แดนนิรมิตเทพ บทที่ 405
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง เจี่ยจิ้งอานและฉู่เหวินสงมาถึงพร้อมกัน พวกเขาสองคนอยู่ที่อู่โจว ดังนั้นจึงมาเร็วที่สุด

“สวัสดีครับเฉินไต้ซือ!”

พวกฉู่เหวินสงทั้งสองคนโค้งทำความเคารพเฉินโม่ จากนั้นก็สำรวจมองดูรอบด้าน ท่าทางเหมือนอยากจะพูดอะไรยางอย่างแต่ก็ไม่พูดออกมา

เฉินโม่ในเวลานี้ได้กลับสู่ห้องโถงแล้ว นั่งอยู่บนตำแหน่งหลัก มองดูท่าทางสีหน้าของทั้งสองคน แล้วพูดนิ่งๆว่า “ต่อไปที่แห่งนี้เป็นของฉันแล้ว ฉันเตรียมจะสร้างค่ายกลขนาดใหญ่ที่เหมาะสมกับการฝึกฝนในที่แห่งนี้ จำเป็นต้องใช้พวกหินทิพย์ ที่เรียกพวกนายมา ก็เพื่ออยากจะให้พวกนายช่วยรวบรวมสรรหาหินทิพย์พวกนั้น”

เฉินโม่บอกไปตามตรง บอกเหตุผลเป้าหมายที่เรียกพวกเขามารวมตัว

ฉู่เหวินสงและเจี่ยจิ้งอานทั้งสองคนสบตากัน ในแววตามีความตกตะลึง พวกเขาต่างก็รู้ดีว่าที่นี่คือคฤหาสน์ของตระกูลว่าน แต่เฉินโม่กลับยึดครองไปแล้ว!

ความน่าเกรงขามนี้ทำเอาทั้งสองคนตกตะลึงอย่างมาก!

“เฉินไต้ซือครับ การรวบรวมหินทิพย์ไม่ยากครับ แต่ปัญหาคือพวกผมไม่ทราบว่าคุณต้องการหินทิพย์แบบไหนสิครับ?” ฉู่เหวินสงพูดอย่างลำบากใจ

เจี่ยจิ้งอานพยักหน้า แล้วพูดตามว่า “หินทิพย์พวกนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร มีความพิเศษอะไร? ส่วนพวกนี้ขอให้เฉินไต้ซือแจ้งให้ทราบด้วยครับ เช่นนี้แล้วก็จะหาได้ง่ายมากขึ้นครับ”

เฉินโม่ส่ายหัว “ลักษณะของหินทิพย์แตกต่างกันไปมากมายหลายรูปแบบ แม้แต่ฉันเองก็ไม่สามารถมั่นใจลักษณะที่แน่นอนได้ แต่ว่าฉันจะทำเครื่องตรวจจับแผ่นหยกให้กับพวกนาย หากว่าแผ่นหยกเปล่งแสง พวกนายก็เก็บรวบรวมกลับมา จากนั้นฉันค่อยมาคัดเลือกด้วยตัวเองอีกครั้ง”

“อย่างนั้นก็ดีมากเลยครับ มีเครื่องตรวจจับแผ่นหยกอยู่ สามารถลดขอบเขตได้อย่างมากทีเดียว” ทั้งสองพยักหน้า เรื่องนี้จัดการได้ไม่ยาก

เฉินโม่มองทั้งสองคน “แน่นอน ว่าทำงานให้กับฉัน ฉันไม่ปล่อยให้พวกนายทำงานฟรีแน่นอน ทุกๆหินทิพย์สิบก้อนที่พวกนายหามาได้ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ล้วนสามารถนำมาแลกยาเสริมจิตที่ฉันได้ 1 เม็ด จำนวนอัตราการแลกไม่มีจำกัด!”

แววตาของฉู่เหวินสงและเจี่ยจิ้งอานมีความดีใจปรากฏขึ้น ยาวิเศษอย่างยาเสริมจิตเช่นนั้น พวกเขาเคยได้รับรู้ถึงผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์มาด้วยตัวเองแล้ว และคิดอยากจะหามาให้กับครอบครัวของตัวเองอยู่เสมอ แต่สมุนไพรที่เฉินโม่ต้องการมันหายากมากจริงๆ และพวกเขาเองก็หากันไม่ได้

ตอนนี้สามารถนำหินทิพย์มาแลกยาเสริมจิตได้ แล้วยังมีเครื่องตรวจจับแผ่นหยกที่เฉินโม่ให้มาอีกด้วย จำนวนหินทิพย์ต้องหาได้ง่ายมากกว่าสมุนไพรพวกนั้นแน่นอน หากว่าหาหินทิพย์ได้มากพอ สามารถนำมาแลกยาเสริมจิตให้กับครอบครัวของพวกเขาคนละเม็ดได้

“ขอบคุณเฉินไต้ซือมากครับ รบกวนคุณให้เครื่องตรวจจับแผ่นหยกกับพวกเราด้วยครับ พวกผมจะไปตามหาหินทิพย์ให้เดี๋ยวนี้ครับ” ทั้งสองพูดอย่างตื่นเต้น

เฉินโม่หยิบเอาหินหยกก้อนหนึ่งออกมาจากแหวนเก็บของ เพียงยื่นมือไปจับ ก็ได้ทำการผ่าหยกออกเป็นแผ่นหยกขนาดเล็กยี่สิบชิ้น แล้วค่ายกลตรวจจับขนาดเล็กก็ได้เอาสิ่งสู่ด้านในทีละชิ้น

“พวกนายเอาแผ่นหยกนี้ไป หากพบเจอกับหินที่สามารถใช้ได้ แผ่นหยกก็จะเปล่งแสงออกมา ไปซะ!”

เฉินโม่ให้ไปคนละแผ่น ฉู่เหวินสงและเจี่ยจิ้งอานหยิบจับแผ่นหยกขนาดเล็กไว้ในมืออย่างสนใจ รู้สึกว่าสิ่งที่มาจากตัวเฉินโม่ ล้วนเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก

แต่ว่า แผ่นหยกพวกนี้ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร ทั้งสองคนดูไม่ออก คิดแค่อยากรีบไปตามหาก้อนหินมาทดลองใช้ดู ลองดูว่าแผ่นหยกนี้จะเปล่งแสงได้จริงหรือไม่

เมื่อพวกฉู่เหวินสงทั้งสองคนจากไปแล้ว ก็ได้มีพวกผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆตามมาเรื่อยๆ

เช่นพวกเซวียเชียนเหอ ฉินเยว่ซาน แต่ก็ยังมีพวกที่อยู่ไกลมากกว่านี้อีก จำเป็นต้องรอวันพรุ่งนี้ถึงจะสามารถมาถึงที่นี่

เฉินโม่ชี้แจงบอกกับคนพวกนี้เหมือนกันอีกครั้ง แล้วแจกแผ่นหยกให้กับทุกคน สั่งให้พวกเขาไปรวบรวมหินทิพย์มา

ในตอนที่ฟางปู้ถงมหาเศรษฐีแห่งชิ่งหยางมาถึง พาสาวงามมาด้วยอีกคนหนึ่ง นั่นก็คือผู้ดูแลรับผิดชอบโรงแรมว่านเซี่ยง ฟางหยู่ฉิง

เมื่อเห็นเฉินโม่ สีหน้าของฟางปู้ถงก็เคร่งเครียดขึ้นมา แล้วต่อว่าตะคอกฟางหยู่ฉิงว่า “คุกเข่าลง!”

ฟางหยู่ฉิงสีหน้าแดงก่ำ มองดูเฉินโม่ด้วยสีหน้าอับอาย แต่ว่าไม่กล้าทำให้คุณพ่อโกรธไปกว่านี้ ฟางหยู่ฉิงจึงทำได้แค่คุกเข่าให้กับเฉินโม่