“ข้ารู้สึกเหมือนมันส่งผลกระทบให้ข้ารู้สึกช้าแปลกๆ” นาหลันฮงวูขมวดคิ้ว
“ท่านรู้สึกอย่างไร? มันเป็นยังไงบ้าง?” จุนหยางชีเอ่ยถามอย่างสนใจ
“พลังนี้มันอยู่ในร่างกายของข้าและมันกำลังกระจาายไปทั่ว ไม่รู้จะบรรยายยังไงคงต้องรอให้มันหายไปเอง” นาหลันฮงวูเอ่ย
“ท่านเอามันออกไม่ได้หรือ!?” หลันโมพูดอย่างสงสัย “เทคนิคหรือพลังภายในของท่านอาจน้อยกว่าพวกข้า ให้พวกข้าลองดูสิ!”
แทนที่จะทำทำให้เกิดบาดแผลเขาเลือกที่จะนำตรีศูลมาตีีที่แขนของเขา .. เขาพบว่าตรีศูลเกิดผลช้ากว่าการทำให้เกิดบาดแผลโดยตรง แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่ออกฤทธิ์เลย
พลังประหลาดค่อยๆ เข้าสู่ร่างกายของเขาช้าๆ มันให้ความรู้สึกเหมือนคำสาป จากนั้นเขาลองขยับร่างกายและพบว่ามันช้าลง
“เจ้ารู้สึกอย่างไร?”
“มันแปลก .. มาก .. รู้สึก” หลันโมเบลอเขารู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขาขนานเข้ากับพลังนี้ มันกำลังต่อต้านกันเล็กน้อย
ทันใดนั้นจิตวิญญาณที่หลั่งไหลขนานกันพุ่งออกจากบริเวณแกนกลางภายในร่างกาย นั่นทำให้ร่างกายของเขากลับมาเคลื่อนไหวเหมือนเดิมอีกครั้ง
“ประทับตา .. พังทะลายพลังอันบริสุทธิ์” แสงส่องจ้าออกมาจากดวงตาของเขาในขณะที่เขาตะโกน
“เป็นไงบ้างละ!?” นาหลันฮงวูถาม
หลันโมสูดหายใจเข้าเต็มปอด “หากข้าเป็นคนธรรมดาไม่มีพลังข้าคงโดนทำลายร่างไปแล้ว มันเป็นสิ่งที่มีพลังงานมาก!”
นาหลันฮงวูหัวเราะ “เจ้ารู้มั้ยว่าทำไมข้าถึงเลือกสิ่งนี้”
เขาชี้นิ้วไปที่ตรีศูลทองคำในมือหลันโม “ข้าสามารถกำจัดปีศาจและเหล่าสัตว์ประหลาดด้วยสิ่งนี้ ดังตำนานในเกมได้เล่าขานไว้!”
บุเชเลือกของรางวันเป็นหมวกหมาป่าสีขาวที่หายากพร้อมออร่าสีเหลืองเปล่งประกายรายล้อมแถมยังเพิ่มระดับทักษะพื้นฐานของดรูอิดอีกด้วย
นับว่าเป็นของหายากที่มีค่าที่สุดที่เขาสามารถหาได้เลยก็ว่าได้ ..
ตอนนี้พวกเขากำลังทดลองพลังกันอย่างสนุกสนาน หวังใต้เองที่อยู่ตรงนั้นหยิบไม้เท้าขึ้นมาและเสกคาถาดินปั้นออกมา
“นั้นมันโกเล็มดินปั้น!” ผู้คนทั้งหมดอ้าปากค้างเมื่อเห็นสัตว์ประหลาดกำลังเดินอยู่นอกร้าน “ชิบ!”
บุเชเองวิ่งออกจากร้านแล้วตะโกนขึ้น “เปลวไฟของข้า!” เขายกมือขึ้นเพลิงไฟปรากฏขึ้นเป็นรูปงูยักษ์!
“โอ้ย ของเจ้าน่ะชั่งอ่อน!” ซงฉิงเฟิงพุ่งตัวไปที่โกเล็มดินปั้น “ดูข้า ข้าจะใช้เทคนิคดาบแห่งวิญญาณนักบวช! ดาบหนึ่ง ดาบสอง ดาบสาม”
ในขณะที่เขากำลังใช้เทคนิคดาบที่ค่อยๆ ขยายออกทีละหนึ่ง พลังของดาบย่อส่งผลให้โกเล็มได้รับบาดแผลลึก
“ทำไมเจ้าถึงสามารถใช้เทคนิคดาบแห่งวิญญาณนักบวชได้!?” ผู้ปลูกฝังหลายคนงุนงง
“ในช่วงสองสามตอนสุดท้ายของละครเรื่องขี่พายุทะลุฟ้า มีการเล่าว่าในที่สุดบูจิงหยุนก็ได้รับม้วนหนังสือที่มีการบันทึกเกี่ยวกับเทคนิคดาบแห่งวิญญาณนักบวชไว้!” ซงฉิงเฟิงใช้เทคนิคอย่างประณีตและต่อเนื่อง
“ดูข้าสิ!” เจียงเสี่ยวหยูรีบวิ่งออกจากร้านด้วยดาบไม้ในมือของเธออย่างกระตือรือร้นและเปล่งเสียงตะโกนออกมาว่า “เทคนิคการควบคุมดาบ!”
เงาของดาบไม้กำลังพุ่งออกไปมันเจาะเข้าที่หัวของโกเล็มดินปั้นอย่างจัง!
แกร่ก! แตก!
โกเล็มดินปั้นถึงกับทรุดตัวลงกองกับพื้นบนเปลวไฟ
หวังใต้มองดูโกเล็มที่เขาเพิ่งเรียกออกมาเมื่อสิบวิก่อน .. เขาพูดไม่ออก
“ไม่มีสิ่งใดสามารถแข่งขันกับตรีศูลทองคำของข้าได้!” นาหลันฮงวูโบกตรีศูลของเขาอย่างสง่างาม
“พอแล้ว!” ฟางฉีทำหน้าเพลียขณะที่สายตาของเขามองไปที่พื้นถนน “พวกท่านกำลังทำลายพื้นดิน!”
“มาเลย ข้าจะศึกษาอย่างระมัดระวัง!” จุนหยางชี, เทียนเฟงฉีและตวนบูยี่ เกิดความร้อนวิชาในดวงตา สำหรับพวกเขาสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ทรงพลังก็จริงแต่อาจยังไม่มากเท่าตรีศูลทองคำ เพราะในตอนนี้สิ่งที่สัมผัสได้แม้แต่ตาเปล่าก็รู้สึกได้ว่าตรีศูลในตอนนี้คือที่สุด มันมีพลังและประสิทธิภาพมาก!
สำหรับคุณสมบัติอื่นๆ ไม่ได้ประสิทธิภาพหรือความแตกต่างเท่านี้ แถมสิ่งนี้ยังเป็นเอกลักษณ์อย่างมากอีกทั้งมันยังทำให้ความคิดของพวกเขาแตกซ่านเพิ่มขึ้นอีกด้วย
วงการการประดิษฐ์จะต้องสั่นสะเทือน!
“อย่างไรก็ตาม ..” นาหลันฮงวูดึงจุนหยางชีไปข้างๆ เขาพลางกระซิบ “ถ้าสิ่งเหล่านี้เลียนแบบหรือประดิษฐ์ขึ้นง่ายอย่างที่พวกเจ้ากล่าว แล้วมันจะปลอดภัยมั้ย!?”
ในฐานะผู้นำครอบครัวใหญ่มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาที่จะต้องพิจารณาหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อความรอบครอบ เช่นเขาเองกังวลว่าศัตรูของพวกเขาจะสามารถเลียนแบบอาวุธเหล่านี้ได้เช่นกัน
เขาจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น!
“อย่าประมาทพวกเขาสิ!” จุนหยางชีชี้ไปที่ตรีศูลและพูดด้วยเสียงหัวเราะ “ข้าได้ศึกษาแล้วพบว่ามีการป้องกันอย่างลึกลับบนอาวุธและรูนนั้น”
“มันถูกสร้างขึ้นในโลกที่กำลังจะถูกทำลายและไม่มีใครสนใจที่จะลอกเลียนหรอก!” จุนหยางชีกล่าวต่อว่า “แน่นอนสิ่งต่างๆ เช่นวัสดุพื้นฐานของผู้ดูแลหรือผู้สร้างจะต้องใช้เวลานานหรือเกือบตลอดชีวิจเพื่อทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมเจ้าบอกว่าเจ้าทำได้ละ!?” นาหลันฮงวูขมวดคิ้ว
จุนหยางชีหัวเราะ “ทันคิดว่าเฮารันใช้เวลาใน Diablo มานานแค่ไหน!?”
“แล้วเขาทำอะไร!?”
“เขาถูกถามเกี่ยวกับวิธีการใช้งานพื้นฐานของการใช้รูน” จุนหยางชีตอบ “ในตอนแรกช่างตีเหล็กและนักเวทย์จะไม่พูดแต่เมื่อถามไปถามมาพวกเขาจึงเริ่มเล่าสิ่งต่างๆ”
“เมื่อเฮารันเข้าสู่โลกของพวกเขาอย่างจริงจัง เขาจึงได้เรียนรู้การสอนจากช่างตีเหล็ก การสอนของพวกเขาหากเราสามารถทำความเข้าใจด้วยหัวใจ ไม่ว่าจะฉลาดแค่ไหนหากปราศจากหัวใจและความอดทนก็จะไม่มีวันเข้าใจ!”
“…” นาหลันฮงวู
“ในอนาคตของกลุ่มพันธมิตรวู่เว้ยของเรา เราจะต้องแกะสลักรอยจิตวิญญาณเพื่อป้องกันไม่ให้กองกำลังอื่นทำการคัดลอกไปได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องในโคงการนี้ล้วนเป็นเหล่าสมาชิกแกนหลักของแต่ละฝ่าย พวกเขาจะต้องเซ็นสัญญาในระดับสูงก่อนที่จะได้รับการเข้าร่วม ข้าทำสิ่งนี้มาหลายร้อยปีแล้ว ข้าจะไปพลาดได้อย่างไร?” จุนหยางชีพูดอย่างลึกลับ “ข้าจะทำสัญญากับท่านจะไม่มีใครสามารถเลียนแบบสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ได้!”
พวกเขายิ้มให้กันอย่างมีเล่ห์นัย
ในขณะที่จุนหยางชีพยักหน้าเพื่อรับสาร เขาหันไปหาหลันโมที่ยืนข้างๆ “พี่อาวุโส เราสามารถอันเชิญผู้ชำนาญการวัตถุโบราณได้มั้ยในตอนนี้!”
“เราจะมีโครงการสร้างสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณใหม่และศึกษาเรื่องรูนใน Diablo อีกทั้งยังทำการฝึกฝนเทคนิคต่างๆ อีก โอ้ยข้าละลรอไม่ไหวที่จะได้เห็นโครงการเติบโต” นาหลันฮงวูหัวเราะพร้อมพูดด้วยแววตาเปล่งประกาย