สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเขาได้ชิ้นส่วนของระบบล่มสลายชิ้นที่สามมาแล้ว ดังนั้นสถานการณ์ของแม่เขาก็เริ่มจะดีขึ้นมาและก็เริ่มเข้าใกล้การปลุกแม่เขาขึ้นมาไปอีกก้าวหนึ่ง!

 

ในขณะที่เสาหินอีกเสาหินหนึ่งอยู่ห่างไป เหล่าวิวัฒนาการทั้งหมดได้ออกมาจากเสาหินแล้ว บางคนได้รับผลลัพธ์ที่ดีพอสมควร บางคนที่เป็นวิวัฒนาการระยะ 1 และทำการทดสอบครั้งแรกก็ได้คะแนนก้าวกระโดดไปถึง B หากวิวัฒนาการระยะ 2 บางคนก็โดนฆ่าตายในการทดสอบ พวกเขาต่างเสียหน้าและอับอายที่พวกเขาส่วนใหญ่ไม่ผ่านการทดสอบกัน มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่ได้คะแนน F ขณะที่คนอื่นๆตกการทดสอบ

 

ทว่าคนพวกนี้ก็ไม่ได้รู้สึกแย่ไปนานเท่าไหร่ ด้วยเพราะหลังจากนั้นพวกเขาก็ต่างรู้สึกช็อคขณะมองไปที่รายชื่ออันดับของระยะ 3 สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจและตกใจพร้อมกับอารมณ์ซับซ้อนมากมายที่แฝงอยู่

 

ชื่อของชูฮันปรากฏอยู่บนสุดแถมยังเปล่งประกายอย่างโดดเด่น

 

หลูปิงเซ่อและวิวัฒนาการระยะ 2 ที่ออกมาก่อนได้แต่ยืนช็อค คะแนน S ในครั้งแรกนั่นก็ทำให้พวกเขาตกใจอยู่แล้ว แต่มันก็ไม่นานหลังจากนั้นเท่าไหร่ที่จู่ๆคะแนนของชูฮันก็เปลี่ยนเป็น S+ เรื่องที่น่าเหลือเชื่อได้ปรากฏต่อหน้าต่อตาพวกเขา ทำให้พวกเขาตอบสนองอะไรไม่ถูกไปครู่หนึ่ง

 

ใครๆก็สามารถทำการประเมิณการต่อสู้โดยรวมได้ทุกเมื่อ การตกการทดสอบก็สามารถทำใหม่ได้เช่นกัน อย่างเช่นเฉินช่าวเย่ที่ใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์เพื่อทำการครั้งทดสอบครั้งที่สองจนได้คะแนน S ไปครอง ใครก็ตามที่อยากจะไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆสามารถทำได้เสมอ ท้ายที่สุดแล้วผลการทดสอบก็คือความสามารถทางกายภาพของแต่ละคน

 

ในระยะที่ 1 และ 2 มันมีจำนวนวิวัฒนาการอยู่มากเกินไป และมันก็เป็นเรื่องยากที่จะเดินทางไปค่ายผู้รอดชีวิตขนาดใหญ่ แต่วิวัฒนาการที่มีชื่อเสียงในระยะ 1 และ 2 จะแตกต่างออกไป ทางกองทัพจะเสนออาหารและที่พักให้ โดยไม่ต้องกังวลอะไร และที่สำคัญกว่านั้นคือจการได้รับความเคารพจากเหล่าผู้รอดชีวิตและเหล่าวิวัฒนาการทั่วไปที่อันดับต่ำกว่า

 

การมีอันดับสูงๆคือสิ่งที่วิวัฒนาการและพรสวรรค์ทุกคนต่างใฝ่ฝัน ที่จะมีเพียงแค่เมื่ออันดับของพวกเขาได้มาถึงระดับที่พวกเขาเริ่มมีตัวตนและสถานะในสังคม

 

เหมือนกับชูฮันที่เมื่อชั่วโมงก่อนคะแนนเป็น S และพอชั่วโมงถัดมาก็เปลี่ยนเป็น S+ นี่มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน

โดยปกติหลังจากการทดสอบ ร่างกายของทุกคนมักจะเหนื่อยล้าและบอบช้ำ จำเป็นต้องได้รับการพักผ่อนและถึงแม้หลังจากออกมาจากการทดสอบด้วยร่างหายปกติทว่าร่างกายก็จะเหนื่อยล้าเกินกว่าจะทำอะไรได้ ทว่าชูฮันกลับเข้าไปทำการทดสอบต่อทันที เขาแกร่งกว่าคนธรรมดาไปแล้ว

 

เขาไม่เหนื่อยเลยเหรอไง?

 

นอกเหนือจากอาการช็อคและไม่อยากจะเชื่อของทุกคนแล้ว หลูปิงเซ่อก็ยิ่งแทบจะเป็นลมกับความคิดของตัวเอง การประจวบเหมาะของเวลาเป็นอะไรที่แย่มาก ถ้ามันมีเสาหินบริเวณนี้อยู่เพียงแค่อันเดียว แล้วที่ก่อนหน้านี้ืั้วิวัฒนาการระยะ 3 คนนั้นเข้าๆไปคืออะไรกัน ตอนนี้หลูปิงเซ่อคิดว่าคนที่ฆ่างูของเขาก็คือ ชูฮัน นั่นเอง!

 

มันเป็นไปไม่ได้ใช่มั้ย? ไม่มีเหตุผล? มันมีช่องโหว่มากเกินไป!

 

ขณะที่หลูปิงเซ่อยังคงใช้สัญชาตญาณของตัวเองขบคิดสถานการ์ตรงหน้าอยู่ในหัวกลับไปกลับมาจนแทบจะไม่ไหว

 

และตอนนั้นเอง——

 

“โอ้ะ เป็นไง!” ชูฮันเดินฝ่าหมอกออกมา สีหน้าเขามีเลศนัย รอยยิ้มแฝงไปด้วยเล่ห์บางอย่าง

 

เมื่อได้เห็นชูฮันเดินออกมาจากอีกที่หนึ่ง วิวัฒนาการหลายคนก็มีท่าทีเอะใจ

 

“ฉันจำได้ว่านายก็เป็นวิวัฒนาการระยะ 3 เหมือนกัน?” วิวัฒนาการระยะ 2 คนหนึ่งพูดขึ้นมา

 

หากชูฮันตอบกลับเพียง “แล้วไง?”

 

“ชูฮันก็เป็นวิวัฒนาการระยะ 3 เหมือนกันไง!” มีคนตอบโต้ทันที

 

“ใช่ ชูฮันได้คะแนนการประเมิณ S+ อันดับที่หนึ่งของวิวัฒนาการระยะ 3 และพลังของนายก็แข็งแกร่งมากเหมือนกัน”

 

มันเกิดปัญหาขึ้น เนื่องจากหมอกและเสาหินอันที่สองที่อยู่ในทะเลสาบ ทุกคนจึงไม่รู้ว่าคนที่พวกเขากำลังพูดถึงกันอยู่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขานั่นเอง พวกเขาได้แค่สงสัยเท่านั้น ส่วนหลูปิงเซ่อเองก็จ้องไปที่ชูฮันอย่างรอคอยคำตอบ

 

“ฉัน…” ชูฮันเว้นจังหวะเพราะหวังไคกำลังกลิ้งไปมาอยู่ในกระเป๋าเขา “ชื่อคือหวังไค และฉันไม่ได้เข้าร่วมการทดสอบ”

 

เมื่อชูฮันพูดแบบนั้นออกมา หลายคนต่างประหลาดใจจนอ้าปากกว้าง

 

“หวัง หวังไค?” หลูปิงเซ่อมองไปที่ชูฮันอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่คิดว่าชื่อของผู้ชายที่ทรงพลังจนน่าหวาดกลัวจะตลกได้ถึงขนาดนี้ แถมคำตอบก็ยังเหนือความคาดหมายอีก

 

คนที่เหลือต่างสนใจประเด็นที่ชูฮันบอกว่าไม่ได้เข้าร่วมการทดสอบ

 

“ทำไมนายไม่เข้าไปในเสาหิน?”

 

“นายแข็งแรงจะตาย รับรองนายจะต้องได้อันดับที่ดีแน่ๆ”

 

“ใช่! และถ้านายไปที่ค่ายใหญ่ๆหรือซางจิง นายจะได้รับการปฏิบัติอย่างดีทันทีที่ไปถึง”

 

ชูฮันได้แต่เพียงยิ้มให้กับคำพูดของทุกคนและถามคำถามออกไป “ค่ายซางจิงสามารถมอบคริสตัลของซอมบี้ระยะ 2 ให้ฉันร้อยๆชิ้นต่อวันได้มั้ย?”

 

เฮือก—–

 

ทุกคนตกใจจนอ้าปากค้างกว้างทันทีที่ได้ยินคำพูดที่ทำให้แทบสำลักของชูฮัน แน่นอนว่ามันไม่มีทางที่ค่ายผู้รอดชีวิตจะสามารถหาคริสตัลจำนวนมากขนาดนั้นต่อวันได้ นอกเหนือจากอาหาร ที่พักและผู้หญิง ของพิเศษอย่างเช่นคริสตัลจำเป็นต้องนำไปเก็บไว้ ค่ายทั้งหลายไม่เคยใช้คริสตัลเป็นรางวัลมอบหมายให้ใคร อีกทั้งเหล่าผู้รอดชีวิตธรรมดาก็ไม่รู้ด้วยคริสตัลมีไว้ทำอะไร

 

ผู้คนในกลุ่มต่างรู้ดีว่าชูฮันสามารถหาคริสตัลได้จำนวนมากขนาดไหนต่อวัน ไม่ว่าคริสตัลพวกนี้จะเป็นอะไร แต่ค่ายใหญ่ๆทั้งหลายต่างกำลังเก็บรวบรวมมันเป็นจำนวนใหญ่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี

 

“นาย นายนี่มัน!” หลูปิงเซ่อพูดอะไรไม่ออกอย่างสิ้นเชิง มันเป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นคนแบบนี้ และเพราะเช่นนั้นหลูปิงเซ่อจึงตัดชูฮันออกจากคนที่น่าสงสัยทันที ด้วยเพราะคนแบบนี้ไม่น่าจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงอย่างชูฮันได้

 

กลุ่มคนเดินย้อนกลับไป หวังไคก็ตะโกนขึ้นในหัวชูฮัน “นายขโมยชื่อฉัน ไอ้คนโกหก!”

 

“ไม่มีอะไรต้องโกหก” ชูฮันพูดน้ำเสียงจริงจัง “ฉันบอกว่าชื่อหวังไค ไม่ได้บอกว่ามันคือชื่อฉัน ฉันบอกว่าฉันไม่ได้เข้าร่วมการทดสอบ ก็นายก็ไม่ได้เข้าร่วมการทดสอบจริงๆ เพราะคนที่เข้าร่วมการทดสอบคือพ่อมึงไง”

 

หวังไคถึงกับตะลึงงัน ทำไมชูฮันถึงใช้ช่องโหว่ทางภาษามาพูดแบบนี้?

 

และในขณะที่ผู้คนเริ่มสัมผัสได้ถึงลมเย็นของฤดูใบไม้ผลิ บางคนก็กลับไปอย่างขื่นขมกับความผิดหวัง หากหมู่บ้านที่พวกเขาออกเดินทางจากมาในตอนนี้กำลังจะเผชิญหน้ากับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ