ตอนที่ 1584 : เบาะแส

ระบบเจ้าสำนัก

ตอนที่ 1584 : เบาะแส

 

“ อาจารย์เหยียนหลัว คุณมั่นใจเหรอว่ามันคือความจริง ?” ชายแก่หนวดขาวถามขึ้นมา

 

แม้ว่าชายแก่คนนี้จะอ่อนแอแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีอํานาจ เขาคือผู้นําทางจิตวิญญาณของอารยธรรมมนุษย์โลก และเป็นผู้อาวุโสที่ทุกคนวางใจ

 

ทุกคนต่างก็มองไปที่อาจารย์เหยียนหลัวด้วยสีหน้าหนักใจ บางคนแสดงสายตากังวลออกมาเรื่องนี้คือเรื่องที่พวกเขาคาดไม่ถึงกันจริงๆ

 

พูดได้ว่าเรื่องนี้อาจจะส่งผลต่อชะตาของพวกเขาทั้งหมด

 

อาจารย์เหยียนหลัวถอนหายใจออกมาและพูดขึ้น “ ผมยืนยันเรื่องนี้กับ ฮั่วเยี่ยนหลายครั้งแล้วไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือความจริง”

 

* ยั่วเยี่ยน เด็กนั่น…เขาลืมสิ่งที่เขาต้องรับผิดชอบไปแล้วรึไง ? ทําไมถึงได้ทําตัวไร้สาระแบบ

 

“ นี่คือสิ่งที่เขาตอบแทนเราทั้งๆที่เราให้ทรัพยากรกับเขาเพื่อที่เขาจะแบกรับความหวังของทุกคนงั้นเหรอ ?”

 

“ เผ่าเทลคอส นั่นคือเผ่าที่ปกครองอารยธรรมระดับ 7 เชียวนะ! แม้ว่าพวกเขาจะไม่จัดการกับพวกเรา แต่ก็ต้องมีพวกที่อยากจะเอาใจพวกนั้นคิดจะลงมือกับพวกเราเป็นแน่ ! “

 

“ ใช่ อารยธรรมมนุษย์โลกก็ลําบากกันอยู่แล้ว หากต้องเจอกับแรงกดดันแบบนี้ต่อไป งั้นทุกอย่างก็จะยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่ได้ทําให้อารยธรรมของเราล่มสลาย แต่ความหวังที่จะฟื้นฟูคงหายไปแน่”

 

หลายคนแสดงความไม่พอใจออกมา พวกเขาเอาความคาดหวังไปไว้ที่ยั่วเยี่ยน ตอนนี้ยั่วเยี่ยนไม่เพียงแต่ไม่ทําตามที่พวกเขาต้องการ ทั้งยังสร้างปัญหาขึ้นมาอีก และยังเป็นปัญหาที่อาจจะส่งผลต่ออารยธรรมมนุษย์โลกเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่พอใจ

 

บางคนถึงกับโทษยั่วเยี่ยน บางคนก็ออกตัวแทนฮั่วเยี่ยน

 

“ พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ยังไงซะ ยั่วเยี่ยนก็อายุแค่ 17 ปี เราคงขอให้เขาทําตามที่เราต้องการทั้งหมดไม่ได้”

 

“ อายุ 17 ปีก็ต้องสนใจในเรื่องรักใคร่อยู่แล้ว ตอนอายุเท่าเขา เราก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่รึไง ?”

 

“ สําหรับฉันแล้วคนที่ผิดคือผู้หญิงคนนั้น ถ้าเธอไม่เข้ารับการทดสอบ พวกเราคงไม่ตกที่นั่งลําบากกันหรอก”

 

ต่างฝ่ายต่างก็บอกว่าตัวเองถูก ไม่มีใครโน้มน้าวอีกฝ่ายได้

 

อาจารย์เหยียนหลัวขมวดคิ้วก่อนจะตบโต๊ะแล้วพูดขึ้นมา “ พอได้แล้ว ที่เปิดการประชุมขึ้นมาไม่ได้จะมาหาว่าใครผิดใครถูก แต่ต้องการให้ทุกคนช่วยกันระดมความคิดหาทางรับมือ พวกเราจะจัดการกับหายนะนี้ยังไง? นี่คือเหตุผลในการเรียกประชุมครั้งนี้ ”

 

เมื่อได้ยินคําว่า “หายนะ” ทุกคนก็ได้แต่กังวลขึ้นมา แม้ว่าในทางทฤษฎีแล้วจะไม่มีอันตรายต่ออารยธรรมมนุษย์โลก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่สูญเสียอะไร

 

ยิ่งไปกว่านั้นฐานะของฮั่วเยี่ยนก็พิเศษ เขาคือความหวังที่จะฟื้นฟูอารยธรรมมนุษย์โลกขึ้นมา

 

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นบุคคลที่โดดเด่นที่สุดในอารยธรรมมนุษย์ แม้กระทั่งในหมู่พวกเขายังมีบางคนที่ทรงพลังมากจนสามารถกวาดล้างดาวเคราะห์แคระได้ แต่ทว่าวิกฤตนี้มาจากเผ่าเทลคอสเผ่าที่ควบคุมอารยธรรมระดับ 7 นั้นคือตัวตนที่พวกเขาได้แต่แหงนหน้ามอง ต้องมาเผชิญหน้ากับ ตัวตนที่ทรงอํานาจเช่นนี้แล้วพวกเขาจะรับมือกันยังไง?

 

“ เอาจริงๆแล้วมันไม่มีประโยชน์ที่พวกเราจะมาวางแผนรับมือ” ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้นมา “ เพราะในสายตาของเผ่าเทลคอสแล้ว เราไม่ต่างอะไรจากมดปลวกเลย พวกนั้นจะสนใจความคิดและการกระทําของมดรึไง ? ”

 

คําพูดนี้ทุกคนต่างก็พากันเห็นด้วย

 

ทุกคนเข้าใจดีว่ายิ่งอารยธรรมสูงเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งจะสนใจอารยธรรมต่ํากว่าน้อยลงเท่านั้น

 

“ ชะตาของพวกเรานั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราอีกต่อไปแต่มันขึ้นอยู่กับความคิดของเผ่าเทลคอส ”ผู้อาวุโสอีกคนพูดขึ้น

 

ประโยคสั้นๆแต่กลับมีความหมายที่น่าปวดใจ

 

ทุกคนรู้สึกไร้พลังที่จะต้านทานกับหายนะครั้งนี้

 

“ แล้วยั่วเยี่ยนอยู่ไหน ?” ชายแก่หนวดขาวถามขึ้นมา

 

“ ผมให้เขาไปพัก” อาจารย์เหยียนหลัวตอบกลับ

 

ชายแก่พยักหน้าและพูดขึ้นมา “ เรื่องนี้เขาเป็นคนก่อขึ้น หากเกิดเรื่องแย่ๆขึ้นมา เขาก็ต้องแบกรับเอาไว้ นายไปบอกเขาเอาไว้ด้วย เราจะไม่ตัดขาดทรัพยากรให้กับเขาแต่หากต้องให้เลือกระหว่างอารยธรรมของเรากับเขาแล้ว เราเลือกจะทิ้งเขา”

 

อาจารย์เหยียนหลัวใจหล่นวูบ สายตาของเขาหม่นลงไปทันที “ ผมเข้าใจแล้ว”

 

ยั่วเยี่ยนต้องรับผิดชอบกับเรื่องที่ตัวเองก่อเอาไว้แม้ว่าจะหนักหนาแค่ไหนก็ตาม

 

ที่เผ่ามองคอร์

 

หลังจากที่ฮาร์วี่ตัดการเชื่อมต่อแล้ว เขาก็ได้ออกไปสอบถามข่าวของโกโก้เหวย อย่างที่เขาคาดเอาไว้ โกโก้เหวยได้ออกจากเผ่ามองคอร์ไปแล้ว

 

“ ลูกสาวของนักรบคอสมิคกลับโง่เง่าแบบนี้ได้ ” ฮาร์วี่ส่ายหน้า เขารู้สึกผิดหวัง “ เพื่อคนต่ําต้อยจากอารยธรรมที่ตกต่ํา เธอกลับยอมเข้ารับการทดสอบ นี่คือการกระทําที่โง่เง่าจริงๆ”

 

“ กับความรักมันคุ้มค่ารึไง ?”

 

เพื่อความรักก็ต้องรับความเสี่ยงขนาดนี้เลยรี?

 

แน่นอนว่าหากโกโก้เหวยเข้าร่วมการทดสอบเพื่อเขา งั้นความคิดของเขาก็อาจจะต่างออกไป

 

“ เรื่องนี้มันน่าตลกสิ้นดี เด็กจากอารยธรรมระดับต่ํากับลูกสาวของนักรบคอสมิคจากอารยธรรมระดับ 7 นี่คือเรื่องตลกสิ้นดี !” ฮาร์วี่แสยะยิ้มออกมา เขารู้สึกว่าหากเผยแพร่เรื่องนี้ออกไปคงมีหลายคนที่ชอบมันเขาสงสัยว่าจะมีสักกี่คนที่มองมันว่าเป็นเรื่องตลก

 

เมื่อคิดแบบนั้นฮาร์วี่ก็คิดจะเผยแพร่เรื่องนี้กับคนอื่นๆ เพื่อที่คนอื่นๆจะได้หัวเราะเยาะยั่วเยี่ยนคละ

 

ในฐานะคนที่ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ที่ทั้งสองรู้จักกันจนกระทั่งรักกันแล้ว ฮาร์วี่ไม่มีทางจะลืมรายละเอียดต่างๆได้ เขาแค่ต้องอธิบายสิ่งที่เขาเห็น ความจริงของเรื่องนี้ต้องทําให้คนสนใจแน่ๆ

 

“ แต่หากอธิบายเรื่องนี้ละเอียดจนเกินไปก็คงไม่ดี ไม่งั้นแล้วก็คงรู้ได้ง่ายว่าเรื่องนี้เผยแพร่มาจากใคร”

 

ฮาร์วีไม่อยากรองรับความโกรธของเผ่าเทลคอส ยังไงซะเรื่องนี้ก็ส่งผลกระทบต่ อภาพลักษณ์ของเผ่าเทลคอส

 

“ ฉันต้องหาคนอื่นมาเผยแพร่เรื่องนี้เพื่อที่ฉันจะไม่ติดร่างแหไปด้วย”

 

ไม่นานฮาร์วี่ก็เขียนหัวข้อเรื่อง ยั่วเยี่ยนและโกโก้เหวย” เสร็จ

 

เมื่ออ่านข้อความที่เขาเขียนขึ้นมา ฮาร์วี่ก็พอใจอย่างมาก เรื่องนี้ถูกเขียนจากมุมมองของคนนอกอธิบายถึงคนที่ต่ําต้อยกับหญิงผู้สูงศักดิ์ รายละเอียดนี้พูดถึงต้นกําเนิดของยั่วเยี่ยนรวม ถึงตํานานที่ยั่วเยี่ยนแต่งขึ้นมาอย่าง เทพฝานกู้, หนีวา, ไท่อีและคนอื่นๆ รวมถึงอารยธรรมมนุษย์โลกที่เคยรุ่งโรจน์ แต่ในเรื่องนี้กลับมีคําเยาะเย้ยกับความเพ้อฝันของยั่วเยี่ยน ในส่วนสุดท้ายของข้อความนี้บอกถึงการที่คนต่ําต้อยแบบนี้กลับได้ความรักจากหญิงผู้สูงศักดิ์จนทําให้เธอเลือกที่จะเข้าร่วมการทดสอบ

 

ในเรื่องนี้โกโก้เหวยคือเหยื่อ เธอเป็นเด็กสาวผู้โดนหลอก

 

หลังจากที่ยืนยันได้ว่าข้อมูลไม่ผิดพลาด ฮาร์วี่ก็ได้ส่งคนไปติดต่อกับสมาคมเล็กๆที่พอมีเชื่อเสียอยู่บ้างเพื่อเผยแพร่ข้อมูล เขาได้เสนอรางวัลที่อีกฝ่ายไม่อาจจะปฏิเสธได้กับการเผยแพร่เรื่องนี้ในชื่อของอีกฝ่าย

 

เครือข่ายคอสมิคนี้ไม่ใช่เครือข่ายที่เชื่อมต่อทั้งจักรวาล ปัจจุบันนี้จักรวาลหยวนชูยังไม่ได้สร้างเครือข่ายที่สามารถเชื่อมต่อกันทั้งจักรวาลได้ มันครอบคลุมแค่พื้นที่เล็กๆ โดยทั่วไปแล้วเมืองในโลกเสมือนจริงเป็นตัวแทนของเครือข่ายคอสมิคขนาดเล็ก อารยธรรมระดับ 7 หนึ่งแห่งสามารถควบคุมเครือข่ายคอสมิคเล็กๆได้หลายพันแห่ง อารยธรรมระดับ 8 นั้นจะมีเครือข่ายแบบนี้เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

 

องค์กรที่ฮาร์วี่จ้างนั้นคือองค์กรที่โด่งดังในหมู่เครือข่ายคอสมิคขนาดเล็ก แม้ว่าจะห่างไกลจากจักรวาลหยวนชู แต่ก็ครอบคลุมเครือข่ายคอสมิคขนาดเล็กที่อารยธรรมระดับ 7 หลายแห่งควบคุม

 

วันต่อมาชายที่ชื่อมิเชลก็เริ่มลงมือ ภายใน 3 วันเขาก็ได้เผยแพร่เรื่องนี้ลงไปในเครือข่ายขนาดเล็กกว่าหลายร้อยแห่ง ด้วยชื่อเสียงของเขากับเรื่องที่ดูทั้งจริงและเท็จนั้นจึงทําให้เกิดการแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

 

เผ่าเทลคอสอดไม่ได้ที่จะโมโหกับเรื่องนี้ “ใครเป็นคนเผยแพร่เรื่องนี้ !”

 

“ นี่มันทําให้เผ่าเทลคอสต้องเสียเกียรติ !”

 

เผ่าเทลคอสโกรธจัด เมื่อเห็นว่าเรื่องนี้เผยแพร่ไปทั่วเครือข่ายคอสมิคของตนและเครือข่ายคอสมิคของที่อื่น โดอันคิดว่าลูกของเขาโดนเด็กที่ชื่อยั่วเยี่ยนหลอก เมื่อได้อ่านบทความนี้ก็ทําให้เขารังเกียจยั่วเยี่ยนมากกว่าเดิม

 

“บอกหัวหน้าเผ่าว่าฉันจะไปที่กาแล็คซี่เมฆทมิฬ” โดอันได้บอกกับทุกคนก่อนจะเดินทางออกมา

 

เรื่องนี้มันเกินกว่าที่ฮาร์วี่คาดเอาไว้

 

ในเวลาเดียวกันเผ่าเทลคอสก็ได้ทําการตรวจสอบทันทีว่าใครกันที่ปล่อยเรื่องนี้ออกมา

 

ที่อารยธรรมเอล หนึ่งในอารยธรรมระดับ 7

 

อารยธรรมเอลและอารยธรรมเทลคอสนั้นอยู่ห่างไกลกัน นอกจากนี้ยังมีดาวเคราะห์อยู่อีกหลายดวงคั่นกลางระหว่างทั้งสอง การจะเดินทางไปมาระหว่างสองอารยธรรมนั้นจะต้องใช้เวลาอย่างมาก ในขณะที่เผ่าเทลคอสทําการตรวจสอบว่าใครกันที่ปล่อยเรื่องนี้ออกมา อารยธรรมเอลก็ได้รับคําสั่งจากอารยธรรมระดับ 8 เรื่องการตามหาระบบสุริยะ

 

อารยธรรมเอลรีบทําการค้นหาข้อมูลและส่งยอดฝีมือที่แข็งแกร่งอย่างนักรบคอสมิ คและนักรบหลุมดําออกไปเพื่อตามหาข้อมูลเกี่ยวกับระบบสุริยะในดาวเคราะห์ของพวกเขา

 

ตอนที่ทูตจากอารยธรรมระดับ 8 กําลังจะเดินทางไปยังอารยธรรมระดับ 7 แห่งอื่นนั้น อยู่ๆพวกเขาก็ได้ยินเรื่องราวจากเครือข่ายย่อยหมายเลข 89 หนึ่งในคําสําคัญที่ทําให้พวกเขาสนใจก็คือในเรื่องนี้กลับมีคําว่าสุริยะอยู่ด้วย ในบรรดาคีย์เวิรด์ที่ทางพันธมิตรให้พวกเขามามีค “ว่า “สุริยะ”

 

“ เร็วเข้า รีบไปตรวจสอบที่มาของเรื่องนี้ !” เมื่อได้รับรายงานจากคนที่ดูแลข้อมูลของอารยธรรมเอล ผู้ดูแลอารยธรรมเอลก็ได้สั่งการลงไปทันที

 

ไม่นานพวกเขาก็หาตัวมิเชลเจอ

 

ผู้ดูแลอารยธรรมเอลได้รายงานเรื่องนี้กับทูตจากอารยธรรมระดับ 8 ทันที

 

ในขณะเดียวกันมิเชลก็กําลังนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาในห้องทํางาน ในมือของเขาถือแก้วไวน์พร้อมกับรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์

 

เขาค่อยๆดื่มไวน์และส่ายหน้าก่อนจะพูดขึ้น “ฮีซี่ พอจัดการเรื่องนี้เสร็จ ฉันคงนอนสบายไปอีกสักพัก”