แม้ว่ากระทิงสีครามจะติดตามเซนต์พิภพมาเป็นระยะเวลานาน เคยเป็นถึงสิ่งประดิษฐ์เซนต์ มีประสบการณ์และความรู้มากมาย ทว่ามันก็ยังคงช็อกกับภาพที่เห็นนี้ ตกตะลึงจนไม่สามารถที่จะสรรหาคำมาพูดได้

ผู้คนปกติธรรมดาที่ทำการบ่มเพาะทักษะจักรพรรดิพงไพรนั้น จะต้องพึ่งพาสมุนไพรวิญญาณของโลก อีกทั้งยังต้องมีร่างกายที่เหมาะสำหรับการบ่มเพาะทักษะธาตุไม้ นี่จึงจะมีความเป็นไปได้ที่จะเรียนรู้ทักษะระดับเซนต์นี้จนสำเร็จ

ทว่าเซี่ยปิงในตอนนี้นั้น มีต้นไม้โลกอยู่ในร่างกายซึ่งเป็นต้นไม้ที่ล้ำค่าและหายากของจักรวาล เรียกได้ว่าเป็นเหมือนกับบรรพบุรุษของต้นไม้นับไม่ถ้วนก็ว่าได้ มีพลังงานของธาตุไม้ที่ไม่สามารถจินตนาการได้ เป็นสิ่งที่อยู่ในระดับที่สูงอย่างเอื้อมไม่ถึง

เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วแม้แต่เซนต์พิภพเองก็ไม่เคยเห็นต้นไม้ที่หายากอย่างต้นไม้โลกนี้และคิดว่ามันสูญหายไปนานแล้วด้วยซ้ำ

สิ่งที่น่าเหลื่อเชื่อที่สุดก็คือในตัวของเขานั้นก็มีเปลวไฟแห่งชีวิตเช่นกัน นี่คือเปลวไฟแห่งสวรรค์ที่ผู้บ่มเพาะทักษะธาตุไม้จำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็โหยหามานาน เมื่อใดที่ได้ครอบครอง จากนั้นร่างกายก็จะมีพลังชีวิตที่ไร้ที่สิ้นสุด สามารถที่จะบ่มเพาะได้รวดเร็วกว่าเดิมถึงสองเท่าโดยที่ใช้ความพยายามเพียงแค่ครึ่งเดียว

เดิมทีเซนต์พิภพนั้นก็ต้องการที่จะตามหาเปลวไฟแห่งชีวิตเช่นกัน ตามหาทั่วทุกหนแห่งของจักรวาล ทว่าก็ไม่สามารถที่จะหามันได้

เพราะว่าการที่ต้องการจะครอบครองเปลวไฟแห่งสวรรค์นี้นั้น จำเป็นต้องมีโอกาส ยิ่งไปกว่ามันก็สามารถที่จะหลบซ่อนได้ รบกวนและแฝงตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม เคลื่อนย้ายไปทุกทิศทาง ต่อให้เป็นเซนต์ที่ต้องการครอบครองมันก็จำเป็นต้องมีโชคดวงที่มหาศาล

ทว่าสิ่งที่หายากทั้งสองอย่างที่ผู้บ่มเพาะธาตุไม้ต่างก็โหยหามานานนั้นกลับตกอยู่ในมือของเจ้านายมันในตอนนี้ นี่ทำให้แม้แต่กระทิงสีครามที่เคยเป็นสิ่งประดิษฐ์เซนต์ก็ต้องตกใจอย่างมาก

เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วต่อให้เป็นในช่วงที่มันรุ่งเรืองที่สุดและต่อให้มันจะเป็นสิ่งประดิษฐ์เซนต์นั้น ก็ยังคงไม่สามารถที่จะเทียบได้กับต้นไม้โลกและเปลวไฟแห่งชีวิตได้

“นี่มันช่างเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ดั่งปีศาจที่เหมาะกับการบ่มเพาะทักษะจักรพรรดิพงไพรมาก”

กระทิงสีครามช็อกอย่างต่อเนื่อง มันไม่รู้ว่าตนเองควรที่จะพูดอะไรออกมา ในช่วงเวลานี้มันคิดว่าการที่ลูกปัดพิภพนี้ตกอยู่ในมือของเจ้านายคนนี้นั้น บางทีอาจจะเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรก เป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต

หล่ง หล่ง หล่ง~

ในช่วงเวลานี้เซี่ยปิงก็ดื่มด่ำอยู่กับการบ่มเพาะทักษะจักรพรรดิพงไพรอย่างต่อเนื่อง การที่ได้รับการช่วยเหลือจากออร่าของต้นไม้โลกนั้น เขาก็รู้สึกว่าออร่านี้ดูเหมือนว่าจะครอบคลุมจักรวาล มีพลังฉีของสมุนไพรวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนทั่วทั้งจักรวาลที่รวมตัวกัน

ออร่าที่ยิ่งใหญ่และมีบารมีสูงส่งเช่นนี้ เป็นเหมือนกับแม่น้ำแยงซีเกียง ซึ่งทั้งหมดมารวมกันอยู่ในส่วนลึกของพลังเวทมนตร์ของเซี่ยปิง

ในช่วงเวลานี้เขารู้สึกว่าพลังเวทมนตร์ของตนเองเหมือนกับว่าจะท่วมท้นไปด้วยสมุนไพรวิญญาณ ขอนไม้วิญญาณ หญ้าวิญญาณและออร่าอื่นๆ ท่วมท้นไปด้วยพลังชีวิตที่เต็มเปี่ยม เป็นเหมือนกับการฟื้นฟูทุกสรรพสิ่งก็ว่าได้

ทว่าออร่าเหล่านี้ที่ได้รวมตัวกันก็ได้หลั่งไหลไปทั่วทั้งกระดูกและกล้ามเนื้อของร่างกาย เข้าไปสู่เส้นลมปราณแต่ละเส้น แม้แต่เส้นเลือดเช่นกัน ทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นไม้ เหมือนกับว่าในช่วงเวลานี้มีต้นไม้และพืชจำนวนมากที่เติบโตอยู่ภายในร่างกายของเขาก็ว่าได้

หากบางคนเข้ามาเห็นการบ่มเพาะของเซี่ยปิงในตอนนี้ พวกเขาจะต้องรู้สึกหวาดกลัว เพราะว่าผิวหนังของเซี่ยปิงในตอนนี้เป็นเหมือนกับพื้นผิวของไม้ เหมือนกับว่าสร้างมาจากเปลือกไม้ก็ว่าได้

ตอนนี้ทั่วทั้งร่างกายของเขาดูเหมือนว่าจะเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สูงตระหง่านซึ่งได้เติบโตมานานนับพันปีก็ว่าได้

ตึบ!

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ร่างกายของเซี่ยปิงก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พลังเวทมนตร์ของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นก็ได้ผสมผสานเข้ากับพลังฉีธาตุไม้

พลังเวทมนตร์ของเขาเหมือนกับว่าจะมีออร่าสีเหลืองสว่างที่แผ่ออกมา นี่คือพลังเวทมนตร์ที่ควบแน่นขึ้นมาจากทักษะจักรพรรดิพงไพร มีพลังอำนาจที่ไม่สามารถคาดฝันได้!

พลังเวทมนตร์เช่นนี้มีคุณภาพที่สูงอย่างถึงที่สุด นี่คือพลังเวทมนตร์ของจักรพรรดิพงไพร เป็นจักรพรรดิของป่าไม้ทั้งหมด มีพลังอำนาจที่สามารถควบคุมสิ่งที่เป็นธาตุไม้ทั้งหมด นี่คือทักษะของยอดจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ ทรงอำนาจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

“ทักษะจักรพรรดิพงไพรนี่ช่างทรงพลังจริงๆ!”

เซี่ยปิงลืมตาขึ้นมา เผยให้เห็นแสงสีเขียว เหมือนกับว่าส่วนลึกในม่านตาของเขามีต้นไม้อายุน้อยที่อาศัยอยู่ ดูเป็นสีเขียวชอุ่มและเต็มไปด้วยพลังชีวิต อีกทั้งยังมีรูนสีเขียวที่กำลังหมุนเวียนอยู่

การที่เขามีต้นไม้โลกและด้วยการช่วยเหลือจากเปลวไฟแห่งชีวิต เขาก็สามารถที่จะควบแน่นทักษะจักรพรรดิพงไพรได้สำเร็จ ควบแน่นร่างจักรพรรดิพงไพรขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง

การที่ควบแน่นสำเร็จนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของร่างจักรพรรดิพงไพรนี้ทันที

จุดที่แข็งแกร่งที่สุดของร่างจักรพรรดิพงไพรนั้นก็คือพลังชีวิตที่น่าอัศจรรย์ หลังจากที่ควบแน่นสำเร็จ อายุขัยของเขาก็ขยายออกไปกว่าหนึ่งเท่าจากเมื่อก่อน เหมือนกับว่าเซลล์ภายในร่างกายกำลังชะลอความเร็วในการแก่ลงกว่าหลายเท่าก็ว่าได้ ภายในร่างกายเต็มไปด้วยพลังชีวิต

ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของร่างกายนั้นก็ถือว่าทรงอำนาจกว่าก่อนหน้านี้ถึงหลายเท่า หากร่างกายของเขาไม่ได้กลายเป็นเถ้าถ่านไปอย่างกะทันหันนั้น อาการบาดเจ็บของเขาก็สามารถที่จะฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วโดยการกลืนกินพลังชีวิตของพืช ซึ่งพลังอำนาจเช่นนี้นั้นสามารถที่จะเทียบได้กับหัวใจอีกานรกทองคำ

นอกเหนือจากนี้คือร่างจักรพรรดิพงไพรนี้สามารถที่จะควบคุมพืชต่างๆนาๆได้เช่นกัน ควบคุมการเจริญเติบโตของพืช อีกทั้งยังทำให้พลังอำนาจของเปลวไฟแห่งชีวิตเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก ทั้งสองเหมือนกับว่าจะส่งเสริมซึ่งกันและกัน

หากเซี่ยปิงปลูกสมุนไพรวิญญาณและต้นไม้วิญญาณอื่นๆขึ้นมา ในตอนนี้เขาสามารถที่จะทำให้พวกมันเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วได้อย่างแน่นอน

“พลังเวทมนตร์ก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก”

หลังจากที่ได้บ่มเพาะทักษะจักรพรรดิพงไพรนี้จนประสบความสำเร็จนั้น เซี่ยปิงก็รู้สึกว่าพลังเวทมนตร์ของเขาก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก เข้าใกล้จุดสูงสุดของระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นเริ่มต้น ประหยัดระยะเวลาการบ่มเพาะไปได้หลายปี มีผลประโยชน์ที่มากมาย

“สมกับที่เป็นเจ้านายของข้าจริงๆ แข็งแกร่งเกินไป ไม่คาดคิดว่าจะเรียนรู้ทักษะจักรพรรดิพงไพรจนสำเร็จได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถจินตนาการได้จริงๆ” กระทิงสีครามก็กล่าวชื่นชมออกมาอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้อยู่เหนือจินตนาการของมันอย่างแท้จริง

“อ่ะแฮ่ม ยังอ่อนประสบการณ์จริงๆเจ้าวัวโง่” เห็นกระทิงสีครามที่มีท่าทางตกตะลึงนั้น แมวนักปราชญ์ก็มีอารมณ์ที่ดีมาก ในที่สุดมันก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวกับความเหนือธรรมชาติของเจ้าสัตว์ประหลาดนี่

……………..

ในขณะที่เซี่ยปิงได้ทำการบ่มเพาะมานานหลายชั่วโมงนั้น ในตอนนี้งานประมูลก็ได้สิ้นสุดลง

สินค้าการประมูลชิ้นสุดท้ายนั้นเป็นชิ้นส่วนสิ่งประดิษฐ์เซนต์ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้อาวุโสของนิกายและผู้อาวุโสของตระกูลมากมาย พวกเขาต่างก็แข่งขันกันอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นมาก ทว่าท้ายที่สุดนั้นชิ้นส่วนของสิ่งประดิษฐ์เซนต์ชิ้นนี้ก็ถูกประมูลได้โดยเฉียนซานในราคาสองพันล้านเหรียญจักรวาล

ต่อให้จะใช้เงิน2.9พันล้านเหรียญจักรวาลในการซื้อทักษะหมัดสายฟ้า ทว่าตระกูลเฉียนก็ยังคงมีเงินเหลือเพื่อที่จะประมูลชิ้นส่วนของสิ่งประดิษฐ์เซนต์นี้มาได้ เห็นได้ชัดว่าตระกูลเฉียนนั้นร่ำรวยและมีอิทธิพลแค่ไหน เป็นตระกูลที่ไม่สามารถมองข้ามได้อย่างแน่นอน

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ เฉียนซานก็ไม่ได้มีความสุข หนำซ้ำตอนนี้ยังรู้สึกโมโหอย่างมาก จิตสังหารกำลังเดือดดาลออกมา

“พวกเจ้าได้ค้นพบต้นกำเนิดของเจ้าเด็กนั่นหรือไม่? ข้าจะต้องฆ่าล้างบรรพบุรุษทั้งเก้าชั่วโคตรของเขาให้ได้” เฉียนซานกำหมัดขึ้นมา อารมณ์ความรู้สึกของเขานั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อเซี่ยปิง จะต้องกำจัดให้ได้โดยเร็ว เขาจ้องมองลูกน้องหลายคนของตนเองอย่างไม่ละสายตา

ก่อนหน้านี้ลูกน้องเหล่านี้ก็ได้รับคำสั่งไปและได้ทำการสืบหาเบาะแสและข้อมูลของเซี่ยปิงอย่างรวดเร็ว

“นายน้อย ก่อนหน้านี้ข้าและคนอื่นๆได้ทำการสืบหาภูมิหลังของฝ่ายตรงข้าม ทว่าข้อมูลของเจ้าเด็กนั่นเป็นความลับสุดยอด มีระดับความปลอดภัยสูง เป็นลูกค้าวีไอพีของธนาคารจักรวาล ภายในระยะเวลาอันสั้นนั้นพวกเราไม่สามารถที่จะสืบหาข้อมูลของเขามาได้ การที่ต้องการจะรู้สถานะที่แท้จริงของเขานั้น อย่างน้อยก็ต้องใช้ระยะเวลาสามวัน”

ลูกน้องคนหนึ่งพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม “ในตอนนี้พวกเราล่วงรู้เพียงแค่ว่าเจ้าเด็กนั่นยังอยู่ที่ลานจอดยานอวกาศ เหมือนกับว่าไม่ได้วางแผนที่จะเดินทางออกไปจากดาวกวางน้อยเป็นการชั่วคราว ไม่รู้ว่าวางแผนที่จะทำอะไรที่นี่”

“ความกล้าหาญช่างใหญ่โตยิ่งนัก นี่ไม่ใช่เป็นการแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เกรงกลัวตระกูลเฉียนหรือ ไม่ใช่เป็นการเหยียดหยามตระกูลเฉียนของข้าหรือ? การที่ได้ท้าทายตระกูลเฉียนแต่กลับไม่รีบหลบหนีออกไปจากดาวกวางน้อยทันที อีกทั้งยังกล้าที่จะอยู่ในสถานที่เดิมเป็นระยะเวลานาน นี่เป็นการรนหาที่ตายของเขา!”

เมื่อได้ยินข่าวนี้ เฉียนซานก็โมโหมากยิ่งขึ้น

“นายน้อย ข้าคิดว่าพวกเราไม่ควรที่จะทำอะไรบุ่มบ่าม ข้าคิดว่าอย่างแรกจะต้องสืบหาสถานะของฝ่ายตรงข้ามก่อน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการที่จะเกิดหายนะกับตระกูลของพวกเราได้” ลูกน้องคนหนึ่งที่คิดว่าจะต้องสืบหาสถานะของฝ่ายตรงข้ามก่อน จากนั้นจะตัดสินใจอีกครั้งก็ไม่ถือว่าสายเกินไป

“หุบปาก!”

ปัง เฉียนซานตบฝ่ามือออกไป ทำให้ลูกน้องคนนั้นกระเด็นออกไปและอัดเข้ากับกำแพงอย่างรุนแรง “ตระกูลเฉียนของข้าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเกรงกลัวบุคคลที่ต่ำต้อยอย่างเขา ภายในอาณาเขตดวงดาวทั้งหก นอกจากนิกายฟ้าดินนั้น จะมีใครอีกที่จะสามารถต่อกรกับตระกูลเฉียนของข้าได้”

“ไม่ว่าเขาจะมีสถานะใดและไม่ว่าเขาจะมีภูมิหลังเป็นอย่างไร การที่ได้ท้าทายตระกูลเฉียนของข้านั้น มีเพียงแค่ความตายเท่านั้นที่รออยู่ มีเพียงแค่ความตายเท่านั้น!”

ลูกน้องจำนวนมากต่างก็หวาดกลัวจนหนาวสั่น

“ถ่ายทอดคำสั่งของข้าและส่งกองทัพออกไป ทำให้แน่ใจว่าเจ้าเด็กนั่นจะหลบหนีไปไหนไม่ได้ต่อให้เขาจะมีปีกก็ตาม ข้าจะต้องทำให้เขาดับสลายหายไปจากจักรวาลนี้อย่างสมบูรณ์” เฉียนซานกำหมัดขึ้นมา