ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 250 เขาสกัดหล่อนตรงหน้าประตู
เส้นหมี่อยู่ในห้องนอนชั้นล่างเป็นเวลานาน
หล่อนนิ่งมองฝ่ามือที่เปื้อนเลือดของหล่อนเป็นเวลานาน หล่อนตกอยู่ในภวังค์ คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้เป็นแค่ความฝัน
เป็นเรื่องที่หล่อนไม่คาดคิดมาก่อน
ว่าเขาจะลงมือกับผู้หญิงคนนั้นเพื่อหล่อน
อารมณ์ของเส้นหมี่สับสนไปหมด แต่สุดท้ายหล่อนก็เดินไปล้างแผลในห้องน้ำ
“แด๊ดดี้มาแล้ว มือหม่ามี๊ได้รับบาดเจ็บ แด๊ดดี้จะไปเอากล่องยามาทำแผลให้หม่ามี๊ไหม?”
“หม่ามี๊ยังไม่ไปเอาเหรอ?”
จู่ๆก็มีเสียงผู้ชายดังขึ้นมาจากนอกประตู ทำเอาเส้นหมี่ตกอกตกใจกันไปหมด และหล่อนรีบใช้น้ำล้างแผลแล้วเดินออกมา
“ไม่ต้องไปเอาแล้ว ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก”
หล่อนยืนเออะอะๆอยู่หน้าประตูห้องครู่หนึ่ง ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น หล่อนกำมือแน่นและพูดด้วยความตื่นตระหนก
พูดเล่น แผลนี้เกิดจากเล็บของหล่อนเอง ตอนที่ถูกผู้หญิงคนนั้นยั่วยุ ถ้าแสนรักรู้เข้า เขาจะไม่หัวเราะเยาะหล่อนเหรอ?
เส้นหมี่คิดแน่นแน่แล้วว่า ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องผลักผู้ชายคนนี้ออกไปให้ได้
แต่แสนรักที่กำลังเดินขึ้นมาก็ขมวดคิ้วทันทีหลังจากได้ยินเสียงลูกชายพูดคำนี้: “ขึ้นไปเอากล่องยากับพี่ชายที่ชั้นบน”
“ได้ครับแด๊ดดี้”
คิวคิวเต็มใจทำเรื่องนี้มาก เขาตอบอย่างเสียงดังก้อง จากนั้นเขากับพี่ชายสองคนก็เดินขึ้นไปเอากล่องยาที่ห้องหนังสือของพ่อชั้นบน
เส้นหมี่:“……”
เดิมทีหล่อนตั้งใจจะผลักเขาออกไป แต่ทำได้เพียงมองดูเขาเดินเข้ามา
“จะยืนอยู่ที่นี่ทำอะไรหล่ะ?” ยังไม่เข้าไปข้างในอีก?”
“……”
เส้นหมี่หลบแล้วเดินตามเข้าไปข้างใน
พระอาทิตย์ยามเช้าส่องแสงเจิดจ้า แสงที่ส่องเข้ามาจากทางหน้าต่าง ทำให้ห้องนอนเต็มไปด้วยความอบอุ่น และทำให้คนรู้สึกสบาย
เส้นหมี่ในตอนนี้กลับแข็งกระด้าง
เขาขึ้นมาทำไม? และยังให้ลูกๆไปหยิบกล่องยามาอีก เขาคงไม่ใช่จะมาทำแผลให้หล่อนหรอกนะ?
เส้นหมี่ตัวสั่นไปทั้งตัว แต่สมองบอกว่า เป็นไปไม่ได้!
แต่ความจริงคือ หลังจากที่เด็กสองคนข้างนอกเอากกล่องยาเข้ามา ผู้ชายคนนี้ถือกล่องยาแล้วเดินมาหหล่อนจริงๆ
“ยื่นมือออกมา” แสนรักเอ่ยปากอย่างเย็นชา
เขาอารมณ์ไม่ดีเลยแม้แต่น้อย
ผู้หญิงที่สมควรตายคนนี้ เมื่อก่อนตอนอยู่กับเขาเก่งกว่านี้ไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมตอนอยู่ในมือของคนอื่นกลับขี้ขลาดได้ถึงขนาดนี้
เมื่อกี้ถ้าเขามาไม่ทัน พวกหล่อนสองแม่ลูกคงถูกรังแกจนยับเยินไปแล้วแน่ๆ
ในใจแสนรักลุกเป็นไฟ มองดูผู้หญิงคนนี้ที่หยุดนิ่งและจ้องมองเขาเหมือนคนโง่ เขาเส้นเลือดปูดด้วยความโกรธ จากนั้นก็ดึงมือหล่อนเข้ามา
“โอ้ยย เจ็บ” ในที่สุดเส้นหมี่ก็รู้สึกเจ็บและร้องออกมา
“เจ็บเหรอ? เธอยังรู้สึกเจ็บเป็นอีกเหรอ?”
สีหน้าผู้ชายที่หมองหม่นหัวเราะอย่างเย็นชา: “ฉันคิดว่าระบบประสาทของเธอพิการไปแล้วซะอีก”
เส้นหมี่:“……”
พูดคำนี้ออกมาได้ไง
แต่ในไม่ช้าหล่อนก็พบว่า คำพูดที่ดูเย็นชาของผู้ชายคนนี้ เมื่อเขาจับมือหล่อนและเห็นบาดแผลตรงฝ่ามือ ดวงตาสีดำเหมือนคิวคิวก็ค่อยๆหดตัวลงและการกระทำของเขาก็ดูอ่อนโยนขึ้นมาก
เส้นหมี่ตกตะลึง
ในใจของหล่อนราวกับคลื่นลูกใหญ่กำลังก่อตัวขึ้น หล่อนมองดูผู้ชายคนนี้ที่กำลังทำแผลอย่างจริงจัง หล่อนรู้สึกเหมือนกำลังฝัน
หล่อนไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างนี้จากเขามาก่อน และไม่เคยคิดว่าจะมีสักวันที่เขาจะอ่อนโยนกับหล่อนด้วยซ้ำ
นี่เป็นภาพหลอนที่หล่อนคิดไปเองงั้นเหรอ?
เส้นหมี่มึนงงมากขึ้น
“ด่าจนโง่ไปเลยเหรอ?”
ในที่สุดแสนรักก็ทำแผลเสร็จ และเหลือบมองไปที่ผู้หญิงคนนี้ พบว่าหล่อนยังคงจ้องมองเขาอย่างเหม่อลอยเหมือนคนโง่ เขาทนไม่ได้ที่นึกเกลียดหล่อนขึ้นมาอีกครั้ง
แต่นั้นเป็นเพียงแค่ความรังเกียจเท่านั้น
เขาไม่แสดงอาการขยะแขยงและอาการใจร้อนเหมือนเมื่อก่อน รวมถึงอาการโมโหเมื่อได้เข้าใกล้ผู้หญิงคนนี้ ตอนนี้อาการทุกอย่างก็หายไป
มีเพียงสายตาที่ดูถูก
แต่ความอ่อนโยนภายในนั้นก็ไม่สามารถปกปิดได้
ในที่สุดสติเส้นหมี่ก็กลับมา และรีบดึงมือกลับทันที ราวกับโดนไฟฟ้าช็อต: “ไม่… ไม่เป็นอะไรใช่แล้ว จู่ๆทำไมกลับมาได้ล่ะ? วันนี้บริษัทงานยุ่งไม่ใช่เหรอ?
หล่อนจงใจเปลี่ยนเรื่องพูด
ไม่คาดคิดว่าผู้ชายคนนี้จะยิ้มอย่างเย็นชาอีกครั้ง: “ดูไม่ออกเหรอว่าฉันตั้งใจกลับมาเพื่อช่วยชีวิตเธอโดยเฉพาะ เส้นหมี่ปกติเธอก็เก่งไม่ใช่เหรอ? แถมยังอวดเก่งกับฉันอีก คราวนี้เป็นอะไรไปหล่ะ? ทำไมถึงขี้ขลาดหล่ะ?
เส้นหมี่:“……”
นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่เธอขี้ขลาดหรือไม่ขี้ขลาด แต่เป็นคำพูดของเขาที่น่าหวาดกลัว
หล่อนมีดีอะไร? ยังก่อเรื่องให้เขากลับมาช่วยหล่อน
เส้นหมี่กลืนน้ำลาย เวลาผ่านไปนานมากถึงได้ยินเสียงตัวเองตอบ: “ ที่…ที่ไหนกัน? ฉันกำลังจะตอบโต้กลับ แต่เธอก็เข้ามาพอดีต่างหาก”
“เหอะ…เหอะ…”
แสนรักไม่มีเชื่อคำพูดหลอกๆของหล่อน
ในเมื่อหล่อนไม่ได้เป็นอะไรแล้ว เขาก็เตรียมตัวจะออกไป
“วันนี้เป็นวันปีใหม่เล็ก ช่วงค่ำๆเตรียมเฉลิมฉลองกันสักหน่อย รอฉันกลับมากินข้าวพร้อมกับลูกๆนะ”
“…อื้ม? ได้”
เส้นหมี่ตัวสั่นอีกแล้ว
หลังจากนั้น หล่อนมองดูผู้ชายคนนี้เดินออกจากประตูไป
นี่มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นตระหนกตกใจมาก!
ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นอะไรไปใช่ไหม? เขาราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาถูกวิญญาณสิงร่างใช่ไหม?
เส้นหมี่ล้มตัวนอนลงบนเตียง และกุมหัวใจที่เต้นแรงเหมือนแทบจะทะลุออกมาที่หน้าอก เป็นเวลานานมากแต่ก็ยังไม่สงบลง