“ไสหัวไปซะ!”

เซี่ยปิงมองคนรับใช้ของตระกูลเฉียนคนนี้ด้วยสายตาที่ดูถูก “ตระกูลเฉียนยิ่งใหญ่มาจากไหนกัน กล้าที่จะวางมาดต่อหน้าข้า อีกทั้งยังต้องการให้ข้าเห็นแก่หน้าเขา เขาเป็นใครกัน ข้ารู้จักเขาหรือ? ต้องการให้ข้าเห็นแก่หน้าเขา ช่างเป็นความคิดที่เพ้อฝันสิ้นดี”

“นี่คือการประมูล เป็นการเสนอราคาแข่งกัน ไม่ว่าจะสามารถซื้อได้หรือไม่ได้นั้น มันก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินของตนเอง อย่าเสแสร้งวางมาดใหญ่โตที่นี่หากว่าพวกเจ้าไม่ได้มีเงิน”

“ใช่สิ ไม่ใช่ว่าตระกูลเฉียนมั่งคั่งร่ำรวยหรือ? ทว่าแม้แต่เงินแค่นี้ก็ไม่มี หรือว่าตระกูลเฉียนจะล้มละลาย? หากไม่มีเงินจริงๆและมาขอกู้ยืมกับข้านั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะให้ตระกูลเฉียนกู้ยืมเงินไป”

เขามองไปที่คนรับใช้ของตระกูลเฉียนด้วยสายตาที่ดูถูกดูแคลนอย่างมาก

คนรับใช้ของตระกูลเฉียนคนนั้นก็โมโหจนจมูกแดงขึ้นมา ทั่วทั้งร่างกายสั่นเทา “เจ้าบัดซบ..เจ้า ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะกล้าที่ดูหมิ่นตระกูลเฉียนของข้าเช่นนี้ ช่างมีความกล้าหาญที่ใหญ่โตยิ่งนัก!”

แม้แต่ในฝันเขาก็คงจะคาดไม่ถึงว่าจะมีใครบางคนที่กล้าพูดจาดูหมิ่นตระกูลเฉียนเช่นนี้ ภายในอาณาเขตดวงดาวรอบๆนั้น ตระกูลเฉียนใช้อำนาจในการข่มเหงผู้อื่นจนเคยชินก็ว่าได้ นอกจากนิกายฟ้าดินนั้น พวกเขาก็ไม่เกรงกลัวใครอีก

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าการที่ตนเองเดินเข้ามา จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามหวาดกลัว ทำให้เจ้าเด็กนี่เชื่อฟังและยอมล้มเลิกการเสนอราคาเพราะเห็นแก่ตระกูลเฉียนที่มีอำนาจและอิทธิพล

ทว่ามีที่ไหนที่จะคิดได้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นจะไม่ใช่แค่ไม่ยอมล้มเลิก ทว่ายังพูดจาดูถูกถากถาง ไม่ได้เห็นตระกูลเฉียนอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขาโมโหอย่างมาก

“ไสหัวไปซะ อย่ามาเกะกะขวางทางอยู่ที่นี่ ทำให้ตนเองขายหน้าเช่นนี้” เซี่ยปิงขับไล่แขกออกไปทันที

คนรับใช้ของตระกูลเฉียนก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ ได้แต่เดินออกไปจากอย่างไม่พึงพอใจ เพราะว่าท้ายที่สุดที่นี่ก็เป็นบริษัทมหาสมุทรแห่งจักรวาล ไม่ใช่สถานที่ที่ตระกูลเฉียนจะสามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้

ไม่นานหลังจากนั้น คนรับใช้คนนี้ก็กลับมาที่ห้องวีไอพีที่เฉียนซานอาศัยอยู่พร้อมกับเล่ารายละเอียดถึงเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้โดยที่พูดเกินความจริงเล็กน้อย อีกทั้งยังเน้นย้ำถึงพฤติกรรมที่ยโสโอหังของเซี่ยปิงซึ่งไม่ได้เห็นตระกูลเฉียนอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

ตึบ!

หลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เดิมทีเฉียนซานที่มีอารมณ์ปกตินั้นก็เดือดระอุขึ้นมาทันที ใช้ฝ่ามือตบเข้าไปที่โต๊ะไม้ด้านหน้า ทำให้โต๊ะนี้กระจุยกระจายออกไปเป็นเสี่ยงๆอย่างกะทันหัน แม้แต่ที่พื้นก็มีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นมา

เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขาโมโหเพียงใด ผู้คุ้มกัน สาวรับใช้ ผู้ดูแลและคนอื่นๆต่างก็หวาดกลัวจนสั่นเทา เกรงกลัวว่าเฉียนซานจะระบายความโกรธกับพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็จะเผชิญกับหายนะอย่างแท้จริง

“แม่เจ้า ไม่คาดคิดว่าจะกล้าดูถูกเหยียดหยามตระกูลเฉียนของข้า”

ดวงตาของเฉียนซานเต็มไปด้วยความเดือดระอุ “เรื่องนี้ยังไม่จบแค่นี้อย่างแน่นอน ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่าการที่ได้ท้าทายตระกูลเฉียนนั้นเป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวแค่ไหน การที่ต้องการจะออกไปจากดาวกวางน้อยดวงนี้นั้น จะไม่มีเส้นทางให้ออกไปอย่างแน่นอน”

จิตสังหารของเขาเดือดดาลออกมา เขากำลังวางแผนการที่ชั่วร้ายอยู่

“นายน้อย ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไร? จะเสนอราคาต่อหรือไม่?” บางคนที่ถามขึ้นมา

เฉียนซานแสยะออกมา “แน่นอนว่าเสนอราคาต่อ หากข้ายอมจำนนที่นี่ โลกจะเห็นตระกูลเฉียนของข้าเป็นอย่างไร คนอื่นๆจะคิดว่าข้าเฉียนซานเกรงกลัวเจ้าคนรากหญ้านี่”

“เจ้าเด็กนี่คิดว่าตนเองเป็นใครกัน กล้าที่จะแข่งขันทรัพยากรทางการเงินกับตระกูลเฉียนของข้า ตระกูลเฉียนของข้านั้นไม่ได้มีอะไรมาก มีเพียงแค่เงินเท่านั้นที่มีมาก เจ้าเด็กนี่จะแข่งขันกับข้าเฉียนซานได้อย่างไรกัน ข้าจะรอดูสิว่าเขาจะมีเงินมากกว่าหรือว่าตระกูลเฉียนของข้ามีเงินมากกว่า”

เขาตัดสินใจที่จะต่อสู้กับเซี่ยปิงจนถึงที่สุด

ในช่วงเวลานี้ ผู้อาวุโสของนิกายที่ยิ่งใหญ่อื่นๆก็ได้ร่วมประมูลเช่นกัน แต่ละคนต่างก็เสนอราคาออกไป ทันใดนั้นราคาการประมูลก็เพิ่มขึ้นจนถึงราคา1.3พันล้านเหรียญจักรวาลอย่างกะทันหัน

คิดได้แบบนี้ ในที่สุดเฉียนซานก็เริ่มเสนอราคาเช่นกัน เริ่มที่จะพูดออกมา “1.5พันล้านเหรียญจักรวาล”

เขาได้เพิ่มราคาขึ้นมา200ล้าน

อะไรนะ?!

ผู้อาวุโสของนิกายที่ยิ่งใหญ่รวมถึงผู้อาวุโสของตระกูลที่ยิ่งใหญ่ต่างก็สะดุ้งตกใจ ในที่สุดตระกูลเฉียนก็เลือกที่จะเข้าร่วมการประมูล ไม่มีใครที่จะล่วงรู้ไปถึงพลังอำนาจของตระกูลเฉียนได้ดีไปกว่าพวกเขา เมื่อใดที่เฉียนต้าผู้นำตระกูลเฉียนได้ก้าวขึ้นไปในระดับเซนต์นั้น คาดการณ์ได้ว่าตระกูลเฉียนก็จะกลายเป็นตระกูลเซนต์เช่นกัน

เรียกได้ว่าในปีที่ผ่านๆมานี้ตระกูลเฉียนนั้นมีอำนาจและอิทธิพลที่ขยายออกไปอย่างมาก ผู้คนจำนวนมากไม่กล้าที่จะท้าทายพวกเขา

“ทักษะหมัดสายฟ้านี้ข้าต้องการ หวังว่าทุกๆคนจะเห็นแก่หน้าข้า” เฉียนซานพูดออกมาทันที “แน่นอนว่าหากใครต้องการที่จะประมูลต่อ ข้าเฉียนซานก็จะร่วมประมูลไปจนถึงที่สุด”

น้ำเสียงของเขานั้นทำให้เกิดความหนาวเหน็บบนอากาศ เห็นได้ชัดว่าเป็นการข่มขู่ มีความหมายว่าใครที่กล้าเสนอราคาแข่งกับเขา จะต้องกลายเป็นศัตรูกับตระกูลเฉียน

คำประกาศเช่นนี้ ทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆเงียบลงทันที พวกเขาต่างก็รู้สึกไม่พึงพอใจทว่าก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา

เพราะว่าอิทธิพลของตระกูลเฉียนในตอนนี้นั้นเจริญรุ่งเรืองดุจดั่งพระอาทิตย์กลางท้องฟ้า การที่ท้าทายตระกูลเฉียนนั้นไม่ใช่พฤติกรรมของคนที่มีสติจะทำ

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือตระกูลเฉียนนั้นเป็นผู้ที่ควบคุมดาวกวางน้อยซึ่งเป็นดาวเคราะห์ค้าขายแห่งนี้ เป็นศัตรูกับความร่ำรวย หากแข่งขันกันจริงๆ พวกเขาก็อาจจะไม่สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้เช่นกัน

เมื่อถึงเวลานั้น คัมภีร์ลับก็ซื้อมาไม่ได้ อีกทั้งยังได้ท้าท้ายตระกูลเฉียนอีก นี่คือภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่

ถึงแม้ว่านิกายกระทิงเขียวและนิกายที่ยิ่งใหญ่อื่นๆจะไม่เกรงกลัวตระกูลเฉียน ทว่าการที่ต้องท้าทายตระกูลเฉียนเพียงเพื่อคัมภีร์ลับระดับเซนต์นั้น นี่เป็นเรื่องที่ได้ไม่คุ้มเสีย

เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วถึงแม้ว่าคัมภีร์ลับระดับเซนต์นั้นจะหายาก ทว่ามันก็ยังมีอยู่ในแต่ละนิกาย ไม่ได้ถือว่าเป็นสิ่งที่หายากเกินไป

ทันใดนั้นผู้คนจำนวนมากก็ตัดสินใจที่จะล้มเลิกการเสนอราคา เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการที่จะยั่วยุตระกูลเฉียน

ทว่าในตอนนี้ เซี่ยปิงก็ได้ตะโกนออกมา “ไว้หน้าแก่ตระกูลเฉียน? ตระกูลเฉียนของเจ้ายิ่งใหญ่มาจากไหนกันที่ทุกคนจะต้องไว้หน้าเจ้า ข้าจะแข่งขันกับเจ้าเอง แน่จริงก็ควักเงินออกมาต่อสู้กับข้าจนตัวตาย”

“สองพันล้านเหรียญจักรวาล!”

เขาได้เพิ่มราคาขึ้นมา500ล้านเหรียญโดยตง บ่งบอกว่าตนเองนั้นต้องการสิ่งนี้อย่างมาก เพียงแค่ตระกูลเฉียนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้องคำนึงถึง

“เยี่ยม อันที่จริงเจ้าเด็กนี่มีภูมิหลังเป็นอย่างไรกัน แม้แต่ตระกูลเฉียนเองก็ไม่สนใจ”

“หากไม่ใช่เป็นเพราะความเลือดร้อน เขาก็ต้องมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน”

“สรุปว่านี่ก็คือการต่อสู้ของเทพเจ้าซึ่งอาจจะนำพาภัยพิบัติไปสู่ผู้อื่นได้ พวกเราไม่ควรยุ่งเกี่ยว”

“พูดถูก เงินสองพันล้านเหรียญจักรวาลนั้นก็มากเกินไป อย่าว่าแต่จะคุ้มค่าหรือไม่เลย ต่อให้จะคุ้มค่าจริงๆ พวกเราก็ไม่สามารถที่จะจ่ายได้”

“มองดูสุนัขสองตัวกัดกินกันเองเถอะ”

ได้ยินเซี่ยปิงที่เพิ่มราคาเป็นสองพันล้านเหรียญจักรวาลอย่างกะทันหันนั้น เดิมทีผู้อาวุโสของนิกายที่ยิ่งใหญ่บางคนที่ต้องการจะเสนอราคา ทว่าในตอนนี้ก็ต้องยอมแพ้ ราคาเช่นนี้มันอยู่ในเหนือขีดจำกัดงบประมาณของพวกเขา

เดิมทีมูลค่าหนึ่งร้อยล้านเหรียญจักรวาลนั้น ตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะเพิ่มขึ้นมาถึงสองพันล้านเหรียญจักรวาล ช่างเป็นจำนวนเงินที่มากเกินไป

“เจ้าบัดซบ!”

เฉียนซานมีสีหน้าที่ดุร้ายอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะล่วงรู้ว่าเจ้าเด็กนี่ไม่รู้จักซาบซึ้งในความเมตตา ทว่าก็ไม่คาดคิดว่าจะกล้าตบหน้าเขาต่อหน้าทุกๆคนเช่นนี้ มีที่ไหนที่เขาจะอดทนอดกลั้นกับความอัปยศเช่นนี้ได้

“2.3พันล้าน!”

เฉียนซานได้เสนอราคาขึ้นมาสามร้อยล้านเหรียญอย่างกะทันหัน

“2.4พันล้าน ยอมรับความพ่ายแพ้เถอะพ่อหนุ่ม คัมภีร์ลับที่มีราคาแพงเช่นนี้ ตระกูลเฉียนของเจ้าคงจะไม่มีปัญญาจ่าย ทำไมจะต้องแข่งขันกับข้าให้เสียเวลา” เซี่ยปิงมีปากคอที่เราะร้ายอย่างมาก

“พูดจาไร้สาระอะไรของเจ้า ไม่มีสิ่งใดที่ตระกูลเฉียนของข้าไม่สามารถซื้อได้ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเจ้าเป็นทายาทของตระกูลไหน ทว่าการที่ต้องการจะต่อสู้กับตระกูลเฉียนในดาวกวางน้อยนั้น เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่เพียงพอ!” เฉียนซานโมโหอย่างมาก “2.5พันล้าน!”

“2.6พันล้าน!”

เซี่ยปิงไม่ได้แยแสใดๆ เหมือนกับว่าเงินจำนวนนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นจำนวนที่มากสำหรับเขา

“2.7พันล้าน!”

เฉียนซานกัดฟันพูดออกมา ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่สามารถที่จะถอยหลังกลับได้อีกแล้ว

“2.8พันล้าน” เซี่ยปิงมีสีหน้าที่นิ่งเฉย

เฉียนซานคำรามออกมา “2.9พันล้าน!”

นี่เป็นราคาสุดท้ายที่เขาสามารถจ่ายได้ ในตอนนี้เขารู้สึกกดดันอย่างมาก หากฝ่ายตรงข้ามเสนอราคาขึ้นมาอีกล่ะก็ บางทีเขาก็อาจจะไม่สามารถจ่ายได้จริงๆ ทำได้เพียงแค่ยอมแพ้

เพราะว่าถึงอย่างไรนี่ก็เป็นภาระรับผิดชอบของเขาไม่ใช่ของตระกูลเฉียน เงินจำนวน2.9พันล้านเหรียญจักรวาลนั้นก็เป็นขีดจำกัดของเขา

ทว่าเมื่อผู้คนที่อยู่รอบๆคิดว่าเซี่ยปิงจะเสนอราคาขึ้นมาอีก เขากลับพูดอย่างอื่นออกมา “เอาล่ะ เจ้าชนะ ต้องยอมรับว่าตระกูลเฉียนของเจ้าร้ายกาจจริงๆ ร่ำรวยอย่างมหาศาล ข้ารู้สึกละอายใจเหลือเกินกับความด้อยของตนเอง”