ตอนที่ 183

Taming Master

ความจริงแล้วการปฏิบัติการที่มีแอสซาซินแทรกซึมและเปิดประตูป้อมปราการนั้นเป็นวิธีการที่เคยใช้กันแล้วในการบุกโจมตีเมื่อไม่นานมานี้

และผลของมันก็ยอดเยี่ยมในแต่ละครั้ง

นั่นเป็นเหตุผลที่เมืองไพโรอยู่ในสถานะที่มีหอคอยตรวจจับอย่างหนาแน่นเพื่อให้แอสซาซินไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปได้อย่างง่ายดาย

‘ปัญหาคือว่าฉันไม่รู้ว่าแอสซาซินที่เป็นพันธมิตรกับอาณาจักรลัสเปลนั้นที่เป็นฝั่งเดียวกับเราจะทำสิ่งที่บ้าคลั่งอย่างนี้’

เอียนแน่ใจว่าผู้กระทำผิดเป็นพันธมิตร

เนื่องจากตำแหน่งหอคอยตรวจจับที่ด้านหน้าของป้อมปราการนั้นสมบูรณ์แบบอย่างมากจนถึงจุดที่ไม่ว่าแอสซาซินจะมีความพิเศษเพียงใด มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านพ้นไปได้

และมีคนหนึ่งที่นึกขึ้นได้

‘มันต้องเป็นไอ้นั่นจากตอนนั้นแน่ๆ’

เขานึกถึงแอสซาซินที่เขาพบนอกป้อมขณะกลับมาหลังจากทำเควสต์เซลามัสเสร็จสิ้น

เอียนกัดฟัน

‘ฉันวางใจมากเกินไป ฉันควรสงสัยมากกว่านี้’

ความจริงที่ว่าแทนที่จะสงสัย มันเป็นสถานการณ์ที่วุ่นวายเกินไป

เวลาที่เอียนกลับมาคือในช่วงที่สถานการณ์สงครามปิดล้อมกำลังจะเกิดขึ้นอย่างจริงจังและไม่มีเวลาให้ความสนใจกับแอสซาซินที่ยังไม่รู้จักตัวตนจึงมากเกินกว่าที่จะเตรียมพร้อมก่อนสงครามปิดล้อม

‘เราต้องผ่านสถานการณ์นี้ก่อนแล้วจึงค่อยพิจารณาส่วนที่เหลือหลังจากนั้น’

ไม่ว่าจะวางหอคอยตรวจจับไว้อย่างแน่นหนา พวกมันก็ไม่แม่นยำพอที่จะค้นหาทุกการเคลื่อนไหวของแอสซาซินที่แทรกซึมเข้าไปในเมืองและต้องขอบคุณสิ่งนั้นภัยพิบัติครั้งนี้จึงเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม เอียนไม่ได้ตำหนิตัวเองอีกต่อไป

เนื่องจากมันยังไม่จบจนกว่าจะถึงจุดสิ้นสุดจริงๆ

‘เหลือเวลาอีกเท่าไหร่จนกว่าฉันจะสามารถอัญเชิญบักค์ออกมาได้อีกครั้ง?’

เอียนตรวจสอบเวลาคูลดาวน์ของสกิลทั้งหมดของเขาว่ามีเวลาเหลือเท่าไหร่จนกว่าเขาจะสามารถอัญเชิญสัตว์เลี้ยงของเขาออกมาได้

และหลังจากนั้นไม่นาน เอียนซึ่งขึ้นไปบนหลังของพินพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างว่องไว

“พิน ไปเหนือป้อมปราการให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้!”

Kku-ru-ruk-!

เอียนซึ่งได้มาถึงจุดที่สูงจนเขากลายเป็นจุดดำบนท้องฟ้าแล้ว ได้ปล่อยบักค์ลงเป็นวิธีการเดียวกับที่เขาทำเมื่อครั้งที่แล้ว

Swaaeeek-!

นอกเหนือจากเสียงลมที่พัดผ่านแล้ว ร่างกายขนาดใหญ่ของบักค์ก็ตกลงมาบนประตูป้อมปราการ

หลังจากนั้นไม่นานก่อนที่เขาจะมาถึงประตูป้อมปราการ ร่างของบักค์กลายเป็นแสงสีทองเมื่อเสียงกระทบพื้นดังกึกก้องไปทั่วสนามรบ

Baang-!

“นี่มันบ้าไปแล้ว อะไรวะเนี่ย?”

“ฉันคิดว่าอุกาบาตกำลังตกลงมา!”

ในท่าที่โค้งงอ บักค์ก็ตกลงบนกำแพงเช่นนั้น

เอียนซึ่งตามเขามาในเวลาไม่นานก็กลืนน้ำลายเสียงดังในขณะที่เขาพึมพำภายในใจ

‘พังลงทีเถอะ!’

และราวกับว่ากำลังตอบคำอธิษฐานของเอียนกำแพงเริ่มพังลงช้าๆ

Crack- Cra-cra-crack-!

“มันกำลังพัง! ออกไปจากตรงนี้!”

ผู้เล่นกองกำลังพันธมิตรของอาณาจักรไคม่อนที่กำลังเข้ามาทางประตูป้อมปราการนั้นหวาดกลัวต่อความตายและเริ่มกระจายออกไป

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ามีคนจำนวนมากมารวมตัวกันเมื่อเทียบกับความกว้างของทางเดิน เมื่อผู้เล่นกว่าครึ่งไม่สามารถปกป้องตัวเองและถูกบดขยี้ไปอย่างนั้น

Thu-thu-thu-thud-!

เอียนผู้ยืนยันภาพนั้นกับตา ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

‘เฮ้อ ยังคงบรรเทาได้นิดหน่อย’

ประตูป้อมปราการที่เปิดกว้างถูกบล็อกในขณะนี้ แต่กองทัพของกองทัพอาณาจักรยังคงไหลเข้ามาจากด้านบนที่มันพังลง

แต่ถึงกระนั้นเนื่องจากระดับมันน้อยกว่าเดิม กองทัพป้องกันสามารถหายใจอีกครั้ง

“เอียนเกิดอะไรขึ้น? ทำไมมันยุ่งเหยิงจังตรงนี้?”

ไคซาร์ซึ่งปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนก่อนจะก็รู้ตัวแสดงสีหน้าประหลาดใจเมื่อเขาถามเอียนและเอียนก็ส่ายหัว

“มันยาวเกินที่จะอธิบาย ไปต้านพวกมันไว้ก่อน”

เอียนถือหอกจากปลายด้ามจับขณะที่เขากระโดดลงไปที่สมรภูมิ

และตามเขาไป ไคซาร์ก็ชักดาบของเขาเมื่อเขาพุ่งเข้าหาศัตรู

“ดูเหมือนว่าข้าจะสามารถออกไปและต่อสู้ แทนที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องป้อมปราการ การต่อสู้แบบประชิดตัวเป็นเรื่องที่สนุกสนานยิ่งกว่า”

ดูเหมือนว่าเขารู้สึกเบื่อที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่คลานออกมาจากด้านบนของกำแพงในขณะที่ ไคซาร์เริ่มกระโดดออกไปด้วยความตื่นเต้น

เช่นนั้น กองทัพป้องกันที่เริ่มต่อสู้อย่างหนักกับคู่ต่อสู้ที่มาอย่างท่วมท้น

 

* * *

 

นักเรียนของแผนก VR ที่เฝ้าดูสงครามปิดล้อมขณะพูดอย่างเสียงดังกำลังจ้องมองที่หน้าจอด้วยท่าทางตึงเครียดในความเงียบ

“อ่าา… ได้โปรด…”

กร๊อบ!

เสียงของขนมกรุบกรอบดังออกมาจากปากของมินอา เซวอนจ้องไปที่เธอ

“เฮ้ เคี้ยวเบาๆหน่อยในช่วงเวลาสำคัญอย่างนี้!”

“อ๊ะ ขอโทษ…”

ซุชอลซึ่งเงียบมาตลอดก็พูดเสริม

“อ๊าา ฉันหวังว่าพวกเขาจะต้านพวกมันได้จริงๆ”

ผ่านไปยี่สิบนาทีแล้วเมื่อพวกเขาดูขณะกลั้นลมหายใจ

มินอารีบชี้ไปที่หน้าจอขณะที่เธอพูด

“พี่! ตรงนั้น! อะไรน่ะ?”

“มันคืออะไร?”

ในทันใดนั้นสายตาของนักเรียนทุกคนที่อยู่ในห้องแผนกหันไปทางที่มินาชี้และในจุดนั้นนั่นคือเอียน

“นั่นคือจินซุง นายหมายความว่ายังไงว่านั่นคืออะไร?”

เมื่อเซวอนพูด ซุชอลซึ่งมองหน้าจออย่างใกล้ชิดก็เอียงคอของเขาขณะที่เขาตอบกลับ

“รังสีของแสงสีมีวงจากสมรภูมิกำลังถูกดูดเข้าไปหาจินซุง”

และเซวอนซึ่งตรวจสอบหน้าจออีกครั้งก็ตาเบิกโพลงขณะที่เขาพูด

“ห้ะ? นายพูดถูก”

กลุ่มพลังงานสีม่วงเริ่มถูกดูดเข้าไปในช่องท้องส่วนล่างของเอียนซึ่งกำลังควงหอกของเขาอย่างขยันขันแข็งในขณะที่เขาต่อสู้กับกองกำลังพันธมิตรและจนถึงตอนนี้พลังงานนั้นรวมตัวและสร้างทรงกลม

และในวินาทีต่อมาเสียงอุทานดังขึ้นจากภายในห้องแผนก

“ว้าว อะไรวะนั่นน่ะ!?”

 

* * *

 

‘อะไรวะเนี่ย? เทพมังกรงั้นหรอ?’

เอียนซึ่งไม่สามารถให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเขาเพราะเขากำลังต่อสู้อย่างเมามัน เบิกตาขณะที่เขาเห็นกระแสของแสงสีม่วงที่เข้ามาใกล้เอวของเขา

Baang-!

เอียนซึ่งกำจัดศัตรูที่พุ่งเข้าใส่เขา ถอยกลับเล็กน้อยในขณะที่เขาตรวจสอบคลังของเขา

 

  • ไข่ของคาร์เซอุส – อัตราการฟัก : 99.99% (กำลังฟัก)

 

“…!”

มันเป็นการฟักตัวของสัตว์เลี้ยงที่เอียนรอคอยมานาน

อย่างไรก็ตาม เอียนรู้สึกดีมากๆ

นั่นเป็นเพราะความจริงที่ว่าเทพมังกรกำลังฟักตัวออกมานั้นเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การได้รับการต้อนรับด้วยแขนที่เปิดกว้าง

‘ไม่ว่าเรื่องนี้จะน่าเหลือเชื่อขนาดไหน ฉันจะใช้เลเวล 1 ได้ที่ไหนล่ะ?’

ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีทางแม้แต่จะรู้ว่ามันจะมีศักยภาพแค่ไหนเมื่อมันเกิดมา

แม้ว่าเทพมังกรจะเกิดมาในขณะที่เขายังไม่ได้เพิ่มเลเวลมันแม้แต่หนึ่งเลเวลจนกระทั่งศักยภาพของมันอยู่ที่ 100 การฟักของเทพมังกรนั้นไม่มีความหมายในสถานการณ์ปัจจุบัน

ในโอกาสที่หายากมาก มันอาจเป็นตัวที่เกิดมาพร้อมศักยภาพ 100 หน่วย แต่ความคาดหวังนั้นโลภเกินไป

“เวรเอ้ย ต่อสู้ไปก่อนละกัน!”

เอียนจับหอกของเขาแล้วพุ่งเข้าใส่สมรภูมิอีกครั้ง

มันสำคัญกว่าที่เขาเตะผู้เล่นมากกว่าหนึ่งคนออกจากเกมทันที ในเวลาที่เขาต้องกังวลเกี่ยวกับการฟักของเทพมังกรในตอนนี้

Bang- Ba-bang-!

เอียนถามซีเรียซึ่งสนับสนุนเขาจากด้านหลัง

“ซีเรีย เธอคิดว่าเธอสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับแนวป้องกันที่ 3 ได้ไหม?”

“ค่ะ ท่านลอร์ด! ฉันจะหาแล้วมาบอกท่านนะคะ!”

หลังจากเธอตอบกลับ ซีเรียรีบขึ้นไปบนหลังของไวเวิร์นและบินไป

หลังจากตรวจตอบแถบพลังชีวิตอีกครั้ง เอียนกัดฟัน

‘ฉันเหลือพลังชีวิตอีก 50,000 หน่วย มันเสี่ยงนิดหน่อย แต่เนื่องจากฉันไม่สามารถกลับไปได้แล้ว’

เอียนหมุนคำพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชาไปรอบๆเหมือนกังหันลมเมื่อเขากระโดดเข้าไปในกลุ่มศัตรู

เอียนซึ่งค่อนข้างงุ่มง่ามกับหอกเล็กน้อย ตอนนี้ได้แสดงท่าทางที่เขาปรับตัวเข้ากับมันได้อย่างสมบูรณ์

Chwa-ra-ra-rak-!

“ตรงนั้น นั่นคือเอียน! ฆ่ามันก่อนเลย!”

อย่างไรก็ตามจากนั้นข้อความของระบบที่ไม่คาดคิดเริ่มปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเอียนซึ่งกำลังต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง

 

  • ผ่านความกล้าหาญที่ท่านแสดงให้เห็นในสมรภูมิ เทพเจ้าแห่งสงครามได้ตื่นขึ้นมา
  • อัตราการฟักของไข่มังกรคาร์เซอุสได้ถึง 100%

 

และในครั้งนี้ข้อความที่มีความยาวหนึ่งประโยคโผล่ขึ้นมาไม่ใช่แค่ต่อหน้าเอียน แต่ต่อหน้าผู้เล่นทุกคนเช่นกัน

 

  • มังกรตัวแรกของเทพมังกรทั้งเจ็ดในตำนานโบราณได้เผยตัวออกมาสู่โลกแล้ว

 

Kuoooh-!

พร้อมกับเสียงคำรามอึกทึก ลมอันรุนแรงเริ่มหมุนโดยมีเอียนเป็นแกนกลาง

‘อะไรวะเนี่ย? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?’

ผู้เล่นที่อยู่ในระยะ 10-20 เมตรของเอียนถูกผลักกลับจากลมพายุที่โหมกระหน่ำและผู้เล่นของอาณาจักรไคม่อนซึ่งค้นพบอะไรแปลกตะโกนออกมา

“ไอบ้านี่ทำอะไรแปลกๆอีกแล้ว!”

“หนีไป! ไม่มีทางที่จะรู้ว่ามันจะทำอะไรอีกครั้ง!”

ดูเหมือนว่าอุกาบาตบักค์ยังคงส่งผลกระทบต่อพวกเขาอย่างมาก เนื่องจากผู้เล่นอาณาจักรไคม่อนได้ถอยห่างจากเอียนอย่างช้าๆในเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นรอบตัวเขา

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในคนที่งุนงงคือเอียน

‘ห้ะ? ทำไมอยู่ดีๆร่างกายของฉันถึงทำแบบนี้?’

มันเป็นเพราะร่างกายของเขาควบคุมไม่ได้

ร่างกายของเอียนลอยขึ้นไปบนอากาศที่ละน้อยและสายตาทุกคนจับจ้องไปที่เขา

“นั่นคือเอียน! นักเวทย์กับนักธนูทำอะไรอยู่? ยิงเขาสิ!”

ผู้เล่นไคม่อนที่ค้นพบเอียนซึ่งลอยขึ้นไปบนอากาศในสภาพที่ไร้การป้องกันได้โจมตีเอียนจากระยะไกลพร้อมกัน

Bang- Ba-bang-!

อย่างไรก็ตามในบางเหตุผล ก่อนที่กระสุนจะไปถึงตัวเอียน พวกมันสลายไปกลางอากาศ

Whoong-!

กระแสของแสงสีม่วงที่มาจากทั่วทุกสมรภูมิถูกดูดเข้าหาเอียนอย่างต่อเนื่องและนั่นก็เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่

‘เกิดอะไรขึ้นกันแน่?’

เอียนแสดงสีหน้างุนงง แต่เมื่อเขาสามารถยื้อเวลาได้ต้องขอบคุณสิ่งนี้ เขาคิดว่ามันช่วยได้

‘ดีมาก เนื่องจากตอนนี้การเตรียมการป้องกันแนวป้องกันที่ 3 ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว’

เอียนเริ่มตั้งสติในสถานการณ์ปัจจุบันด้วยใจที่ผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์

และไข่ของเทพมังกรที่โผล่ออกมาจากเอียนด้วยตัวมันเอง มันลอยอยู่ข้างหน้าเขา

Whoong-

ไข่ของเทพมังกรเปล่งเสียงดังในขณะที่มันเริ่มสั่นสะเทือนและขนาดของมันซึ่งเปลี่ยนไปจากตอนแรกเริ่มใหญ่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

‘ดูเหมือนว่าเพราะว่ามันเป็นเทพมังกร การฟักของมันจึงอึกทึกครึกโครมขนาดนี้’

ในขณะที่เอียนได้เห็นฉากฟักไข่ของสัตว์เลี้ยงระดับ Legendary พินด้วยสองตาของเขามาก่อน เขาจึงไม่แปลกใจนัก

เนื่องจากรูปแบบของการฟักไข่ของกริฟฟินนั้นมีความฉูดฉาดมากพอที่จะเทียบได้กับตอนนี้

‘โอ้ แต่ไข่มันเปลี่ยนรูปร่างด้วยตัวเองหรอครั้งนี้?’

เอียนซึ่งคิดว่าลูกมังกรจะกระเทาะไข่และปรากฏตัวออกมา แสดงใส่ท่าทางที่สนุกสนานในขณะที่ดูรูปลักษณ์ภายนอกของไข่ที่ส่องประกายตัวเองในขณะที่มันเปลี่ยนไป

อย่างไรก็ตามจากนั้น ข้อความที่งุนงงโผล่ขึ้นต่อหน้าของเอียน

 

  • เนื่องจากท่านขาดความเป็นผู้นำของสัตว์เลี้ยง สัตว์เลี้ยงทั้งหมดนอกเหนือจากเทพมังกรคาร์เซอุสจึงถูกถอนออกล

 

ก่อนที่จะตระหนักถึง เอียนก็สำลักอากาศ

“อะ อะไรกัน?”

สถานการณ์วิกฤติที่ไม่คาดคิดนั้นเกิดขึ้นเอง

หากสัตว์เลี้ยงที่ต่อสู้ได้ดีถูกถอนออกพลังการต่อสู้ของเอียนจะลดลงมากกว่าครึ่ง

‘ไม่นะ แม้ว่ามันจะปรากฏออกมาตอนนี้ มันก็เป็นเพียงเลเวล 1 เท่านั้น!’

ความเป็นผู้นำที่เขาต้องการเพื่อควบคุมสัตว์เลี้ยงของเขาเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนตามสัดส่วนของเลเวลสัตว์เลี้ยง

เพราะว่าถึงแม้จะเป็นเทพมังกร เอียนไม่เคยคิดแม้แต่ครั้งเดียวว่าเขาจะขาดความเป็นผู้นำ

‘ถึงกระนั้น ฉันควรมีความสุขที่ฉันสามารถใช้ความเป็นผู้นำทั้งหมด เพื่ออัญเชิญเทพมังกรออกมาได้งั้นหรอ?’

เอียนไม่รู้จริงๆถึงแม้ว่าเขาจะนำความเป็นผู้นำทั้งหมดมารวมกัน มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะอัญเชิญเทพมังกร

สิ่งที่ทำให้เป็นไปได้จริงๆแล้วเป็นไอเทม ‘เครื่องประดับเกล็ดมังกร’ ที่ลดความเป็นผู้นำที่จำเป็นในการอัญเชิญสัตว์เลี้ยงประเภทมังกรลดครึ่งหนึ่ง

หากเขาขาดความเป็นผู้นำมันอาจจะไม่ได้ฟักตั้งแต่แรก

ในขณะที่เอียนกำลังคิดเรื่องนี้และไข่เทพมังกรที่มีขนาดเท่ากับแตงโมขนาดใหญ่ก็เปลี่ยนเป็นรูปมังกรขนาดใหญ่กว่าเรค ราชามังกรก่อนที่เขาจะรู้ตัว

และแสงสีดำของมังกรที่ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวก็หันไปหาเอียนอย่างช้าๆ

 

  • เจ้าคือ… มนุษย์ที่ปลุกข้างั้นหรือ…?

 

สมรภูมินี้ถูกถ่ายทอดแบบเรียลไทม์ไปทั่วทั้งประเทศ

ยิ่งไปกว่านั้นในขณะที่เขาอยู่ต่อหน้ามังกรที่เต็มไปด้วยศักดิ์ศรี เอียนต้องการที่จะให้คำตอบที่สง่างามอย่างเท่าเทียมกัน

เอียนคิดอย่างหนักเกี่ยวกับสิ่งที่เขาควรจะพูด

‘ฉันควรพูดว่าอะไรดี?’

อย่างไรก็ตาม เอียนไม่ต้องคิดใดๆ

เนื่องจากเมื่อเขาเสร็จสิ้นเควสต์ของพระราชา คำพูดของเอียนก็เคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน

“ถูกต้องแล้ว เทพมังกรคาร์เซอุส”

Whoong-!

เอียนได้ตอบหรือเจาะจงกว่านั้นคือมันเป็นคำตอบของระบบที่ควบคุมร่างกายของเอียน คาร์เซอุสสะบัดร่างของเขาเมื่อเขาคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้า

Kyaaooh-!

และคาร์เซอุสพูดต่อ

 

  • ฮ่าฮ่า นี่คือสมรภูมิ กลิ่นสาปของเลือดและเสียงร้องแห่งความกล้าหาญ

 

คาร์เซอุสซึ่งมองไปที่สมรภูมิครั้งหนึ่ง ค่อยๆพูด

 

  • นี่เป็นสถานที่ที่ข้าต้องการ

 

อย่างไรก็ตามเลเวลของคาร์เซอุสที่โอ้อวดศักดิ์ศรีอย่างยิ่งในขณะที่เลเวลเป็นไปตามที่เอียนคิดคือเลเวล 1

แม้ในสถานการณ์ที่ร่างกายของเขาไม่ขยับเขาก็ยังสามารถตรวจสอบข้อมูลของสัตว์เลี้ยงของเขาได้ ดังนั้นเอียนจึงมองผ่านหน้าต่างข้อมูลของคาร์เซอุส

‘เฮ้อ บ้าจริงๆ แกหมายความว่ายังไงสถานที่ที่แกต้องการงั้นหรอ?’

และมันเป็นที่ชัดเจน แต่พลังโจมตีของคาร์เซอุสเลเวล 1 อยู่ที่เลขสามหลัก

อย่างไรก็ตามต่างจากความคิดที่แท้จริงของเอียน เอียนพูดกับคาร์เซอุสด้วยเสียงจริงจัง

“ถูกต้อง นี่เป็นสถานที่ที่เจ้าต้องการ นี่เป็นสถานที่ที่เหมือนกับบ้านเกิดในใจของนาย”

Kuoooh-!

คาร์เซอุสที่คำรามสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง หันหัวของเขาไปหาเอียนในขณะที่เขาแสดงให้เห็นฟันที่แหลมคมของเขา

 

  • นี่เป็นการต่อสู้ ข้าจะนำมันไปสู่ชัยชนะ

 

“ฉันจะเชื่อนาย”

ฉากสุดเท่ห์ที่เกือบจะดูเหมือนฉากจากภาพยนตร์ที่ฉายออกมา

แน่นอนว่า เอียนก็ถอนหายใจ

‘เฮ้อ ทำไมถึงพูดมากจัง? ฉันหวังว่ามันจะจบไวๆ’

อย่างไรก็ตามจากนั้น ด้วยคำพูดที่ไม่คาดคิด

 

  • สหายของจิตวิญญาณของข้าอยู่ที่นี่ เนื่องจากข้ายังไม่ฟื้นพลังทั้งหมดของข้า ข้าจะยืมกำลังของเขา

 

“ทำตามที่นายต้องการเลย”

นอกเหนือจากคำตอบของเอียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเจตจำนงของเขา ร่างกายของคาร์เซอุสก็เริ่มเติบโตอย่างช้าๆ

และห่วงโซ่สีม่วงที่พุ่งออกมาจากร่างของคาร์เซอุสเริ่มห่อหุ้มร่างกายของชายคนหนึ่งไปรอบๆ

ชายคนนั้นมีชื่อว่าไคซาร์