ตอนที่ 1722 ผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับสูง (8) / ตอนที่ 1723 ผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับสูง (9)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1722 ผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับสูง (8)

ดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นประกาย และร่างของนางก็พุ่งไปที่ตีนเขาอย่างรวดเร็ว …

ที่ลานด้านนอก ทุกคนจากตระกูลเยี่ยและตระกูลอวิ๋นก็มารวมตัวกันแล้วและอวิ๋นลั่วเฟิงก็เห็นครอบครัวของนางมาแต่ไกล อวิ๋นลั่ว อวิ๋นชิงหย่า หนิงซิน อวิ๋นรั่วสุ่ย ผู้เฒ่าเยี่ย เยี่ยจวิน เยี่ยเสีย แม้แต่กลุ่มเด็กชายหญิงที่อวิ๋นลั่วเฟิงช่วยไว้จากกลุ่มค้ามนุษย์ก็มาด้วย

เยี่ยจวินและเยี่ยเสียกอดแขนจวินเฟิ่งหลิงไว้แน่นและร้องไห้สะอึกสะอื้น

เมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงเห็นน้ำตาของเด็กทั้งสอง นางก็รู้สึกเหมือนจุดอ่อนโยนในใจนางกระตุก

“เฟิงเอ๋อร์”

อวิ๋นชิงหย่าเป็นคนแรกที่เห็นอวิ๋นลั่วเฟิง รอยยิ้มสง่างามเหมือนชื่อของเขาก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ทันใดนั้นภาพการเจอกันครั้งแรกก็ปรากฏขึ้นในความคิดของอวิ๋นลั่วเฟิง ในห้องใต้ดินของจวนตระกูลอวิ๋น บุรุษเฉยชานั่งอยู่บนรถเข็นโดยมีหนังสืออยู่ในมือ หลังจากที่เขาเห็นนาง ใบหน้าหล่อเหลาจนน่าเหลือเชื่อของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มยากที่จะลืมเลือนเป็นครั้งแรก

ตอนนี้เวลาก็ผ่านไปแล้วเกือบสิบปีแล้วตั้งแต่ที่นางมาถึงที่โลกใบนี้ครั้งแรก

ในชีวิตครั้งนี้ นางเองก็โตขึ้นมาจากขยะของตระกูลอวิ๋นที่ถูกล้อเลียนอยู่ตลอดเพราะสภาพในตอนนั้นของนาง

หัวใจของอวิ๋นลั่วเฟิงหวั่นไหว ดวงตาสีดำสนิทของนางเป็นประกายสดใสเมื่อนางมองดูครอบครัวของนาง

“ท่านปู่ ท่านอารอง ตั้งแต่นี้ไปจะไม่มีใครทำร้ายพวกท่านได้อีกไปเจ้าค่ะ”

ใช่แล้ว นางฝึกพลังฌานด้วยทุกอย่างที่มีและเสี่ยงชีวิตเพื่อพัฒนา ที่ทำไปทั้งหมดไม่ใช่เพื่อปกป้องครอบครัวที่หัวใจของนางทะนุถนอมหรอกหรือ

ท่านปู่อาจจะไม่อยู่ข้างนางเมื่อเป็นเรื่องของอวิ๋นเซียวแต่ถ้านางสู้กับคนอื่น ท่านปู่ก็จะยืนอยู่ข้างนางเสมอไม่ว่าจะถูกหรือผิดโดยไม่ตั้งคำถามใดๆ ทั้งนั้น ถึงแม้ว่านางจะเลือกทางผิดก็ตาม

ในชีวิตที่แล้วของนาง บิดามารดาของตายเร็วและนางก็ยังถูกลุงและป้าหลอก สุดท้ายนางก็ต้องไปจบอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าและถูกคนทั้งโลกประณาม นางไม่เคยได้มีโอกาสได้มีความสุขกับความอบอุ่นของครอบครัว ด้วยเหตุผลนี้ในชีวิตนี้นางถึงให้ความสำคัญกับครอบครัวมาก

ใบหน้าสูงวัยของอวิ๋นลั่วเปลี่ยนไป ถึงแม้ว่าภายในใจเขาจะตื่นเต้นมากแต่เขาก็ไม่เคยแสดงออกทางสีหน้าดังนั้นเขาจึงทำแค่จ้องหน้าของอวิ๋นลั่วเฟิงเท่านั้น

“อย่าพูดอะไรไร้สาระให้มาก ปู่ของเจ้าดื่มชาฌานหมดแล้ว เร็วเขารีบเอามาให้ข้าอีกหนึ่งร้อยกิโลกรัม”

ใบหน้าของอวิ๋นลั่วเฟิวมืดครึ้ม ท่านปู่ของนางช่าง…เก่งในเรื่องทำลายบรรยากาศจริงๆ

“เฟิงเอ๋อร์ อย่าไปฟังปู่ของเจ้า” อวิ๋นชิงหย่ายิ้มอย่างอ่อนโยน “ความจริงแล้ว ปู่ของเจ้าภูมิใจในตัวเจ้ามากและซึ้งใจกับสิ่งที่เจ้าให้เขามาก แต่ว่าท่านพ่อไม่เคยแสดงความรู้สึกของตัวเองเก่งเลย”

อวิ๋นลั่วเฟิงยักไหล่ นางไม่ได้แปลกใจกับทุกอย่างที่ท่านอารองพูด

“หลิงเอ๋อร์ เร็วเข้ารีบพาญาติของพวกเราไปพักผ่อน สองคนนี้ต้องเป็นหลานสาวและหลานชายของข้าใช่หรือไม่ ดูสิว่าหลานสาวของข้าหน้าตาดีขนาดไหน นางดูเหมือนมารดาของเจ้าเมื่อก่อนเลย”

“อาจารย์” จวินเซวี่ยนมองจวินหลิงเทียนอย่างระมัดระวัง “ท่านเจอกับภรรยาของท่านตอนนางอายุสิบเจ็ดปีไม่ใช่หรือ ท่านรู้ได้อย่างไรว่าตอนอายุห้าปีนางหน้าตาเป็นอย่างไร”

ใบหน้าของจวินหลิงเทียนมืดลงทันที “ข้าจินตนาการได้ไม่ใช่หรือ”

จวินเซวี่ยนเม้มปาก เขาจะกล้าพูดว่าเขาทำไม่ได้อย่างไร ถ้าเขาพูดออกไป อาจารย์ต้องตีเขาจนตายแน่นอน

อวิ๋นลั่วเฟิงดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่แล้วหันไปมองจวินหลิงเทียน “ท่านตาเจ้าคะ งานเลี้ยงรวมญาติจะจัดขึ้นเมื่อไหร่เจ้าคะ”

…………………………

ตอนที่ 1723 ผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับสูง (9)

“วันมะรืนนี้”

“วันมะรืนงั้นหรือ” อวิ่นลั่วเฟิงลูบคางด้วยดวงตาเป็นประกาย วันมะรืนเป็นวันที่นางจะได้แก้แค้นใครบางคน…

นางไม่มีทางลืมว่าเมื่อไม่นานมานี้เมืองอุดรหลงผิดจนต้องการส่งคนไปที่แดนลับแลเพื่อทำร้ายตระกูลเยี่ย! การกระทำนี้อย่างเดียวนางก็ไม่มีทางที่นางจะละเว้นคนพวกนั้นแล้ว! …..

หลายวันมานี้นครจวินมีชีวิตชีวามากเพราะมียอดฝีมือขั้นปราชญ์แปลกหน้าจำนวนมากเข้าเมืองมา เวลาเดียวกันสำนักทุกสำนักในนครจวินก็วุ่นวายกันหมด

ปกติแล้วจะมีสำนักเดียวที่มีสิทธิ์ไปที่งานเลี้ยงเปิดตัวคือสำนักที่จัดอยู่ในอันดับสูงเท่านั้น นอกจากจวนเจ้าเมืองของแต่ละเมืองแล้ว ก็มีแค่เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ เผ่าผู้ใช้เวทย์และสำนักศึกษาเมืองปัจฉิมเท่านั้นที่มีสิทธิ์

สำนักอย่างตระกูลเว่ยไม่มีความแข็งแกร่งมากพอแม้แต่จะเดินผ่านประตู แต่ว่าอวิ๋นลั่วก็มาที่ตระกูลจวินเมือนกัน เขาเป็นคนที่โลภเรื่องการหาเงินอยู่แล้วดังนั้นเขาจึงเสนอวิธีสกปรกขึ้นมาวิธีหนึ่ง

เขาให้ผู้เฒ่าจวินสร้างบัตรเชิญและเปิดประมูลบัตรเชิญเหล่านี้ แน่นอนว่าเงินนั้นไม่มีค่าในสายตาของตระกูลระดับตระกูลจวินดังนั้นคนที่มาประมูลต้องนำสมบัติมาให้ประเมินราคา

เรื่องนี้เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้รู้จักกับตระกูลจวิน ไม่ใช่แค่จะได้เห็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลจวินแต่ยังมีโอกาสได้มีปฏิสัมพันธ์กับลูกๆ ของนางด้วย ถ้าพวกเขาสังเกตให้เจ้า อนาคตของเจ้าก็จะพบแต่ความสำเร็จ

ผลลัพธ์ก็คือ ทุกสำนักไม่ขี้เหนียวเลยแม้แต่น้อย ภายในสองวันราคาของบัตรเชิญก็พุ่งขึ้นเหมือนจรวดและสมบัติที่ทุกคนเอามาก็ถูกประเมินว่าเป็นของระดับสูงสุดทั้งนั้น …

จวนตระกูลเว่ย

ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาในห้องโถงหลักอย่างกระตือรือร้น เมื่อเขาเห็นบุรุษและเด็กผู้หญิงนั่งอยู่ในห้องโถงดวงตาเขาเป็นประกายตื่นเต้น

“ผู้นำตระกูล คุณหนู บ่าวทำภารกิจสำเร็จแล้วนำบัตรเชิญกลับมาได้แล้วขอรับ”

ผู้นำตระกูลเว่ย เว่ยเซียนเป็นประกายด้วยความพึงพอใจแต่ก็เปลี่ยนมาเป็นสิ้นหวัง “ครั้งนี้ตระกูลเว่ยของพวกเราสูญเสียไปมากเพื่อบัตรเชิญใบนี้”

“ท่านพ่อ อย่าคิดอย่างนั้นเลยเจ้าค่ะ” เว่ยหลิงยิ้ม “นี่เป็นโอกาส คนที่มาเป็นยอดฝีมืออันดับสูงของแคว้นทั้งนั้น! ตอนนั้นข้าก็จะเลือกเด็กผู้ชายที่ดีที่สุดของตระกูลเว่ยและรับเขาเป็นน้องชายบุญธรรมเพื่อพาเข้างาน ไม่แน่เขาอาจจะได้มีโอกาสเจริญก้าวหน้าก็ได้นะเจ้าคะ”

เว่ยเซียนถอนหายใจ “น่าเสียดายที่เจ้าไม่มีน้องชายโดยสายเลือดและเจ้าต้องแบกภาระของตระกูลเว่ยไว้บนหลังด้วย ดังนั้นเจ้าจะแต่งงานออกนอกตระกูลไม่ได้และต้องเลือกสามีที่ดีที่สุดเท่านั้นไม่อย่างนั้น พวกเราก็คงไม่จำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากคนภายนอก”

เว่ยหลิงยิ้มบางและใบหน้าหล่อเหลาอ่อนโยนของเยี่ยจิ่งเฉินก็ปรากฏขึ้นในความคิดนาง ถ้านางสามารถใช้ชีวิตที่เหลือของนางกับสุภาพบุรุษแบบเขาได้ นางก็คงไม่มีอะไรให้เสียดายแล้ว

“ท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ” เว่ยหลิงคล้องแขนเว่ยเซียนแล้วพูดอย่างน่ารักว่า “บุตรสาวของท่านได้เล็งบุรุษคนหนึ่งเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ อีกไม่นานข้าก็จะสามารถทำให้เขาแต่งเขาตระกูลเว่ยได้แล้ว”

“หืม?” ดวงตาของเว่ยเซียนเป็นประกาย เขารู้มาตรฐานของบุตรสาวเขาดีดังนั้นบุรุษที่นางเล็งไว้ต้องมีจุดแข็งบางอย่างแน่นอน

“เจ้าสามารถตัดสินใจเรื่องการแต่งงานเองได้ ตราบใดที่คนผู้นั้นยังไม่มีภรรยา เจ้าก็สามารถขอเขามาเป็นสามีได้”

ภรรยางั้นหรือ เว่ยหลิงส่งเสียงขึ้นจมูก ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะมีภรรยา ตั้งแต่นี้ไปเขาก็จะไม่มีอีกแล้ว…

นางปล่อยข่าวลือออกไปเรียบร้อยแล้ว นางสงสัยจริงว่าถ้าตระกูลจวินรู้เข้าจะเป็นอย่างไร

เว่ยหลิงดึงสติกลับมาแล้วมุมปากของนางก็ยกขึ้นเล็กน้อย “ท่านพ่อเจ้าคะ ตอนนี้บุตรสาวของท่านจะไปเลือกคนที่จะติดตามไปที่จวนตระกูลจวินก่อนนะเจ้าคะ”

หลังจากพูดจบนางก็ปล่อยไหล่ของเว่ยเซียน เมื่อนางเดินผ่านประตู ความเหยียดหยามในดวงตานางก็ยิ่งเข้มขึ้น