เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1155 หอยนางรมยักษ์

แปลโดย iPAT

การสนทนากับฮวาตี้เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียงสั้นๆ

ในที่สุดฟางหยวนก็เข้าไปในทะเลไหลเชี่ยว

กำปั้นยักษ์หมื่นตัวตน!

เมื่อไม่เห็นผู้ใดอยู่รอบๆ ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขาทันที

กำปั้นยักษ์ทุบกระแสน้ำมากกว่าสิบจุดทำให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่

ฟางหยวนทะยานร่างไปยังทิศทางหนึ่ง

สถานที่แห่งนี้ยังเป็นเพียงขอบนอกของทะเลไหลเชี่ยว ดังนั้นฟางหยวนจึงสามารถเดินทางได้อย่างง่ายดาย

แต่หลังจากชั่วครู่เขาก็พบกระแสน้ำสีเหลืองอ่อนปิดกั้นเส้นทางของเขาเอาไว้

‘นี่คือกระแสน้ำแร่เหลือง’

กระแสน้ำแร่เหลืองมาจากทะเลเหลือง

ที่นั่นเคยเป็นอาณาเขตของกองกำลังพันธมิตรผีดิบสำนักงานใหญ่

ทะเลเหลืองเต็มไปด้วยซากศพผีดิบ

น้ำทะเลสีเหลืองเกิดจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า มันเป็นวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณชนิดหนึ่ง

ฟางหยวนรีบป้องกันตัว

กระแสน้ำแร่เหลืองพุ่งไปยังทิศทางหนึ่ง แต่มันไม่ใช่ทิศทางที่ฟางหยวนต้องการไป ดังนั้นเขาจึงกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะและพุ่งผ่านกระแสน้ำสายนี้

หลังจากไม่นานเขาสามารถออกจากกระแสน้ำแร่เหลืองและพบกับกระแสน้ำอีกสายหนึ่ง

มันเป็นน้ำทะเลสีขาวที่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกราวกับกำลังเคลื่อนไหวอยู่ท่ามกลางก้อนเมฆ

เกิดภาพลวงตาขึ้นด้านหน้าเขา

มันคือกระแสน้ำลวงตาที่มาจากทะเลลวงตา

ฟางหยวนใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อปิดกั้นภาพลวงตาเหล่านี้

หลังจากใช้ความพยายาม เขาก็ไปถึงกระแสน้ำสายที่สาม

มันเป็นลาวา

กระแสน้ำสายนี้ไม่ได้มาจากทะเลตะวันออกแต่มาจากหลุมลึกของทะเลทรายตะวันตก

ถ้ำใต้พิภพเชื่อมต่อมาถึงที่นี่

กระแสลาวาทั้งหนืดและร้อนจัด

เมื่อฟางหยวนเข้ามา เขาต้องกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะสายป้องกัน เพราะเพียงวิญญาณอมตะระดับหกทั่วไปไม่สามารถต่อต้านสิ่งนี้

เขาสูญเสียพลังงานอมตะมากกว่าสองกระแสน้ำแรกรวมกันหลายเท่า

โชคดีที่กระแสลาวาไม่ใหญ่นัก ฟางหยวนสามารถเคลื่อนที่ผ่านได้ในภายไม่กี่สิบลมหายใจ

ครั้งนี้เขาไม่พบกระแสน้ำอีกแต่เขาเข้าไปในพื้นที่ว่างเปล่า

กระแสลาวายังไหลอยู่ด้านหลัง

ด้านซ้ายเป็นกระแสน้ำภูตผีสีดำที่พยายามผลักดันเข้ามาราวกับภูตพยาบาท มันเป็นทะเลสีดำที่เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งภูตผีและความมืด

ด้านขวาเป็นกระแสน้ำสีทองที่ส่องประกายงดงาม

ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ‘หากข้าเดาไม่ผิด นี่คือกระแสน้ำทองคำ ตามข่ามลือ หลังจากสวรรค์สีเหลืองแตกสลาย ละอองทองคำร่วงหล่นลงมา ดูเหมือนกระแสน้ำทองคำจะเกิดจากเศษทองคำเหล่านั้น’

กระแสลาวา กระแสน้ำภูตผี และกระแสน้ำทองคำ

กระแสน้ำทั้งสามต่อต้านกันจนถึงจุดที่เกิดความสมดุล นั่นทำให้เกิดช่องว่างขึ้นในสถานที่แห่งนี้

มันไม่ต่างจากการเข้ามาในตาพายุ ฟางหยวนไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานนักแต่มันก็ทำให้เขามีเวลาพักผ่อนเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่จำเป็นต้องพักผ่อน ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มสูงขึ้นมาก ขณะเดียวกันเขาก็มีพลังงานอมตะสำรองไว้มากมาย

หลังจากตรวจสอบทิศทาง ฟางหยวนพุ่งเข้าสู่กระแสน้ำทองคำด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

เขาพบสิ่งกีดขวางมากกว่ากระแสลาวาแต่ค่าใช้จ่ายกลับน้อยกว่า

ระหว่างทางฟางหยวนพบชิ้นส่วนทองคำมากถึงห้าร้อยกิโลกรัม

นอกจากทองคำยังมีวิญญาณมากมาย ส่วนใหญ่เป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งโลหะไม่ว่าจะเป็นวิญญาณมังกรทอง วิญญาณแสงทอง และวิญญาณอื่นๆ

แต่สำหรับฟางหยวน พวกมันมีประโยชน์เพียงเล็กน้อย

เขาเก็บบางส่วนเอาไว้โดยไม่คิดมาก

เขานำกระแสน้ำทองคำบางส่วนเข้าไปในมิตช่องว่างจักรพรรดิและวางมันไว้ที่สวรรค์สีเหลืองน้อย

หากเป็นผู้ใช้วิญญาณ พวกเขาอาจมองมันเป็นสมบัติล้ำค่า แต่กับฟางหยวนและผู้อมตะคนอื่นๆ มันแทบไร้ประโยชน์

ฟางหยวนเดินทางผ่านกระแสน้ำมากมายและค่อยๆเข้าสู่ใจกลางของทะเลไหลเชี่ยว

ครู่ต่อมาฟางหยวนก็พบกระแสน้ำขนาดใหญ่ปิดกั้นอยู่ด้านหน้า

มันเป็นกระแสน้ำสีน้ำเงิน ทุกการสั่นไหวของกระแสน้ำมีกระแสไฟฟ้าแลบลั่นขึ้นทุกครั้ง

ฟางหยวนรู้ว่านี่คือกระแสน้ำสายฟ้า

มันเป็นกระแสน้ำที่มีพลังทำลายล้างสูงมาก

หากเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งสายฟ้า พวกเขาจะเก็บกระแสน้ำสายฟ้าเหล่านี้เอาไว้

กระแสน้ำสายฟ้าสามารถให้กำเนิดวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งสายฟ้า

หากเปรียบเทียบ มันไม่ต่างจากภูเขาแสงห้าสีจากแดนศักดิ์สิทธิ์ของหลิวชิงหยู

ฟางหยวนมาถึงใจกลางของทะเลไหลเชี่ยวในที่สุด

ด้วยความแข็งแกร่งของฟางหยวนในปัจจุบัน เขาไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้อีก หากเขาเข้าไป เขาจะถูกพัดพาไป สำหรับจุดหมายปลายทาง มันขึ้นอยู่กับโชคของเขาเท่านั้น

หากโชคดี ฟางหยวนจะสามารถเดินทางได้อย่างราบรื่น หากโชคร้าย เขาจะวนเวียนอยู่ที่เดิม

นี่เป็นลักษณะพิเศษของทะเลไหลเชี่ยว

ฟางหยวนตัดสินใจก้าวเข้าสู่กระแสน้ำสายฟ้า

โชคดีที่วันนี้กระแสน้ำสายฟ้าค่อนข้างสงบ  ฟางหยวนลอยไปตามกระแสน้ำสายฟ้าอย่างราบรื่นโดยไม่พบอุปสรรคใด

หลังจากไม่นานฟางหยวนก็ไปถึงจุดสิ้นสุดของกระน้ำสายฟ้า

เขาพบกระแสน้ำใหม่ที่มีขนาดเท่ากับกระแสน้ำสายฟ้า

ฟางหยวนเข้าไปและปล่อยให้กระแสน้ำพัดพาไป

เขาค่อนข้างโชคดี

แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้างแต่สุดท้ายเขาก็สามารถไปถึงจุดหมาย

หนึ่งวันหนึ่งคืนต่อมาฟางหยวนไปถึงพื้นที่ว่างเปล่าอีกครั้ง

นี่เป็นครั้งที่สิบสองที่เขาพบกับพื้นที่ลักษณะนี้

‘สถานที่แห่งนี้เกิดจากกระแสน้ำรอบข้าง มันจะไม่เปลี่ยนแปลงไปโดยง่าย ตอนนี้ข้าควรพักผ่อนสักเล็กน้อย’ ฟางหยวนหยุดพักที่นี่

อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังพักผ่อน กระแสน้ำเหนือศีรษะของเขากลับเกิดความปั่นป่วนขึ้นอย่างกะทันหัน

จากนั้นหอยนางรมยักษ์ก็หลุดลงมาจากกระแสน้ำด้านบน

มันมีขนาดเท่ากับช้างสี่ตัว เปลือกของมันเป็นสีทองคำขาว สิ่งสำคัญก็คือมันปลดปล่อยกลิ่นอายของสัตว์อสูรบรรพกาลออกมา

ฟางหยวนตะลึงเมื่อเห็นหอยนางรมตัวนี้

หลังจากนั้นมีเสียงดังออกมาจากหอยนางรมยักษ์ “หือ…ผู้ใดอยู่ที่นี่? เจ้าเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก เหตุใดเจ้าจึงสามารถมาถึงที่นี่?”

ฟางหยวนไม่ตอบ

เปลือกหอยนางรมเปิดออกและเผยให้เห็นเนื้อสีชมพูที่อยู่ภายใน

เนื้อสีชมพูเหมือนเตียงที่อ่อนนุ่ม มีมนุษย์สามคนนอนอยู่

มนุษย์เพศหญิงที่งดงามสองคนนอนเปลือยกายอยู่กับผู้อมตะชายผู้หนึ่ง

ผู้อมตะชายมองฟางหยวนด้วยสายตาที่เอาแต่ใจ เขาวิเคราะห์และกล่าวด้วยความอยากรู้อยากเห็น “แปลก เจ้าเป็นผู้อมตะระดับหกจริงๆ เร็ว บอกชื่อเจ้ามา”

ฟางหยวนนิ่งเงียบ สายตาของเขากวาดมองไปที่หอยนางรมยักษ์

ผู้อมตะชายโกรธ “เจ้า! ข้ากำลังพูดกับเจ้า หูหนวกหรือเป็นใบ้!?”

ฟางหยวนถาม “นี่คือสัตวอสูรในข่าวลือ หอยนางรมห้องลับงั้นหรือ?”

ผู้อมตะชายรู้สึกราวกับได้รับการยกย่อง เขาหัวเราะ “ดูเหมือนเจ้าจะพอมีความรู้อยู่บ้าง ข้าขอสิ่งนี้มาจากท่านปู่ของข้า ท่านปู่ของข้าคือผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งทาสที่มีชื่อเสียงของทะเลตะวันออก เหรินซิ่วปิง!”

ฟางหยวนพยักหน้า“ข้ารู้จักเหรินซิ่วปิง เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุด ไม่นานมานี้เขาพบหลานชายที่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด เขาใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อทำให้หลานชายของเขากลายเป็นผู้อมตะ นั่นคือเจ้างั้นหรือ?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ผู้อมตะชายหัวเราะ “ถูกต้อง ถูกต้อง สายตาของเจ้าไม่เลวจริงๆ”

“อืม ส่งหอยนางรมห้องลับมา แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” ฟางหยวนกล่าวเสียงเรียบ

“อันใด!?” ผู้อมตะชายไม่แน่ใจว่าได้ยินสิ่งใดผิดไปหรือไม่

เขาหัวเราะเสียงเย็นก่อนจะชี้นิ้วไปที่ฟางหยวนด้วยความโกรธ “ดี ดี ข้ายกย่องคนผิด เจ้ามีตาแต่หามีแววไม่! เจ้ากำลังรนหาที่ตาย เช่นนั้นข้าจะ…อา…”

ผู้อมตะชายอ้าปากค้าง

ฟางหยวนโจมตีอย่างกะทันหัน

กำปั้นยักษ์บนเส้นทางความแข็งแกร่งพุ่งเข้าจับกุมหอยนางรมห้องลับ

ผู้อมตะชายหวาดกลัวมากเพราะเขาตระหนักว่าหอยนางรมห้องลับกำลังถูกมือยักษ์บีบขณะที่เปลือกของมันเริ่มส่งเสียงแตกร้าว

“เข้าใจผิด มันเป็นความเข้าใจผิด!” เขากรีดร้อง “ข้าคือหลานชายของเหรินซิ่วปิง ท่านคือผู้ใด? เราอาจเป็นสหายกัน!”

“ผู้ใดเป็นสหายกับเจ้า ข้าสามารถปล่อยเจ้า เพียงมอบวิญญาณที่ใช้ควบคุมหอยนางรมห้องลับให้ข้า” ฟางหยวนเย้ยหยัย “มิเช่นนั้น เจ้าต้องตายอยู่ที่นี่!”

“เจ้าเป็นปีศาจอมตะ! หากเจ้าทำร้ายข้า ท่านปู่ของข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไป คิดให้ดี!”

“เขาก็แค่เหรินซิ่วปิง” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มและปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้อมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุดออกมา

ใบหน้าของผู้อมตะชายกลายเป็นซีดเผือด หญิงสองคนตกใจมากและขดตัวอยู่ที่มุมหนึ่ง