ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 247 ตกนรกทั้งเป็น
“คุณป้าแผนการของเราไม่สำเร็จ”
“แกยังจะกล้าให้มันสำเร็จอีกเหรอ? ดีแค่ไหนแล้วที่จารุณี ไม่ไล่พวกเราออกไปตอนนี้ ฉันขอสั่งแกไว้เลยนะว่า ช่วงนี้แกไม่ต้องมาสร้างปัญหาให้ฉันอีก ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันจะเป็นคนแรกที่ฆ่าแก่เอง!”
สุขาวดีอยู่ในสภาวะวิตกกังวลตลอดทั้งสองวันที่ผ่านมา หล่อนรู้สึกหงุดหงิดทันทีที่ได้ยินหลานสาวพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง
สองวันที่ผ่านมานี้ พวกเขาแทบจะเหมือนตกนรกทั้งเป็น
หลังจากเกิดเรื่องขึ้นในงานเลี้ยงวันเกิด
แผนการของพวกเขาล้มเหลวและไม่คาดคิดว่า แสนรักจะบ้าคลั่งจนตัดขาดตระกูลโรแกนได้ และยังกล้าส่งป้าแท้ๆของเขาไปให้ตำรวจอีก
หากไม่ใช่เพราะว่าเธอรีบหาคนมาเกลี้ยกล่อมจารุณีก่อนที่หล่อนจะสารภาพ และให้สัญญาว่าจะดูแลตระกูลโรแกนของพวกเขาให้ปลอดภัย
เกรงว่า ตอนนี้สองป้าหลานนั้นคงไม่ได้อยู่ที่นี้แล้ว
สุขาวดีตกอยู่ภายใต้ความกดดันและไปจัดการอีกรอบ
แป้งร่ำเข้ามาเห็นพอดี แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองหนังสือในมือนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมถึงอักษรไม่กี่ตัวในหนังสือที่เขียนไว้ว่าโรคความจำเสื่อมความบกพร่องทางพันธุกรรม
โรคความจำเสื่อม ดูเหมือนว่าหล่อนจะอ่านถูกแล้วนะ
แท้จริงแล้วผู้ชายคนนั้นซ่อนความลับที่น่ากลัวไว้จริง ๆ แล้วทำไมตอนนี้ป้าหลานต้องข่มเหงเขาด้วยล่ะ? ในเมื่อพวกเขามีไพ่ใบใหญ่ที่สุดอยู่ในมือ ไม่ใช่เหรอ?
เล็บปลอมสีแดงสดของผู้หญิงคนนี้คลำตัวอักษรไม่กี่ตัวนั้น ในที่สุดก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ…
——
วันนี้เส้นหมี่หลับลึกมาก
อาจเป็นเพราะหล่อนสามารถปล่อยวางได้ในที่สุด อีกอย่างจริงๆแล้วร่างกายของหล่อนยังไม่หายดี แต่เป็นการหนีออกจากโรงพยาบาลต่างหาก
ดังนั้น เช้าของวันที่สองหล่อนจึงนอนตื่นสายจนตะวันโด่ง
“พี่ครับ พวกเราจะรอหม่ามี๊มากินเกี๊ยวด้วยกันไหมครับ?”
“รอสิ วันนี้เป็นวันปีตรุษจีนเล็กนะ”
ห้องที่เงียบงัน มีเพียงเสียงเด็กเล็กๆกำลังซุบซิบกันเบาๆ
เส้นหมี่กำลังลุกออกจากเตียง แวบตาเดียวหล่อนก็เห็นเด็กสองคนกำลังนั่งเล่นอยู่บนเสื่อทาทามิที่ติดหน้าต่างในห้องนอนของหล่อน
คนหนึ่งหน้าตาหล่อหลาเท่ห์ อีกคนหน้าตาน่ารัก
นั้นก็คือชินจังกับน้องสาวรินจังนั้นเอง
เส้นหมี่ลุกจากเตียง: “สวัสดีตอนเช้าจ๊ะ ลูกๆที่รัก”
“ว้าว ในที่สุดหม่ามี๊ก็ตื่นแล้ว” หนูรินจังได้ยินก็รีบลงจากเสื่อทาทามิพุ่งไปหาแม่ที่กำลังลุกจากเตียง
เอวของเส้นหมี่ถูกเธอโอบกอดเอาไว้ และสายตาของหล่อนจับจ้องไปที่ลูกชายคนโตที่กำลังเดินเข้ามาหา
“หม่ามี๊ขอโทษนะ หม่ามี๊หลับลึกไปหน่อย พวกหนูกินข้าวกันแล้วยังจ๊ะ?”
“ยังค่ะ วันนี้เป็นวันปีใหม่เล็ก น้าภาทำเกี้ยวไว้ด้านล่าง แต่ว่าคุณปู่กับผู้หญิงเลวน่าเกลียดคนนั้นก็มาด้วย หม่ามี๊จะลงไปไหมคะ”
จู่ๆ หนูรินจังที่อยู่ในอ้อมแขนของแม่ก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยแววตากลมโตเป็นประกาย
เส้นหมี่มึนงง
คุณปู่กับผู้หญิงเลว?
เธอหมายถึง…?
“หม่ามี๊ไม่ต้องลงไป เดี๋ยวให้คนยกขึ้นมาส่ง” ชินจังตัดสินใจอย่างเฉยเมย เด็กน้อยที่เย็นชาและเอาแต่ใจ ราวกับถอดแบบออกมาจากพ่อของเขา
ทันใดนั้น เส้นหมี่รู้สึกตื้นตัน
โอบกอดลูกชายไว้ในอ้อมแขนพร้อมทั้งลูบศีรษะของเขาอย่างอ่อนโยน
แต่ความตื้นตันก็คืนสู่ความตื้นตัน คุณท่านกับผู้หญิงคนนั้นมาทั้งที ยังไงหล่อนก็ต้องลงไปพบหน้าสักหน่อย บางทีไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะมาหล่อนก็เป็นได้
เส้นหมี่ย้อนนึกถึงเรื่องความอลหม่านเมื่อวาน ยังมีร่องรอยของการดูถูกตนเองตรงมุมปากที่ซีดเซียว
หลังจากนั้น หล่อนก็ให้เด็กๆลงไปก่อน ส่วนตัวหล่อนก็เข้าไปอาบน้ำ
10นาทีต่อมา หล่อนแต่งตัวสุภาพเรียบร้อยสดใส แล้วเดินออกมาอีกครั้ง ใบหน้าที่ซีดเซียวจากอาการป่วยก็ดูแทบไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
“หม่ามี๊……”
หนูรินจังไม่ได้ลงไป เพราะเธอไม่สนิทกับคนที่อยู่ด้านล่างและไม่กล้าหาญพอ เธอจึงรอแม่อยู่ด้านบน
เส้นหมี่เห็นอย่างนั้นก็เดินจูงมือลูกสาว
และสองแม่ลูกก็เดินลงไปด้านล่าง
“น้องหมี่ ในที่สุดเธอก็ลงมาจนได้ เกี๊ยวห่อเสร็จแล้ว รอแค่เธอลงมารับประทาน”
รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อลงมาคนที่หล่อนเห็นในห้องรับแขกใหญ่คือแป้งร่ำ เธอพันผ้าพันคอลายอิฐ ผมหยิกสีเกาลัดของเธอและหนีบกิ๊บไว้ด้านหลัง
ในขณะที่เห็นเส้นหมี่กำลังเดินลงมา ก็รีบทักทายด้วยความกระตือรือร้น
เส้นหมี่หยักคิ้ว อาจเป็นเพราะหล่อนไม่คุ้นที่อยู่ดีๆเธอก็มาดีกับหล่อนจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้
เป็นอะไรไปหล่ะ?
ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนกลยุทธ์แล้วเหรอ? แสร้งเล่นละครเป็นเจ้าบ้านที่ดีงั้นเหรอ?
เส้นหมี่เห็นแก่ลูกเลยไม่ได้แสดงท่าทีใดๆแล้วเดินผ่านเธอไป: “พี่ภา อาหารของเด็กๆทำเตรียมเสร็จแล้วใช่ไหม?
“เตรียมเสร็จแล้วค่ะ นมของคุณหนูรินจัง โจ๊กของคุณหนูชินจัง และทาร์ตองุ่นของคุณชายคิว เตรียวไว้หมดแล้วค่ะ คุณหนูๆรอให้ท่านลงมาแล้วค่อยรับประทานค่ะ
พี่ภาอยู่ในห้องครัวแล้วตอบอย่างร่าเริง น้ำเสียงของหล่อนต่างจากที่พูดกับคุณผู้หญิงในอนาคตที่มาตั้งแต่เช้าตรู่ แป้งร่ำยุ่งวุ่นวายอยู่ที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่ทำได้เพียงมองดูอยู่ในสายตา
เส้นหมี่พาเด็กๆเข้าไป
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ หล่อนไม่เหลือบตามองผู้หญิงคนนี้เลย
แป้งร่ำเห็นอย่างนั้น เพียงแค่วินาทีเดียว รูปลักษณ์คนดีที่เธอรักษามาตั้งแต่เช้าก็หายไป เธอกัดฟันแน่น โกรธจนอยากจะเทเกี๊ยวที่ยกออกมาทิ้งลงในถังขยะทั้งหมด
แต่ไม่นาน หลังจากที่เธอเห็นคุณท่านกำลังพาเด็กๆเข้ามาจากประตูใหญ่ ใบหน้าของเธอกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง
“คุณลุงภพคะ หมี่ลงมาแล้วค่ะ พวกเราไปรับประทานอาหารเช้ากันเถอะค่ะ”
“ไปสิ”
ชายชราที่ใช้ไม้ค้ำยันพยักหน้าและเดินไปพร้อมกับเด็กทั้งสองคน
เส้นหมี่พาลูกสาวเข้ามาในห้องครัวด้วย