ตอนที่ 274 เธอสมควรตาย! (3) / ตอนที่ 275 แค่นี้เธอก็สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว (1)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 274 เธอสมควรตาย! (3)

 

 

ชั่วขณะหนึ่ง ทุกอย่างเงียบมากจนสามารถได้ยินเสียงหายใจของฝูงชนได้

 

 

เจี่ยนซินเอ๋อร์กุมแก้มของตัวเองเอาไว้ด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

 

 

นี่เธอถูกตบอย่างนั้นเหรอ ถูกอันซย่าซย่าเนี่ยนะตบ?

 

 

น้ำตาคลอหน่วงในดวงตาของอันซย่าซย่าขณะที่เธอประกาศอย่างชัดถ้อยชัดคำ “เจี่ยนซินเอ๋อร์ กี่ครั้งแล้วที่เธอทำแบบนี้กับฉัน เธอได้ใจนักเพราะฉันไม่ตอบโต้ใช่ไหม เธอเคยฉุกคิดบ้างไหมว่าฉันไปทำอะไรมาถึงสมควรโดนแบบนั้น ที่ทำได้แค่ยืนอยู่ตรงนั้นทนให้เธอแกล้งฉันแบบนั้น”

 

 

“อีตัวเอ๊ย!” เจี่ยนซินเอ๋อร์กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง “กล้าดียังไงมาแตะต้องตัวฉัน เธอมันสมควรตาย! กล้าดียังไงมาตบฉัน! ไปลงนรกซะ!”

 

 

หญิงสาวกระโจนใส่อันซย่าซย่าเหมือนคนบ้า แต่อันซย่าซย่าตบเธออีกครั้ง!

 

 

“ฉันสมควรตาย? เฮอะ ทั้งครอบครัวเธอเองก็เหมือนกันแหละ! ฉันจะไม่ยอมตายและจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเท่าที่จะทำได้! แล้วเธอก็ไสหัวออกไปจากชีวิตฉันได้แล้ว!”

 

 

หญิงสาวเริ่มทุบตีด้วยความโกรธและแรงทั้งหมดที่มีในขณะนั้น!

 

 

ฝูงชนต่างตกตะลึงกับภาพตรงหน้า ทั้งหมดมองกันไปมาแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปแทรก

 

 

เจี่ยนซินเอ๋อร์ถูกอัดน่วมอยู่บนพื้น หญิงสาวไม่นึกเลยว่าอันซย่าซย่าเวลาโมโหจะน่ากลัวได้ขนาดนี้!

 

 

เธอคิดว่าตัวเองกำลังจะเป็นบ้า ความอับอายขายหน้าจากการถูกกระทำต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนกำลังฆ่าเธออยู่!

 

 

แต่กระนั้นเธอไม่ได้รู้สึกผิดกับคำกล่าวหาของอันซย่าซย่าแม้แต่น้อย!

 

 

หญิงสาวแทบไม่เคยไล่อันซย่าซย่าไปตาย แต่นั่นก็ไม่เห็นมีอะไรเลย! ฮึ่ม!

 

 

เธอไม่เห็นหัวคนอื่นนอกจากตัวเองอยู่แล้ว เธอเห็นแก่ตัวอย่างเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด เธอไม่เคยนึกถึงความรู้สึกจากการถูกกลั่นแกล้งเลยแม้แต่น้อย

 

 

ในโลกของเธอแล้ว เธออยู่ชั้นบนสุดของบันไดและไม่มีใครกล้าหือกับเธอ!

 

 

แต่ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับพังทลายลงเพราะอันซย่าซย่า

 

 

เจี่ยนซินเอ๋อร์ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ในมือถือหินเล็กๆ ไว้ หญิงสาวแผดเสียงออกมา “อันซย่าซย่า! ไปตายซะ!”

 

 

แต่มีใครสักคนเตะหญิงสาวล้มลงพื้นก่อนที่เธอจะทันได้ขว้างก้อนหินออกไป!

 

 

ฝูงชนส่งเสียงตกใจพร้อมมองไปที่ฉีเหยียนซีที่เพิ่งมาถึง

 

 

บรรยากาศรอบตัวของเขาชวนใหนึกถึงปีศาจที่ส่งตรงมาจากนรก “เจี่ยนซินเอ๋อร์ อยากตายงั้นเหรอ ฉันจะได้สงเคราะห์ให้!”

 

 

เจี่ยนซินเอ๋อร์ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ “นายน้อยฉี! คุณกล้ามาทำร้ายฉันเพียงเพราะผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง เธอเป็นแค่อีตัวนะ! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอละก็…”

 

 

“หุบปาก!” ฉีเหยียนซีคำราม เขาเกือบทำให้เจี่ยนซินเอ๋อร์ฉี่แทบแตก หญิงสาวตัวสั่นและไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก

 

 

เด็กหนุ่มร่างโปร่งก้มลงไปบีบคางของเจี่ยนซินเอ๋อร์ “พูดใส่ร้ายอันซย่าซย่าอีกทีแล้วเธอจะได้ตายตรงนี้แหละ!”

 

 

“เธออาจจะมีข้อด้อยเป็นพันๆ อย่าง แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอควรไปยุ่ง! เธอคืออันซย่าซย่า ไม่ใช่ใครสักคนที่เธอจะไปดูถูกได้ตามอำเภอใจ!”

 

 

คำสั่งที่เย็นยะเยือกดังก้องทั่วบริเวณ เกิดเป็นความเข้าใจทั่วกันของฝูงชนที่อยู่ตรงนั้นว่า ต่อจากนี้ไปพวกเขาจะไม่ไปยุ่งกับอันซย่าซย่าอีกแล้ว!

 

 

สายลมเย็นฤดูหนาวพัดแรงขึ้นจนอันซย่าซย่ารู้สึกว่าทั้งโลกหมุนอีกทั้งเธอยังคงสวมเสื้อผ้าเปียกๆ อยู่ นั่นยิ่งทำให้เธอหนาวไปถึงกระดูกดำของเธอ

 

 

ฉีเหยียนซีรู้สึกได้ว่าหญิงสาวเริ่มไม่ไหวแล้ว เขากำลังจะเอื้อมไปกอดเธอเอาไว้แต่มือแกร่งคู่หนึ่งกลับดึงอันซย่าซย่าเข้าไปกอดแทน

 

 

มือของเขาค้างเติ่งอยู่ในอากาศสักพักก่อนที่จะชักมือกลับอย่างสมเพชตัวเอง

 

 

ชายหนุ่มมองเซิ่งอี่เจ๋อที่เพิ่งมาถึง ใบหน้าของชายหนุ่มไม่ปรากฏอารมณ์ใดๆ ออกมา

 

 

สิ่งนั่นหมายถึง: ถ้าไม่ระเบิดออกมา ก็เตรียมตัวตายได้เลย

 

 

หลายคนยังไม่เคยเห็นเซิ่งอี่เจ๋ออารมณ์เสียมาก่อน แต่ฉีเหยียนซีเคยเห็นมาแล้ว

 

 

เขารู้ดีว่าเซิ่งอี่เจ๋อชอบมีนิสัยชอบซ่อนความสุขกับความโกรธของตัวเองเอาไว้ แต่ยิ่งเขาทำตัวสุขุมและเฉยเมยเท่าไร นั่นหมายถึงเขายิ่งโกรธมากเท่านั้น!

 

 

“ฉันต้องการให้นายมาลงโทษแทนฉันตั้งแต่เมื่อไรกัน” น้ำเสียงเย็นยะเยือกยิ่งกว่าสายลมทำให้ทุกคนตัวกระตุกเกร็งกัน!

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 275 แค่นี้เธอก็สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว (1)

 

 

ฉีเหยียนซีทำหน้าบึ้งก่อนจะพึมพำออกมา “แล้วทำมาเป็นพูดเรื่องห่วงเกินหน้าเกินตา…”

 

 

พอเจี่ยนซินเอ๋อร์เห็นว่าเซิ่งอี่เจ๋ออยู่ที่นี่ เธอก็ยิ่งกลัวกว่าเดิม หญิงสาวพูดตะกุกตะกัก “ไม่… ไม่ใช่ฉันนะ อันซย่าซย่าพลัดตกลงไปในน้ำพุเอง ใช่ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแบบนั้นแหละ!”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อถอดเสื้อแจ็กเก็ตของเขามาคลุมตัวอันซย่าซย่าเอาไว้ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ “งั้นหรอกเหรอ”

 

 

คำธรรมดาเพียงสามคำยังทำให้เจี่ยนซินเอ๋อร์กลัวหัวหดได้ขนาดนี้!

 

 

เธอรีบกลับคำพูดของตัวเองทันที “ไม่ ไม่สิ! เธอต่างหากที่เป็นคนทำ! ฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น!” หญิงสาวชี้ไปที่ติงอีอีที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักที่ทำหน้าโง่พอๆ กับเศษไม้

 

 

ติงอีอีดึงสติตัวเองกลับมา หญิงสาวไม่พอใจ “เจี่ยนซินเอ๋อร์! พูดอะไรของเธอเนี่ย! จะให้ฉันเป็นแพะรับบาปงั้นเหรอ ทุกๆ คนอย่าไปเชื่อสิ่งที่เธอพูดนะ เจี่ยนซินเอ๋อร์นี่แหละที่เป็นคนทำ! เธอหลอกอันซย่าซย่าให้มาที่นี่แล้วก็ผลักเธอตกน้ำ!”

 

 

พูดจบ ฝูงชนต่างพูดคุยพร้อมๆ กัน —

 

 

“ให้ตายสิ ใจร้ายจัง นี่ฤดูหนาวนะแล้วข้างนอกนี้ก็อุณหภูมิศูนย์องศา เธอยังผลักซย่าซย่าตกน้ำได้… เธออาจจะฆ่าอันซย่าซย่าเลยก็ได้นะ…”

 

 

“ไม่ต้องมาพูดเลยนะว่าผู้ชายตีกันน่ากลัวน่ะ ผู้หญิงตีกันนี่สิน่ากลัวกว่า!”

 

 

“อี๋! เธอรู้จักคำว่ามียางอายบ้างไหม ไปแกล้งคนอื่นแบบนั้นน่ะนะ? เราไม่อยากได้คนอย่างเธอมาเรียนที่ฉีซย่าหรอก!”

 

 

“เห็นด้วยๆ ไล่เธอออกไปเลย!”

 

 

หลังจากที่เจี่ยนซินเอ๋อร์ถูกแฉเรื่องที่เธอทำลงไปแล้ว ผู้คนต่างพากันตะโกน ไล่ให้เธอออกไปจากโรงเรียนฉีซย่า

 

 

ผู้คนเริ่มตะโกนขับไล่เรื่อยๆ จนสุดท้ายทุกคนต่างตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน “เจี่ยนซินเอ๋อร์ออกไป! ออกไปจากฉีซย่า!”

 

 

เหล่าคนที่เป็นปฏิปักษ์กับสิ่งชั่วร้ายที่ได้กระทำไปถึงขั้นถ่มน้ำลายใส่เจี่ยนซินเอ๋อร์

 

 

แต่ติงอีอีก็ไม่รอดเช่นกัน ทุกคนต่างสาปแช่งเธอด้วยคำพูดปองร้ายเท่าที่พวกเขาจะสรรหาได้

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยืนตัวตรงมองเจี่ยนซินเอ๋อร์อย่างเย็นชา

 

 

อันซย่าซย่าที่อยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มกระตุกแขนเสื้อของเขา เขาทำหน้าบึ้งก่อนจะมองหญิงสาวและฟังเสียงเบาๆ เอ่ยออกมา “เซิ่งอี่เจ๋อ… ฉันหนาว…”

 

 

น้ำเสียงของเธอนั้นเศร้าสร้อยจนเซิ่งอี่เจ๋อรู้สึกเจ็บในอก

 

 

เซิ่งอี่เจ๋ออุ้มอันซย่าซย่าขึ้นก่อนจะเดินออกไป

 

 

ฉีเหยียนซีมองทั้งสองจากไปและหัวเราะสมเพชตัวเอง

 

 

หลี่ฝานซิงและหลี่ชั่นซิงที่ซ่อนอยู่ในมุมมืดกำลังมีความสุขกับภาพตรงหน้า “เฮอะ ทุกคนเอาแต่สงสารอันซย่าซย่าไปโจมตีเจี่ยนซินเอ๋อร์และติงอีอี แต่หลังจากที่ทุกคนใจเย็นลงแล้วพวกเขาก็จะเริ่มสงสัย ทำไมเซิ่งอี่เจ๋อกับฉีเหยียนซีถึงอยู่ข้างอันซย่าซย่ากันนะ แล้วเธอกลายมาเป็นแฟนสาวไอดอลระดับชาติแถมยังได้รับความคุ้มครองจากทายาทตระกูลฉีได้ยังไง เชื่อฉันสิว่าอันซย่าซย่าจะรับมือแรงกดดันจากทุกคนไม่ได้แน่นอน!”

 

 

ซูเสี่ยวมั่ว คังเจี้ยน และฉือหยวนเฟิงต่างเดินตามเซิ่งอี่เจ๋อและอันซย่าซย่าออกมา

 

 

เหอจยาอวี๋ชะงักเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมา

 

 

ก็พอจะเดาได้ว่าอันซย่าซย่ากลายเป็นจุดอ่อนของเซิ่งอี่เจ๋อ

 

 

นั่นเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดีกันนะ

 

 

คงมีแต่เวลาเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้

 

 

 

 

ณ โรงพยาบาล

 

 

ดวงดาวส่องแสงระยิบระยับบนท้องฟ้า เด็กหนุ่มในชุดสีขาวปิดหน้าต่างก่อนจะเบนสายตามายังเตียง

 

 

อันซย่าซย่าเปลี่ยนไปใส่ชุดคนไข้ผืนใหม่ สีผิวของเธอตัดกับแถบสีน้ำเงินขาวเป็นอย่างมาก หญิงสาวนอนหลับอยู่เงียบๆ ตรงหลังมือของเธอมีสายน้ำเหลือติดอยู่

 

 

โชคดีที่ไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับเธอแม้อากาศเมื่อครู่จะหนาวมากก็ตาม หญิงสาวแค่ต้องทานยาและฉีดยาซ้ำไปซ้ำมาเท่านั้นเอง

 

 

เสียงปิดหน้าต่างคงจะปลุกหญิงสาวขึ้นมา ขนตาของอันซย่าซย่ากะพริบรัวก่อนเธอจะค่อยๆ ตื่นขึ้นมา

 

 

เธอสบตากับเซิ่งอี่เจ๋อ แล้วกะพริบตาก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งหนึ่ง

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อนั่งลงข้างเตียงของเธอพร้อมเอ่ยถามด้วยเสียงทุ้มอย่างอ่อนโยน “ซย่าซย่า ฉันทำให้เธอรู้สึกกดดันเกินไปหรือเปล่า”