144 สถาบันวิจัย ข้อมูล ดีเอ็นเอ และเหล่าน้องสาวล่ะ!
เวลากลางคืน………
ข้างในตู้โทรศัพท์ วู่หยานกำลังรั่วแป้นพิมพ์ลงโน๊ตบุ๊คที่เอามาจากมิโคโตะมันมี
ขนาดเท่าฝ่ามือเขาแค่นั้น
เวลาผ่านไป จะเห็นว่าวู่หยานปล่อยกระแสไฟฟ้าจากมือเข้าใส่โน๊ตบุ๊ค จากนั้น
ภาพหน้าจอก็เปลี่ยนไปเป็นตัวอักษรขนาดเล็กใหญ่ที่วิ่งพล่านเต็มหน้าจอ
“มีหลายสถาบันวิจัยเลยแฮะ จากในเนื้อเรื่อง ยัยมิโคโตะไปทำอีท่าไหนถึงได้
ทำลายมันได้หมดกันน่ะ?……”
ปากบ่นไป แต่วู่หยานก็จดจำข้อมูลทั้งหมดอย่างรวดเร็วด้วย ‘ความจำสมบูรณ์’
จากนั้นถอนตัวออกมาอย่างระมัดระวัง
“พลังของมิโคโตะ นี่มีประโยชน์ดีจริงๆแฮะ” วู่หยานยิ้ม ถ้าปราศจากพลังของ
เธอ การจะได้ข้อมูลพวกนี้มาไม่รู้ว่าต้องไปเสี่ยงขนาดไหน แถมยังมีโอกาศสูง
มากๆที่ไอ้โรคจิตนอนกลับหัวจะพบตัวเขาด้วย
นึกถึงข้อมูลที่ได้มา จากนั้นเดินไปหนึ่งในสถาบันวิจัย ที่นั่นมีของที่วู่หยานต้องการ
อยู่……..
ข้างหน้าเขา เป็นสถาบันวิจัยขนาดใหญ่ วู่หยานเดินออกมาจากตรงมุมถนน
สายตาก็มองสำรวจรอบๆ แล้วหยิบเอาเสื้อคลุมออกมาจากแหวนมิติ เมื่อวู่
หยานสวมมันตัวเขาก็หายไป……
ข้างในสถาบันวิจัย วู่หยานเดินอย่างแผ่วเบาไปตามทาง ด้วยการมีบาเรีย
แม่เหล็กไฟฟ้า เขาจึงไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะโดนจับได้โดยพวกเครื่องจักรล้ำสมัย
บวกกับมีเสื้อคลุมล่องหน เขาจึงสามารถเดินได้ชิวๆ
สถาบันวิจัยมีพื้นที่กว้างขวางมาก แต่ถึงมันจะกว้าง วู่หยานก็ยังคงเดินไปใน
ทิศทางหนึ่งอย่างไม่ลังเล แผนที่อะไรเขาไม่จำเป็นต้องใช้ เส้นทางทั้งหมดมันอยู่
ในหัวเขาหมดแล้ว ที่นี่มีคนคอยเดินตรวจไม่มากนัก แต่มีหุ่นโรบอทค่อนข้างเยอะ
เมื่อเดินไปจ๊ะเอ๋กับคน วู่หยานจะหยุดนิ่งทันที รอจนอีกฝ่ายเดินจากไป เขาถึงจะ
เริ่มเดินอีกครั้ง แต่เมื่อเจอพวกหุ่นโรบอท เขาไม่สนใจพวกมันเดินผ่านไปตรงๆ
เลย เวลานั้นหุ่นมันจะปิดตัวลงไป พอเขาเดินผ่านไปได้สักระยะมันถึงกลับมา
ทำงานเหมือนเดิม
ตลอดทาง วู่หยานเจอประตูที่ปิดอยู่เยอะพอสมควร ถ้าเป็นคนอื่นคงลำบาก
หน่อยกว่าจะเปิดได้ แต่กับเขาแค่เอามือตบเข้าไปตรงที่ตรวจบัตร จากนั้นประตูก็
จะเปิดเอง พลังของมิโคโตะทำให้เขาบุกเข้ามาได้ง่ายๆเหมือนเดินอยู่สวนหลัง
บ้านตัวเองเลย……
เปิดประตูอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ด้านหลังประตูไม่ได้เป็นทางเดินอีกแล้ว แต่เป็นสถานที่
แปลกๆแล้วค่อนใหญ่ด้วย
รอบๆจะมีคอมพิวเตอร์ทำงานอยู่เต็มไปหมด ข้อมูลบางอย่างจะถูกบันทึกแล้ว
นำไปกลับที่ชั้นวางหนังสือ และยังมีหลอดแคปซูลที่ข้างในบรรจุของเหลว
บางอย่างไว้
ทว่าด้านหน้าสุด เป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่พอๆกับหน้าจอใน
โรงหนัง!
เมื่อเห็นมันวู่หยานก็เดินเข้าไปหาทันที ว่ากันตามตรงมันนี้แหละคือเป้าหมายของ
เขา!
หน้าจอมืดดับ แต่ปุ่มด้านล่างยังคงเปล่งแสงอยู่เล็กน้อย เขาเดินวนไปรอบๆก่อน
จะมาถึงตรงที่นั่งศูนย์กลาง เมื่อเห็นคียร์บอร์ดเขาก็กดลงไปทันที!
กดไปหลายคียร์ วู่หยานก็หยุด แล้วลุกขึ้นยืนรอบางอย่าง เมื่อแสงสีแดงสว่างขึ้น
เขาก็วางมือลงบนคีย์บอร์ดจากนั้นใช้พลังจิต กระแสไฟฟ้าหลายเส้รไหลเข้าไปข้าง
ในเกิดเสียง ‘เปรี๊ยะๆ’
เมื่อกระแสไฟฟ้าเส้นสุดท้ายไหลเข้าไป แสงสีแดงก็เปลี่ยนไปเป็นสีเขียว ในเวลา
เดียวกัน พื้นที่ด้านหน้าคียร์บอร์ดก็ได้แยกตัวออกเป็นช่องว่าง ข้างในมีขวดที่
บรรจุเลือดอยู่!
เห็นแบบนี้ มุมปากวู่หยานยกยิ้ม แล้วหยิบขวดขึ้นมา หลังจากตรวจสอบมัน คิด
ว่าไม่มีปัญหา เขาจึงโยนมันเข้าแหวนมิติ จากนั้นถอนหายใจโล่งอก
เจ้าของเลือดนี้ไม่ใช่ใคนที่ไหน เป็นของ มิโคโตะ!
เป็นเลือดที่ได้จากตัวมิโคโตะตอนเด็ก ด้วยสิ่งนี้เหล่าน้องสาวนับหมื่นคนจึงถือ
กำเนิดขึ้น ดังนั้นวู่หยานจึงมาเก็บมันกลับไป
ในเมื่อเขาตัดสินใจที่จะช่วยเหล่าน้องสาว แน่นอนว่าวู่หยานต้องคิดวิเคราะห์มา
อย่างดี ถ้าไม่ทำแบบนี้ พอเขาช่วยเหล่าน้องสาวได้ อเลสเตอร์มันก็ยังสามารถ
ผลิตพวกเธอออกมาได้อีก
เมื่อถึงตอนนั้นก็นับว่าลำบากแล้ว ช่วยแล้วช่วยอีก วนไปวนมา เขาไม่รู้ว่ายังมีใคร
ที่โดนทำแบบนี้อีกไหม แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่อยากให้เลือดของมิโคโตะถูกนำมาใช้
แบบนี้
นี่จึงเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างว่า……
เมื่อเก็บขวดเลือดไปแล้ว วู่หยานก็เดินไปที่ที่หนึ่ง…….
เจอประตูปิด เขาก็เปิดมัน แล้วเดินผ่านทางเดินอันซ้ำซาก ไปยังที่อื่นใน
สถาบันวิจัยนี้ จนในที่สุดวู่หยานก็เจอคนที่เขาต้องการหา
เธออยู่ในชุดเด็กนักเรียนโทคิวะได ผมสีน้ำตาลดำยาวประบ่า มีใบหน้าและรูปร่าง
เหมือนมิโคโตะทุกอย่าง จุดที่แตกต่างคือเธอใส่แว่นตาทหาร นัยน์ตาสีกาแฟของ
เธอดูไร้อารมณ์ราวหุ่นยนต์
น้องสาวมิซากะ!
ใบหน้าเขาเผยให้เห็นถึงความสุข น้องสาวคนนี้บางทีคงกำลังเดินตรวจตราอยู่ เธอ
เดินไปมาโดยไม่รู้ตัวว่านอกจากเธอแล้วยังมีอีกคนเดินอยู่ใกล้ๆเธอ เขายังยั้งความ
ดีใจไว้แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่ารอบๆนี้ไม่มีใครอีก จากนั้นถอดเสื้อคลุมออก ตัว
เขาก็ปรากฏออกมาตรงหน้าเธอ
บางทีคนอื่น เมื่อเห็นตรงหน้าตรอยู่ๆก็มีคนปรากฏตัวออกมาคงจะโกนว่า
‘ผีหลอก!’ แล้วความคิดต่อมาก็คือ ‘วิ่งหนีไปให้ไกล’ แต่ว่าที่นี่คือเมืองแห่ง
การศึกษา ต่อให้เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อขนาดไหนก็สามารถอธิบายได้ด้วย
วิทยาศาสตร์ ดังนั้นตอนแรกคนที่นี่คงแค่ตกใจ แต่ไม่คิดวิ่งหนี
คุณน้องสาวคนนี้ก็เป็นเหมือนกันล่ะมั้ง ใช่ไหม?………
มองวู่หยานที่โผล่ออกมาตรงหน้าตนเองด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก น้องสาวมิซากะ
หยุดไปชั่วครู่ แล้วพูดว่า “คุณเป็นใครคะ? หรือว่ามาขโมยของเหรอคะ? มิซากะ
กำลังตกใจกับคุณหัวขโมยตรงหน้า และกำลังคิดตะโกนเรียกคนช่วยคะ”
“…จากสีหน้าเธอ ฉันไม่เห็นความตกใจเลยนะ…..” ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าน้องสาวมิ
ซากะเป็นแบบนี้ แต่เขาก็ยังอดริมฝีปากกระตุกไม่ได้
“ในสถาบันวิจัยไม่มีของมีค่าหรอกนะคะ หรือถ้ามีมันก็ไม่อยู่ที่นี่คะ มิซากะกำลัง
คุยกับคุณหัวขโมย ขณะที่กำลังหาทางหนีคะ”
“เอ่อ ก่อนอื่นฟังที่ฉันก่อนที่จะหนีได้มั้ย?” วู่หยานหัวเราะแห้งๆ ในใจกำลังตบ
มุขอีกฝ่ายอยู่
“คุณหัวขโมยมีอะไรจะพูดกับกับมิซากะเหรอคะ? มิซากะกำลังมองคุณหัวขโมย
แล้วคิดว่าเขาจะพูดอะไรคะ”
วู่หยานนวดขมับแล้วตบแก้มตัวเอง เขาคิดว่าถ้าไม่ถามออกไปเร็วๆ คงจะตาย
เพราะความเครียดแหงๆ……..
วู่หยานทำสีหน้าจริงจังมองน้องสาวมิซากะ “เธอเป็นมิซากะคนที่เท่าไหร่?”
ได้ยินแบบนี้ เธอก็มองวู่หยานด้วยแววตาว่างเปล่า ก่อนจะตอบว่า “มิซากะเป็น
ร่างโคลนหมายเลข9833คะ มิซากะตอบไปตามตรง และรู้สึกสู้ช็อคที่คุณหัวขโมย
รู้ถึงการมีอยู่ของมิซากะคะ”
“…..แล้วคนอื่น เธอรู้ไหมว่าน้องสาวคนอื่นๆของเธอไปอยู่ที่ไหน?”
“จากมิซากะเน็ตเวิร์ค มิซากะสามารถรู้ที่อยู่ของมิซากะคนอื่นได้คะ มิซากะตอบ
คุณหัวขโมยตามตรง และเริ่มคิดว่าคุณหัวขโมยกำลังวางแผนมิดีมิร้ายต่อมิซากะ
อยู่คะ”
คิ้วกระตุก วู่หยานกล่อมตัวเองในใจให้ใจเย็นไม่หยุด ใจเย็นๆเข้าไว้ตัวเรา อีกฝ่าย
เป็นถึงน้องสาวของคุณศรีภรรยา เธอไม่ได้ตั้งใจทำ ดังนั้น อะไรที่ให้อภัยได้ เขาก็
ต้องให้อภัย……
“หรือว่าคุณหัวขโมยไม่ได้มาขโมยของแต่มาขโมยคน? และคนๆนั่นคือมิซากะ? มิ
ซากะมองคุณหัวขโมยตรงหน้าด้วยความช็อคคะ และกำลังบอกมิซากะคนอื่นผ่าน
มิซากะเน็ตเวิร์คให้หนีไปคะ”
คำว่า ‘ใจเย็น’ ในใจเข้าแตกกระจายเป็นชิ้นๆทันที สีหน้าที่แต่เดิมมืดมน ก็
เปลี่ยนไปเป็นยิ้มแย้ม
“เธอพูดถูกแล้ว! ฉันคนนี้แหละคือคนที่จะมาขโมยน้องสาวมิซากะไงล่ะ!”