บทที่ 41 ฉันต้องหาผู้ชายที่เป็นงาน

รักหวานอมเปรี้ยว

“จะไปรู้กับผีเหรอ!” มายมิ้นท์พึมพำด้วยเสียงคลุมเครือ

เปปเปอร์คิดไม่ถึงว่ามายมิ้นท์จะพูดคำนี้ออกมา ดวงตาฉายแววตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด

แต่เมื่อเห็นใบหน้ารูปไข่แดงระเรื่อและแววตาน่าดึงดูดของมายมิ้นท์ เขาก็เลิกคิ้วขึ้น แล้วกระชากเนกไทออกจากมือของเธอ

“มายมิ้นท์ คุณเมาแล้วนะ”

“ไม่ ฉันไม่ได้เมา!” มายมิ้นท์โวยวายออกมา จากนั้นก็กุมเนกไทของชายหนุ่มเอาไว้อีกครั้ง “คุณหน้าเหมือนสามีเก่าฉันมาก ดูเผินๆไม่เห็นจะมีดีอะไรเลย!”

“………..”

“แต่ว่าสามีเก่าของฉันเขา…….” มายมิ้นท์นิ่งไปสักพัก จากนั้นนิ้วมือขาวใสก็ยื่นออกมาแกว่งไปมา “เขาไม่เป็นงาน”

สีหน้าของเปปเปอร์อึมครึมลงด้วยความรวดเร็ว เอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่เป็นงานยังไง?”

“ตรงนั้นไง” นิ้วมือของเธอชี้ไปยังบริเวณส่วนล่างของเขา พูดงึมงำว่า “ฉันแต่งงานกับเขามาหกปี แต่เขาไม่เคยแม้แต่จูบฉันเลยสักครั้ง ปล่อยนางฟ้าอย่างฉันให้หลุดมือไม่ยอมทำอะไร คุณว่า ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่เป็นงานแล้วจะเป็นอะไรไปได้?”

เปปเปอร์แค่นยิ้มออกมา

ทั้งสองคนแต่งงานกันตามข้อตกลง แถมตอนหย่าก็เป็นมายมิ้นท์ที่ขอหย่า คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะแปะป้ายให้เขาเป็นคนแบบนี้!

“ไม่ได้เรื่อง” จู่ๆมายมิ้นท์ก็พึมพำออกมา “ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ”

เธอหันหลังอย่างโซซัดโซเซ “ต่อไปนี้ฉันต้องหาผู้ชายที่เป็นงาน…..”

เมื่อได้ยินเธอพูดออกมาแบบนี้ ใบหน้าของเปปเปอร์ก็พลันถมึงทึง ไม่นานขายาวๆของเขาก็ก้าวเข้าไปอุ้มเธอขึ้นมา แล้วเดินตรงเข้าไปในลิฟต์ ก้มหน้ามองเธออย่างเย็นชา

“มายมิ้นท์ คุณต้องชดใช้กับสิ่งที่คุณพูดออกมา”

……

ด้านส้มเปรี้ยวที่ถูกเปปเปอร์ส่งกลับบ้าน ก็กำลังมัดใจเกศวดีในกลุ่มวีแชท

เมื่อเธอเห็นว่าดึกมากแล้ว คาดว่าเปปเปอร์คงทำธุระเสร็จแล้ว เธอจึงส่งข้อความไปหา ทว่าผ่านไปหลายนาทีก็ไม่มีการตอบกลับมา

ในตอนที่ส้มเปรี้ยวกำลังจะกดวิดีโอคอลหา ข้อความอื่นก็เด้งขึ้นมา

ส้มเปรี้ยวรู้ว่ามายมิ้นท์ไปฉลองงานวันเกิดของลาเต้ที่มูนสตาร์คลับ และเปปเปอร์เองก็อยู่ที่นั่น เธอจึงไม่สบายใจ ดังนั้นจึงให้ขนมผิงช่วยจับตาดูไว้ให้

ขนมผิง:ตายๆๆ มายมิ้นท์หน้าด้านสุดๆ ทำไมไม่ตายๆไปนะ!

ในใจของส้มเปรี้ยวมีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง จึงรีบเอ่ยถามเธอว่า :แกเห็นอะไร เปปเปอร์อยู่กับเธอเหรอ

ขนมผิง:ส้มเปรี้ยว แกตั้งสติไว้นะ….ฉันเห็นมายมิ้นท์เป็นฝ่ายจูบประธานเปปเปอร์ก่อน จากนั้นประธานเปปเปอร์ก็อุ้มเธอขึ้นไปข้างบน ฉันเลยแอบตามขึ้นไปเงียบๆ เลยพบว่าพวกเขาเข้าไปในห้อง ตอนนี้ยังไม่ออกมาเลย…..

พวกเขาเข้าไปในห้อง ตอนนี้ยังไม่ออกมา

เมื่อเห็นข้อความเหล่านี้ ส้มเปรี้ยวก็ขบกัดริมฝีปากอย่างรุนแรง ไม่นานริมฝีปากล่างของเธอก็มีเลือดไหลซิบ ใบหน้าอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว หลุดการควบคุม

เธอเกลียดผู้หญิงที่ชื่อมายมิ้นท์จริงๆ เกลียดจนอยากฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ

ถึงแปดปีก่อน เธอจะไปพบเปปเปอร์ในฐานะ“ต้นไผ่”แทนมายมิ้นท์แล้วยังไง

นั่นมันเป็นเพราะความผิดของมายมิ้นท์ต่างหากล่ะ!

เพราะมายมิ้นท์มองอีกฝ่ายเป็นแค่เพื่อนทางจดหมาย ไม่ยอมไปทำความรู้จักเขา

ดังนั้นเปปเปอร์จึงรู้จักกับเธอก่อน และเธอก็ชอบก่อน เขาคือผู้ชายของเธอ!

ขนมผิงส่งข้อความมาอีกว่า:ฉันว่าประธานเปปเปอร์ต้องถูกนังชั้นต่ำนั่นอ่อยจนสับสนไปชั่วขณะ ฉันจะไปเคาะประตูให้ ประธานเปปเปอร์รู้ตัวเดี๋ยวนี้

ส้มเปรี้ยวเอ่ยห้าม :ไม่ต้อง ถ้าแกไป เปปเปอร์ก็จะรู้ว่าแกกำลังตามเฝ้าเขา ฉันแค่เป็นห่วงเปปเปอร์ แต่ไม่อยากดึงให้คนที่ไม่มีความผิดอย่างแกเข้ามายุ่งด้วย

ขนมผิง:ทั้งๆที่เป็นความผิดของมายมิ้นท์ แกยังจะใจดีกับเธออีกเหรอ นี่ส้มเปรี้ยว แกเป็นคนดีเกินไปแล้ว ฉันสงสารแกจัง

ส้มเปรี้ยว:ไม่เป็นไร ฉันเชื่อใจเปปเปอร์ ฉันจะรอให้เขากลับมาอธิบายกับฉัน วันนี้ขอบคุณแกมาก แกกลับไปพักผ่อนเถอะ แล้วก็ นอกจากเราสองคนแล้ว ฉันหวังว่าจะไม่มีบุคคลที่สามรู้เรื่องนี้นะ โอเคไหม?

หลังจากส่งข้อความเสร็จ เธอก็โอนเงินให้ขนมผิงสองแสน

ขนมผิงรีบรับเงิน จากนั้นก็ตอบกลับข้อความอย่างไว :เกรงใจทำไม เพื่อนกันทั้งนั้น คืนนี้ฉันจะทำเป็นไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ฉันเมา

เมื่อได้รับการยืนยันจากเธอ ส้มเปรี้ยวก็ลบบทสนทนา แล้วกดโทรออกด้วยใบหน้าอึมครึม

“คุณส้มเปรี้ยว”

“ได้ของในห้องมาไหม?” ส้มเปรี้ยวเอ่ยถามด้วยเสียงนุ่มละมุน แต่สีหน้ากลับบิดเบี้ยวจนดูน่ากลัว

“ได้มาแล้วครับ ได้มามากทีเดียว แต่ว่าราคา…..”

“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา เอามาให้ฉันฟังดูก่อน”

ไม่นาน ส้มเปรี้ยวก็ได้รับคลิปเสียงท่อนหนึ่ง หลังจากที่ฟังจบ ใบหน้าบิดเบี้ยวของเธอก็คลายออก เดินออกไปนอกห้อง พร้อมกับส่งข้อความไปพลาง

หลังจากที่ส่งข้อความเสร็จ เธอก็มายืนอยู่ตรงหน้าบันได

พรมที่ปูอยู่บนขั้นบันไดดูสวยเพลินตา แต่ความสูงกลับทำให้ในใจของส้มเปรี้ยวเกิดขลาดกลัวขึ้นมา

เธอเพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งมันจะคุ้มหรือเปล่านะ?

แต่เมื่อนึกไปถึงข้อความที่ขนมผิงส่งมา ว่าเปปเปอร์กับมายมิ้นท์อยู่ในห้องด้วยกันบนคลับ ส้มเปรี้ยวก็ทอดมองบันไดด้วยดวงตาฉายแววเด็ดเดี่ยว

ส้มเปรี้ยวยกเท้าขึ้นช้าๆ เมื่อเหยียบลงกลางอากาศ ร่างกายก็กลิ้งลงจากบันได

คนใช้ที่กำลังนำรังนกขึ้นไปเสิร์ฟให้คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ เดินขึ้นบันไดมาได้แค่สองขั้น พลันเห็นร่างกายที่อาบไปด้วยเลือดของส้มเปรี้ยว เธอตกใจจนถาดที่ถืออยู่ในมือปลิวว่อน

“คุณหนู!”

……

ภายในห้องบนมูนสตาร์คลับ

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง มายมิ้นท์นอนขดตัวอยู่บนเตียง แผ่นหลังขาวใสเผยออกมานอกผ้าห่ม บนนั้นประดับไปด้วยรอยจูบเด่นชัดสะดุดตา

เปปเปอร์ควบคุมไฟในกายได้อย่างยากลำบาก เขาหยิบเนกไทขึ้นมา หันหลังเดินไปหยิบบุหรี่บนหัวเตียง

เขารู้ว่าตัวเองควบคุมอารมณ์เก่ง ทว่ามายมิ้นท์กลับสามารถกระตุ้นอารมณ์โกรธของเขาได้ทุกครั้ง

วันที่หย่ากันวันนั้นก็เหมือนกัน แล้วไหนจะตอนนี้อีก

ในตอนนี้เอง หน้าจอโทรศัพท์ที่วางอยู่บนหัวเตียงก็สว่างวาบขึ้นมา

เขาเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์ เมื่อเห็นว่าโทรมาจากตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็กดรับสาย

“มีอะไร?”

“ประธานเปปเปอร์ตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ?” คนใช้ของตระกูลภักดีพิศุทธิ์เอ่ยถามอย่างร้อนใจ “คุณ คุณหนูตกบันไดค่ะ ตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน คุณนายร้องไห้จนเป็นลมไปแล้ว คุณรีบมาที่โรงพยาบาลทีนะคะ!”

เปปเปอร์แสดงสีหน้าตกใจ เอ่ยพูดเสียงต่ำว่า “อย่าเพิ่งลน อยู่กับคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ไปก่อน ฉันจะไปถึงโรงพยาบาลในอีกสิบห้านาที”

เมื่อวางสาย เปปเปอร์ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความรวดเร็ว

เขาเหลือบมองหญิงสาวที่ยังหลับลึกอยู่บนเตียง จากนั้นก็ยื่นมือออกไปเพื่อสัมผัสใบหน้าของเธอ แต่ก็ชักมือกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วหันไปหยิบกระดาษกับปากกาบนโต๊ะหัวเตียง พร้อมกับเขียนเบอร์ลงไปในนั้น

หลังจากที่หย่าร้าง มายมิ้นท์ก็ลบทุกช่องทางการติดต่อของเขาไปหมด

เบอร์นี้คือเบอร์ส่วนตัวของเขา ซึ่งมีผู้ติดต่อค่อนข้างน้อย เมื่อก่อนมายมิ้นท์ก็ไม่เคยมีมาก่อน

เมื่อเปปเปอร์เดินเข้าไปในลิฟต์ ลิฟต์อีกตัวก็เปิดออก จากนั้นก็มีร่างชะลูดของใครบางคนเดินออกมาจากข้างใน

ชายหนุ่มสวมใส่หมวกและผ้าปิดปากไว้อย่างแน่นหนา สายตากวาดมองหมายเลขบนกำแพงทีละห้อง

ไม่นานสายตาของชายหนุ่มก็หยุดลงบนห้องที่เปปเปอร์เพิ่งเดินออกมา เมื่อคีย์การ์ดในมือแนบลงบนช่องประตู ต่อมาก็เปิดประตูเข้าไป