป็นเหมือนกับม้าที่ไว้ดึงรถเข็นก็ว่าได้ เห็นได้ชัดว่าทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆตกใจแค่ไหน

ตึบ!

ในตอนนี้ รถม้าได้ลงจอดที่พื้นที่เปิดโล่ง ลมที่รุนแรงพัดออกไป ผู้คนที่อยู่ใกล้ๆต่างก็กระเด็นปลิวออกไปโดยตรง กระแทกเข้ากับกำแพงที่อยู่ใกล้ๆและกระอักเลือดออกมา หัวใจได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ที่พื้นก็ปรากฏเป็นรอยแตกร้าวจำนวนมาก คาช่า ส่งเสียงดังออกมา ภาพที่เห็นนั้นน่าอัศจรรย์อย่างมาก

“บัดซบ!”

ทันใดนั้นบางคนก็เดือดระอุขึ้นมา คิดว่าคนๆนี้ยโสโอหังอย่างถึงที่สุด ยโสโอหังอย่างที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา บ้าบิ่นเกินไป ไม่คาดคิดว่าจะทำร้ายผู้คนที่เดินอยู่ตามถนนเช่นนี้ ช่างไม่สนใจใยดีผู้อื่นแม้แต่น้อย

ทว่าไม่ทันรอให้คนเหล่านี้ได้เริ่มลงมือทำอะไร พวกเขาก็ถูกพวกพ้องของตนเองจับเอาไว้ “เสียสติไปแล้วหรือ? รู้ไหมว่านั่นคือใคร เขาคือเฉียนซาน ผู้สืบทอดโดยตรงของตระกูลเฉียน”

“เคยได้ยินถึงตระกูลเฉียนมาก่อนหรือไม่? พวกเขานั้นเป็นตระกูลโบราณที่ปกครองดาวกวางน้อยดวงนี้ ดำรงอยู่มานานนับสามหมื่นปี มีพลังอำนาจที่ล้ำลึกและไม่สามารถประเมินค่าได้ เทียบเท่าได้กับนิกายกระทิงเขียวและนิกายที่ยิ่งใหญ่อื่นๆ”

“ยิ่งไปกว่านั้นเฉียนต้าเกิ้งผู้นำตระกูลเฉียนในยุคนี้ก็เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ระดับสุดยอด มีพลังอำนาจในระดับลงทัณฑ์สายฟ้า เมื่อใดที่ผ่านการลงทัณฑ์สายฟ้าฟาดไปได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะก้าวเข้าไปสู่ขอบเขตเซนต์ ในตอนนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นตระกูลเซนต์”

“ดังนั้นในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ ต่อให้ตระกูลเฉียนจะหยิ่งผยองและยโสโอหังอย่างที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ทว่าก็ยังคงไม่มีใครที่จะคิดท้าทายพวกเขา”

เขาได้จับแขนของสหายไว้อย่างดื้อรั้น ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามได้ทำอะไรสิ้นคิดโดยที่ไม่คิดไตร่ตรองให้ดีก่อน

“เหอะ ระดับลงทัณฑ์สายฟ้าแล้วอย่างไรกัน? ทั่วทั้งจักรวาลนั้นมียอดฝีมือที่สามารถพัฒนาไปถึงระดับลงทัณฑ์สายฟ้าได้มากมาย ทว่าผู้ที่สามารถกลายเป็นเซนต์ได้นั้นมีจำนวนเพียงน้อยนิด หากระดับเซนต์เป็นระดับที่สามารถก้าวเข้าไปได้ง่ายเช่นนั้น ยอดฝีมือในระดับเซนต์ก็คงจะไม่หายากเช่นนี้หรอก” คนๆนั้นกัดฟันพูดออกมา เห็นได้ชัดว่าไม่เต็มใจยอมรับอย่างมาก

“หุบปาก”

พวกพ้องของเขาได้ปิดปากของเขาทันที “เจ้าต้องการให้ตระกูลของเจ้าถูกฆ่าล้างทั้งตระกูลโดยตระกูลเฉียนอย่างนั้นหรือ? ก่อนหน้านี้เจ้าชายของอาณาจักรขนาดเล็กแห่งหนึ่งก็ได้พูดจาดูหมิ่นตระกูลเฉียนเหมือนกับเจ้า ท้ายที่สุดตระกูลเฉียนก็ใช้ระยะเวลาหลายเดือนในการทำลายล้างพวกเขาและอาณาจักรขนาดเล็กที่ปกครองดาวเคราะห์นับสิบดวงนั้นถูกกำจัดไปโดยตระกูลเฉียน”

“ผู้ที่มีสายเลือดตระกูลราชวงศ์ทั้งหมดต่างก็ไม่สามารถที่จะหลบหนีไปได้ ผู้ชายถูกสังหารไปทั้งหมด ส่วนผู้หญิงนั้นถูกจับมาเป็นทาส ทายาทรุ่นต่อๆมาก็ต้องกลายเป็นทาส หากเจ้าคิดรนหาที่ตายจริงๆ ก็อย่าทำให้สมาชิกครอบครัวของตนเองเดือดร้อนไปด้วย”

ได้ยินเช่นนี้ คนๆนั้นก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก หวาดกลัวจนสีหน้าซีดเซียว

คนอื่นๆก็หวาดกลัวเจียนตายเช่นกัน แต่ละคนต่างก็ก้มหัว ตระกูลเฉียนนั้นมีบารมีที่ยิ่งใหญ่ภายในดาวกวางน้อยแห่งนี้ ไม่มีใครที่จะกล้าท้าทาย

ในอดีตก็เคยมีบางคนที่กล้าท้าทายเช่นกัน ทว่าพวกเขาทั้งหมดก็ถูกกำจัดไป บรรพบุรุษทั้งเก้าชั่วโคตรถูกฆ่าล้างไป แม้แต่หมูหมากาไก่ก็ไม่มีเหลือ

ทว่าเฉียนซานเหมือนกับว่าจะไม่ได้ยินถึงคำพูดของผู้คนที่อยู่รอบๆเหล่านี้ สำหรับเขาที่เป็นผู้มีอิทธิพลในระดับนี้นั้น คนเหล่านี้ก็เป็นเพียงแค่มดปลวกเท่านั้น เป็นเหมือนกับหญ้าข้างทาง ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ความสนใจใดๆ

วิซ!

เขาได้ลงมาจากรถม้าโดยที่มีคนรับใช้ติดตามไปกว่าสิบคนและเดินทอดน่องเข้าสู่บริษัทมหาสมุทรแห่งจักรวาล

ต่อให้เขาจะเป็นทายาทของตระกูลเฉียน ทว่าการที่เผชิญกับบริษัทจัดงานประมูลที่โด่งดังของจักรวาลนั้น ก็ยังคงไม่กล้าที่จะแสดงการดูหมิ่นใดๆ เพราะว่าถึงอย่างไรก็ว่ากันว่าบริษัทแห่งนี้มีเซนต์หนุนหลังอยู่เช่นกัน

อย่างรวดเร็ว ผู้คนของตระกูลเฉียนเหล่านี้ก็ได้หายไปจากสายตาของผู้คน ทว่ารถม้านี้ก็ได้ถูกขับเคลื่อนออกไปจอดในอีกสถานที่หนึ่ง

“ถึงเวลาแล้ว”

เมื่อเซี่ยปิงมองเห็นผู้คนจำนวนมากที่เดินเข้าไป เขาก็ได้เดินตามเข้าไปในตึกขนาดใหญ่นี้เช่นกัน

ทว่าเมื่อมาถึงที่ทางเข้า กลับมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ขัดขวางเขาไว้