142 ยืมโทรศัพท์โทรหาคนประกันล่ะ!
ไม่ว่าวู่หยานจะอธิบายยังไง สามสาวก็ยังไงไม่เชื่อ ทำเขาน้ำตาแทบไหล บางที
อาจเป็นเพราะมุขตลกไม่ก็คำพูดที่ดูโง่ๆทำให้สามสาวมองเขาดีขึ้น ถึงแม้ว่าดีขึ้น
ที่ว่าจะออกมาจากปากยัยยูริมันจะไม่ดีเหมือนที่ปากว่าก็เถอะ……..
ท้ายที่สุด ภายใต้การประท้วงและการปฏิเสธลูกเดียวของเขา ทำให้พวกเธอ
ตัดสินใจไม่จดบันทึกครั้งนี้ แต่ทำเพียงแต่พูดตักเตือน โดยเฉพาะคุโรโกะ ยัยนี่
บอกว่าถ้ายังทีครั้งหน้าอีก เธอจะไม่ปล่อยไปเด็ดขาด
โคโนมิ มิอิ เขียน ‘เตือนระดับรุนแรง’ ไว้ในไฟล์บันทึกของวู่หยาน จากนั้นก็พูดว่า
“เอาล่ะ ที่เหลือก็แค่รอให้เพื่อนนายมาประกันตัวนายออกไป จากนั้นนายถึงจะไป
ได้……”
วู่หยาน เบิกตากว้าง อย่างแรกเลยยังไม่ต้องนึกถึงประกันตัวที่ว่า เอาแค่คนที่จะ
มาประกันก็เป็นปัญหาแล้ว อย่าลืมว่า สถานะที่ระบบให้มาคือ ไม่มีเพื่อน ไม่มีพ่อ
แม่ ไม่มีแฟนสาว แล้วแบบนี้จะให้เขาไปหาคนมาประกันได้จากไหนล่ะ?
“เอ่อ มันจำเป็นที่ต้องหาคนมาประกัน ฉันถึงจะไปได้เหรอ?” วู่หยานหัวเราะ
แห้งๆ มาถึงเมืองแห่งการศึกได้ชั่วโมงกว่าๆ แต่เขากลับรู้สึกหัวในตัวเองอ่อนแอ
ลงไปเยอะเลย…….
“หือ?” โคโนริ มิอิ ขมวดคิ้วมองวู่หยาน แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “นี่เป็นเรื่อง
พื้นฐาน นายที่เป็นคนของเมืองแห่งการศึกษากลับไม่รู้งั้นเหรอ?”
วู่หยานกรอกตา เอาจริงๆเขาจะไม่รู้ได้ไง ในอนิเมะมันไม่มีบอกนี่หว่า ขนาดใน
นิยายยังไม่มีเขียนบอกเลย แล้วเขาจะไปรู้ได้ยังไง?
“แต่ ฉันไม่อาจหาคนมาประกันได้เนี่ยสิ…..” ฝืนกลั้นอย่างยากลำบาก วู่หยานจึง
พูดออกไปได้
“หาคนมาประกันตัวไม่ได้?” สามสาวช็อค คุโรโกะมองวู่หยานด้วยสายตาแปลกๆ
เหมือนสายตาที่ลูลู่ใช้มองวู่หยานตอนที่เจอกันครั้งแรกที่ป่าสัตว์อสูร
สายตาที่มองคนป่ายังไงล่ะ……
“นายคงไม่แย่ถึงขนาดไม่รู้จักใครหรอกใช่มั้ย…..”
“ถึงแม้ฉันไม่อยากยอมรับแบบสุดๆเลยก็เถอะ…..” มุมปากวู่หยานบิดเบี้ยว
ความแค้นที่มีต่อระบบยิ่งลึกล้ำมากกว่าเดิม
คูโรโกะ จ้องวู่หยานเขม็ง จากนั้นถอนหายใจ แล้วแบมือทั้งสอง “แบบนั้นก็ช่วย
ไม่ได้นะคะ ดูเหมือนว่าคุณต้องโดนกักขังหลายวันแล้วล่ะค่ะ”
“มะ…ไม่มีทางอื่นแล้วเหรอ?…..”
สามสาวพร้อมใจกันพยักหน้า แม้แต่อุยฮารุก็ไม่เป็นยกเว้น วู่หยานเงยหน้ามอง
เพดานด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย พูดไม่ออกไปพักหนึ่งเลย……
ในเมืองแห่งการศึก พูดได้ว่าวู่หยานรู้จักหลายคน รวมไปถึงอเลสเตอร์ แต่เพียง
แค่อีกฝ่ายไม่รูจักเขาแค่นั้นเอง…..
คนที่รู้จักเขา ก็มีแต่พวกสาวๆที่มาพร้อมกับเขา แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าพวกเธอได้
สถานะแบบไหน แล้วตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว?
นาทีนี้ วู่หยานเสียใจอยากสุดซึ้งจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีฟ้า ทั้งที่เตรียมพร้อมทุก
อย่าง แต่กลับไม่คิดว่าพวกเขาจะโดนแยกกัน ทั้งๆที่เตรียมไอเท็มมาซะเยอะ แต่
กลับไม่เตรียมอุปกรณ์สื่อสาร…….
เป็นเพราะด้วยสถานะที่ชีวิตเขากับพวกเธอหลอมรวมกัน ทำให้สามารถสัมผัสได้
ถึงตัวตนของอีกฝ่ายได้ แต่พวกเธอคงคิดไม่ถึงว่าเพิ่งมาได้ไม่ถึงชั่วโมงเขาก็จับ
อย่างรวดเร็วใช่มั้ยล่ะ?
โดยไม่มีเครื่องมือสื่อสาร เขาคงทำได้แค่รอพวกเธอเป็นฝ่ายมาหาเอง แต่กว่าจะ
ถึงตอนนั้นเขาก็คงโดนขังนานพอจนได้รับอิสระแล้วล่ะ
‘เฮ้อ ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกสาวๆจะเป็นกันบ้างนะ? สำหรับฮินางิคุ เขาไม่ได้เป็นห่วง
เลย เธอเก่งพอเอาตัวรอดได้แน่นอน แต่อิคารอสเนี่ยสิ เขาค่อนข้างเป็นห่วงว่าเธอ
จะสื่อสารกับคนอื่นไม่ได้ ส่วนแอสเทรีย รายนี้เขากังวลจริงจัง ยัยโง่นั่น ไม่รู้ว่าจะ
รอดไปได้ไหม…..’
สำหรับมิโคโตะ เขาไม่ได้ห่วงเลย เธอเป็นคนของที่นี่อยู่แล้ว บางทีตอนนี้ เธอ
อาจจะไปรอยัยยูรินี่อยู่ที่ห้องแล้วก็ได้……
ทันใดนั้น นัยน์ตาวู่หยานก็ส่องประกาย เขาตะโกนด้วยสีหน้าตื่นเต้น “นั่นไงล่ะ!”
เสียงตะโกนอย่างไม่ทันตั้งตัวของวู่หยาน ทำสามสาวสะดุ้ง อุยฮารุเผลอเอาหัวไป
กระแทกคอมพิวเตอร์ ร้องโอดโอย
“อยู่ดีๆจะตะโกนทำไมคะ…..” คุโรโกะมองวู่หยานด้วยความไม่พอใจ ผมสีชมพู
ของเธอเริ่มม้วนตัวสูงขึ้น โคโนริ มิอิ เองก็ไม่พอใจเหมือนกัน
ภายใต้สายตาโกรธๆของสาวสาว วู่หยานหัวเราะแหะๆ แล้วรีบพูดกับคุโรโกะว่า
“ฉันหาคนมาประกันได้แล้ว คุโรโกะ ฉันขอมือโทรศัพท์เธอหน่อย!”
คุโรโกะ ปรี๊ดแตกทันที เธอมองวู่หยานด้วยความโกรธ แล้วกัดฟันพูดว่า “อย่า
เรียกฉันแบบนั่น ฉันไม่ได้สนิทกับนาย!”
วู่หยาน นึกออกจนได้ว่าที่ญี่ปุ่น นอกจากคนที่สนิทกันจริงๆ ถึงจะเรียกชื่อต้นกัน
ได้ แต่นี้ก็ว่าเขาไม่ได้เหมือนกัน ก็เขาไม่ได้เป็นคนญี่ปุ่นอ่ะ…..
วู่หยานหัวเราะแห้งๆ “อย่าใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆเลย…..”
ทำเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นชา จากนั้นคุโรโกะก็หยิบโทรศัพท์ส่งให้วู่หยาน แล้วนั่ง
ลงโดยไม่สนใจเขาอีก
วู่หยานมอง โทรศัพท์ในมือที่ดูเหมือนหูฟังบลูทูธมากกว่า เขาก็ถอนหายใจ
เทคโนโลยีของเรื่องไปไกลจริงแฮะ ทำตูเป็นไอ้บ้านนอกได้เลยนะเนี่ย…..
แต่โชคยังดี ที่วู่หยานเคยเห็นคุโรโกะใช้โทรศัพท์แบบนี้ในอนิเมะมาหบายครั้งแล้ว
ไม่ร้อช้าวู่หยานเปิดมันและเริ่มทำการค้นหา ไม่นานนักเขาก็เจอชื่อที่ต้องการ
ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยยินดีทันที
เขากดโทรไป ภายใต้สายตาสับสนของสามสาว จากนั้นเสียงรับสายก็ดึงขึ้น และ
เสียงของคนรับก็ดังออกมา เป็นเสียงที่คุ้นเคยกันดี
“โอ้? คุโรโกะ?….”
เสียงของอีกฝ่ายดังขึ้นมาอย่างชัดเจน ภายในสำนักงานนี่ได้ยินกันทุกคน ทำให้คุ
โรโกะร้องออกมาทันที
“ คุณพี่!”
วู่หยานอยากจะบีบไอ้โทรศัพท์เวรนี้ให้เป็นชิ้นๆเสียจริง ไม่เพียงแค่ใช้ยาก แต่ยัง
เพิ่มเสียงตามอำเภอใจอีก…..
“เกิดอะไรขึ้น คุโรโกะ?” เสียงมิโคโตะดังขึ้น แต่ผลคือไม่มีคนตอบ คุโรโกะกำลัง
จ้องวู่หยานอย่างกับจะกินเลือดกันเนื้อ ทำให้วู่หยานปวดหัวจี๊ด
“เจ้าลิงกัง กล้าดียังไงถึงได้ใช้โทรศัพท์ของฉัน ไปรังควาน คุณพี่!” มือหนึ่งเลื่อน
ไปที่กระโปรง อีกมือก็เอื้อมมาที่มือวู่หยานพยายามเอาโทรศัพท์คืน ขณะเดียวกัน
ก็เตรียมลงโทษด้วย
“เดียวๆๆ ขอเวลาให้ฉันพูดก่อน!!!”
เมื่อ มิโคโตะ ได้ยินเสียงจากอีกฝั่ง เธอประหลาดใจ นี่มันเสียงวู่หยานไม่ใช่? นี่เธอ
หูแว่วไปเอง? ถ้าไม่ใช่แล้วหยานจะไปอยู่กับคุโรโกะได้ยังไง?
“หยานเ? เมื่อกี้เสียงหยานเหรอ?” เมื่อเสียงมิโคโตะดังขึ้นมา มือของคุโรโกะหยุด
กึก ภายใต้ความงุนงงของเธอ วู่หยานใช้โอกาศนี้หัวเราะขมขื่นตอบไป
“ฉันเอง มิโคโตะ….”
“ทำไมนายถถึงได้มีโทรศัพท์ของคุโรโกะล่ะ?” ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าแต่เขาก็นึกถึง
ใบหน้าสับสนของมิโคโตะในตอนนี้ได้
ขณะที่เขาคิดว่าจะตอบไปยังไงดี รอยยิ้มขมขื่นเขาก็ยิ่งกว้างขึ้น เขาจะไปทำอะไร
ได้ล่ะ? ฉากเปิดตัวในเมืองการศึกษามันค่อนข้างเลวร้ายเลยล่ะนะ……..
“ก่อนอื่น เธอฟังฉันพูดก่อน……” ดังนั้น คำอธิบายอันแสนคลุมเครือก็ดังออกมา
จากปากเขา ทำไงได้ ที่นี่ยังมีสามสาวอยู่ มันไม่เหมาะที่จะอธิบายแบบชัดๆ…….
ใกล้ๆกัน คุโรโกะ อ้าปากค้าง มองวู่หยานด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ ที่เขาพูดว่า ‘มิ
โคโตะ’ แล้วมิโคโตะก็เรียกว่า ‘หยาน’ ทำไมมันช่างดูสนิทกับอะไรแบบนี้…..
หลังจากเล่าเสร็จ ทั้งสำนักงานก็ต้องอยู่ภายใต้ความเงียบ อีกฝั่งมิโคโตะเองก็
เงียบ เวลาผ่านไปไม่นาน เสียงโกรธเล็กน้อยของมิโคโตะก็ดังขึ้น
“สรุปก็คือ ตอนนี้นายโดยคุโรจับ แล้วรอให้ฉันไปประกันตัวนายออกมางั้นสินะ
…….”
“…กะ…ก็ประมาณนั้น……” วู่หยานหันหน้าไปทางอื่นด้วยความอึดอัด แม้มิโคโตะ
ไม่ได้อยู่ตรงหน้าเขา แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่กล้าสู้หน้าเธออยู่ดี
“ลวนลามสาวน้อยเหรอ…..” ไม่รู้ว่าวู่หยานรู้สึกไปเองรึเปล่า แต่เสียงของพี่สาว
เรลกันมันดูมืดมนยังไงไม่รู้……
“ธะ..เธอก็รู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น…..” วู่หยานถอนหายใจยาว
เงียบไปหลายวิ มิโคโตะจึงพูดด้วยน้ำเสียงปลงๆว่า “รออยู่นั่นแหละ!”
จากนั้นเธอก็วางสายทันที วู่หยานโล่งอก ในที่สุดเขาจะได้จากที่นี่ได้สักที แต่ข้างๆ
กันคุโรโกะได้คลั่งไปเรียบร้อยแล้ว
“นี่มันเรื่องอะไรกันคะ! ทำไมไอ้ขยะเปียกอย่างนายถึงได้รู้จักคุณพี่!”